ตอนที่แล้วตอนที่ 21 : ลบเพื่อน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 23 : มุ่งหน้าสู่หลินชวน

ตอนที่ 22 : เขาเปล่งประกายตลอดทั้งฤดูร้อน


เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม คนจากชั้นมัธยมปลายปีสามห้องสองได้จัดงานเลี้ยงรวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งจัดขึ้นที่จินติ่งเซวียน

ยกเว้นคนที่สอบไม่ติดและต้องเรียนซ้ำ คนอื่นๆ เกือบทุกคนล้วนมารวมตัวกัน

แน่นอนว่ายังมีคนที่ไม่ได้สอบตกแต่ก็ไม่ได้เห็นแก่หน้าใคร นั่นก็คือเจียงฉิน

เพียงแค่ครั้งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นฉินจื่ออัง หยูชาชา หรือจะเป็นคนอื่นๆ ต่างก็ไม่มีใครพูดถึงหัวข้อเกี่ยวกับเจียงฉินเลย กระทั่งถึงกับพยายามหลีกเลี่ยงการพูดถึงเขาในขณะที่กำลังสนทนากันด้วยซ้ำ

ล้อเล่นหรือไง จะไปพูดถึงเขาหาพระแสงอะไร?

เขาไม่ใช่คนที่สารภาพรักล้มเหลวแล้วกลายเป็นหมาขี้แพ้อีกต่อไปแล้ว!

ตอนนี้เขามีเงินติดตัวเป็นแสนๆ ทั้งทำธุรกิจเปิดบาร์และลงทุนในหลายๆ อย่าง ในสถานการณ์แบบนี้จะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาแล้วปล่อยให้กัวจื่อหังแสร้งทำเป็นเจ๋งแทนพ่อบุญธรรมของเขาได้ยังไง?

“ฮุ่ยหรู ฉันได้ยินมาว่าเจียงฉินลบ QQ ของซือฉีแล้วเหรอ?”

หวังฮุ่ยหรูถอนหายใจ: “ฉันถามซือฉีแล้ว มันถูกลบไปแล้วจริงๆ”

หยูชาชาอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองฉู่ซือฉี: “ซือฉียังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องเฟิงหนานซูใช่ไหม?”

“ฉันก็ไม่รู้ แต่อย่าพูดอะไรมั่วซั่วล่ะ คิดว่าจะเป็นยังไงถ้าซือฉีรู้เข้า ด้วยนิสัยแบบเธอคงไม่พ้นไปทะเลาะกับเจียงฉินแน่นอน เธอยังคิดอยู่ตลอดว่าเจียงฉินยังชอบเธออยู่ เธอจะยอมให้เขาไปชอบคนอื่นได้ยังไง!”

“แต่มันไม่มีทางเก็บเป็นความลับได้ตลอดไปหรอก สักวันหนึ่งเธอก็จะรู้อยู่ดี”

หวังฮุ่ยหรูลดเสียงลง: “ฉันถามซือฉีไปแล้ว เธอแค่รู้สึกดีกับเจียงฉินนิดหน่อย ยังไม่ถึงกับชอบ เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าที่เจียงฉินพูดก็ถูกของเขา ความรู้สึกดีแบบนี้น่ะคงอยู่ได้ไม่นานหรอกและเดี๋ยวก็จางหายไปในไม่ช้า เมื่อทั้งสองฝ่ายลืมเรื่องราวที่ไม่ดีต่อกัน บางทีความเกลียดชังอาจกลายเป็นมิตรภาพก็ได้”

หยูขาชามองไปที่หวังฮุ่ยหรูด้วยความประหลาดใจ: “ฮุ่ยหรู เธอยังไม่เคยมีความรักมาก่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงดูเหมือนกูรูเรื่องความรักเลยล่ะ?”

“ต่อให้ไม่เคยกินเนื้อหมู แต่อย่างน้อยจะไม่เคยเห็นหมูวิ่งเลยเหรอ?”

“งั้นต่อไปถ้าฉันมีปัญหาเรื่องความรัก ฉันจะมาปรึกษาเธอ”

หวังฮุ่ยหรูหน้าแดงเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ถอนหายใจเบาๆ: “เธอคิดว่าระหว่างเจียงฉินกับซือฉียังมีโอกาสอยู่ไหม จริงๆ แล้วฉันก็คิดว่าเจียงฉินค่อนข้างดีเลย”

พูดถึงเรื่องนี้แล้วหยูชาชาก็รู้สึกเสียดายไม่หาย: “ฉันเคยคิดว่าเจียงฉินเป็นแค่เด็กเนิร์ดๆ คนหนึ่ง แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะมีความสามารถในการเข้าสังคมสูงขนาดนี้ เธอจำวันนั้นที่บาร์ได้ไหม บาร์เทนเดอร์พวกนั้นเรียกเขาว่าพี่เจียงกันทุกคนเลย แถมยังก้มหัวให้ด้วย ขนาดฉันยังถูกทำให้รู้สึกว่าเขาดูน่าหลงใหล ตอนยืนอยู่ใกล้ๆ ฉันยังอดทำเสียงอ้อนๆ ใส่เขาไม่ได้เลย”

“งั้นพวกเราจับคู่พวกเขาอีกครั้งดีไหม?”

“ไม่มีประโยชน์หรอก”

“ทำไม?”

“เธอต้องเข้าใจก่อนว่าคู่ต่อสู้ที่เธอกำลังเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟิงหนานซู!”

หวังฮุ่ยหรูรู้สึกไม่ยอมรับเท่าไหร่: “เจียงฉินบอกว่าเขากับเฟิงหนานซูเป็นแค่เพื่อนกัน”

หลังจากได้ยินเช่นนี้หยูชาชาก็เม้มริมฝีปากเบาๆ: “ในช่วงสามปีของการเรียนมัธยมปลายเธอเคยเห็นเฟิงหนานซูมีเพื่อนบ้างไหม? ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สถานะ แต่เจียงฉินนั้นเป็นคนพิเศษของเฟิงหนานซู เธอเข้าใจน้ำหนักของคำว่าคนพิเศษไหม?”

“นั่นก็จริง…”

“แต่เราไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป เดี๋ยวเธอก็ไปมหาวิทยาลัยแล้ว บางทีอีกไม่นานซือฉีอาจจะเจอแฟนใหม่ที่ดีกว่าเจียงฉินก็ได้!”

ทว่าหลังจากที่หยูชาชาพูดคำนี้ออกมาเธอก็แสดงอาการตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หันหน้าไปมองหวังฮุ่ยหรู และทั้งสองก็เงียบไป

ในมหาวิทยาลัยจะมีผู้ชายที่ดีกว่าเจียงฉินไหม?

ทันทีที่เรียนจบมัธยมปลาย ผู้ชายพวกนั้นก็เริ่มไปนั่งเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่กันทั้งวันทั้งคืน พูดคุยแต่เรื่องเติมเกม จู๊กหลบไปมาจนศัตรูงง และก็หลงอยู่ในแผนที่เกม

แต่เจียงฉินล่ะ?

เขาเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่วันแรก สร้างรายได้นับแสนอย่างเงียบๆ แถมยังคว้าเอาไป๋เยว่กวงผู้ที่คนนับไม่ถ้วนใฝ่ฝันมาได้อีกด้วย

หยูชาชาและหวังฮุ่ยหรูรู้สึกได้ทันทีว่าตอนนี้พวกเธอไม่ได้กังวลเรื่องอนาคตของฉู่ซือฉีอีกแล้ว เพราะการมีอยู่ของเจียงฉินไม่เพียงส่งผลกระทบต่อฉู่ซือฉีเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อมุมมองในการเลือกคู่ของพวกเธออีกด้วย

หลังจากที่พวกเธอเข้ามหาวิทยาลัย พวกเธอจะเปรียบเทียบชายหนุ่มที่พวกเธอพบกับเจียงฉินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อเขาเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับชีวิตในช่วงวันหยุดฤดูร้อน คุณจะจำได้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูเงียบๆ แต่กลับโดดเด่นและน่าประทับใจตลอดทั้งฤดูร้อน พอเขาพาคุณไปดูหนัง คุณก็จะนึกถึงวันที่ไปดูโอลิมปิกกับเพื่อนๆ ที่บาร์ แล้วบาร์เทนเดอร์ทุกคนก็เรียกเขาคนนั้นว่าพี่ชาย

แม้กระทั่งเขาพาคุณไปเดินเล่นแถวถนนคนเดิน คุณก็จะจำได้ว่ามีผู้ชายคนหนึ่งทำธุรกิจแบบซื้อมาขายไปและทำเงินได้สองร้อยหยวนจากการขายที่อยู่แค่เพียงแห่งเดียว

ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความคิดละเอียดอ่อนและคุ้นเคยกับการเปรียบเทียบ แต่สิ่งที่พวกเธอได้รับจากการเปรียบเทียบมักจะเจ็บปวดเสมอ

“จบแล้ว ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่น่าจะหาแฟนในมหาวิทยาลัยได้”

“ใช่ พอคิดแล้วก็รู้สึกว่าพวกเขาเด็กเกินไป”

จู่ๆ หยูชาชาก็จำบางอย่างได้: “ฮุ่ยหรู เธอก็สมัครเข้ามหาวิทยาลัยหลินชวนด้วยใช่ไหม?”

หวังฮุ่ยหรูพยักหน้า: “คะแนนของฉันกับซือฉีใกล้เคียงกันมาก เพราะงั้นเราก็เลยตัดสินใจไปด้วยกัน”

“เจียงฉินเองก็อยู่ที่หลินชวนเหมือนกัน งั้นชีวิตในมหาวิทยาลัยของเธอคงจบเห่แล้วล่ะ เธอจะไม่มีวันหาแฟนได้แน่ๆ เพราะไม่มีความเจ็บปวดใดที่ปราศจากการเปรียบเทียบ!”

“ได้โปรดเถอะ ฉันอยู่ในวิทยาเขตตะวันออก คณะการเงินของเจียงฉินอยู่ที่วิทยาเขตหลัก เราต้องเดินข้ามสะพานเชื่อมไปไกลมากถ้าจะไปที่นั่น ไม่มีโอกาสได้เจอกันหรอก”

พูดคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่นานงานเลี้ยงก็ใกล้จะจบลง

ตอนนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่มพูดเรื่องราวในอดีตขึ้นมา ทำให้บรรยากาศในห้องส่วนตัวกลายเป็นเศร้าหมองขึ้นมาทันที

อันที่จริงพวกเขาทุกคนต่างรู้ดีว่าหลังจากผ่านฤดูร้อนนี้ไป โอกาสที่จะได้มารวมตัวกันแบบนี้คงแทบไม่มีอีกแล้ว

ทุกคนจะมีเพื่อนใหม่ เพื่อนร่วมชั้นใหม่ และสังคมใหม่ๆ

แม้แต่เพื่อนสนิทก็จะค่อยๆ ห่างหายกันไปหลังจากที่แยกย้ายกัน นี่เป็นกระบวนการจำเป็นสำหรับการเติบโต แม้ว่าจะน่าเศร้าแต่เราก็ไม่สามารถหยุดมันได้

“เฉินซิ่วซิ่ว!”

“ฉัน…”

“ฉันชอบเธอ ชอบเธอมานานแล้ว!”

“ถึงแม้ฉันจะรู้ว่ามันไม่เหมาะสมที่จะมาสารภาพรักในเวลานี้ แต่ฉันก็ยังอยากขอให้เธอมาเป็นแฟนของฉัน!”

หยางไท่ซง ประธานชมรมกีฬา เขายกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่มหมดแก้ว ในที่สุดก็พูดสิ่งที่เขาเก็บไว้ในใจมาเป็นเวลานาน เสียงอันดังก้องของเขาทำให้คนที่อยู่ในห้องถึงกับตกใจ

ตรงข้ามกับหยางไท่ซงคือเด็กสาวชื่อเฉินซิ่วซิ่ว เธอกำลังหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นตระหนก แต่สุดท้ายก็รวบรวมความกล้าแล้วกล่าวคำว่าขอโทษออกมา

หลังจากได้ยินคำขอและการตอบกลับนี้ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

พวกเขาคิดว่าในห้องเรียนจะมีคู่รักเพิ่มมาอีกคู่ แต่สุดท้ายทุกคนก็ไม่คาดคิดว่าจะไม่มีจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดด้วยซ้ำ แต่นี่แหละคือวัยรุ่น เพราะไร้ความกลัวดังนั้นมันจึงล้ำค่า

หลังจากงานเลี้ยงจบลงผู้คนในห้องเรียนก็เริ่มแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆ บางคนวางแผนที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อไปท่องอินเทอร์เน็ต และบางคนก็วางแผนว่าจะไปเดินเล่นรอบๆ

ตลอดทั้งช่วงเย็นฉู่ซือฉีไม่ได้พูดอะไรเลย จนกระทั่งออกมาอยู่ด้วยกันตามลำพังกับหวังฮุ่ยหรูและหยูชาชาถึงได้พูดขึ้นมา

“ทำไมเมื่อกี้เฉินซิ่วซิ่วถึงไม่ตอบตกลงหยางไท่ซงล่ะ ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนคนในห้องก็เม้าท์เรื่องซุบซิบของทั้งสองคนบ่อยๆ”

“ง่ายจะตาย ก็เพราะเธอไม่ได้ชอบเขาไงล่ะ”

“อืม ถ้าไม่ชอบก็ปฏิเสธไปเลย ทั้งสองคนยังเป็นเพื่อนกันได้”

“แล้วเจียงฉินล่ะ? เขาเป็นบ้าอะไรกันแน่ ทำไมตลอดทั้งช่วงวันหยุดฤดูร้อนเขาถึงไม่สนใจฉันเลย?”

“ซือฉี ฟังฉันนะ ลืมเจียงฉินไปเถอะ ยังไงเธอก็ไม่ได้ชอบเขาอยู่แล้วนี่”

(จบตอน)

5 2 โหวต
Article Rating
3 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด