ตอนที่แล้วบทที่ 21 หนี้บุญคุณ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 23 สับสน

บทที่ 22 ถูกติดตาม


บทที่ 22 ถูกติดตาม

“ลูกพี่! ลูกพี่ทำยังไงงั้นเหรอถึงไต่อันดับขึ้นไปได้สูงขนาดนั้น” เสี่ยวเหลียงถามอย่างตื่นเต้น เพราะการได้เห็นลู่หยางอยู่อันดับ 1 ของกระดานจัดอันดับเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากเกินไปจริง ๆ

“ฉันก็มีวิธีของฉันน่า ว่าแต่ตอนนี้นายอยู่ที่ไหน?” ลู่หยางถาม

“ผมอยู่ที่ทุ่งดอกไม้โซนมอนสเตอร์เลเวล 1 แถวนี้มีผู้เล่นแย่งมอนสเตอร์กันเยอะมาก กิลด์ใหญ่ ๆ หลาย ๆ กิลด์ก็ยังเข้ามาจับจองพื้นที่ฟาร์มของตัวเองอีก” เสี่ยวเหลียงกล่าวอย่างหงุดหงิด

ลู่หยางพอจะคาดเดาสถานการณ์ออกเขาจึงบอกออกไปว่า “นายเดินกลับมารอที่ประตูเมือง เดี๋ยวฉันจะพานายไปเก็บเลเวลเอง”

เสี่ยวเหลียงเกือบจะตอบตกลงในทันที แต่เมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าลู่หยางเลเวล 4 ส่วนตัวเองเลเวล 1 การที่อีกฝ่ายมาช่วยพาเขาเก็บเลเวลมันก็จะทำให้ลู่หยางเก็บเลเวลช้าลงอย่างแน่นอน และเขาก็ไม่อยากให้ลูกพี่ตัวเองเสียอันดับในกระดานจัดอันดับไปด้วย

“ลูกพี่ไม่ต้องพาผมไปหรอก ผมเก็บเลเวลคนเดียวได้ พี่รีบเก็บเลเวลต่อไปเถอะอย่าปล่อยให้ใครมาแซงขึ้นอันดับ 1”

ลู่หยางกุมขมับยาวปวดหัวและมันก็ไม่ต้องคาดเดาเลยว่านิสัยขี้เกรงใจของเสี่ยวเหลียงกำลังกำเริบขึ้นมาอีกแล้ว

“รีบไปรอที่ประตูเมืองเดี๋ยวนี้ การพานายไปเก็บเลเวลไม่ได้ทำให้ฉันช้าลงหรอก”

ตอนไปหาเสี่ยวเหลียง ลู่หยางได้คิดเรื่องนี้เอาไว้แล้วว่าถึงแม้เขาจะช่วยพาเสี่ยวเหลียงไปเก็บเลเวลบ้าง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความเร็วในการเก็บเลเวลของเขาเชื่องช้าลงไปมากเท่าไหร่

“เออ… ได้ครับ เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” เสี่ยวเหลียงรีบตอบรับ หลังจากได้ฟังน้ำเสียงของลู่หยาง

“ไอ้หมอนี่ ๆ นะ…” ลู่หยางพึมพำขึ้นมาเบา ๆ แต่ในทันใดนั่นเองแววตาของเขาก็คมกริบขึ้นมาในทันที

เพียงแค่การใช้สายตามองไปทางขวาโดยไม่ต้องขยับศีรษะก็ทำให้ชายหนุ่มมองเห็นร่างเงาอันเลือนลางค่อย ๆ ปรากฏชัด แน่นอนว่าร่าง ๆ นี้ก็คือผู้เล่นอาชีพโจรที่กำลังใช้สกิลสเตลลอบแอบติดตามเขาอยู่

ลู่หยางไม่แน่ใจมากนักว่าโจรคนนี้ตั้งใจจะมาหาเรื่องเขาหรือเปล่า ชายหนุ่มจึงจงใจพาโจรเดินอ้อมไปอีกทางและผลก็ปรากฏว่าโจรคนนั้นยังคงตามหลังเขามาอยู่จริง ๆ หรือมันอาจจะหมายความได้ว่าเป้าหมายของโจรก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากตัวเขานั่นเอง

“โจรเลเวล 1 กล้าแอบตามฉันที่มีเลเวล 4 เนี่ยนะ? ไอ้พวกนี้มันปัญญาอ่อนจริง ๆ” ลู่หยางพึมพำขึ้นมาอย่างไม่ค่อยใส่ใจ เพราะด้วยกำลังที่เขามีอยู่ในตอนนี้แม้แต่ผู้เล่นในปัจจุบันจำนวน 20 คนก็ยังยากที่จะกดดันเขาได้ ชายหนุ่มจึงหมุนตัวเพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังประตูเมือง

อีกฟากหนึ่งเสี่ยวเหลียงก็วิ่งมาจนถึงหน้าประตูเมืองแล้ว เขาจึงนั่งลงบนสะพานข้างคูเมืองเพื่อรอลู่หยางเดินทางมาหา

ในตอนนี้ตรงบริเวณประตูเมืองมีผู้เล่นในชุดมือใหม่วิ่งออกมาจากเมืองเพื่อเก็บเลเวลกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งชุดมือใหม่เป็นเพียงแค่เสื้อผ้าสีขาวเรียบ ๆ ขณะที่ฝ่ายหญิงจะมีกระโปรงสีชมพูอ่อน

ระหว่างที่เสี่ยวเหลียงกำลังชะเง้อมองเข้าไปภายในเมือง ทันใดนั้นมันก็มีผู้เล่นสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินถือไม้เท้าทรงเกลียวปรากฏตัวขึ้นที่ประตู

ชุดของผู้เล่นคนนี้แปลกประหลาดกว่าผู้เล่นคนอื่นมาก แล้วมันก็ทำให้เขากลายเป็นคนที่โดดเด่นเหนือกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ

“โอ้โห! อุปกรณ์โคตรเท่เลย!!”

“ฉันว่ามันจะต้องเป็นอุปกรณ์ระดับทองแดงแน่ ๆ”

“อาวุธของเขาน่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับเงินนะ ลองดูหัวทรงเกลียวของมันสิ โคตรเท่เลย!”

เสี่ยวเหลียงมองคนที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความอิจฉาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก ทันใดนั้นกล่องจดหมายตรงบริเวณมุมขวาล่างของหน้าจอก็เด้งขึ้นมา

“ฉันมาถึงประตูเมืองแล้ว นายอยู่ไหน? คนที่ถือคทาด้ามเกลียวคือฉันเอง”

เสี่ยวเหลียงตกใจจนยกมือขึ้นมาเกาหัวแก้เขิน เพราะเขาคิดไม่ถึงว่าคนที่เขากำลังอิจฉาอยู่แท้ที่จริงแล้วจะเป็นลูกพี่ของตัวเอง พอได้เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ เสี่ยวเหลียงก็รีบยกมือโบกไปมาพร้อมกับตะโกนว่า

“ลูกพี่! ผมอยู่นี่!”

ผู้เล่นรอบข้างหันไปให้ความสนใจเสี่ยวเหลียงในทันที ซึ่งความรู้สึกของการถูกจับจ้องมันก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกภูมิใจอยู่พอสมควร

ลู่หยางจำเสี่ยวเหลียงได้ตั้งแต่แรกแล้ว เพราะรูปร่างหน้าตาที่อีกฝ่ายใช้เหมือนกับชาติที่แล้วทุกประการ สาเหตุที่เขาส่งข้อความหาเด็กหนุ่มก็เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงคำถามที่ไม่จำเป็นเท่านั้น

“เป็นไง ชุดของฉันมันเจ๋งใช่ไหมล่ะ?” ลู่หยางถามด้วยรอยยิ้ม

เสี่ยวเหลียงพยักหน้าแล้วถามว่า

“ลูกพี่ อาวุธนี่มันระดับอะไรเหรอ? มันเท่มากเลย”

ลู่หยางทำการแชร์ค่าสถานะของคทาไปให้กับเสี่ยวเหลียง

คทาอาซันนิสท์สตาฟ (ระดับทอง)

พลังโจมตี 4-8

พลังโจมตีเวท +24

พลังกาย +2

สติปัญญา +10

อัตราคริติคอลทางเวทมนตร์ +12%

อัตราความแม่นยำทางเวทมนตร์ +12%

เลเวลที่ต้องการ 5

“ระดับทอง!?” เสี่ยวเหลียงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และถึงแม้ว่าเขาจะเพิ่งเข้ามาภายในเกมเพียงแค่แป๊บเดียว แต่จากการอ่านไกด์ภายในอินเตอร์เน็ตและประสบการณ์ภายในเกม มันก็ทำให้เขาพอจะรู้แล้วว่าอุปกรณ์ภายในเกมนี้มันหาได้ยากมากแค่ไหน

ภายในช่องแชทโลกมีผู้เล่นมากมายที่ประกาศรับซื้ออาวุธระดับทองแดง แต่มันกลับมีคนเอาอุปกรณ์มาขายน้อยมาก แม้จะมีการขายแต่ราคาเริ่มต้นของอุปกรณ์พวกนั้นก็สูงถึง 500 เครดิต แต่ถึงกระนั้นอาวุธของลู่หยางก็ยังเป็นถึงอาวุธระดับทอง!

“ลูกพี่ คุณไปเอามันมาจากไหน?” เสี่ยวเหลียงอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้

ลู่หยางไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะถามกลับไปว่า

“นายอยากได้ชุดระดับเดียวกันกับมันไหม?”

แววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉาของเสี่ยวเหลียงเปลี่ยนเป็นแววตาแห่งความหดหู่ในทันที ก่อนที่เขาจะส่ายหัวและพูดว่า

“อุปกรณ์ระดับนี้มันแพงเกินไป ผมรับเอาไว้ไม่ไหวหรอก”

ลู่หยางส่ายหัวโอบไหล่เสี่ยวเหลียงไว้เบา ๆ แล้วพูดว่า

“เชื่อใจฉันเถอะ เดี๋ยวฉันจะรีบช่วยนายหาชุดระดับสูงเอง”

เสี่ยวเหลียงพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น เพราะตั้งแต่เด็กจนโตเขาก็ไว้วางใจในตัวของลู่หยางอยู่เสมอ นอกจากนี้ลูกพี่ของเขายังไม่เคยโกหกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตราบใดก็ตามที่อีกฝ่ายพูดคำว่าสัญญามันก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ลู่หยางทำไม่สำเร็จ

“ลูกพี่ ตอนนี้พวกเราควรจะไปไหนกันดี?”

“ตามฉันมาเดี๋ยวก็รู้เอง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับเหลือบสายตามองไปยังประตูเมือง ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เขามองก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกเสียจากโจรที่ใช้สกิลสเตลคอยลอบตามเขาอยู่นั่นเอง

“มีคนสะกดรอยตามฉันอยู่จริง ๆ ด้วยสินะ” ลู่หยางพึมพำภายในใจ

เมื่อโจรเห็นลู่หยางหันมามองที่ประตูเมือง เขาก็รีบหมุนตัววิ่งไปซ่อนบริเวณข้างกำแพงในทันที จากนั้นเขาก็ส่งข้อความออกไปว่า

“หัวหน้า คนที่ผมตามมาถึงประตูเมืองแล้วจะให้ผมทำยังไงต่อดีครับ?”

ขณะเดียวกันตรงบริเวณพื้นที่ของมอนสเตอร์เลเวล 2 นอกหมู่บ้านยักษ์ แบล็คบลัดซึ่งได้กลายเป็นผู้เล่นชื่อแดงจากการสังหารผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็ได้เผยรอยยิ้มหลังจากที่ได้เห็นข้อความ

“ตามมันไปให้ดี เดี๋ยวฉันจะส่งจินเตียวไปฆ่ามันเดี๋ยวนี้”

ใช่แล้ว คนที่แอบติดตามลู่หยางมาโดยตลอดนั่นก็คือลูกน้องของแบล็คบลัดนั่นเอง

เมื่อตอนเช้าในตอนที่เขาพยายามซื้ออุปกรณ์แบล็คบลัดรู้สึกว่าลู่หยางทำให้เขาขายขี้หน้าต่อผู้เล่นคนอื่น ๆ เขาจึงต้องการที่จะล้างแค้นให้อีกฝ่ายได้รู้สำนึก ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ส่งคนไปเฝ้าลู่หยางที่หน้าโรงแรม ส่วนอีกด้านหนึ่งเขาก็พาลูกกิลด์กว่า 3,000 คนไปจองพื้นที่ฟาร์มตรงบริเวณหน้าเมือง

อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าลู่หยางจะปรากฏตัวที่บริเวณทุ่งดอกไม้ และเนื่องมาจากเขาเข้าเมืองไม่ได้เพราะชื่อกลายเป็นสีแดง เขาจึงตั้งใจจะส่งลูกน้องไปจัดการ

ลู่หยางพาเสี่ยวเหลียงเดินตามเส้นทางอย่างสบาย ๆ และพูดคุยกันระหว่างทาง ซึ่งหลังจากที่ชายหนุ่มเดินผ่านเขตพื้นที่มอนสเตอร์เลเวล 3 และกำลังจะเข้าสู่เขตมอนสเตอร์เลเวล 4 ทันใดนั้นชายหนุ่มก็หยุดฝีเท้าของตัวเองลง

“พวกเราจะฟาร์มที่นี่งั้นเหรอครับ?” เสี่ยวเหลียงถาม

ลู่หยางส่ายหัวและบอกว่า “ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเก็บเลเวลหรอก แต่เพราะว่ามันเป็นพื้นที่ที่ฆ่าคนได้สะดวกต่างหาก”

ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังพูดอยู่นั้น เขาได้ใช้สกิลเฟลมอิมแพคจู่โจมเข้าใส่อากาศทางบริเวณด้านหลังในทันที

ถึงเวลาจัดการลูกหนูที่แอบตามมาแล้ววว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด