บทที่ 15 : กรงเล็บเงียบสงัด!
บทที่ 15 : กรงเล็บเงียบสงัด!
บนที่นั่ง, เหล่าผู้ชมเต็มไปด้วยเสียงฮือฮา
“สัตว์อสูรสามธาตุ หายากมาก!”
“เซียวซิงหยูนี่สุดยอดมากจริงๆ!”
“ดูหน้าหวังเยี่ยนสิ มันเหมือนกินยาขมๆเข้าไปเลย!”
เมื่อหมาป่าวายุนรกแสดงคุณสมบัติที่สามออกมา ทุกคนต่างตกตะลึงอย่างมาก
เเละด้วย ‘เงาพรางตัว’ ที่เป็นทักษะเคลื่อนที่ของธาตุมืด
หมาป่าวายุนรกจึงกลายเป็นเงาหายลงไปใต้ดินเเละหลบ ‘เยือกแข็งทำลายล้างสวรรค์’ ท่าไม้ตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ ได้อย่างง่ายดาย
เเน่นอนว่าเมื่อหวังเยี่ยนเห็นเเบบนี้, เขาก็หน้าซีดเผือดด้วยความตกใจทันที
“บ้าเอ๊ย! ทักษะธาตุมืด ไอ้หมอนี่ทำได้ยังไง…”
….
อีกด้าน
เฉินฉีเหนียนยืนอยู่มุมหนึ่งของที่นั่งผู้ชม ขณะที่จ้องมองเซียวซิงหยูอย่างเงียบๆ
“ในวันสอบเข้า ตอนที่ตรวจสอบด้วยเครื่องวัดพลังสัตว์อสูร…หมาป่าวายุนรกมีแค่ธาตุไฟกับลมอย่างเเน่นอน”
“นั่นหมายความว่า ธาตุมืดเพิ่งจะถูกปลุกขึ้นมาหลังจากสอบเข้า!”
“เซียวซิงหยู นายเป็นปรมาจารย์อสูรที่คาดเดาไม่ได้จริงๆ…”
สายเลือด ระดับ คุณสมบัติ…สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงปัจจัยพื้นฐาน
สิ่งที่กำหนดขีดจำกัดที่แท้จริงของสัตว์อสูร คือพรสวรรค์ของปรมาจารย์อสูร
ภายในเวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ หมาป่าวายุนรกก็ถูกเซียวซิงหยูพัฒนาจนปลุกพลังธาตุที่สามขึ้นมาได้, เเถมยังเป็นธาตุมืดที่หายากมาก
แม้แต่อธิการบดีซูหรูหยาน ที่นั่งชมอยู่บนที่นั่งผู้ชม ก็ต้องมองเซียวซิงหยูด้วยความสนใจ
“ธาตุมืด น่าสนใจดี…เด็กคนนี้ถือว่าไม่ธรรมดา~”
……
บนสนามประลอง
หลังจากหลบท่าไม้ตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บได้แล้ว หมาป่าวายุนรกก็พุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ออกจากสถานะเงาเเละล่องลอยอยู่ในสายลม
“เซียวซิงหยู แกคิดว่าสัตว์อสูรของแกแค่มีธาตุที่สามเเล้วจะลบล้างความต่างชั้นของสายเลือดได้งั้นเหรอ?”
“เพ้อฝันเกินไปเเล้ว!”
“ปิงเยี่ยน เข้าไปฆ่ามัน!”
ตอนนี้, นักเรียนทั้งโรงเรียนกำลังดูการประลองอยู่
ในฐานะลูกชายรองอธิการบดี หวังเยี่ยนไม่มีทางยอมแพ้ให้กับคนไร้เส้นสายอย่างเซียวซิงหยูเเน่
ทันใดนั้น, เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บก็โจมตีอีกครั้ง
ที่แท่นบรรยาย…
หยางซูลุกขึ้นยืน กุมไมโครโฟนไว้แน่น พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ผู้ชมทุกท่าน การต่อสู้กำลังเข้มข้นขึ้นแล้ว!”
“ถึงแม้พรสวรรค์ ‘น้ำแข็งทมิฬ’ ของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บจะทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลงได้เมื่อโจมตีถูก…”
“แต่ถ้าโจมตีพลาด…มันก็จะไม่เกิดผลใดๆ”
บนเวที เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บคลุ้มคลั่งเเละปล่อยทักษะต่างๆออกมาไม่ยั้ง
อย่างไรก็ตาม, ร่างของหมาป่าวายุนรกมักจะกลายเป็นเงาสีม่วงดำ พุ่งไปพุ่งมาอย่างรวดเร็ว จนทำให้ทักษะทั้งหมดของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บพลาดเป้า
ในที่สุด, ดวงตาของเซียวซิงหยูก็เปล่งประกายแห่งสติปัญญา
“เฮยเฟิง เอาเลย!”
ในช่วงที่เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บใช้ทักษะจนหมด เซียวซิงหยูก็ตัดสินใจอย่างแม่นยำ
กรรร!
หมาป่าวายุนรกในร่างเงาพุ่งลงใต้ดิน แล้วโผล่ขึ้นมาด้านหลังเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บในพริบตา
ฉัวะ!!!!
กรงเล็บอันแหลมคมของหมาป่าวายุนรกฟาดเข้าที่หลังของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอย่างรุนแรง
ก๊าซซซ!!!
เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด นอกจากนี้บนหัวของมันยังปรากฏรอยกรงเล็บสีม่วงดำ
เมื่อเห็นเช่นนี้, หวังเยี่ยนก็ตะโกนด้วยความร้อนรน
“ปิงเยี่ยน ใช้ ‘เยือกแข็งทำลายล้างสวรรค์’ สวนกลับ!”
“เห้ย…ไอ้โง่ ฉันให้แกสวนกลับ แกยืนเฉยทำไม!”
เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บมีโอกาสสวนกลับ แต่มันกลับยืนนิ่ง เเละทำอะไรไม่ถูก
ด้านนอกสนาม, เฉินฉีเหนียนเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึง
“กรงเล็บเงียบสงัด!?”
พร้อมกันนั้น, หยางซู่ก็ตะโกนออกมาพอดิบพอดี
“ผู้ชมทุกท่าน ช่วงเวลานี้จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวิทยาลัยชิงหลงของเรา!”
“หมาป่าวายุนรกใช้ทักษะธาตุมืด ‘กรงเล็บเงียบสงัด’!”
จากนั้น, ข้อมูลก็ปรากฏขึ้นบนจอยักษ์
[กรงเล็บเงียบสงัด]: ทักษะธาตุมืด เมื่อโจมตีถูกศัตรู จะทำให้ศัตรูเป็นใบ้เป็นเวลา 3 วินาที (ไม่สามารถใช้ทักษะใดๆได้)
ตอนนี้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอยู่ในสถานะใบ้, ไม่สามารถใช้ทักษะใดๆ ได้เป็นเวลา 3 วินาที
และเมื่อสถานะใบ้ใกล้จะหมดลง หมาป่าวายุนรกก็ใช้ ‘กรงเล็บเงียบสงัด’ อีกครั้ง
เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด รอยกรงเล็บบนหัวที่กำลังจะหายไปก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง
ผู้ชมทุกคนลุกขึ้นยืน ปิดหน้าด้วยความตกตะลึง
“3 วินาทีแล้ว 3 วินาทีเล่า ใบ้แล้วใบ้อีก!”
“เซียวซิงหยูสุดยอด ทำให้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บยืนนิ่งเป็นท่อนไม้เลย!”
“เเต่นี่เเปลกมาก…‘กรงเล็บเงียบสงัด’ เป็นทักษะที่สัตว์อสูรธาตุมืดระดับเติบโตถึงจะเรียนรู้ได้”
“ทำไมหมาป่าวายุนรกที่เป็นแค่ระดับเริ่มต้นถึงใช้ได้ล่ะ?”
“ดูเหมือนว่าวิทยาลัยชิงหลงของเราจะได้ต้อนรับอัจฉริยะอีกคนแล้ว!” หยางซู่ตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“ปิงเยี่ยน ใช้ทักษะสิ อย่ายืนเฉยสิวะ!”
หวังเยี่ยนร้อนใจมาก ที่เห็นสัตว์อสูรของตัวเองโดนตีอยู่ฝ่ายเดียว
อย่างไรก็ตาม, หมาป่าวายุนรกใช้ ‘กรงเล็บเงียบสงัด’ ซ้ำๆ จนทำให้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บอยู่ในสถานะใบ้ 3 วินาทีแล้ว 3 วินาทีเล่า
ตอนนี้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บถอยร่นจนหลังขาแตะขอบเวทีเเละใกล้จะแพ้เต็มที
“ใช้ท่าไม้ตายเร็วเข้า ใช้ท่าไม้ตายสิวะ!”
หวังเยี่ยนตะโกนสุดเสียง
เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บมองหวังเยี่ยนด้วยหางตาอย่างน่าสงสาร ราวกับจะบอกว่า
นายท่าน ข้าทำไม่ได้!
ในสถานะใบ้ เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บใช้ทักษะอะไรไม่ได้เลย…มันได้แต่ยืนนิ่งให้หมาป่าวายุนรกตี
“เฮยเฟิง จบการต่อสู้ได้แล้ว”
เมื่อได้ยินคำสั่งของเซียวซิงหยู เปลวไฟนรกสีดำก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้งบนตัวหมาป่าวายุนรก
กรรร!
(คำรามนรก!)
นี่คือท่าไม้ตายของหมาป่าวายุนรก
มันพ่นเสาไฟสีดำขนาดใหญ่พุ่งทะลุร่างของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ
บูมมมม!!!
บนเวทีประลองเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว
ควันหนาทึบลอยคลุ้งไปทั่วเวที
เมื่อควันจางลง, ร่างของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บที่ถูกไฟคลอกไหม้เกรียม ก็นอนนิ่งอยู่บนพื้นหญ้าข้างเวที โดยมีสภาพปากฟูมฟาย ขาสี่ข้างชักกระตุก
กรรมการเดินเข้ามา พร้อมยกมือของเซียวซิงหยูขึ้น
“การประลองครั้งนี้…ผู้ชนะคือ เซียวซิงหยู”
“เฮฮฮฮฮ!!”
“เฮฮฮฮฮ!!”
ตอนแรกทุกคนเงียบไป เเต่จากนั้นพวกเขาก็ส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นหวั่นไหว
หยางซู่โยนหูฟังทิ้ง ยกไมโครโฟนขึ้นแล้วตะโกน
“การประลองจบลงแล้ว เซียวซิงหยูเป็นผู้ชนะ!”
เสียงปรบมือ ดอกไม้ เสียงเชียร์ ความชื่นชม…เซียวซิงหยูยืนอยู่ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ โดยที่ใบหน้าหล่อเหลายังคงนิ่งเฉย
มันราวกับว่าการคว้าชัยชนะครั้งนี้เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขา
…..
“เยี่ยมไปเลย ซิงหยูชนะแล้ว!”
เพื่อนๆ ห้องสามที่นั่งอยู่บนที่นั่งผู้ชมต่างส่งเสียงเชียร์ด้วยความดีใจ
เฉินฉีเหนียนมองเซียวซิงหยูด้วยแววตาเหม่อลอย
“เด็กคนนี้… ท่าทางคล้ายกับผู้ชายคนนั้นจริงๆ” (ใครฟะ)
ส่วนหวังเยี่ยนตอนนี้
เขาคุกเข่าอยู่บนเวทีด้วยดวงตาว่างเปล่า
เขายังคงทำใจกับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ไม่ได้จริงๆ
เเต่ทันใดนั้นเอง, เสียงของซูหรูหยานก็ดังขึ้นมา
“ทำตามกฎสิ…ขอโทษเซียวซิงหยูซะ แล้วจบเรื่องนี้”
ตามกฎข้อที่ 8 ไม่ว่าใครถูกใครผิด ผู้แพ้ต้องขอโทษผู้ชนะ
ในตอนนี้ กฎที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์มานานหลายปี…ก็ดูเหมือนจะสมเหตุสมผลขึ้นมา
หวังเยี่ยนมองไปรอบๆ ด้วยความรู้สึกอับอายอย่างรุนแรง
เสียงเยาะเย้ยถากถางของนักเรียน, เหล่าอาจารย์ที่ถอนหายใจและส่ายหน้า, อธิการบดีที่มองด้วยความเย็นชาและรังเกียจ…
สุดท้าย หวังเยี่ยนมองไปที่เซียวซิงหยูด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวแดงก่ำ
หลังจากลังเลอยู่นาน หวังเยี่ยนก็พูดออกมาอย่างยากลำบาก
“เซียวซิงหยู…ฉันขอโทษ”
คำขอโทษง่ายๆนี้ ทำให้หวังเยี่ยนรู้สึกสูญเสียศักดิ์ศรีทั้งหมด
เเละเสียงหัวเราะเยาะของผู้คนรอบๆในตอนนี้ คือรอยเท้าที่เหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากการต่อสู้ครั้งนี้ หวังเยี่ยนก็กลายเป็นตัวตลกของโรงเรียน และเป็นหัวข้อสนทนาประจำงันของทุกคน
…………………..