บทที่ 19 เสี่ยวเหลียง
บทที่ 19 เสี่ยวเหลียง
ลู่หยางไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เจิ้งหยวนเกลียดเขาเข้าให้แล้ว ซึ่งหลังออกมาจากเกมชายหนุ่มก็นอนหลับเพื่อพักผ่อน
เวลาล่วงพ้นผ่านไปจนถึงบ่ายโมง ลู่หยางลุกตื่นขึ้นมากินอาหารเที่ยงง่าย ๆ ก่อนที่จะเริ่มฝึกพิเศษเพื่อเตรียมร่างกายสำหรับการล้างแค้น
พ่อของเขาเคยเป็นทหารมาก่อน ชายหนุ่มจึงเคยฝึกพื้นฐานมาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นสภาพร่างกายในปัจจุบันของเขาจึงถือว่าไม่เลวเลย
ย้อนกลับไปในอดีตเพื่อที่จะสังหารลิ่วเจียให้สำเร็จ ลู่หยางต้องฝึกซ้อมอย่างหนักในช่วง 5 ปีสุดท้ายจากเพื่อนของพ่อ แต่น่าเสียดายที่ในตอนนั้นเขาอายุ 26 ปีแล้วจึงทำให้พลาดฝึกร่างกายในช่วงที่ดีที่สุดไป
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพัฒนาจนกลายเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงและมีผู้คนตั้งฉายาให้กับเขาว่า “เพลิงโลหิต” ซึ่งถ้าหากว่าใครในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ยินฉายานี้ มันก็จะมีคนหวาดกลัวจนหน้าซีดกันเลยทีเดียว
หลังจากเกิดใหม่อีกครั้งลู่หยางจึงตัดสินใจฟื้นฟูร่างกายให้กลับไปแข็งแรงเหมือนกับในชาติก่อน และเขาก็อยากจะลองดูเหมือนกันว่าเมื่อเขาได้มีโอกาสกลับมาฝึกฝนในช่วงที่ร่างกายสมบูรณ์ที่สุด มันจะทำให้เขาพัฒนาไปได้ไกลสักแค่ไหน
หลังจากลองฝึกตามวิธีที่พ่อสอน ชายหนุ่มก็เริ่มออกกำลังกายตามวิธีที่อาจารย์เคยฝึกสอนให้
วิธีการออกกำลังกายวิธีนี้เป็นวิธีการฝึกนักฆ่าขององค์กรปริศนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากใครสามารถอดทนออกกำลังกายด้วยวิธีนี้ได้ ร่างกายของเขาจะพัฒนาขึ้นจากเดิมอย่างกะทันหัน แต่การฝึกวิธีนี้ก็มีข้อเสียที่ใหญ่หลวงมากเช่นกันนั่นก็คือมันเป็นการฝึกที่ทำให้ร่างกายเจ็บปวดมากจนทำให้มีผู้ทนฝึกจนสำเร็จได้ไม่ถึง 10%
2 ชั่วโมงต่อมาลู่หยางก็ล้มลงไปบนพื้นโดยรู้สึกเหมือนกับกล้ามเนื้อทั้งตัวทุกตารางนิ้วกำลังฉีกขาดอย่างรุนแรง แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังพยายามอดทนฝืนลุกขึ้นยืนต่อไป
สาเหตุที่ทำให้ลู่หยางอดทนได้ถึงขนาดนี้ นั่นก็เพราะเขาต้องการล้างแค้นลิ่วเจียที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องเจอกับหายนะ แล้วถึงแม้ชาติก่อนเขาจะเคยสังหารชายคนนี้ไปแล้ว แต่ในชาตินี้ความแค้นภายในใจของชายหนุ่มก็ยังคงอัดแน่นอยู่เช่นเดิม
หลังจากอดทนได้อีกครึ่งชั่วโมงชายหนุ่มก็เสร็จสิ้นการฝึกวันนี้ด้วยร่างกายอันสั่นเทา ลู่หยางจึงพยายามลากร่างตัวเองเข้าไปในห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบสิ่งสกปรกตามร่างกาย
ทุกครั้งที่น้ำเย็นไหลผ่านร่างกายอันอ่อนล้า ลู่หยางมักจะจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง เพียงแต่ในชาติก่อนเขาจมอยู่กับความเสียใจแต่ชาตินี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันแตกต่างไปจากเดิมหมดแล้ว
ชาติก่อนคนที่ทรยศเขาคือพี่น้องที่เขารู้จักในช่วงมหาลัย ในทางกลับกันคนที่คอยหยิบยื่นความช่วยเหลือให้กับเขาในช่วงที่เขากำลังตกต่ำกลับเป็นเพื่อนบ้าน และสหายอีกหลาย ๆ คนที่เรียนจบเพียงแค่อาชีวะ
ทันใดนั้นชื่อเสี่ยวเหลียง, หลู่จ้าวหยูและเฉินเฟิงก็ปรากฏขึ้นมาในความคิด ตอนนั้นพ่อกับแม่ของเขาไปทำงานที่ไซต์ก่อสร้าง โดยมีเสี่ยวเหลียงกับหลู่จ้าวหยูตามไปทำงานหาเงินใช้หนี้ให้กับเขาด้วย
ต่อมาเสี่ยวเหลียงก็ตายเนื่องจากเขาพยายามปกป้องลู่หยาง ส่วนทางด้านหลู่จ้าวหยูก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยให้ลู่หยางหลบหนีไปต่างประเทศ
ในฐานะพี่น้องมิตรภาพของคนเหล่านี้เรียกได้ว่าไร้ที่ติ แต่ลู่หยางกลับจำไม่ได้ว่าเขาทำอะไรลงไปถึงทำให้พวกเสี่ยวเหลียงคิดว่าเขาคู่ควรกับความช่วยเหลือถึงขนาดนั้น
เมื่อเกิดใหม่ในชาตินี้ลู่หยางจึงตัดสินใจทำให้พี่น้องในชีวิตก่อนได้พบเจอแต่สิ่งดี ๆ เพียงแต่ในตอนนี้ความสามารถของเขายังมีอยู่อย่างจำกัด เขาจึงวางแผนจะพาเสี่ยวเหลียงมาช่วยเขาก่อน ส่วนคนอื่น ๆ ยังคงเรียนอยู่ในวิทยาลัยอาชีวะจึงไม่มีเวลาว่างมากนัก มีเพียงเสี่ยวเหลียงคนเดียวที่มีเวลาว่างเพราะไม่ได้เรียน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จ ลู่หยางก็มุ่งหน้าตรงไปซื้อหมวกเสมือนจริงอีกอันที่ร้านใกล้ ๆ โรงเรียนและมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเสี่ยวเหลียงที่หมู่บ้านชานเมือง
แม้เขาจะพูดว่าหมู่บ้านกลางเมือง แต่ความเป็นจริงมันคือสลัมซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนที่มีสถานะล่างสุดของสังคม ในหมู่บ้านจึงมีเพียงแต่บ้านเรือนเก่า ๆ ที่ไม่ได้รับการดูแลมานานหลายปี
หลังจากเลี้ยวไปมาในตรอกอย่างคล่องแคล่ว ลู่หยางก็เดินทางมาถึงบ้านหลังเก่า ๆ ที่ถูกก่อขึ้นมาจากอิฐเปลือยและแน่นอนว่าบ้านหลังนี้นั่นก็คือบ้านของเสี่ยวเหลียง
ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังจะเคาะประตู ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตวาดดังขึ้นมาจากด้านนอกที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
“ไอ้หนู แกอยากจะโดนกระทืบมากนักใช่ไหม? ฉันสั่งให้ไปหาเงินมา 50 เครดิตไง แล้วไหนล่ะเงิน!”
“ไม่มี? ไม่มีแล้วทำไมถึงไม่ไปขโมย แกอยากจะโดนกระทืบมากกว่าไปขโมยเงินใช่ไหม?!”
เสียงนี้เป็นเสียงที่คุ้นเคยมาก ลู่หยางจึงรีบกระโดดข้ามรั้วไปหาต้นเสียงในทันที และเขาก็ได้เห็นกลุ่มอันธพาลกำลังทำร้ายเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่ ซึ่งเด็กหนุ่มคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นใดเลยนอกเสียจากเสี่ยวเหลียงสหายเก่าของเขานั่นเอง
“หยุด!” ลู่หยางตะโกน
กลุ่มอันธพาลรีบหันมามองและเมื่อพวกเขาได้เห็นว่าเป็นลู่หยาง กลุ่มคนนั้นก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา
“โอ้ วันนี้โชคดีจริง ๆ มีคนเอาเงินมาให้เพิ่มอีกคนหนึ่งแล้ว” หัวหน้าอันธพาลที่มีปานบนใบหน้าใช้เท้าเหยียบเสี่ยวเหลียงและหันมาพูดกับลู่หยางว่า
“ไอ้หนู เราไม่ได้เจอกันมาสักพักแล้วสินะ พอจะมีเงินสักร้อยหนึ่งไหม? แล้วฉันจะยอมปล่อยแกไปแต่โดยดี”
ลู่หยางจดจำคนที่กำลังพูดตรงหน้าได้เป็นอย่างดี แม้ว่าเขาจะไม่ได้เจอหน้าชายคนนี้มาเป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วก็ตาม
ชายคนนี้มีชื่อว่ากวนต้าไห่ที่เป็นเพื่อนบ้านในบริเวณนี้ อายุของอีกฝ่ายมากกว่าลู่หยางประมาณ 10 ปี เรียกได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ประจำย่านเลยทีเดียว ตั้งแต่สมัยที่อีกฝ่ายยังเป็นเด็ก เขาก็อาศัยร่างกายอันสูงใหญ่มารังแกลู่หยางกับเสี่ยวเหลียงอยู่เป็นประจำ
โดยปกติลู่หยางเป็นคนฉลาด เขาจึงมักจะหลบเลี่ยงกวนต้าไห่ได้ตลอด แต่ในวันนี้ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะหลบเลี่ยงอันธพาลร่างใหญ่อีกต่อไปแล้ว
“กวนต้าไห่ปล่อยเสี่ยวเหลียงมาซะ!” ลู่หยางกล่าว
“โอ้! เดี๋ยวนี้แกกล้าสั่งฉันแล้วงั้นเหรอ” กวนต้าไห่ส่งเสียงฮึดฮัด ก่อนที่เขาจะเดินหน้ามาคนเดียวและถีบไปยังท้องของลู่หยางในทันที
อย่างไรก็ตามในระหว่างที่ชายร่างใหญ่กำลังจินตนาการว่าเขาจะทำร้ายลู่หยางได้เหมือนเดิม จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บตรงบริเวณหน้าอก ก่อนที่จะได้เห็นลู่หยางหมุนตัวเตะสวนเข้ามายังหน้าอกของเขาได้อย่างแม่นยำ
เหล่านักเลงคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจกันไปตาม ๆ กัน เพราะพวกเขาไม่คิดว่าลู่หยางจะถีบลูกพี่ของพวกเขาจนกระเด็นออกมาแบบนั้น
“ลู่หยาง แก…”
เหล่าลูกน้องนักเลงรีบกรูเข้าไปหาลู่หยางในทันที แต่ก่อนที่ชายคนหนึ่งจะทันได้พูดจบลง อิฐก้อนหนาก็ฟาดเข้าใส่หน้านักเลงคนนั้นเต็ม ๆ
ระหว่างนั้นเสี่ยวเหลียงเงยหน้าขึ้นมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี เขาจึงได้เห็นลู่หยางย่อตัวหลบหมัดของนักเลง ก่อนที่จะใช้อิฐภายในมือฟาดเข้าใส่ใบหน้าของพวกนักเลงอย่างคล่องแคล่ว
ชายหนุ่มเตะเข้าใส่ข้อพับหลังหัวเข่าของนักเลงส่วนที่เหลืออย่างรวดเร็ว จนทำให้คนพวกนั้นร้องโหยหวนขณะที่ร่างนอนดิ้นอยู่บนพื้น
เมื่อพวกนักเลงเห็นว่าลู่หยางสามารถจัดการกับพวกเขาได้อย่างง่ายดาย มันก็ทำให้แววตาของคนเหล่านี้เปลี่ยนไปกลายเป็นความหวาดกลัว
“แก... แกจะทำอะไร?”
ลู่หยางหยิบก้อนอิฐเดินเข้าไปหานักเลงช้า ๆ โดยไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
เหตุการณ์นี้ทำให้กลุ่มนักเลงเริ่มขวัญกระเจิง แล้วในที่สุดพวกเขาก็ทนความน่ากลัวของลู่หยางไม่ไหว พวกเขาจึงส่งเสียงกรีดร้องออกมาและวิ่งหนีไปทิ้งกวนต้าไห่เอาไว้คนเดียว
“จะหนีไปไหน กลับมานี่!” กวนต้าไห่พยายามตะโกนเรียกลูกน้อง แต่มันก็ไม่มีใครกล้าหันกลับมาเลยสักนิด
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์” กวนต้าไห่บ่นพึมพำขณะใช้มือกุมอกหันหน้าไปหาลู่หยาง
เขารู้สึกว่าวันนี้ลู่หยางมีอะไรแปลก ๆ เขาจึงตั้งใจจะทิ้งคำขู่เอาไว้แล้วค่อยมาจัดการอีกฝ่ายในภายหลัง แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรออกไปมันกลับมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาแทน
ผัวะ!
ก้อนอิฐฟาดเข้าที่หน้าของกวนต้าไห่อย่างแม่นยำจนทำให้ชายร่างใหญ่ร่วงลงไปกับพื้น พร้อมกับเลือดที่เริ่มไหลอาบไปทั่วทั้งใบหน้า
เปิดตัวได้ดี พระเอกสุด ๆ