บทที่ 296 ร่องรอยสหายเก่า
"จี้หยกนั่นสำคัญกับเจ้ามากหรือ"
จางหยางถามขึ้นอย่างลอยๆ โดยไม่ได้คาดหวังคำตอบอะไรมากจากทาโน
แต่ไม่รู้ว่าเพราะทาโนรู้สึกท้อแท้กับการหาจี้หยกไม่เจอหรืออย่างไร เขาถึงเอ่ยปากขึ้นว่า
“หากข้ามีจี้หยกนั้น ข้าก็จะสามารถช่วยพี่ชายและพรรคพวกของข้าได้”
จางหยางขมวดคิ้วเล็กน้อย จี้หยกนั้นมีพลังอำนาจมากถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?
หรืออาจเป็นเครื่องหมายแสดงตัวตนอย่างใดอย่างหนึ่ง
ทาโนหลับตาลง เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “ข้าขออยู่คนเดียวสักพัก”
ดูเหมือนเขาต้องการความเงียบ
จางหยางไม่พูดอะไร เพียงแต่ค่อยๆ ออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
นอกบ้าน จางเฒ่ากำลังจัดเรียงสมุนไพรที่ตากอยู่บนชั้น
จางหยางเดินเข้าไปช่วยจัดสมุนไพร
“ท่านปู่ ข้าให้คนสืบข่าวมาแล้ว ดูเหมือนว่าทาโนจะเป็นหนึ่งในกลุ่มที่พยายามลอบสังหารองค์ชายอัน”
“ลอบสังหารองค์ชายอัน?” ผู้เฒ่าจางพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เรื่องการลอบสังหารองค์ชายอันนั้นเขาเคยได้ยินมาแล้ว “แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม?”
“นอกจากเขา ยังมีอีกหกคนที่ทหารราชองครักษ์จับได้”
“ทราบไหมว่าพวกเขาเป็นใคร?”
“ข้าให้คนสืบอยู่ แต่ยังไม่ได้ข่าวขอรับ” จางหยางส่ายหัว
หลังจากจัดสมุนไพรเรียบร้อยแล้ว จางเฒ่าก็เดินเข้าไปในห้องเล็กๆ อีกห้อง ซึ่งเต็มไปด้วยสมุนไพรที่ตากแห้งและเตรียมไว้ รวมถึงตำราแพทย์และอุปกรณ์อีกมากมายวางเรียงรายบนโต๊ะ
จางหยางมองเห็นว่าปู่ของตนเองเลือกสมุนไพรบางชนิดใส่ลงในครกหินและเริ่มบด
“ท่านปู่ ท่านจะทำยาอีกหรือขอรับ?”
เขาครุ่นคิด เพราะระยะนี้ไม่เห็นมีคนป่วยคนไหนต้องใช้ยาชนิดนี้
“ข้ากังวลว่าทาโนะจคิดทำเรื่องโง่ๆ” ผู้เฒ่าจางบดสมุนไพรต่อด้วยความสงบ
จางหยางรู้สึกแปลกใจยิ่งขึ้น จึงถามขึ้น “ท่านปู่ ทำไมท่านถึงดูแลทาโนมากขนาดนี้ขอรับ”
“เขา...อาจรู้จักสหายเก่าของข้า”
“ท่านปู่รู้ได้อย่างไรขอรับ” จางหยางถามด้วยความแปลกใจ
หากพวกเขารู้จักกันจริง ทำไมท่านปู่ไม่บอกเรื่องนี้กับทาโน
ผู้เฒ่าจางดูเหมือนไม่อยากปิดบังจางหยางอีกต่อไป เขาเดินไปที่ตู้ข้างห้อง หยิบกล่องผ้าต่วนเล็กๆ ออกมาและเปิดออก ด้านในกล่องมีจี้หยกอยู่
โดยสัญชาตญาณ จางหยางนึกถึงจี้หยกที่ทาโะกำลังตามหา
“ท่านปู่ จี้หยกนี้...”
