ตอนที่แล้วบทที่ 115 การต่อสู้ของเซี่ยซินหยู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 117 การแสดงเดี่ยวของทหารรับจ้างจากห้อง 18

บทที่ 116 ผู้ท้าชิงที่อ่อนแอที่สุด ปะทะ ผู้แข็งแกร่งที่สุด


บทที่ 116 ผู้ท้าชิงที่อ่อนแอที่สุด ปะทะ ผู้แข็งแกร่งที่สุด

ความธรรมดา สร้างสิ่งที่แข็งแกร่งที่สุด

แม้ไร้ซึ่งพรสวรรค์ แต่หากลงมือทำซ้ำ ๆ พันครั้ง ก็สามารถฝึกฝนการชู้ตลูกให้แม่นยำได้

อะไรนะ?

ลองแล้ว ทำไม่ได้?

ใครใช้ให้พวกนายไปลอง! ถ้าไม่มี 'พลังพิเศษ' มันก็ต้องไม่ได้ผลสิ!

อีกอย่าง เฉินหยวนก็ไม่ได้ชู้ตไปตั้งพันครั้งสักหน่อย

เขาแค่ฝึกซ้อมชู้ตลูกบาสในหลาย ๆ ตำแหน่ง ทั้งเส้นสามคะแนน เส้นสองคะแนน มุมสนาม ฯลฯ

จากนั้นก็ได้ข้อสรุปทั่วไปว่า ยิ่งใกล้ ยิ่งชู้ตเร็ว และยิ่งแม่น!

ด้วยความคุ้นเคยกับ 'พลังพิเศษ' ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เขาสามารถเลียนแบบท่าชู้ตกลางสนามสุดเท่ในตอนแรกได้ แถมยังใช้เวลาน้อยลงครึ่งหนึ่งด้วย

แน่นอนว่า การใช้เวลาตั้ง 5 วินาทีเพื่อชู้ต แถมยังเป็นการชู้ตโดยไม่มีใครมาป้องกัน ในการแข่งขันที่มีความเข้มข้นสูง ถือว่าไร้ประโยชน์สิ้นดี

เพราะ 5 วินาทีนั้น มากพอที่คน ๆ หนึ่งจะวิ่งข้ามสนามไป-กลับ แถมยังมีเวลาเหลือเฟือสำหรับการบล็อกลูกอีกต่างหาก

อย่างไรก็ตาม การชู้ตระยะไกลกลางสนาม ก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์ไปเสียทีเดียว

เหมือนกระบี่สุภาพบุรุษที่ฟาดฟันอย่างฉับพลัน คืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดในการพลิกสถานการณ์ในสนาม!

ในยุคสมัยที่เน้นการเล่นลูกสั้น การชู้ตสามคะแนน มีอานุภาพร้ายแรงกว่าการดังค์หรือเลย์อัพสุดอลังการ

ในทางกลับกัน หากมือไม่เข้า การชู้ตสามคะแนนก็อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับทีมตัวเองเช่นกัน

ไม่ว่าจะอย่างไร เฉินหยวนก็ฝึกฝนการชู้ตลูกโดยไม่มีใครป้องกัน จนถึงขีดสุดแล้ว

ส่วนในการแข่งขันจริงจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าห้อง 26 จะเล่นเกมรับได้รัดกุมแค่ไหน

"เมื่อวานหลังจากที่เธอแอดซินหยู่ไป เธอคุยอะไรกันบ้างล่ะ?"

หลังจากเข้ามาในห้องเรียนและนั่งประจำที่ เฉินหยวนก็หันไปคุยกับโจวฟู่ทันที

เขารู้ดีว่าโจวฟู่เป็นเด็กดี แถมยังเป็นสาวกคู่จิ้นตัวยง คงไม่เล่นเกมตื้น ๆ กับเซี่ยซินหยู่หรอก เขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากกับการที่ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันใน QQ บอกได้เลยว่าไม่กลัวแม้แต่น้อย

พี่สาวฟู่ ฉันวางใจเธอนะ

แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า สาว ๆ สองคนนี้จะคุยอะไรกัน

"ไม่มีอะไรนี่" โจวฟู่ตอบพร้อมรอยยิ้ม "เธอแค่ขอให้ฉันถ่ายคลิปส่งให้เธอดูวันนี้"

"แค่นั้น?"

"อืม แค่นั้น" โจวฟู่ยังคงยิ้ม จากนั้นก็พูดติดตลกว่า "ตอนนี้ฉันเป็นช่างภาพมืออาชีพประจำตัวนายแล้วนะ รู้ไว้ด้วย ถ้าทำตัวไม่ดีล่ะก็ ฉันจะไปถ่ายคลิปคนอื่นที่เก่งกว่านายแล้ว"

"ตากล้องน้อย สุดยอดดดด"

"ว่าแต่ นายไปห้อง 15 ได้ยังไง...?" โจวฟู่ถามอย่างสงสัย "ทำแบบนี้ นักเรียนห้องเราจะไม่ดูถูกนายเหรอ?"

"ก็เพราะงั้น ฉันถึงขอให้เธอเบา ๆ เสียงหน่อยไง" เฉินหยวนเตือน

"นายจะไปแก้แค้นเรื่องเมื่อวานใช่มั้ย?" โจวฟู่ถามอย่างระแวดระวัง

"อืม อาศัยจังหวะนี้จัดการซูเฉินซะเลย" เฉินหยวนพูดอย่างไม่ใส่ใจ

"อย่านะ" เห็นท่าทางบุ่มบ่ามของเขา โจวฟู่รีบห้าม "อย่ามีเรื่องกันอีกเลย ตั้งใจเล่นบาสเถอะ ฉันว่าแบบนี้ต่อไป... พวกนายต้องนัดตีกันนอกโรงเรียนแน่ ๆ "

"ช่างเถอะ"

เฉินหยวนคิดว่า ถ้าจะซัดกันนอกโรงเรียน ก็ง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องผลกระทบมากนัก

"อย่านะ! ฉันมี QQ ของซินหยู่นะ!" โจวฟู่ขู่ราวกับถือเครื่องยิงขีปนาวุธที่มีพิกัดโลกอยู่ในมือ

"เอ๋? นี่เธอ..."

สมัยเด็ก เฉินหยวนรู้สึกหงุดหงิดที่สุดเวลาเจอพวกขี้ฟ้อง

โจวฟู่ เธออยากโดนกระทืบอีกรึไง?

(ล้อเล่นน่า ล้อเล่น ฉันรู้ว่าคุณโจวฟู่แสนดี ไม่ต้องพูดเยอะหรอก)

ในเมื่อเป็นคำแนะนำเพื่อฉัน ฉันก็ต้องรับฟังอยู่แล้ว

อีกอย่าง เฉินหยวนก็ไม่อยากให้ชีวิตมัธยมของตัวเองต้องมาข้องเกี่ยวกับไอ้ตัวน่ารำคาญนี่จริง ๆ

(ถึงไม่ทำให้มันพิการ ฉันก็ชนะได้อยู่ดี!)

(ชักจะกล้ามากเกินไปแล้วนะ!)

"ฉันรู้สึกว่า ถ้านายลงแข่งในฐานะตัวแทนห้องสิบห้า พวกเราต้องโห่ไล่นายแน่ ๆ ... นั่นสินะ คงสนุกพิลึก"

โจวฟู่กลายเป็นตัวตลกโดยสมบูรณ์แบบ แถมยังเล่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนแทบจะไม่มีศีลธรรมหลงเหลืออยู่เลย

บางคนก็เหมือนดอกบัว งอกงามในโคลนตมแต่ไม่แปดเปื้อน เหมือนถังซือเหวิน

บางคนก็เหมือนดอกบัว งอกงามในโคลนตมแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนสี เหมือนโจวฟู่

ส่วนเหอซือเจียวกับโจวหยู พวกนั้นน่ะเหรอ? เป็นโคลนตมโดยกำเนิดเลยล่ะ

พูดถึงสองคนนั้นแล้ว...เฉินหยวนก็เกิดสงสัยขึ้นมา พวกนั้นแอบจุ๊บกันตอนเขาไม่อยู่รึเปล่านะ?

หรืออย่างน้อย ๆ ก็คงจับมือกันบ้างแหละ

ในขณะที่เขาคิดแบบนั้น โจวหยูกับเหอซือเจียวก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกัน เหมือนทุกวันที่กินข้าวเช้าเสร็จแล้วก็เข้าห้องเรียนด้วยกัน แต่วันนี้มันต่างออกไป พอพวกนั้นเห็นเขา ทั้งคู่ก็หันหน้าหนีไปคนละทาง...

เอ่อ...ช้าหรือเร็วก็ต้องให้ทั้งสองคนนั้นหาคำตอบจนเจอ แล้วก็จะพบว่าไอ้ตัวร้ายที่แท้จริงก็คือตัวเองนี่แหละ

รู้สึกกังวลขึ้นมาหน่อย ๆ

โจวหยูยังโอเค ไอ้หมอนี่หลอกง่าย แต่เหอซือเจียว...

อย่างที่รู้ ๆ กัน อาวุธของเหอมันร้ายกาจระดับทำลายล้าง

ได้แต่ภาวนาว่า พวกนายสองคนอย่าพัฒนาความสัมพันธ์กันเร็วเกินไปนักเลย ไม่งั้นถ้าได้คบกันจริง ๆ ขึ้นมา ฉันคงสู้ไม่ได้แน่

อะไรนะ จะไปร่วมมือกับโจวฟู่เหรอ?

อิตาลีในฝ่ายอักษะ อ่อนแอสิ้นดี!

แล้วสองคนนี้ หลังจากที่นั่งประจำที่ของตัวเองแล้ว ก็ต่างเงียบกันไปคนละมุม เป็นไปตามลักษณะเด่นของช่วงยังไม่ชัดเจนเป๊ะเลย คือ บุคลิกภาพพังทลาย

ไม่น่าเชื่อว่าจะทำตัวเหมือนคนทั่วไปได้ ทำเอาฉันประหลาดใจจริง ๆ

ต่อไปในภายภาคหน้า ถ้าทั้งสองคนนึกถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในสมัยม.ปลาย จะหน้าแดงด้วยความเขินอายกันบ้างไหมนะ?

ภาคชีวิตมหาลัย! มหาลัย...

อ๊ะ ไม่สิ ทั้งสองคนนี้มีพลังในการโน้มน้าวซึ่งกันและกันสูงมาก อาจจะไม่ได้สอบเข้ามหาลัยตามที่หวังก็ได้

ภาคชีวิต ปวส.! ปวส.!

ตอนนี้เฉินหยวนดูอารมณ์ดี เหมือนเจอเรื่องสนุก ๆ เข้าให้ ส่วนโจวฟู่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็ดูอารมณ์ดีกว่า มีความสุขกว่า

จากการพูดคุยกับเฉินหยวน เธอเดาว่าเขาน่าจะยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนเที่ยง

เมื่อวานนี้—

เซี่ยซินหยู่: เธอมีชุดนักเรียนเหลือไหม?

โจวฟู่: มีสิ ๆ

โจวฟู่: เธอจะมาโรงเรียนเราเหรอ?

เซี่ยซินหยู่: ไม่รู้ว่าจะแอบออกมาได้รึเปล่า... ถ้าลาได้ เธอช่วยไปรับฉันที่หน้าโรงเรียนหน่อยได้ไหม?

โจวฟู่: ได้สิ งั้นฉันเอาชุดนักเรียนไปโรงเรียนก่อนนะ แล้วตอนเที่ยงเราไปหาที่เปลี่ยนชุดกันที่ห้างข้างนอก

เซี่ยซินหยู่: รบกวนเธอมากเกินไปรึเปล่า?

โจวฟู่: ไม่เป็นไร ไม่รบกวนเลย

เซี่ยซินหยู่: งั้นขอบคุณมากนะ [อิโมจิกลืนก้อนทอง]

โจวฟู่: แต่ว่าเธอช่วยเก็บเรื่องที่เธอจะมาโรงเรียนเป็นความลับได้ไหม? อย่าให้เฉินหยวนรู้

เซี่ยซินหยู่: ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ...

เซี่ยซินหยู่: แต่ก็ได้ [อิโมจิแมวยกมือ]

โจวฟู่นึกภาพสถานการณ์ที่น่ารัก ๆ ออกแล้ว

แถมในเมื่อเฉินหยวนไม่รู้เรื่องนี้ ความน่ารักมันจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า สามเท่า สี่เท่าเลย

สมกับเป็นฉัน จอมวางแผนความฟิน!

โจวฟู่มองชุดนักเรียนที่เตรียมไว้ในลิ้นชัก แล้วก็รอคอยให้ถึงตอนเที่ยงเร็ว ๆ ...

………

"เพื่อน ๆ ผู้หญิงทุกคน" จางเชาหัวหน้าห้องพูดขึ้นก่อนการแข่งขันจะเริ่มประมาณ 20 นาที "ผู้ชายห้องเราจะแข่งบาส ห้องน้ำคนเยอะ ต้องใช้ห้องเรียนเปลี่ยนเสื้อผ้า ขอความร่วมมือด้วยนะ"

"เอาล่ะ งั้นพวกเราก็ยกห้องให้ผู้ชายไปก่อน แล้วลงไปจับจองที่นั่งดูการแข่งขันกันเถอะ"

หลังจากหัวหน้าห้องพูดจบ เหอเหมิง กรรมการประจำชั้นก็ช่วยสนับสนุนอีกแรง ด้วยการนำของเธอ เหล่านักเรียนหญิงในห้องจึงไม่รีรอ พากันออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว

ผู้ชายส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เข้าแข่งขันก็ลงไปด้วย

แบบนี้ ในห้องก็เลยเหลือแค่พวกที่เข้าแข่งในนามห้องเรียน กับพวกที่สนิทกับนักกีฬา แล้วก็พวกมาป่วน ๆ

หลังจากที่หัวหน้าห้องกับเพื่อน ๆ ช่วยกันปิดม่านหน้าต่างห้องเรียนหมดแล้ว ทุกคนก็เริ่มถอดกางเกง

"ในกระเป๋าแกมีอะไรวะ?"

ขณะที่กำลังสวมเสื้อแข่งบาสฯ แล้วเหน็บชายเสื้อเข้ากางเกง โจวหยูก็จ้องเฉินหยวนเขม็งพลางทำท่าทางเหมือนหมาฮัสกี้ชี้ไปที่คน

แล้วตอนนั้นเอง พวกผู้ชายคนอื่น ๆ ก็มามุงล้อมเฉินหยวนไว้ พอเดาได้ว่าข้างในมีอะไร พวกเขาก็พูดขึ้นพร้อมกันเป็นเสียงเดียวว่า “แกไม่มีที่ยืนแล้วรู้ไหม?”

“เล่นบาสฯ แบบพี่น้องกับหูซือฉีเนี่ยนะ ฉันนึกไม่ถึงเลยว่าเฉินหยวนจะเป็นคนแบบนี้”

จางเชาตอนแรกนึกว่าเขาแค่โม้ แต่ไม่คิดเลยว่าจะเอาเสื้อแข่งมาโรงเรียนจริง ๆ ด้วยความที่เป็นคนเที่ยงตรงมาตลอด เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้า

“อย่าไปฟังพวกนั้นพูดไร้สาระ” ถังเจียนต่างออกไป เขายืนอยู่ข้างเฉินหยวนอย่างแน่วแน่ “ฉันรู้ว่าพี่ชายคนนี้คิดอะไรอยู่ในใจ พี่เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแน่นอน”

“เออ ใช่ แกพูดถูก ไอ้น้อง” เฉินหยวนเอามือวางบนไหล่ถังเจียน ซาบซึ้งใจกับสิ่งที่ถังเจียนทำให้

ถังเจียนนี่มันคนจริงใจจริง ๆ

“งั้นพอพี่จีบสาวสวยคุณภาพสูงห้อง 15 ติดแล้ว...ก็ช่วยน้องชายคนนี้หน่อยสิครับ?”

“ไปไกล ๆ เลย”

คนในโลกเข้าใจฉันผิด หลอกลวงฉัน ใส่ร้ายฉัน ดูถูกฉัน หัวเราะเยาะฉัน จะทำยังไงดี!?

“ช่างเถอะ คุยกับคนทรยศก็ไม่มีประโยชน์ พวกเราร่วมกันแบนมันกันเถอะ”

ไอ้โจวหยูนี่มันยุยงให้คนอื่นแตกคอกัน แล้วทุกคนก็พากันแยกย้ายไป

“เฮ้ย ฉันไม่ได้เป็นศัตรูกับพวกแกซะหน่อย...ถึงกับต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ!?”

เฉินหยวนเริ่มรู้สึกว่าความอดทนและความเสียสละของตัวเองมันไร้ค่าสิ้นดี

ชีวิตฉันมันช่างน่าเศร้า น่าเศร้าเหมือนต้นหญ้าใต้ล้อรถ น่าเศร้าเหมือนต้นโกฐจุฬาลัมพาที่ขึ้นอยู่ตามซอกหิน

คอยดูเถอะ พอฉันจัดการห้อง 26 ได้แล้ว พวกแกจะต้องเสียใจ!

หลังจากเปลี่ยนเป็นเสื้อแข่งสีขาว เหน็บชายเสื้อเข้ากางเกงเรียบร้อยแล้ว เฉินหยวนก็เดินออกจากห้องพร้อมกับคนอื่น ๆ

แต่ทว่า ตอนที่เขากำลังจะลงบันได ทุกคนก็หยุดเท้าพร้อมกันแล้วหันกลับมามอง

“เป็นไรกัน?”

เฉินหยวนไม่เข้าใจว่าตัวเองไปทำให้พวกเขาไม่พอใจอีกแล้วเหรอ

“แกไปลงบันไดทางโน้น” จางเชาชี้ไปทางหนึ่งแล้วพูดว่า “ทางเดินของนักกีฬาห้อง 15 อยู่ทางนั้น”

“โอ้ย!”

เฉินหยวนมองภาพที่ทุกคนทรยศหักหลังเขานี้แล้วรู้สึกเจ็บปวดใจเล็กน้อย

แต่พวกนั้นก็เดินออกไปพร้อมกันจริง ๆ ไม่รอเขาเลย

จางเชา โจวหยู หลิวเหยียน...พวกแกมันบ้ากันหมด!

“พี่ เราไปกันเถอะ”

ตอนนั้นเอง ถังเจียนก็เดินเข้ามาตบบั้นเอวเฉินหยวนอย่างเป็นมิตร ทำท่าทางเหมือนเพื่อนสนิท พอเดินไปได้สองสามก้าวก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เฉิงไห่อิงฉันคงไม่กล้าจีบหรอก แต่ขอ QQ ของหูซือฉีหน่อยได้ไหม...?”

“ไปตายซะ!”

…………

โรงเรียนหมายเลข 11 มีสนามบาสเก็ตบอลเต็มรูปแบบทั้งหมดสี่สนาม และมีสนามบาสฯ ในร่มอีกหนึ่งสนาม

นั่นหมายความว่า สามารถแข่งขันพร้อมกันได้ห้าคู่

จากนั้น คาบที่ 3-4 ก็แข่งอีกห้าคู่ที่เหลือ ก็จะสามารถตัดสิน ‘สิบทีม’ ที่แข็งแกร่งที่สุดจากสิบหกทีมได้

และสำหรับหกห้องเรียนผู้โชคดีที่ได้บายในรอบแรกนั้น ในตารางการแข่งขันจะถูกจัดให้แข่งติด ๆ กัน และตอนเริ่มเกมก็จะไม่ต้องแย่งลูก โดยจะให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายเริ่มบุกก่อนโดยอัตโนมัติ

แน่นอนว่า การลดทอนพลังเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ เทียบกับข้อได้เปรียบที่พวกเขาได้รับแล้ว ถือว่าเล็กน้อยมาก

แต่ท้ายที่สุดแล้ว นี่ก็เป็นแค่การแข่งขันระดับห้อง ทุกคนสนใจแค่ว่าการแข่งขันคู่ไหนจะน่าตื่นเต้นกว่ากัน และใครจะเป็นผู้ชนะเลิศกับรองชนะเลิศ ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจกฎกติกาที่ไม่ยุติธรรมอย่างเห็นได้ชัดนี้มากนัก ในทางกลับกัน ยังมีบางคนที่รู้สึกว่าการแข่งขันน้อยลงหนึ่งรอบนั้นไม่สะใจเอาเสียเลย

ก็ช่วยไม่ได้ เพราะโรงเรียนไม่มีเวลาให้ทุกคนได้แข่งแบบพบกันหมดในแต่ละกลุ่ม

ผู้ชมจากห้องสิบแปด ต่างก็เข้าประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว

รวมถึงอาจารย์ประจำวิชาต่าง ๆ ก็ลงมาดูความสนุกสนานด้วย

สวี้อี้เฉิง อาจารย์ประจำชั้นห้องหนึ่ง เดินมาข้าง ๆ หลาวโม๋ พร้อมกับพูดติดตลกว่า "อาจารย์หลาว แสดงความเมตตาด้วยนะครับ อย่าเล่นแรงมากล่ะ"

"รู้ขอบเขตอยู่แล้ว" หลาวโม๋พยักหน้าตอบ "ผมบอกพวกเขาไว้ล่วงหน้าแล้ว"

แน่นอน สิ่งที่ฉันบอกก็คือ

เจอนักเรียนห้องหนึ่งก็อย่าประมาท พยายามทำคะแนนให้ได้มากที่สุด เกินสามสิบคะแนนไปเลย!

ปกติสอบก็โดนนักเรียนห้องนายรังแกอยู่แล้ว ในเมื่อมีโอกาสล้างแค้นได้ทั้งที ฉันจะยอมปล่อยไปได้ยังไง?

และในขณะที่รอคอย ผู้เล่นของทั้งสองฝ่ายก็ทยอยลงสู่สนาม

สาว ๆ ทั้งสองฝั่ง ต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดให้กำลังใจอย่างเต็มที่

"สู้ ๆ !"

"หัวหน้าห้องหล่อมาก!"

"ตีห้องหนึ่งให้แตก!"

"ตีห้องสิบแปดให้แตกต่างหาก!"

ยังไม่ทันเริ่มแข่ง บรรยากาศก็ดุเดือดขึ้นมาแล้ว

ส่วนผู้เล่นในสนาม ต่างก็มีสีหน้าที่ผ่อนคลาย

หัวหน้าห้องห้องหนึ่งเดินมาหาจางเชา พร้อมกับพูดด้วยท่าที 'ต่ำต้อย' ว่า "พี่เชา อย่าเล่นแรงนะครับ รอบสองพวกเราจะเชียร์ห้องพี่"

"ต้องขนาดไหนล่ะ?" จางเชาถาม

"70:70 ก็พอครับ"

"แล้วลูกก็ยังอยู่ที่พวกนาย แถมให้เวลาพวกนายบุกอีกห้าวินาทีด้วย งั้นสิ?" นักเรียนชายห้องสิบแปดคนหนึ่งพูดแทรกขึ้นมา พร้อมกับแซว

"ขอบคุณพี่ชาย ขอบคุณมากครับ"

หัวหน้าห้องห้องหนึ่งยกมือไหว้ขอบคุณ

"ฝันไปเถอะ"

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ ..."

เพราะไม่ได้มีปัญหากับห้องหนึ่ง แถมทั้งสองฝ่ายยังมีเพื่อนของกันและกัน ทุกคนจึงคุยกันอย่างสนุกสนาน

แต่โจวหยูกลับดูเย็นชาผิดปกติ เขาแค่เลี้ยงลูกบาส ครอสโอเวอร์ไปมา เพื่อหาจังหวะ และในตอนนั้นเอง เขาก็เหลือบไปเห็นเหอซือเจียวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลี่ยูยู กำลังถือขวดน้ำแร่ที่ยังไม่ได้เปิดอยู่...

"เลี้ยงลูกติดขาหนีบแล้วเหรอ?"

หลิวเหยียนรับลูกที่โจวหยูทำหลุดมือ ก่อนจะเลี้ยงลูกเอง และหัวเราะเยาะ

"พวกแกไม่เข้าใจหรอก ไอ้นั่นมันใหญ่ มันก็เลยเป็นแบบนี้แหละ" โจวหยู

"...ไอ้บ้า"

“ผู้เล่นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปนอกสนาม! นักเรียนที่จะแย่งลูกเข้ามาในวงกลมกลางสนาม!”

พี่ปีสามคนหนึ่งที่ถือนกหวีดทำหน้าที่กรรมการเดินเข้ามาในสนาม เริ่มจัดระเบียบ

ผู้ชมก็รีบออกไปนอกเส้นเขตเตรียมตัวดูการแข่งขัน

ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนว่า “เฉินหยวนลงแข่งด้วย!”

เฉินหยวน?

พอได้ยินแบบนั้น หลาวโม๋ก็ถึงกับอึ้งไป ในรายชื่อที่เขาส่งไปไม่มีเฉินหยวน

แล้วนักกีฬาทั้งแปดคนของห้องเขา ไม่ได้อยู่ที่นี่กันหมดแล้วเหรอ?

“หา? มันไปอยู่ตรงนั้นได้ยังไง!?”

“บ้าเอ๊ย! ไอ้คนทรยศ!”

“ฉันไม่คิดเลยว่า เฉินหยวนไอ้หนุ่มหน้าซื่อตาใสคนนี้จะทรยศหักหลังพวกเราได้…”

พวกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน?

ด้วยความสงสัย หลาวโม๋หันไปมอง แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเฉินหยวนในชุดกีฬาสีขาววิ่งเหยาะ ๆ เข้ามาในสนาม แปะมือกับผู้เล่นของห้องสิบห้า

นี่มัน… ย้ายห้องไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

ทำไมฉันในฐานะครูประจำชั้นถึงไม่รู้เรื่องเลย?

“อืม… ดูเหมือนว่าคุณหลาวจะใจดีเกินไปจริง ๆ” สวี้อี้เฉิงมองดูอีกฝ่ายยังมีกำลังสำรองส่งทหารรับจ้างลงมาแข่งขันก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

น่าอายจริง ๆ ! น่าอายชะมัด!

หลาวโม๋เพิ่งเคยได้รับรู้รสชาติของการถูกทรยศเป็นครั้งแรก ทั้ง ๆ ที่เป็นแค่นักเรียนคนหนึ่งวิ่งไปแข่งให้ห้องอื่น

แต่ทำไมไม่สมัครแข่งในห้องตัวเองล่ะ?

ฉันก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้ลงแข่งสักหน่อย!

เฉินหยวน ไอ้เด็กโง่!

ต่างจากหลาวโม๋ที่ใจสลาย ผู้หญิงห้องสิบห้าพอเห็นหนุ่มหล่อสูงยาวเข่าดีมาเป็นผู้เล่นเสริม ก็เหมือนกับผู้หญิงในเมืองลูกสาว ได้รับการชำระล้างจิตวิญญาณ (ผู้หญิงในเมืองลูกสาว หมายถึง ผู้หญิงที่อยู่ในเมืองที่มีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่)

ผู้ชายห้องเรางั้นเหรอ?

ไอ้อ้วน ตุ๊ด เด็กขี้โรค ไอ้พวกเล่นเกมมือถือ…

ในตอนนี้ เฉินหยวนได้สร้างความสุขอย่างมากให้กับหัวใจของสาว ๆ พวกนี้

“นี่คือผู้ชายที่อ่านภาษาอังกฤษในห้องวิทยุหรือเปล่า?”

หลังจากมีคนพูดแบบนี้ ทุกคนก็หันไปมองเฉิงไห่อิง

“คนนี้เป็นคนของสถานีวิทยุ” เฉิงไห่อิงอธิบาย “หูซือฉีเป็นคนเชิญเขามา”

“ถ้างั้น เธอมี QQ ของเขาไหม?” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถามอย่างกระตือรือร้น

“มี QQ ที่ใช้ติดต่องาน” เฉิงไห่อิงตอบตามตรง “ฉันขออนุญาตเขาก่อน แล้วจะให้พวกเธอ”

“เย้ ๆ ! ไว้ใจได้เลย!”

“งั้นแสดงว่า หูซือฉีไม่เลือกผู้ชายห้องอื่น แต่เลือกเฉินหยวน แสดงว่าเฉินหยวนต้องเก่งมากแน่ ๆ ใช่ไหม?”

ทุกคนต่างก็ตั้งความหวังไว้กับเขา

เช่นเดียวกัน ซูเฉินก็ตั้งความหวังไว้เช่นกัน เขาบิดคอไปมาจนมีเสียงดังกร๊อบ มองไปที่คนที่ล็อกคอตัวเอง แล้วพูดกับเพื่อนร่วมทีมว่า “ฉันลงเอง”

ห้องยี่สิบหกมีตัวจริงของทีมโรงเรียนสามคน ในรอบนี้ พวกเขาไม่ได้คิดที่จะลงแข่ง

แต่เฉินหยวน ทำให้ความกระหายในการต่อสู้ของซูเฉินพลุ่งพล่าน

หลี่หยวนเฉินตัวจริงทีมโรงเรียนอีกคนที่นั่งอยู่ข้างสนามส่ายหัว แล้วอดไม่ได้ที่จะด่าในใจว่า: ซูเฉินไอ้โง่เอ๊ย! ไม่ช้าก็เร็วแกต้องก่อเรื่องแน่

“ซูเฉิน แกจะลงไปทำไม?”

ฉู่เหิง ครูพละห้องยี่สิบหกและโค้ชทีมโรงเรียน เห็นดังนั้นก็รู้สึกงง ๆ

เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และก็ไม่ได้สนใจด้วย

เขารู้แค่ว่า ซูเฉินดูแปลกไป

“ให้ผมเล่นยกเดียว ยกเดียวเดี๋ยวผมก็ลงแล้วครับ” ซูเฉินพูดกับฉู่เหิง

“ได้ ๆ ๆ”

ฉู่เหิงกอดอกอย่างสบาย ๆ

สำหรับเขาแล้ว การแข่งขันครั้งนี้ไม่มีอะไรท้าทายเลย

การแข่งขันที่แท้จริงมีเพียงแค่ครั้งเดียว

นั่นคือ ห้อง 26 ปะทะ ห้อง 16

ห้อง 16 ในตอนนี้ เดิมทีคือรองแชมป์ของปีที่แล้ว

ตอนนั้น ทั้งสองห้องต่างก็ฝ่าฟันคู่แข่งเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ และในสามควอเตอร์แรกก็ผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างดุเดือด

ห้านาทีสุดท้ายของควอเตอร์ที่สี่ คะแนนยังคงเท่ากันอยู่เลย

ในท้ายที่สุด ซูเฉินก็เร่งเครื่อง ยิงลูกกลางกรอบลงไปสามครั้งติด ทำลายจังหวะของฝ่ายตรงข้าม จากนั้นก็ทิ้งห่างคะแนน เอาชนะไปได้สิบแต้ม

ในห้อง 16 มีทั้งเซียนบาสข้างถนนและสมาชิกชมรมโรงเรียน ซึ่งก็คือนักเรียนชมรมบาสเกตบอลของเขาเอง ครั้งนี้ คาดว่าน่าจะได้เห็นการแข่งขันในระดับสูงอีกครั้ง

ส่วนการแข่งกับห้อง 15...

จะมีอะไรน่าดู?

น่าเบื่อ

"เฉินหยวน จำข้อตกลงได้ไหม?"

ซูเฉินยิ้ม เดินเข้าไปหาเรื่อง

เฉินหยวนพยักหน้าเล็กน้อย ยอมรับข้อตกลง แต่ไม่ได้พูดอะไร เดินกลับไปยังตำแหน่งของตัวเอง เตรียมพร้อมสำหรับการบุก หรือการป้องกันหลังจากแย่งลูก

"ได้ยินไหม สาวสวยห้อง 15 กำลังเชียร์นายอยู่นะ" หูซือฉีที่สวมชุดบาส ทำให้ดูทะมัดทะแมงเป็นพิเศษ หัวเราะคิกคัก พยายามกระตุ้นเฉินหยวน

"ฉันยังได้ยินห้อง 18 ด่าห้องฉันว่าทรยศอยู่เลย"

"เอ่อ... ไอ้เรื่องนี้มันมีสองด้าน สองด้านนะ"

หลังจากเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่ หูซือฉีก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเฉินหยวนถึงต้องแอบหนีไปเมื่อวานนี้

คนเก่งขนาดนี้ ไม่ได้เป็นผู้นำในห้อง 18 กลับยอมลดตัวมาเป็นทหารรับจ้างในห้อง 15...

เขาก็ลำบากเหมือนกันนะ

"เฉินหยวน มีสาวสวยกำลังเชียร์นายอยู่"

ทันใดนั้น หูซือฉีก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมากในกลุ่มผู้หญิงห้องเขา จึงรีบพูดกับเฉินหยวน

"อ้อ"

แต่หมอนี่กลับไม่สนใจเลยสักนิด

"แถมเธอ ไม่ใช่คนห้องเราด้วยนะ" หูซือฉีพูดต่อ

"..."

อืม? โจวฟู่เหรอ?

เมื่อได้ยินแบบนั้น เฉินหยวนก็หันกลับไปด้วยความสงสัย

แล้วเขาก็เห็นคนรู้จักคนหนึ่ง

เซี่ยซินหยู่ในชุดนักเรียนสีแดงขาวของโรงเรียนหมายเลข 11 ถือขวดน้ำแร่อยู่ในมือ มองเขาพร้อมกับรอยยิ้มจาง ๆ และเมื่อสบตากัน เธอก็ยิ้มหวานแล้วยกมือทำท่า ✌ ...

หลิวเจ๋อหมิงกำลังจะแย่งลูกบอล ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีคนมาตบบ่าเขา

เขาเข้าใจทันที พยักหน้า แล้วถอยกลับไปยังตำแหน่งเดิมของฝ่ายตรงข้าม

และฝ่ายตรงข้ามก็เช่นกัน ชายหนุ่มคนหนึ่งให้เพื่อนร่วมทีมที่กำลังแย่งลูกกันอยู่หลีกทางไป

ในที่สุด เฉินหยวนกับซูเฉินก็ได้เผชิญหน้ากันตัวต่อตัว

0 0 โหวต
Article Rating
1 Comment
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด