บทที่ 21 หนี้บุญคุณ
บทที่ 21 หนี้บุญคุณ
เพียงแค่ลู่หยางล็อกอินเข้าเกมกล่องข้อความของเขาก็ดังขึ้นติด ๆ กัน เมื่อชายหนุ่มเปิดข้อความออกมาแล้วเขาก็ได้พบว่ามันคือข้อความจากฉือมู่
“น้องชายช่วยฉันหน่อย ตอนนี้ฉันยังรวบรวมวัตถุดิบที่นายต้องการยังไม่ครบ แต่ฉันอยากจะขอโล่โกลเดนเดรคชิลด์ไปลงดันเจียนก่อนได้ไหม?”
เหตุการณ์ในปัจจุบันทำให้ชายหนุ่มอดจะเผยรอยยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เพราะแม้แต่ฉือมู่ก็ยังต้องลดตัวลงมาขอความช่วยเหลือจากเขา ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายมีศักดิ์เป็นถึงหัวหน้ากิลด์ที่มีสมาชิกถึง 30,000 คน
ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตชายชราจะได้กลายเป็นแม่ทัพที่มีชื่อเสียงอันโด่งดัง แต่ถึงกระนั้นอีกฝ่ายก็ยังต้องมาขอร้องเขาแบบนี้
“มันมีเรื่องอะไรงั้นเหรอครับ?” ลู่หยางส่งข้อความกลับไป
—
ในดันเจียน
ปัจจุบันทีมของฉือมู่ได้พ่ายแพ้ให้กับบอสตัวแรกของดันเจียนเป็นครั้งที่ 3 หลี่จิ่วชิงเฟิงผู้ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากิลด์ที่อยู่ข้าง ๆ จึงพูดขึ้นมาว่า
“หัวหน้าหากเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ ถ้าหากผมไม่ได้มีโล่ดี ๆ สักอัน มันก็ไม่มีทางที่ตัวแทงค์อย่างผมจะชนบอสไหว”
“เรื่องนั้นฉันรู้แต่ลู่หยางยังไม่ออนไลน์แล้วฉันก็ยังหาซื้อโล่อื่นไม่ได้ ตอนนี้สถานการณ์ของฉงป้าไปถึงไหนแล้วฉือมู่กล่าว
“ตอนนี้พวกเขาผ่านไปถึงบอสตัวที่ 2 แล้วครับ” ชิงเฟิงตอบ
“โธ่เว้ย! สาเหตุที่เมื่อเช้าไอ้หนูนั่นไม่ได้มาแย่งโล่กับฉัน มันก็เป็นเพราะว่ามันมีโล่อื่นอยู่แล้วสินะ” ฉือมู่สบถออกมาอย่างไม่พอใจ
“หัวหน้า เราจะปล่อยให้ฉงป้าเคลียร์ดันเจียนก่อนพวกเราไม่ได้นะ รางวัลเฟิร์สเคลียร์จะประกาศไปทั่วทั้งเกม มันส่งผลกระทบต่อการรับสมัครสมาชิกใหม่ในภายหลัง”
“อืม ฉันรู้แล้ว” ฉือมู่กล่าวซึ่งในความเป็นจริงเขาก็ร้อนใจอยู่ไม่น้อย
ตอนนี้กิลด์ใหญ่ทุกกิลด์ต่างก็แย่งชิงรางวัลเฟิร์สเคลียร์ดันเจียน โล่ดี ๆ จึงถูกขายออกไปรวดเร็วมากและการที่เขาได้เจอโล่ของลู่หยางก็ถือว่าเป็นโชคดีสำหรับเขาแล้ว
ในระหว่างที่ฉือมู่กำลังกังวลอยู่นั่นเอง ทันใดนั้นชายชราก็ได้รับข้อความตอบกลับมาจากลู่หยาง
“นายออนไลน์แล้วสินะ” ฉือมู่กล่าวอย่างตื่นเต้น
“มีปัญหาอะไรงั้นเหรอครับ?” ลู่หยางถาม
“อย่าถามแบบนั้นเลย…” ฉือมู่เริ่มเล่าอุปสรรคที่เขาต้องพบเจอในระหว่างการลงดันเจียน
“ใครจะไปคิดว่าดันเจียนในเกมเซคคัลเวิลด์จะยากขนาดนี้ แค่ดันเจียนธรรมดาเลเวล 3 แม้แต่ทีมชั้นยอด 20 คนของพวกเราก็ยังผ่านบอสตัวแรกไปไม่ได้ นายคิดดูว่าแบบนี้มันควรจะเรียกว่าอะไร” ฉือมู่บ่น