“ข้าเห็นจี้หยกนี้อยู่กับทาโน หากไม่เช่นนั้น เจ้าว่าทำไมข้าที่แก่ปูนนี้ถึงต้องเข้าไปพัวพันเรื่องนี้อีก”
ผู้เฒ่าจางมองออกว่าจางหยางยังคงข้องใจที่เขาเลือกช่วยทาโน
“อย่างนี้นี่เอง…ท่านปู่ ทาโนบอกให้ข้าช่วยหาจี้หยกนี้ให้เขา บอกว่ามันสามารถช่วยชีวิตได้”
จางหยางเล่าคำพูดของทาโนโดยไม่ปิดบัง
ผู้เฒ่าจางลูบจี้หยกพลางครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วจับจี้หยกไว้ในมือ “ข้าไม่รู้ว่ามันมีประโยชน์เช่นไร แต่หากทาโนบอกเช่นนั้น การคืนมันให้เขาคงจะดีกว่า”
แต่ก่อนหน้านี้ทำไมท่านปู่ถึงไม่คืนมันให้ล่ะ จางหยางครุ่นคิดในใจ
หากทาโนไม่บอกว่าจี้หยกสำคัญ ท่านปู่จะไม่คิดคืนให้เลยหรือ? เขาอดคิดไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ของท่านปู่กับ ‘สหายเก่า’ นี้จะมีความหมายมากกว่าที่เห็น ท่านปู่ไม่เคยแต่งงานหรือมีใครเลยมาตลอดชีวิตนี้
ถึงแม้จะตั้งใจคืนจี้หยก แต่ผู้เฒ่าจางก็ยังไม่รีบ เขาบดสมุนไพรจนเสร็จและจัดแต่งเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินไปยังห้องของทาโน
จางหยางเดินตามหลังเขาอยู่เงียบๆ รู้สึกว่าท่านปู่เอาจริงกับจี้หยกนี้ยิ่งกว่าที่จะสนใจเรื่องของคนเสียอีก
“ผู้เฒ่าจาง ข้า…จะจากไปแน่นอน ไม่ทำให้พวกท่านเดือดร้อน!”
เมื่อเห็นผู้เฒ่าจางเข้ามาด้วยท่าทีเคร่งขรึม ทาโนก็รู้ว่าคงปิดเรื่องลอบสังหารองค์ชายอันไว้ไม่มิด และคิดว่าผู้เฒ่าจางคงจะไล่เขาออกไป
ทาโนพยายามลุกขึ้น แต่มันเกินกำลังของเขา
ผู้เฒ่าจางยื่นมือออกมาอย่างช้าๆ และเผยให้เห็นจี้หยกที่ทาโนตามหา
ทาโนหยุดการเคลื่อนไหว มองจี้หยกในมือของผู้เฒ่าจางอยู่นานเพื่อยืนยันว่าใช่ของเขาจริงๆ
“จี้หยกนี้…”
ทาโนเงยหน้ามองผู้เฒ่าจาง เขาไม่คิดว่าจางหยางจะเป็นคนหาเจอ แต่มันกลับดูเหมือนว่าเขาจะเก็บไว้ตั้งแต่ต้น
“ตอนนั้นเจ้าหมดสติ ข้าก็ไม่คิดจะสนใจเจ้า แต่พอเห็นจี้หยกนี้ มันช่างเหมือนกับของสหายเก่าของข้าไม่มีผิด”
ผู้เฒ่าจางพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงความอาลัย สหายเก่าจากไปนานแล้ว แต่ร่องรอยของนางกลับปรากฏอยู่ทุกหนแห่ง ทำให้เขารู้สึกว่าตนกับนางคงมีวาสนาต่อกัน
ผู้เฒ่าจางเอามือกุมขมับอย่างหนักใจ สีหน้าของเขาเช่นนี้ชัดเจนว่าเขารู้สึกยินดีในใจจริงๆ
หากสหายเก่าคนนี้ไม่ใช่คนที่ท่านปู่รักล่ะก็ เขาขอกินสมุนไพรแห้งที่วางอยู่ข้างนอกนั่นทั้งหมด!
ทาโนฟังคำอธิบายของจางเฒ่า ตาเบิกกว้างเล็กน้อย สหายเก่าหรือ?
จี้หยกนี้…
ทาโนมองมันอยู่นาน จี้หยกนี้พี่ฟานอวี่ให้เขา บอกว่าให้ใช้จี้หยกนี้ไปที่หอเจินเป่าก็จะได้รับการช่วยเหลือ แต่ทาโนไม่เคยรู้ว่ามันมาจากไหน
แต่เขารู้ว่ามันเป็นของคนเผ่าซี บางทีสหายเก่าของจางเฒ่าอาจจะเป็นคนเผ่าซีเช่นกัน?
เมื่อคิดได้เช่นนั้น ทาโนก็มีแววตาที่ระมัดระวัง เขารู้ว่าเรื่องเผ่าซีไม่ควรถูกเปิดเผยออกไป
“ท่านผู้เฒ่า จี้หยกนี้สำคัญกับข้ามาก ท่านช่วยคืนมันให้ข้าได้หรือไม่ เมื่อข้าหายดีแล้ว ข้าจะตอบแทนท่าน”
"หากข้าต้องการให้เจ้าตอบแทน ข้าคงไม่ช่วยเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว"
ผู้เฒ่าจางมองออกว่าทาโนมีบางอย่างที่ปิดบังอยู่ แต่เขาไม่พูดอะไรอีก วางจี้หยกไว้ข้างหมอนของทาโน
“เก็บจี้หยกนี้ไว้ให้ดี เรื่องอื่นข้าไม่ถามอีก”
“…ขอบคุณท่านผู้เฒ่า”
ทาโนยื่นมือออกมาอย่างยากลำบากและกำจี้หยกไว้แน่น ความรู้สึกในใจเขาเริ่มสงบลง
ตราบใดที่จี้หยกยังอยู่ โอกาสก็ยังไม่หมด!
——
หลังพักเที่ยง ซุนเล่อหยุ่นอวิ๋นมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลโจวเพื่อพบกับฉินซิ่ว
บ้านที่ตระกูลโจวอาศัยอยู่ตอนนี้เป็นของขวัญที่ซุนเล่อหยุ่นอวิ๋นมอบให้ แต่ที่จริงนางให้เพียงบ้านเปล่าๆ สิ่งของภายในบ้านทั้งหมดนั้นฉินซิ่วเป็นคนจัดเตรียมเอง
ฉินซิ่วเป็นภรรยาที่รู้จักจัดการบ้านเรือนดี บ้านที่เคยโล่งจึงมีชีวิตชีวามากขึ้น
“เล่อหยุ่น เจ้าคิดว่าข้าแต่งตัวแบบนี้ดีหรือไม่”
ฉินซิ่วดึงเสื้อผ้าที่สวมอยู่ด้วยความไม่มั่นใจ นี่เป็นชุดใหม่ที่นางตัดมา
ในเวลาที่ต้องออกไปพบผู้คน หากยังใส่เสื้อผ้าเก่าอยู่ คงจะโดนค่อนขอดแน่นอน
ซุนเล่อหยุ่นอวิ๋นมองไปที่ฉินซิ่ว ชุดสีน้ำตาลช่วยเสริมให้ฉินซิ่วดูภูมิฐาน เนื้อผ้าก็ดีและเหมาะสมกับงานที่ต้องไปพบผู้คน
“ดูดีมาก ชุดนี้เหมาะกับเจ้ามาก”
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว”
น้ำเสียงจริงใจของซุนเล่อหยุ่นอวิ๋นทำให้ฉินซิ่วรู้สึกผ่อนคลาย
ฉินซิ่วหันไปให้หยาหยาสวมเครื่องประดับให้อีกเล็กน้อย และก็เตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย
ก่อนออกจากบ้าน ฉินซิ่วก็เริ่มกังวลอีกครั้ง
“เล่อหยุ่น หากข้า…”
ซุนเล่อหยุ่นอวิ๋นจับมือฉินซิ่วที่เย็นเฉียบ ส่งผ่านความอบอุ่นไปให้
ทำให้ฉินซิ่วค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายลง
“ในเมื่อเจ้าเป็นภรรยาของจอหงวนแล้ว เจ้าก็ต้องเตรียมใจรับสิ่งเหล่านี้ให้ได้ อย่ากลัวไปเลย หากไม่เช่นนั้น เจ้าจะดูถูกจอหงวนของเจ้ามากไปไหม?”
คำพูดของซุนเล่อหยุ่นอวิ๋นทำให้ฉินซิ่วเข้าใจขึ้นมาเล็กน้อย แม้จะยังไม่กระจ่าง แต่ใจก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก