บทที่ 68 โทษที พอดีชินน่ะ
บทที่ 68 โทษที พอดีชินน่ะ
ถูกลากออกจากบ้านมาแบบนี้ หลี่จิ้งรู้สึกจนปัญญา แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ออกมาถึงถนนใหญ่แล้ว เขาโบกแท็กซี่ที่ริมถนน
หลี่จิ้งแสดงความสุภาพอย่างที่ผู้ชายควรทำ เปิดประตูรถและหลบข้างให้
จีชิงที่แปลงร่างเป็นมนุษย์ เป็นหญิงสาวที่งดงามราวกับดอกไม้
เมื่อมีสาวงามอยู่เคียงข้าง ก็ต้องทำตัวให้ดูดี
หลี่จิ้งรู้ว่าจีชิงเป็นปีศาจ แต่คนอื่นไม่รู้
เมื่อออกไปข้างนอก ก็ต้องรักษาหน้าให้คู่สนทนาฝ่ายหญิงด้วย
ถ้าไม่ใส่ใจเลย คนอื่นที่เห็นจะคิดอย่างไรกับเขา
อีกอย่าง หลี่จิ้งมองจีชิงเป็นเพื่อนผู้หญิงอยู่แล้ว ถ้าเธอยังเป็นแมวอยู่ก็ไม่ต้องระวังอะไรมาก แต่พอแปลงร่างเป็นคน เขาก็ต้องแสดงมารยาทที่ควรมี
จีชิงเห็นเขาสุภาพเปิดประตูให้ตนขึ้นรถก่อน ก็มองเขาด้วยสายตาแปลกๆ สองสามที
แม้จะอยู่ด้วยกันมาครึ่งเดือนแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้ว่าหลี่จิ้งมีด้านนี้ด้วย
ส่วนใหญ่เพราะหลี่จิ้งอยู่กับเฉินอวี่หรานภายใต้ชายคาเดียวกัน ไม่เห็นมีอะไรต้องพิถีพิถันมาก
ทั้งสองคนเวลาอยู่ด้วยกันก็สบายๆ
คนหนึ่งไม่แต่งหน้าใส่ชุดนอนเดินไปมาทั่วบ้าน อีกคนนอกจากทำอาหารให้เมื่ออีกฝ่ายหิวแล้ว ก็ไม่เห็นมีอะไรที่แสดงความเอาใจใส่หรือดูแลอีกฝ่ายเป็นพิเศษ
หลังจากขึ้นรถกันแล้ว หลี่จิ้งก็บอกคนขับ
"คุณลุง ไปตลาดวัตุวิญญาณเป่ยเฉิงครับ"
"ได้ครับ"
คนขับตอบ พลางแอบมองจีชิงผ่านกระจกมองหลังสองสามที
หลี่จิ้งที่นั่งเบาะหลังเห็นคนขับแอบมองจีชิง ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ผู้หญิงสวย ในโลกนี้ไม่ได้หายากอะไร
สาวๆ ที่เดินอยู่ตามถนน ใครบ้างจะไม่แต่งตัวสวยงาม?
ยิ่งถ้ามีระดับสูงขึ้นไปอีก อายุก็ไม่ใช่ปัญหา ทั้งตัวดูสง่างามเหมือนเทพเซียน แค่มองก็ชื่นตาชื่นใจแล้ว
แต่จีชิงนั้นแตกต่างออกไป
ไม่ใช่ว่าร่างมนุษย์ของเธอสวยเกินใคร แต่เธอมีเสน่ห์พิเศษในความขี้เกียจสบายๆ ที่ดึงดูดใจคน
ความขี้เกียจสบายๆ นั้น คนทั่วไปก็อาจจะมี
แต่จะให้ควบคุมได้พอดีเหมือนจีชิง หาคนที่สองยาก
เพราะความขี้เกียจของจีชิงนั้น มาจากธรรมชาติของการเป็นปีศาจแมว
แมวนั้น เกิดมาก็ขี้เกียจอยู่แล้ว
คนธรรมดาอยากเลียนแบบ ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้
จีชิงพิเศษแบบนี้ การถูกมองก็เป็นเรื่องปกติที่สุด
ถ้าเป็นสาวสวยมีเสน่ห์เดินผ่านมา ต่อให้เป็นหลี่จิ้งเองก็ต้องมองสองสามที
ผู้ชายก็แค่นี้แหละ มีความชอบแค่นี้
คิดว่าต้องใช้เวลาเดินทางอย่างน้อยชั่วโมงนึง หลี่จิ้งก็เอนหลังพิงเบาะ ถอนหายใจเบาๆ
กำลังจะชวนจีชิงคุย เขาก็รู้สึกว่าแขนถูกจับและไหล่มีน้ำหนักกดลงมา
???
หลี่จิ้งหันไปมองอย่างงุนงง
สิ่งที่เห็นคือจีชิงกำลังเกาะแขนเขา วางศีรษะพิงไหล่เขา
พอหลี่จิ้งหันมา สายตาของทั้งสองก็สบกันพอดี
สบตากันแล้ว
หลี่จิ้งงงไปชั่วขณะ
จีชิงก็ตกใจเล็กน้อย
บรรยากาศเงียบไปครู่หนึ่ง จีชิงกระแอมแล้วนั่งตัวตรง พูดเสียงเบา
"โทษที พอดีชินน่ะ"
"..."
หลี่จิ้ง
ภายใต้สายตาของคนบางคน แก้มของจีชิงแดงระเรื่อ
เมื่อครู่นี้ เธอไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรจริงๆ
เธอแค่คิดว่าหลี่จิ้งออกมาข้างนอกแล้วทำตัวสุภาพ ตัวเองเป็นผู้หญิงก็ควรให้เกียรติเขาบ้าง
ชายหญิงออกไปด้วยกัน
ผู้หญิงจะทำให้ผู้ชายดูมีหน้ามีตายังไง?
ง่ายมาก
เกาะแขนเล็กน้อย ให้คนอื่นรู้ว่าทั้งสองสนิทสนมกัน
เรื่องนี้ไม่มีอะไร แค่แสดงให้คนอื่นเห็น
ไม่เหมือนกับความสนิทสนมระหว่างแฟนกัน มันคนละเรื่อง
ตอนแรกจีชิงแค่คิดจะเกาะแขนเบาๆ พอเป็นพิธี ไม่คิดว่าพอยื่นมือไป ร่างกายก็เอนเข้าไปหาตามความเคยชิน
ต้องยอมรับว่า
ความเคยชินเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ
เห็นจีชิงเขินอาย หลี่จิ้งก็เข้าใจแล้ว
ตลอดหนึ่งสัปดาห์กว่าที่ผ่านมา จีชิงอยู่ในร่างแมวตลอด
ปกติชอบกระโดดขึ้นไปบนไหล่เขาเวลามีเรื่องไม่มีเรื่อง เกาะบนไหล่เขาเป็นเรื่องปกติ
พยักหน้าแสดงว่าเข้าใจ หลี่จิ้งก็พูดขึ้น
"เดี๋ยวเธออยากแวะไปดูร้านสักหน่อยไหม?"
จีชิงไม่ใช่คนขี้อายอะไร แค่รู้สึกเขินนิดหน่อย
เห็นหลี่จิ้งเข้าใจและไม่ได้เข้าใจผิดอะไร เธอก็กลับมาเป็นปกติ
"ถ้านายไม่รำคาญที่ต้องเสียเวลาและยินดีไปร้านกับฉัน ฉันก็ไม่ว่าอะไร ช่วงนี้กินแต่อาหารบ้านที่นายทำ ฉันก็คิดถึงหม้อไฟที่ร้านเหมือนกัน กลับมาเราไปกินมื้อดึกที่ร้านกันดีไหม"
...
การเดินทางกว่าชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
มาถึงตลาดวัตถุวิญญาณเป่ยเฉิง หลี่จิ้งมองมิเตอร์แท็กซี่อย่างเจ็บปวดใจ จ่ายค่าแท็กซี่เกือบสองร้อยหยวนอย่างเงียบๆ
ตอนนี้เขาไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินสองร้อยหยวน
แต่ปัญหาคือจ่ายสองร้อยไปเปล่าๆ ทำให้รู้สึกไม่คุ้มค่า
ข้ามมิติมาแล้วยากจนกว่าสามเดือน การประหยัดในชีวิตประจำวันได้กลายเป็น "นิสัยที่ดี" ในกระดูกของเขาไปแล้ว
จ่ายค่ารถแล้วลงจากรถ หลี่จิ้งและจีชิงก็เดินเข้าตลาดวัตถุวิญญาณ
ตลาดวัตถุวิญญาณตอนกลางคืน คนแน่นขนัด
แน่นอน กลางวันที่นี่ก็ไม่ได้คนน้อย
ตลาดวัตถุวิญญาณคล้ายห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แต่ที่นี่ขายแต่วัตถุวิญญาณประเภทต่างๆ
เนื่องจากตลาดวัตถุวิญญาณมีความพิเศษ ต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติตลาดจะถูกกำหนดให้เปิดโดยสำนักบริหารเมืองของแต่ละท้องที่
เฉพาะร้านค้าที่มีใบอนุญาตและคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้ามาเปิดร้านได้
เข้าตลาดมาแล้ว หลี่จิ้งไม่ได้เดินดูเล่น
ที่นี่เป็นแหล่งผลาญเงินที่แท้จริง
สินค้าต่างๆ ถึงจะถูกที่สุด ก็นับหน่วยเป็นหมื่น
วัตถุและวัสดุวิญญาณที่ราคาหลายล้านหรือหลายสิบล้าน มีให้เห็นทั่วไป
บางสิ่งที่หายาก ไม่สามารถตีค่าเป็นเงินได้ ต้องใช้ของมีค่าเท่าเทียมกันมาแลกเปลี่ยน
เงินทอง สำหรับผู้ฝึกตนแล้วเป็นเพียงสกุลเงินทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
เดินตรงไปที่ร้านค้าที่มีใบรับรองการประเมินคุณภาพวัตถุวิญญาณที่ชั้นหนึ่งของตลาด หลี่จิ้งพาจีชิงเลี้ยวเข้าประตูร้าน แต่แล้วก็ชะงักฝีเท้าขมวดคิ้ว
ในร้านมีพนักงานผู้หญิงอยู่เพียงคนเดียว
เรื่องนี้ไม่มีอะไร
แต่สำคัญที่พนักงานคนนี้ เขาเพิ่งเจอเมื่อเช้าวานนี้เอง
ทั้งหน้าตาและรูปร่างเล็กๆ น่ารักจริงๆ สวี่เจียอี้
ในร้าน สวี่เจียอี้เงยหน้าเห็นหลี่จิ้งเข้ามาก็ตกใจเล็กน้อย
"ทำไมเป็นคุณล่ะ?"
"..."
หลี่จิ้งอึ้งไป คิดในใจว่าคำถามนี้ฉันก็อยากถามเหมือนกัน
ข้างๆ จีชิงก็กะพริบตาสงสัย
"นายรู้จักพนักงานร้านนี้เหรอ?"
"อืม เธอเป็นน้องสาวของเพื่อนร่วมงานฉันน่ะ"
หลี่จิ้งตอบ เดินไปที่เคาน์เตอร์
การเจอสวี่เจียอี้ในตลาดวัตถุวิญญาณ ทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้ช่างกลมจริงๆ
แต่เรื่องนี้ เขาไม่ได้สนใจมาก
ตัวเขากับสวี่เจียอี้ไม่ได้สนิทกัน แค่เคยเจอกันครั้งเดียวเท่านั้น
มองซ้ายมองขวา เห็นว่าในร้านไม่มีคนอื่นจริงๆ หลี่จิ้งมองสวี่เจียอี้ที่กำลังพิจารณาเขาอยู่เช่นกัน
"ในร้านมีแค่เธอคนเดียวเหรอ?"
"คนอื่นไม่อยู่ มีอะไรคุณถามฉันได้"
ซวี่เจียอี้ตอบ พูดต่อ
"อีกอย่าง อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้มาทำงานพิเศษ ร้านนี้เป็นร้านของบ้านฉันเอง"
พูดจบ เธอก็มองจีชิงที่ยืนอิงแอบอยู่ข้างหลี่จิ้ง สายตาหยุดอยู่ที่หน้าอกอวบอิ่มของจีชิงครู่หนึ่ง แล้วถามอย่างเหยียดๆ
"แฟนคุณเหรอ?"
"เปล่า แค่เพื่อน"
หลี่จิ้งตอบ หยิบร่างแท้จริงของชวีเหลียงหงออกมาจากพื้นที่เก็บของ
"นี่เป็นงูปีศาจระดับสาม ฉันอยากให้ช่วยประเมินราคาให้หน่อย"
"งูปีศาจระดับสาม?"
ซวี่เจียอี้เลิกคิ้ว มองร่างงูปีศาจที่ยาวเกือบสองเมตร ยื่นมือรับมา
"รอสักครู่นะ ฉันจะช่วยประเมินให้"
หลี่จิ้งได้ยินแล้วตกใจเล็กน้อย
"เธอรู้เรื่องการประเมินด้วยเหรอ?"
"อย่าเอาฉันไปเทียบกับลู่หยางเฉิงสิ ฉันจะต้องสืบทอดกิจการของครอบครัวนะ"
ซวี่เจียอี้แบะปาก พูด
"ฉันเรียนการประเมินที่สถาบันเซียน ปีที่แล้วก็สอบใบรับรองผู้ประเมินขั้นต้นได้แล้ว"
พูดพลางชี้ไปที่ใบรับรองหลายใบที่แขวนอยู่หลังร้าน
หลี่จิ้งเงยหน้ามองโดยไม่รู้ตัว และเห็นใบรับรองผู้ประเมินขั้นต้นของสวี่เจียอี้ในบรรดาใบรับรองเหล่านั้น
กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง สวี่เจียอี้ก็ถือร่างงูปีศาจเดินไปที่ประตูด้านข้างของร้านพลางพูด
"ช่วยดูร้านให้หน่อย การประเมินต้องใช้เวลาสักพัก เดี๋ยวฉันจะให้ข้อมูลการประเมินที่สมบูรณ์ภายหลัง"
"..."
หลี่จิ้ง
เขาคิดว่าตัวเองไม่ใช่ลูกค้าหรือไง?
ทำไมต้องมาช่วยดูร้านด้วย?
-----
ขออภัยครับ พอดีหลงไทม์โซน เลยทำให้ลงช้าไป 1 ชั่วโมง