ลู่หยางไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์นี้มากเท่าไหร่นัก เพราะเพื่อไม่ให้ผู้เล่นอัปเลเวลได้เร็วเกินไปและชะลอการเสื่อมค่าของอุปกรณ์ ทางผู้พัฒนาเซคคัลเวิลด์จึงเพิ่มความยากของดันเจียนเพื่อลดจำนวนอุปกรณ์ในตลาดลง
ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้แม้แต่ดันเจียนธรรมดา ๆ เลเวล 3 ก็ยังต้องอาศัยความร่วมมือของผู้เล่นชั้นยอดทั้ง 20 คนอย่างเต็มที่ นอกจากนี้มันยังมีข้อกำหนดทางด้านอุปกรณ์ เพราะถ้าหากตัวแทงค์ไม่สามารถชนบอสเอาไว้ได้ มันก็แทบไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะเคลียร์ดันเจียนได้เลย
“ผมยินดีให้โล่คุณก่อนคุณส่งคนมารับที่หน้าโรงแรมหมายเลข 7 ทางฝั่งทิศตะวันออกของเมืองได้เลย เดี๋ยวผมจะรออยู่ตรงนั้น” ลู่หยางกล่าวและเขามีความมั่นใจว่าฉือมู่จะไม่โกงเขาเพราะเรื่องแค่นี้
ตอนแรกชายชรายังกังวลว่าลู่หยางจะไม่ตกลง ฉือมู่จึงคิดที่จะเสนอเงินมัดจำให้ชายหนุ่มด้วยซ้ำ แต่เขาก็นึกขึ้นมาได้ว่าลู่หยางไม่ใช่คนที่ให้ความสนใจกับเงินมากนัก การพูดเสนอเรื่องเงินออกไปอาจจะทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจขึ้นมาก็ได้
อย่างไรก็ตามความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่าลู่หยางให้ความไว้วางใจในตัวเขามาก ถึงขนาดไม่ต้องการหลักค้ำประกันอะไรและยินดีจะให้ยืมโล่โดยไม่มีเงื่อนไขอะไรเลย
“น้องชาย ขอบคุณความช่วยเหลือในครั้งนี้มาก ฉันติดหนี้บุญคุณนายแล้ว ต่อไปถ้าต้องการความช่วยเหลืออะไรให้ติดต่อมาบอกฉันได้เลย” ฉือมู่กล่าว
“ได้ ผมจะจำไว้” ลู่หยางกล่าวซึ่งคำพูดนี้ก็เป็นคำพูดที่เขากำลังรออยู่พอดี
“ถ้าอย่างนั้นนายรอแป๊บนึง เดี๋ยวฉันจะรีบส่งคนไปเดี๋ยวนี้เลย”
หลังจากฉือมู่ส่งข้อความเสร็จ เขาก็หันไปหาชิงเฟิงและพูดว่า
“รีบไปที่โรงแรมหมายเลข 7 ทางฝั่งทิศตะวันออกของเมือง ลู่หยางออนไลน์แล้วและเขาก็ตกลงที่จะให้พวกเรายืมโล่ก่อน”
“เยี่ยม! เดี๋ยวผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” ชิงเฟิงกล่าวก่อนที่เขาจะใช้คัมภีร์ย้อนกลับเพื่อเดินทางกลับเมืองในทันที
ม้วนคัมภีร์ย้อนกลับถือเป็นไอเท็มหายากและไม่มีขายในร้านค้าของระบบ คัมภีร์เหล่านี้จะดรอปลงมาจากการสังหารมอนสเตอร์เท่านั้น และจุดกลับเมืองยังไม่ใช่จุดที่ผู้เล่นกำหนดแต่จะเป็นการวาร์ปไปยังจัตุรัสกลางเมืองซึ่งเป็นการตั้งค่าที่ระบบกำหนดมาให้อยู่แล้ว
จากจัตุรัสกลางเมืองมายังโรงแรมหมายเลข 7 ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 นาที ลู่หยางจึงได้เห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาหาเขา และเขาก็จำได้ว่าคนคนนี้คือผู้เล่นที่เดินตามหลังฉือมู่เมื่อตอนเช้า
“อาจารย์! ผมมาแล้ว!!” ชิงเฟิงตะโกน
ลู่หยางโบกมือเรียกและเมื่อชายคนนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้า เขาจึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า
“คุณคือหลี่จิ่วชิงเฟิงใช่ไหม?”
“ใช่ครับ ฉือมู่เป็นคนส่งผมมา” ชิงเฟิงกล่าวพร้อมกับส่งคำขอแลกเปลี่ยนไปหาลู่หยาง เมื่อชายหนุ่มเช็คชื่อว่าถูกต้องตรงตามที่ฉือมู่บอกมา เขาจึงทำการแลกเปลี่ยนโล่โกลเดนเดรคชิลด์ออกไป
ชิงเฟิงมองค่าสถานะของโล่โกลเดนเดรคชิลด์ด้วยแววตาอันเป็นประกาย ก่อนที่เขาจะกดยืนยันการแลกเปลี่ยนและพูดว่า
“ขอบคุณมากครับอาจารย์ ถ้ามีโล่นี่พวกเราก็พอจะมีความหวังที่จะเคลียร์ดันเจียนได้แล้ว”
“ขอให้สำเร็จนะ” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ” ชิงเฟิงกล่าวและเนื่องมาจากเขากำลังร้อนใจอยากกลับไปที่ดันเจียน หลังจากพูดคุยกันอีก 2-3 คำชายคนนี้ก็รีบกลับไปในทันที
หลังจากส่งชิงเฟิงกลับไป ลู่หยางก็เปิดหน้าต่างค้นหาเพื่อนภายในเกมและทำการใส่รหัสหมวกเสมือนจริงที่เขาซื้อให้เสี่ยวเหลียงลงไป
ตอนแรกระบบให้รหัสที่หมวกเพื่อที่เพื่อนในชีวิตจริงจะหาตัวละครในเกมกันได้ง่าย แต่ผู้เล่นเป็นจำนวนมากใช้วิธีสุ่มรหัสเพื่อส่งข้อความไปพูดคุยกันทำให้ปัจจุบันฟีเจอร์นี้กลายเป็นเหมือนแอพหาเพื่อนไปกลาย ๆ
“0019852476”
หลังกรอกโค้ดลงไปแล้ว ลู่หยางก็ได้เห็นชื่อ “เฮ่ยเจีย” ปรากฏขึ้นมา
“เขายังคงใช้ชื่อเดิมสินะ” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ เพราะเมื่อชาติก่อนเสี่ยวเหลียงก็ตั้งชื่อตัวละครว่าเฮ่ยเจียแบบนี้เลย
ปัจจุบันเสี่ยวเหลียงวิ่งออกนอกเมืองไปแย่งมอนสเตอร์กับผู้เล่นคนอื่น ๆ ซึ่งหลังจากที่เกมเปิดให้บริการมาครบ 1 วันก็ไม่เพียงแต่จำนวนของผู้เล่นจะไม่ลดลงเท่านั้น แต่มันกลับมีเพิ่มขึ้นมามากกว่าวันแรกเสียอีก
ในฐานะ “ชายหนุ่มผู้มีอุดมการณ์” เสี่ยวเหลียงเคยวาดฝันเอาไว้ว่าวันหนึ่งเขาจะได้ผงาดภายในเกมนี้ เขาจึงตั้งปฏิญาณภายในใจว่าหลังจากได้รับหมวกเกมมา เขาจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อหาเงินจากเกมให้ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตามเมื่อเสี่ยวเหลียงมองแผนที่มอนสเตอร์เลเวล 1 ซึ่งเต็มไปด้วยผู้คน มันก็ทำให้เขารู้สึกตกตะลึง เพราะบนพื้นหญ้าอันเขียวขจีทุกตารางเมตรจะมีผู้เล่นยืนอยู่ถึง 4 คน เมื่อมีมอนสเตอร์เกิดขึ้นมา มันก็จะมีดาบไม้ 6-7 เล่มพุ่งเข้าใส่มอนสเตอร์พร้อม ๆ กัน
นอกจากผู้เล่นจะต้องมือไวแล้วมันยังจำเป็นจะต้องอาศัยโชคในการเก็บเลเวลท่ามกลางฝูงชนแบบนี้ด้วย เพราะถ้าหากมอนสเตอร์เกิดไกลไป มันก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะตวัดดาบออกไปโดนมอนสเตอร์ได้เลย
“ทำไมมันยากขนาดนี้วะเนี่ย!” เสี่ยวเหลียงบ่นภายในใจ และเมื่อเขาเปิดดูกระดานจัดอันดับและได้เห็นลู่หยางที่อันดับ 1 มีเลเวล 4 แล้ว มันก็ทำให้เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ! คนคนนี้เก็บเลเวลยังไงกันนะ แล้วทำไมชื่อของเขาถึงเหมือนกับชื่อของลูกพี่ฉันเนี่ย” เสี่ยวเหลียงกล่าว
ทันใดนั้นมันก็มีคำขอเพื่อนเด้งขึ้นมาและคนที่ขอเข้ามายังใช้ชื่อลู่หยางอีกด้วย
เสี่ยวเหลียงเทียบชื่อคนที่ขอเพื่อนกับชื่อลู่หยางในกระดานจัดอันดับ ก่อนที่เขาจะได้พบว่าชื่อของทั้งสองคนเหมือนกันทุกประการ
เด็กหนุ่มรีบกดตอบรับคำขอเพื่อนในทันที ก่อนที่เขาจะโทรไปพูดด้วยความตื่นเต้น
“ลูกพี่! คนที่อยู่อันดับ 1 ของตารางจัดอันดับคือลูกพี่งั้นเหรอ?!”
“ใช่ ฉันเอง” ลู่หยางตอบด้วยรอยยิ้ม
เป็นใครก็ตกใจ 55555