ตอนที่แล้วบทที่ 23 โจรภูเขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 25 ตลาด

บทที่ 24 คำสั่ง 


บทที่ 24 คำสั่ง 

ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงทุ้มดุดันดังมาจากในป่า ตอบกลับว่า “ข้ากัวซานเฟิง อยู่ที่นี่ มีอะไรก็ว่ามา อย่ามัวพล่ามให้เสียเวลา”

หัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวได้ยินเสียงแต่ยังไม่เห็นตัว จึงรีบยกมือคารวะ และ ตะโกนตอบว่า

“ท่านกัวซานเฟิง พวกเรามีกลุ่มคนที่ต้องการผ่านทาง ขอให้ท่านโปรดเมตตาด้วย”

เสียงดุดันนั้นเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า

“ข้าอนุญาตให้พวกเจ้าผ่านได้ แต่ต้องทิ้งเงินทองทั้งหมดไว้”

หัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวพูดเกลี้ยกล่อมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ท่านกัวซานเฟิง อย่าเรียกเก็บเกินไปนักเลย ท่านเอามากไปเราก็ให้ไม่ไหวเสียเปล่าๆ เอาเป็นว่า พวกเรารวบรวมมาได้ห้าร้อยตำลึงเงิน นำมามอบให้ท่านเพื่อเป็นของขวัญแรกพบ หวังว่าจะได้เป็นมิตรต่อกัน ท่านว่าอย่างไร?”

“หึ! ห้าร้อยตำลึงเงินแล้วจะคิดว่าข้าจะยอมรับได้หรือไง ดูถูกกันหรือ?” กัวซานเฟิงคำรามอย่างไม่พอใจ

หัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวหัวเราะแห้ง ๆ พลางแบมืออย่างจนปัญญา

“ห้าร้อยตำลึงเงินก็มากแล้ว! ทุกวันนี้มีทั้งภัยพิบัติและสงคราม ความเป็นอยู่ลำบากไปหมด”

กัวซานเฟิงเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็กล่าวขึ้นด้วยเสียงดัง

“ถ้าอย่างนั้น ทิ้งสินค้าของพวกเจ้าครึ่งหนึ่งไว้ แล้วข้าจะปล่อยให้ผ่านได้”

หัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวไม่พอใจอย่างยิ่ง เขากัดฟันพูดว่า

“ของที่ข้าแบกมาคือแร่เหล็ก ท่านจะขายแลกเงินได้หรือ? กินได้ไหม? เอาเป็นว่า เราต่างยอมกันคนละครึ่ง เพิ่มให้เป็นแปดร้อยตำลึงเงินดีไหม?”

กัวซานเฟิงแค่นเสียง “น้อยกว่าถั่วทองห้าลูกก็อย่ามาพูดเลย”

ถั่วทองห้าลูกนั้นเท่ากับห้าพันตำลึงเงิน!

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของหัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวก็ย่ำแย่ลงทันที

ชาวสุ่ยหนิวลำบากตรากตรำขุดเหมืองจนได้แร่เหล็กคุณภาพต่ำมาสักสองสามเกวียน ต่อให้ขายทั้งหมดก็ยังไม่แน่ว่าจะได้ห้าถั่วทองตามที่ต้องการ

กัวซานเฟิงเรียกร้องเกินควร ทำให้ยากที่จะต่อรองกันได้ลงตัว

“ท่านกัวซานเฟิง รอสักครู่ ให้พวกเราได้ปรึกษากันหน่อย”

สามผู้เฒ่าสบตากันแล้วเดินคอตกกลับมา

ฟางจือสิงได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และ ได้ยินทุกคำ

“กัวซานเฟิงคนนี้โลภมากเกินไปจริง ๆ” หัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวกล่าวอย่างโกรธเคือง

หัวหน้าหมู่บ้านเฮยหนิวถอนหายใจเงียบ ๆ แล้วกล่าวว่า “ดูท่าว่าเรื่องนี้จะจบดีไม่ได้ พวกเราไม่มีทางเลือก คงต้องฝ่าไปให้ได้”

ฟางจือสิงครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนเสนอขึ้นว่า “ที่นี่มีผู้ลี้ภัยอยู่มาก พวกเราอาจรวบรวมผู้ลี้ภัยเหล่านี้ให้ช่วยกันพุ่งชนด่านของพวกโจรภูเขา ถ้าเราฝ่าไปได้ พวกเราก็จะผ่านด่านนี้ได้สำเร็จ”

เมื่อได้ยินข้อเสนอนั้น ผู้เฒ่าทั้งสามก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง

ผู้คนมากมายมีพลังรวมตัวกันที่น่าทึ่ง

ต่อให้พวกนั้นเป็นโจรภูเขา การจะหยุดคนจำนวนมากได้ก็ต้องออกแรงไม่น้อย

จากนั้น ผู้เฒ่าทั้งสามก็เริ่มรวบรวมผู้ลี้ภัยที่อยู่รอบ ๆ พร้อมเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาร่วมฝ่าด่านไปด้วยกัน

“ถ้าไม่ฝ่าไป ทุกคนจะต้องอดตายอยู่ที่นี่!”

“อย่ากลัวเลย! ตามพวกเราเข้าไปเถอะ!”

"คนเยอะพลังมาก เรามากันเป็นกลุ่มใหญ่ โจรภูเขาพวกนี้ต้องเกรงกลัวเราแน่!"

กลุ่มผู้ลี้ภัยที่หิวโซจนไร้ทางเลือก เห็นมีคนออกนำก็พร้อมที่จะตามอย่างยินดี

ในเวลานั้นเอง ฟางจือสิงเสนอให้ตัดฟืนที่ติดไฟง่ายมาทำเป็นคบเพลิง และ แจกจ่ายให้ผู้ลี้ภัยทุกคน หากโจรภูเขาพุ่งเข้ามา พวกเขาจะใช้คบเพลิงเป็นอาวุธโยนเข้าใส่

ทุกคนเห็นว่าความคิดนี้ดี เพราะทำได้ง่าย และ ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างก็พร้อม

เวลานี้ ท้องฟ้าเริ่มโพล้เพล้ แสงบนภูเขาเมเปิ้ลค่อย ๆ มืดลง แต่กลับสว่างไสวด้วยแสงคบเพลิงระยิบระยับ ราวกับกลุ่มดาวที่ตกลงมาจากฟากฟ้าเชื่อมต่อกันเป็นสายน้ำแห่งแสง

“บุก!” “บุก!”

เสียงตะโกนนำของผู้เฒ่าทั้งสามดังขึ้น พวกเขาเป็นผู้นำในการบุกขึ้นไป

“บุก!”  “บุกเข้าไป!”

ผู้คนหลายร้อยคนโห่ร้องตอบรับ ชูคบเพลิง และ ตะโกนก้อง พร้อมใจกันมุ่งขึ้นไปยังยอดเขาอย่างคึกคัก

ฟางจือสิงเดินปะปนอยู่ในกลุ่ม จูงลาตามไปข้างหน้า แต่เขาตั้งใจอยู่ในส่วนท้ายของกลุ่ม

เมื่อทุกคนมาถึงยอดเขา ต่างก็วิ่งไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นจนกระจายเป็นแถวยาว

ฟางจือสิงที่อยู่หลังสุด มองไปรอบ ๆ อย่างระวัง

ทันใดนั้น เขาเห็นเงาคนจำนวนมากโผล่ออกมาจากทางลาดสูง รวม ๆ แล้วมีกว่าโหล

คนเหล่านี้สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น ผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่ในมือกลับมีอาวุธหลากหลาย ทั้งไม้กระบอง มีดล่าสัตว์ หอกยาว และ ธนู

“หัวหน้า เราจะเอาไงดี?”

หนึ่งในโจรภูเขาที่ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนแสดงความตื่นตระหนก ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะแต่ก่อนพวกเขาใช้วิธีดักปล้นผู้ลี้ภัยเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ยิงธนูซุ่มโจมตี หรือกระโจนเข้าชิงทรัพย์

แต่ตอนนี้ผู้คนมากมายพุ่งเข้ามาราวกับน้ำป่าไหลบ่าที่กั้นไม่ได้ ภาพที่เห็นช่างน่าตื่นตะลึง

“จะทำอะไร มองไม่เห็นหรือไง?” กัวซานเฟิงแหวออกมาพร้อมดาบเล่มใหญ่

เขาเป็นชายร่างยักษ์ มีแผลเป็นน่าเกลียดบนใบหน้า ดวงตาเหี้ยมเกรียม หน้าตาน่ากลัว คาบกระดูกไก่ไว้ในปาก เคี้ยวกร้วม ๆ

กัวซานเฟิงแสยะยิ้มเยาะเย้ย “ฟังนะ ใครขนของมาเยอะ เราก็ไปปล้นคนนั้น”

“รับทราบ!”

“หัวหน้าช่างเฉียบแหลม!”

เหล่าโจรเข้าใจดีทันที

พวกเขาหันไปจ้องที่กลุ่มขบวนรถของผู้เฒ่าทั้งสามซึ่งอยู่ด้านหน้าของขบวนใหญ่ ขบวนที่บรรทุกฝ้าย หนังสัตว์ และ แร่เหล็ก! เป็นเป้าหมายที่เด่นชัดจนยากจะมองข้าม

“พี่น้องทั้งหลาย ตามข้าไป!”

กัวซานเฟิงตะโกนก้อง ชูดาบพุ่งเข้าหาเป้าหมาย ขณะที่เหล่าโจรก็ส่งเสียงคำรามติดตามไป

“โจรภูเขามาแล้ว!” “โจรภูเขามาแล้ว!”

“วิ่งเร็ว!”

กลุ่มผู้ลี้ภัยต่างหวาดกลัว พากันวิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง

“เร็วเข้า เร็วเข้า!” ผู้เฒ่าทั้งสามเร่งเร้า เสียงล้อรถหมุนก้องดัง "กูลูกูรู" ไปตลอดทาง

ทันใดนั้น ฟางจือสิงตะโกนเสียงดังว่า “อย่าตื่นตระหนก! รอให้โจรภูเขาเข้าใกล้แล้วเราค่อยโยนคบเพลิงใส่พร้อมกัน!”

เสียงตะโกนดังกังวานไปถึงทุกคน

พวกโจรได้ยินเสียงนี้เช่นกัน และ เพิ่งเข้าใจว่าทำไมผู้ลี้ภัยแต่ละคนถึงมีคบเพลิงในมือ จึงเริ่มเกิดความหวาดหวั่น ชะลอฝีเท้าลง

“พวกเจ้านี่คิดจะอดตายจริง ๆ หรืออยากกินดีอยู่ดี และ ได้ลิ้มรสสตรี!”

กัวซานเฟิงตะโกนกระตุ้นเสียงดัง ทำให้กลุ่มโจรเกิดฮึกเหิม พากันส่งเสียงร้องโหวกเหวก ราวกับลิงร้องระงม

ระยะห่างระหว่างทั้งสองกลุ่มค่อย ๆ ใกล้เข้ามา

สามสิบเมตร ยี่สิบเมตร สิบเมตร!

“โยน!” “โยน!”

ฟางจือสิงตะโกนเสียงดังเป็นคนแรก และ โยนคบเพลิงของเขาออกไป

เพียงแสงไฟคบเพลิงแรกพุ่งขึ้นไป ทันใดนั้นคบเพลิงหลายร้อยอันก็ถูกโยนตามขึ้นไปในอากาศ ส่องแสงสว่างไปทั่วป่าเมเปิ้ล ราวกับแสงดาวระยิบระยับ

เสียงหวิวหวิว~~  หวิวหวิว~~

คบเพลิงหลายร้อยอันลอยขึ้นไปในอากาศ โค้งลงพุ่งใส่กลุ่มโจร

ตู้ม! ตู้ม!  ตู้ม!

คบเพลิงของฟางจือสิงกระแทกโดนโจรคนหนึ่งเต็ม ๆ ทำให้มันสะดุ้งลุกขึ้นแล้วล้มกลิ้งไป

โจรคนอื่น ๆ ต่างเงยหน้าหลบคบเพลิงที่พุ่งใส่ บางคนโดนคบเพลิงกระแทก บางคนหลบได้ แต่ส่วนใหญ่คบเพลิงตกลงพื้น ขวางทางเดินของพวกมัน

การโจมตีนี้สร้างความปั่นป่วน กลุ่มโจรเกิดความวุ่นวาย และ เสียขบวนอย่างหนัก

“ให้ตายเถอะ!”

กัวซานเฟิงโกรธจัด มองเห็นกลุ่มผู้ลี้ภัยหลายร้อยคนวิ่งผ่านหน้าเขาไปโดยที่เขาทำอะไรไม่ได้

“เอาธนูมา!”

ทันใดนั้น เขายื่นมือออกไป

โจรคนหนึ่งรีบส่งธนู และ ลูกศรให้เขา

หัวหน้าหมู่บ้านสุ่ยหนิวรีบตะโกนว่า “แยกกันออกไป แยกวิ่ง!”

กลุ่มผู้ลี้ภัยต่างพุ่งหนีเข้าไปในป่าเมเปิ้ลอย่างอลหม่าน บรรยากาศในป่าจึงเต็มไปด้วยความโกลาหล

..........

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด