ตอนที่แล้วบทที่ 14 : ช่วงเวลาฉายเเสงของหมาป่า​วายุ​นรก​!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 16 : เเหวน​มิติ​!

บทที่ 15 : กรงเล็บเงียบสงัด​!


บทที่ 15 : กรงเล็บเงียบสงัด​!

บนที่นั่ง, เหล่า​ผู้ชมเต็มไปด้วยเสียงฮือฮา

“สัตว์อสูรสามธาตุ หายากมาก!”

“เซียวซิงหยูนี่สุดยอด​มาก​จริงๆ!”

“ดูหน้าหวังเยี่ยนสิ มันเหมือนกินยาขมๆเข้าไปเลย!”

เมื่อหมาป่าวายุนรกแสดงคุณสมบัติที่สามออกมา ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก

เเละด้วย​ ‘เงาพรางตัว’ ที่เป็นทักษะเคลื่อนที่ของธาตุมืด

หมาป่าวายุนรกจึงกลายเป็นเงาหายลงไปใต้ดินเเละหลบ ‘เยือกแข็งทำลายล้างสวรรค์’ ท่าไม้ตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ ได้อย่างง่ายดาย

เเน่​นอน​ว่า​เมื่อหวังเยี่ยนเห็น​เเบบนี้, เขาก็หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจทันที​

“บ้าเอ๊ย! ทักษะธาตุมืด ไอ้หมอนี่ทำได้ยังไง…”

….

อีก​ด้าน

เฉินฉีเหนียนยืนอยู่มุมหนึ่งของที่นั่งผู้ชม ขณะที่​จ้องมองเซียวซิงหยูอย่างเงียบๆ

“ในวันสอบเข้า ตอนที่ตรวจสอบด้วยเครื่องวัดพลังสัตว์อสูร…หมาป่าวายุนรกมีแค่ธาตุไฟกับลมอย่างเเน่​นอน​”

“นั่นหมายความว่า ธาตุมืดเพิ่งจะถูกปลุกขึ้นมาหลังจากสอบเข้า!”

“เซียวซิงหยู นายเป็นปรมาจารย์อสูรที่คาดเดาไม่ได้จริงๆ…”

สายเลือด ระดับ คุณสมบัติ…สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงปัจจัยพื้นฐาน

สิ่งที่กำหนดขีดจำกัดที่แท้จริงของสัตว์อสูร คือพรสวรรค์ของปรมาจารย์อสูร

ภายในเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ หมาป่าวายุนรกก็ถูกเซียวซิงหยูพัฒนาจนปลุกพลังธาตุที่สามขึ้นมาได้, เเถม​ยัง​เป็นธาตุมืดที่หายากมาก

แม้แต่อธิการบดีซูหรูหยาน ที่นั่งชมอยู่บนที่นั่งผู้ชม ก็ต้องมองเซียวซิงหยูด้วยความสนใจ

“ธาตุมืด น่าสนใจดี…เด็กคนนี้ถือว่า​ไม่ธรรมดา~”

……

บนสนาม​ประลอง​

หลังจากหลบท่าไม้ตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บได้แล้ว หมาป่าวายุนรกก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ออกจาก​สถานะเงาเเละล่องลอยอยู่ในสายลม

“เซียวซิงหยู แกคิดว่าสัตว์อสูรของแกแค่มีธาตุที่สามเเล้ว​จะลบล้างความต่างชั้นของสายเลือดได้งั้นเหรอ?”

“เพ้อฝันเกินไป​เเล้ว​!”

“ปิงเยี่ยน เข้าไปฆ่ามัน!”

ตอนนี้, นักเรียนทั้งโรงเรียนกำลังดูการประลอง​อยู่

ในฐานะลูกชายรองอธิการบดี หวังเยี่ยนไม่มีทางยอมแพ้ให้กับคนไร้เส้นสายอย่างเซียวซิงหยูเเน่

ทันใดนั้น, เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บก็โจมตีอีกครั้ง

ที่แท่นบรรยาย…

หยางซูลุกขึ้นยืน กุมไมโครโฟนไว้แน่น พร้อม​พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ผู้ชมทุกท่าน การต่อสู้กำลังเข้มข้นขึ้นแล้ว!”

“ถึงแม้พรสวรรค์ ‘น้ำแข็งทมิฬ’ ของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บจะทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลงได้เมื่อโจมตีถูก…”

“แต่ถ้าโจมตีพลาด…มันก็จะไม่เกิดผลใดๆ”

บนเวที เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บคลุ้มคลั่งเเละปล่อยทักษะต่างๆออกมาไม่ยั้ง

อย่างไร​ก็ตาม, ร่างของหมาป่าวายุนรกมักจะกลายเป็นเงาสีม่วงดำ พุ่งไปพุ่งมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทักษะทั้งหมดของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บพลาดเป้า

ในที่สุด, ดวงตาของเซียวซิงหยูก็เปล่งประกายแห่งสติปัญญา

“เฮยเฟิง เอาเลย!”

ในช่วงที่เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บใช้ทักษะจนหมด เซียวซิงหยูก็ตัดสินใจอย่างแม่นยำ

กรรร!

หมาป่าวายุนรกในร่างเงาพุ่งลงใต้ดิน แล้วโผล่ขึ้นมาด้านหลังเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บในพริบตา

ฉัวะ!!!!

กรงเล็บอันแหลมคมของหมาป่าวายุนรกฟาดเข้าที่หลังของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอย่างรุนแรง

ก๊าซ​ซซ!!!

เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด นอกจากนี้​บนหัวของมันยังปรากฏรอยกรงเล็บสีม่วงดำ

เมื่อ​เห็น​เช่นนี้, หวังเยี่ยนก็ตะโกนด้วยความร้อนรน

“ปิงเยี่ยน ใช้ ‘เยือกแข็งทำลายล้างสวรรค์’ สวนกลับ!”

“เห้ย…ไอ้โง่ ฉันให้แกสวนกลับ แกยืนเฉยทำไม!”

เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บมีโอกาสสวนกลับ แต่มันกลับยืนนิ่ง เเละทำอะไรไม่ถูก

ด้านนอก​สนาม, เฉินฉีเหนียนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง​

“กรงเล็บเงียบสงัด​!?”

พร้อมกัน​นั้น, หยางซู่ก็ตะโกนออกมา​พอดิบพอดี​

“ผู้ชมทุกท่าน ช่วงเวลานี้จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวิทยาลัยชิงหลงของ​เรา!”

“หมาป่าวายุนรกใช้ทักษะธาตุมืด ‘กรงเล็บเงียบสงัด​’!”

จากนั้น, ข้อมูลก็ปรากฏขึ้นบนจอยักษ์

[กรงเล็บเงียบสงัด​]: ทักษะธาตุมืด เมื่อโจมตีถูกศัตรู จะทำให้ศัตรูเป็นใบ้เป็นเวลา 3 วินาที (ไม่สามารถใช้ทักษะใดๆได้)

ตอนนี้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอยู่ในสถานะใบ้, ไม่สามารถใช้ทักษะใดๆ ได้เป็นเวลา 3 วินาที

และเมื่อสถานะใบ้ใกล้จะหมดลง หมาป่าวายุนรกก็ใช้ ‘กรงเล็บเงียบสงัด​’ อีกครั้ง

เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด รอยกรงเล็บบนหัวที่กำลังจะหายไปก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง

ผู้ชมทุกคนลุกขึ้นยืน ปิดหน้าด้วยความตกตะลึง

“3 วินาทีแล้ว 3 วินาทีเล่า ใบ้แล้วใบ้อีก!”

“เซียวซิงหยูสุดยอด ทำให้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บยืนนิ่งเป็นท่อนไม้​เลย!”

“เเต่​นี่​เเปลกมาก…‘กรงเล็บเงียบสงัด​’ เป็นทักษะที่สัตว์อสูรธาตุมืดระดับเติบโตถึงจะเรียนรู้ได้”

“ทำไมหมาป่าวายุนรกที่เป็นแค่ระดับเริ่มต้นถึงใช้ได้ล่ะ?”

“ดูเหมือนว่าวิทยาลัยชิงหลงของเราจะได้ต้อนรับอัจฉริยะอีกคนแล้ว!” หยางซู่ตะโกนด้วยความตื่นเต้น

“ปิงเยี่ยน ใช้ทักษะสิ อย่ายืนเฉยสิวะ!”

หวังเยี่ยนร้อนใจมาก ที่เห็นสัตว์อสูรของตัวเองโดนตีอยู่ฝ่ายเดียว

อย่างไร​ก็ตาม, หมาป่าวายุนรกใช้ ‘กรงเล็บเงียบสงัด​’ ซ้ำๆ จนทำให้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอยู่ในสถานะใบ้ 3 วินาทีแล้ว 3 วินาทีเล่า

ตอนนี้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บถอยร่นจนหลังขาแตะขอบเวทีเเละใกล้จะแพ้เต็มที

“ใช้ท่าไม้ตายเร็วเข้า ใช้ท่าไม้ตายสิวะ!”

หวังเยี่ยนตะโกนสุดเสียง

เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บมองหวังเยี่ยนด้วยหางตาอย่างน่าสงสาร ราวกับจะบอกว่า

นายท่าน ข้าทำไม่ได้!

ในสถานะใบ้ เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บใช้ทักษะอะไรไม่ได้เลย…มันได้แต่ยืนนิ่งให้หมาป่าวายุ​นรก​ตี

“เฮยเฟิง จบการต่อสู้ได้แล้ว”

เมื่อได้ยินคำสั่งของเซียวซิงหยู เปลวไฟนรกสีดำก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้งบนตัวหมาป่าวายุนรก

กรรร!

(คำรามนรก!)​

นี่คือท่าไม้ตายของหมาป่าวายุนรก

มันพ่นเสาไฟสีดำขนาดใหญ่พุ่งทะลุร่างของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ

บูมมมม!!!

บนเวที​ประลอง​เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว​

ควันหนาทึบลอยคลุ้งไปทั่วเวที

เมื่อ​ควันจางลง, ร่างของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บที่ถูกไฟคลอกไหม้เกรียม ก็นอนนิ่งอยู่บนพื้นหญ้าข้างเวที โดยมีสภาพ​ปากฟูมฟาย ขาสี่ข้างชักกระตุก

กรรมการเดินเข้ามา พร้อมยกมือของเซียวซิงหยูขึ้น

“การประลองครั้งนี้…ผู้ชนะคือ เซียวซิงหยู”

“เฮฮฮฮฮ!!”

“เฮฮฮฮฮ!!”

ตอนแรกทุกคนเงียบไป เเต่จากนั้นพวกเขาก็ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหว

หยางซู่โยนหูฟังทิ้ง ยกไมโครโฟนขึ้นแล้วตะโกน

“การประลองจบลงแล้ว เซียวซิงหยูเป็นผู้ชนะ!”

เสียงปรบมือ ดอกไม้ เสียงเชียร์ ความชื่นชม…เซียวซิงหยูยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ โดยที่​ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งเฉย

มันราวกับว่าการคว้าชัยชนะครั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับ​เขา

…..

“เยี่ยมไปเลย ซิงหยูชนะแล้ว!”

เพื่อนๆ ห้องสามที่นั่งอยู่​บนที่นั่งผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์ด้วยความดีใจ

เฉินฉีเหนียนมองเซียวซิงหยูด้วยแววตาเหม่อลอย

“เด็กคนนี้… ท่าทางคล้ายกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ” (ใครฟะ)​

ส่วนหวังเยี่ยนตอนนี้

เขาคุกเข่าอยู่บนเวทีด้วยดวงตาว่างเปล่า

เขายังคงทำใจกับความพ่ายแพ้ครั้ง​นี้ไม่ได้จริงๆ​

เเต่ทันใดนั้น​เอง, เสียงของซูหรูหยานก็ดังขึ้นมา

“ทำตามกฎสิ…ขอโทษเซียว​ซิ​ง​หยู​ซะ แล้วจบเรื่องนี้”

ตามกฎข้อที่ 8 ไม่ว่าใครถูกใครผิด ผู้แพ้ต้องขอโทษผู้ชนะ

ในตอนนี้ กฎที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปี…ก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลขึ้นมา

หวังเยี่ยนมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกอับอายอย่างรุนแรง

เสียงเยาะเย้ยถากถางของนักเรียน, เหล่า​อาจารย์ที่ถอนหายใจและส่ายหน้า, อธิการบดีที่มองด้วยความเย็นชาและรังเกียจ…

สุดท้าย หวังเยี่ยนมองไปที่เซียวซิงหยูด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวแดงก่ำ

หลังจากลังเลอยู่นาน หวังเยี่ยนก็พูดออกมาอย่างยากลำบาก

“เซียวซิ​ง​หยู​…ฉันขอโทษ”

คำขอโทษง่ายๆนี้ ทำให้หวังเยี่ยนรู้สึก​สูญเสียศักดิ์ศรีทั้งหมด

เเละเสียงหัวเราะเยาะของผู้คนรอบๆในตอนนี้​ คือรอยเท้าที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ หวังเยี่ยนก็กลายเป็นตัวตลกของโรงเรียน และเป็นหัวข้อสนทนาประจำ​งันของทุกคน

…………………..

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด