บทที่ 33 การดำเนินการระดับมหาเทพ
บทที่ 33 การดำเนินการระดับมหาเทพ
ตามการตั้งค่าของเกมเมื่อนักเวทถูกโจมตีในระหว่างการร่ายเวท มันก็จะทำให้ระยะเวลาการรวบรวมพลังเวทยาวนานขึ้น หรือมันก็หมายถึงระยะเวลาการร่ายเวทที่ยาวนานขึ้นด้วยเช่นกัน
ลู่หยางเคยทดสอบเรื่องนี้ด้วยตัวเองมาแล้วในชาติก่อนว่าทุกครั้งที่นักเวทถูกโจมตีขณะร่ายเวท ระยะเวลาร่ายจะยาวนานขึ้น 1 วินาทีและสามารถเพิ่มระยะเวลาการร่ายได้สูงสุดถึงสามครั้ง
ถ้าเป็นมอนสเตอร์ระดับพิเศษ ระยะเวลาร่ายเวทที่เพิ่มขึ้นจะลดลงมาจากปกติครึ่งหนึ่ง หรือก็คือครั้งละ 0.5 วินาที และสาเหตุที่ลู่หยางกล้าปะทะกับวอลกินเลเวล 15 ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเลเวล 7 นั่นก็เพราะโทรลล์ชาแมนตัวนี้รู้จักแต่วิธีการโจมตีด้วยเวทมนตร์ระยะไกล
เมื่อได้เห็นวอลกินกำลังรวบรวมพลังเวทขึ้นมาใหม่ ลู่หยางก็ทำการปล่อยลูกไฟออกไปภายใน 0.7 วินาที
หลังจากถูกเบลซซิงเบิร์สจู่โจมต่อเนื่องกัน 4 ครั้ง ในที่สุดวอลกินก็สามารถรวบรวมลูกไฟได้สำเร็จ แล้วถึงแม้ความเร็วของลูกไฟในอากาศจะใช้เวลาไม่ถึง 0.5 วินาทีจนทำให้ผู้เล่นธรรมดาหลบหลีกได้ยาก แต่สำหรับลู่หยางที่สังเกตมือของวอลกินอย่างใกล้ชิด เมื่อเขาได้เห็นวอลกินกำลังจะยกมือขึ้นชายหนุ่มก็เคลื่อนที่หลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาสามารถหลบเลี่ยงลูกไฟที่พุ่งเข้ามาได้อย่างสบาย ๆ
ไฟร์บอลของโทรลล์ชาแมนมีความแตกต่างจากไฟร์บอลของผู้เล่นโดยสิ้นเชิง เพราะไฟร์บอลจากมอนสเตอร์ตัวนี้สามารถสร้างความเสียหายได้สูงถึง 370 หน่วย
ปัจจุบันพลังชีวิตของลู่หยางมีไม่ถึง 100 หน่วยด้วยซ้ำ หากเขาได้รับการโจมตีเข้าไปแม้แต่ครั้งเดียวเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามลู่หยางก็คือผู้เล่นที่มีประสบการณ์มานับสิบปี และเขาก็ยังเป็นจอมเวทชั้นแนวหน้าที่เคยมีเลเวลสูงถึง 200 การเผชิญหน้ากับโทรลล์ชาแมนจึงไม่ต่างไปจากผู้ใหญ่ที่เผชิญหน้ากับเด็ก ซึ่งหลังจากการต่อสู้ต่อเนื่องกันเป็นเวลากว่า 2 นาที พลังชีวิตของวอลกินก็ลดลงไปถึง 1 ใน 10 แล้ว
อย่างไรก็ตามการต่อสู้อย่างต่อเนื่องก็ทำให้มานาของลู่หยางลดลงเหลือเพียงแค่ 300 หน่วยหลังจากหลบหลีกลูกไฟของโทรลล์ชาแมนได้อีกครั้ง ลู่หยางจึงจำเป็นจะต้องหยิบน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทแบบฉับพลันออกมาจากกระเป๋า
น้ำยาฟื้นฟูมานาฉับพลัน (ขนาดเล็ก)
ผลลัพธ์ ฟื้นฟูมานา 500 หน่วย
คูลดาวน์ 2 นาที
ยานี้เป็นสิ่งที่ลู่หยางได้มาจากการสังหารโกลเดนเดรค อย่างไรก็ตามปริมาณของน้ำยาก็มีอยู่ไม่มากนัก เมื่อรวมกับน้ำยาที่เขาได้มาจากการสังหารฮาล์ฟออร์ควอริเออร์ เขาก็มีน้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิตฉับพลันเพียงแค่ 6 ขวดและน้ำยาฟื้นฟูมานาแบบฉับพลันอีก 10 ขวด
ก่อนหน้านี้ลู่หยางไม่ได้ใช้น้ำยาเหล่านี้เลย เพราะเขาได้เก็บเอาไว้มาใช้ที่นี่โดยเฉพาะ หลังจากทำการดื่มน้ำยาเข้าไป มานาของลู่หยางก็ฟื้นฟูกลับมาถึง 805/850 หน่วย ชายหนุ่มจึงได้กลับไปสู้กับวอลกินอีกครั้ง
20 นาทีต่อมาเลือดของโทรลล์ชาแมนก็ลดลงไปเหลือน้อยกว่า 10%
“เจ้าแมลงที่น่ารังเกียจ! เจ้าทำให้ข้าต้องโมโห ข้าจะทำให้เจ้าต้องชดใช้กับเรื่องในวันนี้”
ผิวสีเขียวของโทรลล์ชาแมนเริ่มกลายเป็นสีแดงฉาน ร่างกายของมันเหมือนกับกำลังจะลุกไหม้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ระบบ: โทรลล์ชาแมนเข้าสู่สถานะกระหายเลือด
สถานะกระหายเลือดเป็นสถานะพิเศษของเผ่าโทรลล์ ซึ่งหลังจากเปิดใช้งานแล้วมอนสเตอร์ที่ใช้จะไม่ได้รับผลกระทบจากสกิลควบคุมใด ๆ โดยที่ความเร็วในการร่ายเวทและพลังโจมตีจะเพิ่มขึ้นอีก 50%
ลู่หยางได้คำนวณสถานการณ์นี้เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาจึงไม่ได้รู้สึกตกใจเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งในระหว่างที่เขาต่อสู้กับวอลกินในก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มก็ค่อย ๆ เคลื่อนที่เข้าไปใกล้กับอาคารสีแดงกลางหุบเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
ในตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับไฟของวอลกินอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มก็สามารถหลบเลี่ยงการโจมตีเหล่านั้นได้อย่างสบาย ๆ แต่เขาก็ได้สังเกตว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเคลื่อนที่เข้าไปใกล้อาคารสีแดง วอลกินก็เหมือนจะมองไม่เห็นเป้าหมายและสูญเสียความสามารถในการใช้เวทมนตร์ของมันไป โทรลล์ชาแมนจึงร้องคำรามพร้อมกับวิ่งไปอีกฟากของอาคารเพื่อตามหาเป้าหมายของมัน
ระหว่างนั้นลู่หยางก็ได้ทำการปล่อยเบลซซิงเบิร์สออกไป 1 ลูก และภาพที่ปรากฏมันก็ดูเหมือนกับว่าวอลกินได้พุ่งเข้ามาชนลูกไฟขนาดใหญ่ด้วยตัวเอง
ตูม!
ศีรษะของวอลกินปะทะเข้ากับลูกไฟเข้าอย่างจัง
-244 (คริติคอล)
พลังชีวิตของโทรลล์ชาแมนลดน้อยถอยลงไปอีก และภายใต้ความโกรธเกรี้ยวมันก็รีบร่ายเวทมนตร์ออกมาในทันที
น่าเสียดายก่อนที่มันจะทันได้ยิงเวทมนตร์ของตัวเองออกไป ลู่หยางก็วิ่งอ้อมอาคารสีแดงไปอีกครั้ง แต่เนื่องมาจากในคราวนี้วอลกินโกรธมากแล้วมันจึงทำการยิงไฟร์บอลออกไปจนชนกำแพง
ปัง!
เสียงระเบิดดังสนั่นพร้อมกับผนังไม้ของอาคารที่เริ่มลุกไหม้
วอลกินยังคงมองหาลู่หยางต่อไป ขณะที่ชายหนุ่มก็ยังคงวิ่งหนีรอบ ๆ อาคารทรงกลมอย่างต่อเนื่องทำให้วอลกินไม่สามารถโจมตีลู่หยางได้เลย
ในทางตรงกันข้ามทุกครั้งที่ลู่หยางหลบหนีเข้ามุมอับสายตา เขาจะรอยิงเบลซซิงเบิร์สใส่วอลกินอยู่เสมอ เทคนิคนี้จึงทำให้ชายหนุ่มสามารถสร้างความเสียหายได้เพียงฝ่ายเดียว
หลังจากลู่หยางวิ่งวนรอบอาคารมากกว่า 20 รอบ พลังชีวิตของวอลกินก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 200 หน่วยเท่านั้น หากลู่หยางยิงเบลซซิงเบิร์สออกไปเพียงแค่ 2 ครั้ง เขาก็จะสามารถสังหารโทรลล์ชาแมนตัวนี้ลงไปได้แล้ว
แต่ในทันใดนั่นเองวอลกินก็หยุดนิ่งไม่ไล่ตามลู่หยางอีกต่อไป แต่มันกลับยืนพึมพำบทสวดบทใหม่ราวกับว่ามันกำลังใช้เวทมนตร์บทอื่น
ระหว่างนี้ลู่หยางก็ยังคงแอบอยู่หลังอาคารเพื่อรอใช้สกิลเบลซซิงเบิร์สเหมือนเดิม แต่ในระหว่างที่เขากำลังสับสนอยู่นั้น ชายหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงกระแสของธาตุไฟที่กำลังเกรี้ยวกราด
“เทพแห่งเพลิงผู้ยิ่งใหญ่ ได้โปรดรับเอาศรัทธาจากข้าผู้ต่ำต้อย ข้าขอวิงวอนพลังเพลิงแห่งการเผาผลาญทุกสิ่งจากพระองค์…”
บทสวดนี้เป็นบทสวดที่ลู่หยางคุ้นเคยมาก เพราะมันคือบทสวดของเวทมนตร์กึ่งต้องห้ามที่จะได้รับมาหลังจากการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูร
เมเทโอฟอลล์!
ระยะเวลาร่ายของเวทมนตร์บทนี้อยู่ที่ 10 วินาที จากนั้นมันจะมีดาวตกขนาดยักษ์หล่นลงมาจากท้องฟ้าสร้างความเสียหายให้กับศัตรูอย่างมหาศาลภายในระยะ 10×10 เมตร
โดยสถานการณ์ในปัจจุบันมันไม่จำเป็นจะต้องพูดถึงความเสียหายของเมเทโอฟอลล์เลย เพราะเพียงแค่พลังโจมตีเวทมากกว่า 300 หน่วยของวอลกิน มันก็มากพอที่จะสังหารลู่หยางได้ง่าย ๆ แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้นวอลกินยังอยู่ในสถานะกระหายเลือดและมันก็จำเป็นจะต้องใช้ระยะเวลาร่ายเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้น ซึ่งหลังจากเวลาผ่านพ้นไป 2 วินาทีลู่หยางก็พยายามพุ่งตัวเข้าหาโทรลล์ชาแมนโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใด
เวลาที่ลู่หยางใช้ในการเคลื่อนที่ผ่านพ้นไปอีกประมาณ 1 วินาที ซึ่งในช่วงเวลา 2 วินาทีสุดท้ายเมฆบนท้องฟ้าก็เริ่มรวมตัวกันเป็นสีดำและปลดปล่อยแสงสีแดงเพลิงออกมาอย่างน่ากลัว
ลู่หยางมองวอลกินที่หัวเราะอย่างดุร้าย โดยที่ภายในใจไม่ได้รู้สึกตื่นกลัวเลยแม้แต่น้อย มือของเขากำลังรวบรวมลูกไฟขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะทำการยิงสกิลเบลซซิงเบิร์สออกไปใส่ศีรษะของโทรลล์ชาแมน
-238 (คริติคอล)
บทสวดของวอลกินหยุดชะงักก่อนที่ร่างของมันจะค่อย ๆ ล้มลงกับพื้นด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ระบบ: คุณสังหารโทรลล์ชาแมนวอลกินได้เรียบร้อยแล้วได้รับค่าประสบการณ์ 5,482 หน่วย
ระบบ: เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น 1 เลเวล
ลู่หยางไม่เคยคิดเลยว่าวอลกินจะให้ค่าประสบการณ์ที่สูงขนาดนี้ ทำให้เลเวลของเขาเพิ่มขึ้นไปเป็นเลเวล 8 ในทันที แต่เรื่องเหล่านี้มันไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะชายหนุ่มกำลังวิ่งไปยังศพของวอลกินอย่างตื่นเต้น
สายตาของชายหนุ่มจับจ้องมองไปยังไอเท็มสีแดงเพลิงที่อยู่บนพื้น ก่อนที่เขาจะใช้มือทั้งสองข้างค่อย ๆ ประคองมันขึ้นมา
ระบบ: คุณได้รับตราประทับลึกลับ 1 ชิ้น
นี่คือหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญสำหรับการอัปเกรดหัวใจแห่งเทพอสูร โดยมันคือหนึ่งในชิ้นส่วนของพลังที่ตกลงมายังโลกหลังจากสงครามในยุคโบราณ และถึงแม้มันจะเป็นชิ้นส่วนที่มีพลังงานต่ำที่สุดแต่มันก็มีพลังงานมากพอที่จะปลดปล่อยสกิลกึ่งต้องห้ามออกมาได้
มาล่าของดีนี่เอง