บทที่ 19:ยากจนแล้วร่ำรวย
บทที่ 19:ยากจนแล้วร่ำรวย
ลู่หย่วนหมิงสะพายปืนพก เดินตามหลังปีเตอร์กับชาร์ลี ตัวเขาก็ไม่ได้รู้สึกกังวลมากนัก
อาจเป็นเพราะ เขาเคยใช้ปืนมาก่อนแล้ว ไม่ใช่แบบที่เห็นสัตว์ประหลาด หรือ เห็นการยิงปะทะแล้วขาจะสั่น เขาไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน
อีกด้านหนึ่งคือ "ฝีมือของเขาดีขึ้นมาก" ตอนนี้เขารู้แล้วว่าอนุภาคแสงไร้สีสามารถรักษาได้ และจิตวิญญาณของเขาก็แข็งแกร่งขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องพลัง ความเร็วเท่านั้น แต่แม้แต่ความเร็วในการตอบสนองก็เร็วขึ้นด้วย นี่ทำให้เขามั่นใจตัวเองมากขึ้น เป็นธรรมดาที่จะไม่รู้สึกหวาดกลัวง่าย ๆ
สิ่งที่ลู่หย่วนหมิงไม่รู้ก็คือ เขานั่นแหละเป็นที่มาของความมั่นใจของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นชาร์ลี หรือ ปีเตอร์ หรือแม้แต่ลูกน้องของชาร์ลี เมื่อพวกเขาได้รู้ว่าลู่หย่วนหมิงจะไปด้วย ต่างก็ตื่นเต้น และเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าจะชนะในสงครามครั้งนี้
ในความคิดของลู่หย่วนหมิง การกระทำทุกอย่างของเขาล้วนแต่แสดงออกถึงความจริงใจ ความซื่อตรง เพราะเขาไม่เคยคิดจะเล่นเกมกับความรู้สึกของใคร แต่ความจริงใจและความซื่อตรงของเขานั้น บวกกับความพิเศษที่เขามี ทำให้ผู้คนรอบข้างมองว่าเขามีความศักดิ์สิทธิ์ และแม้แต่คนที่จิตใจมืดมนอย่างชาร์ลี หรือทอมก็ไม่อาจห้ามใจตัวเองได้ เพราะพวกเขารู้สึกได้ถึงสัญชาตญาณ ที่บอกว่าพวกเขาจะไม่ถูกทรยศหรือถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจาก ลู่หย่วนหมิง
นี่แหละคือสิ่งที่ดึงดูดความรู้สึกของผู้คน
ลู่หย่วนหมิงไม่รู้จะจัดการกับปัญหาของคนยุโรปและอเมริกาที่อยู่รอบข้างยังไง การเลือกที่จะแสดงความจริงใจและความซื่อตรงอย่างสุดซึ้ง กลับกลายเป็นสิ่งที่ดึงดูดความรู้สึกศรัทธาของผู้คนเสียอย่างนั้น
ลู่หย่วนหมิงในเวลานี้ ยังไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้ เขาเพียงแต่เดินไปในกลุ่มคน พลางมองไปรอบ ๆ
นครนิวยอร์กในโลกหลังความตาย เต็มไปด้วยความรกร้างและความเสียหาย แม้ว่าทุกคนจะบอกว่า ที่นี่เป็นการจำลองนครนิวยอร์กตามสัดส่วนหนึ่งต่อหนึ่ง แต่ซุ้มขายของ ร้านค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายอาวุธ ฯลฯ ถูกปล้นสะดมจนโล่ง ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของคนตายที่เคยอยู่ที่นี่ หรือว่าของเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่จริง
เห็นแบบนี้ ลู่หย่วนหมิงยิ่งมั่นใจในความคิดของเขาที่จะปลูกพืช
“……พวกคุณคิดว่ามันฝรั่งที่เพาะปลูกตอนนี้ จะให้ผลผลิตได้มากน้อยแค่ไหน?” ลู่หย่วนหมิงถามขึ้น
ทุกคนต่างมองมาที่ลู่หย่วนหมิงด้วยสีหน้าฉงน เขาจึงเอ่ยออกมาว่า “พูดตามตรงเลยนะ ผมนี่เป็นพวกไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับข้าวปลาอาหาร ไม่ต้องพูดถึงการปลูกมันฝรั่ง ตลอดชีวิตผมแทบจะไม่เคยปลูกต้นไม้กระถางให้รอดเลย ดังนั้น ผมเลยไม่รู้จริง ๆ ว่ามันฝรั่งที่ปลูกไปตอนนี้ จะให้ผลผลิตได้มากแค่ไหน และจะเพียงพอสำหรับคนจำนวนเท่าไร กินได้นานแค่ไหน”
ชาร์ลีและลูกน้องของเขาก็ไม่รู้เช่นกัน ถ้าลู่หย่วนหมิงถามพวกเขาเกี่ยวกับอาวุธปืนหรือเรื่องโลกหลังความตาย พวกเขานับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ถ้าถามพวกเขาเรื่องการปลูกพืชผล พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรกับลู่หย่วนหมิงมากนัก
ปีเตอร์คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “ตอนนี้พื้นที่ที่เราปลูก น่าจะเก็บเกี่ยวมันฝรั่งได้ประมาณสี่หมื่นกิโลกรัม แต่จะเพียงพอสำหรับคนจำนวนเท่าไร กินได้นานแค่ไหน ผมก็ไม่รู้”
ลู่หย่วนหมิงมองปีเตอร์ด้วยความประหลาดใจ ชายร่างท้วมคนนี้ นอกจากยิงปืนเก่ง ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้เรื่องพืชผลทางการเกษตรด้วย ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่มีความสามารถซ่อนเร้น
“ถึงจะสี่หมื่นกิโลกรัมก็เถอะ แต่ถ้าไม่มีน้ำมันสัตว์หรือน้ำมันพืชเพียงพอ ไม่มีผักประกอบอาหาร ผู้ใหญ่หนึ่งคน ถ้ากินมันฝรั่งวันละหนึ่งกิโลกรัม ก็จะเพียงพอสำหรับคนของเรา กินได้ประมาณสี่ร้อยวัน แต่ถ้าเราจะรับคนเข้ามาในกลุ่มเพิ่ม มันฝรั่งสี่หมื่นกิโลกรัมนี้ ก็คงไม่เพียงพอแน่”
นอกจากมันฝรั่งแล้ว พืชผลอื่น ๆ โดยเฉพาะพืชผลที่ให้ผลผลิตเป็นน้ำมัน ก็จำเป็นต้องปลูกด้วย
ลู่หย่วนหมิงยิ่งคิด ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องการทำนาและเพาะปลูกเป็นสิ่งจำเป็น มีเรื่องมากมายให้คิด แต่เขาเองก็ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน
“เอาแบบนี้ละกัน ช่วยกันคิดช่วยกันทำ” ลู่หย่วนหมิงพึมพำเบา ๆ “พอจัดการพวกแก๊งค์ MXG เสร็จ พวกเราก็กลับไปประชุมเลย วางแผน ดีที่สุดคือทำแผนห้าปีออกมา”
ลู่หย่วนหมิงรู้ตัวดีว่าตัวเองมีประสบการณ์น้อย เพิ่งออกจากสังคมก็ถูกชนจนกลายเป็นผัก และเขาก็ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอะไร ย่อมไม่มีทางทำอะไรได้อย่างยิ่งใหญ่เหมือนกษัตริย์ในประวัตืศาสตร์ แต่เขาก็รู้จักตัวเองดี อะไรที่ทำไม่ได้ ทำไม่ดี ก็ให้ผู้เชี่ยวชาญไปจัดการ ถ้าไม่มีผู้เชี่ยวชาญ ก็ให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ แล้วเขายังมีแบบอย่างให้ดูด้วย
นั่นคือมาตุภูมิของเขา ประเทศ Z
ประเทศที่เคยยากจนและล้าหลัง แทบจะสร้างขึ้นมาจากซากปรักหักพังของสงคราม พวกเขาประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ก็ด้วยแผนห้าปีนั่นเองที่ใช้ขับเคลื่อนประเทศให้มั่งคั่งและเป็นอิสระ
ลู่หย่วนหมิงอาจยังคิดไม่ได้หรอกว่าแผนห้าปีจะต้องทำยังไงบ้าง แต่สำหรับกระบวนการและผลลัพธ์เบื้องต้น เขาเชื่อมั่นและคิดว่าคงจะทำสำเร็จได้แน่
ชาร์ลีและพวกพ้องย่อมไม่รู้เรื่องความคิดในใจของลู่หย่วนหมิง พวกเขาเฝ้าระวังรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง คุ้มกันลู่หย่วนหมิงที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็สังเกตเห็นลู่หย่วนหมิงขมวดคิ้วบ้าง ยิ้มบ้าง สลับกันไปมา
ชาร์ลีชี้ไปที่ตึกหลังหนึ่งในระยะไกล "เราจับตัวมันได้ที่นี่แหละครับ" ชาร์ลีอธิบาย "พวกมันมักจะส่งสมาชิกแก๊งค์คนหนึ่ง พากลุ่มคนที่ถูกควบคุมไปสี่ถึงห้าคน ไปค้นหาเสบียงตามตึกหรือร้านค้า เหล่าสมาชิกแก๊งค์จะไม่เข้าไปในอาคารเองหรอก พวกมันใช้คนอื่นทำแทน ถ้าเจอสัตว์ประหลาด ก็แค่ใช้คนที่ถูกควบคุมให้ไปตายแทนเท่านั้นเอง ตอนนั้นเราเห็น MXG ยืนอยู่ข้างนอก มันแอบลอบเข้ามา ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้มันหนีและสร้างปัญหา ผมเลยยิงมัน"
ลู่หย่วนหมิงพยักหน้าเข้าใจทันที เขาจึงถามว่า "พวก MXG สูญเสียสมาชิกไปหนึ่งคน และเสียงปืนดังขึ้น ตอนนั้นอาวุธที่คุณใช้ก็คือปืนพก พวก MXG เป็นนักเลงที่เล่นปืนกันมาทั้งชีวิต พวกมันย่อมฟังออกว่าเป็นเสียงปืนพก พวกมันจะต้องรู้แน่ว่าเราเป็นคนโจมตีมัน... ชาร์ลี คุณว่าพวกเขาจะทำอะไร? จะโจมตีธนาคารแบบเต็มที่หรือเปล่า? หรือจะซุ่มโจมตีทีมสำรวจของเราล่ะ?"
ชาร์ลียิ้มพลางกล่าว "พ่อ หากให้พวกมันมีเวลาอีกสองสามวัน มันอาจจะคิดโจมตีกลุ่มนักสำรวจ แต่ผมรู้จักพวกมันดี มันจะทำยังไงเมื่อเจอกับเหตุการณ์คนตายอย่างกะทันหัน พวกมันก็จะรีบหนีกลับรังไปก่อน แถมยังจะระแวงไปหมด กลัวว่าจะมีคนทรยศอยู่ในกลุ่ม แล้วค่อยไปสืบหาว่าใครเป็นคนทำร้าย และวางแผนแก้แค้น มันคือธรรมชาติของกลุ่มอาชญากรอย่างพวกมันครับ"
ลู่หย่วนหมิงครุ่นคิดอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเอ่ยขึ้น "นั่นหมายความว่า ตอนนี้พวกมันรวมตัวกันอยู่ที่โกดัง แล้วก็กำลังวางแผนย้ายฐานที่มั่นใช่ไหม?"
ชาร์ลีพยักหน้ารับ "ถูกต้อง แต่พวกมันคงไม่คิดว่าเราจะมาเร็วขนาดนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ นี่คือโลกหลังความตาย พวกมันไม่มีทางย้ายฐานที่มั่นได้ง่ายเหมือนโลกของคนเป็น ฐานที่มั่นที่กว้างขวาง มีระบบป้องกัน และไม่มีสัตว์ประหลาดนั้นหายากมาก"
ลู่หย่วนหมิงคลายความสงสัยหมดสิ้น จึงรีบวิ่งไปยังทางโกดังอย่างรวดเร็ว
ลู่หย่วนหมิงวิ่งอย่างสบาย ๆ แต่คนอื่น ๆ เหนื่อยจนแทบจะหมดแรง เมื่อวิ่งมาถึงทางเข้าโกดัง ปีเตอร์สังเกตเห็นว่าลู่หย่วนหมิงสูงขึ้นและแข็งแรงขึ้นผิดหูผิดตา เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นว่า ลู่หย่วนหมิงคือพระเมสสิยาห์ เพียงแต่ตอนนี้กำลังฟื้นฟูร่างกายกลับสู่สภาพเดิม
ทุกคนค่อย ๆ เดินสำรวจเข้าไปในทางแยก เพียงแค่เดินเข้าไปไม่ถึงร้อยเมตร ก็มีเสียงตะโกนดังออกมาจากป้อมยามด้านหน้า ชาร์ลี ปีเตอร์ และลูกน้องของชาร์ลีต่างก็ชี้ปืนไปที่จุดนั้นทันที ลู่หย่วนหมิงรีบตะโกนขึ้นทันทีว่า “อย่าเพิ่งยิง ไม่ใช่พวก MXG!”
ลู่หย่วนหมิงตอนนี้มีปฏิกิริยาเร็วกว่าคนธรรมดาหลายเท่า ขณะที่ชาร์ลีและคนอื่น ๆ เพิ่งเห็นคนที่ตะโกน ลู่หย่วนหมิงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร เป็นหญิงผิวขาวอายุสามสิบกว่า ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเขียวช้ำและบวม ร่างกายเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยรอยแผลเลือด เธอถูกมัดมือมัดเท้า และกำลังตะโกนโหวกเหวกอยู่
ทุกคนจึงไม่ได้ยิงปืน พวกเขาเห็นชัดเจนแล้ว ใบหน้าของพวกเขาทั้งหมดต่างก็แสดงออกถึงความสงสาร และเมื่อพวกเขาเดินเข้าไปใกล้ พวกเขาก็พบว่าลิ้นของหญิงคนนี้ถูกตัดออกไป ร่างกายเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากเครื่องมือแหลมคม และร่างกายด้านล่างเต็มไปด้วยสิ่งสกปรก
ลู่หย่วนหมิงรู้สึกถึงความร้อนวาบ ในหัวเขาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรง
“...ตอนนี้เราอยู่ห่างจากโกดังของพวกมันเท่าไหร่?” ลู่หย่วนหมิงถามเสียงเคร่งเครียด
ชาร์ลีคุ้นเคยกับพื้นที่นี้ เขามักจะมา “รับสินค้า” ในเขตโกดังนี้บ่อย ๆ ทำให้เขาก็ตอบบอกไปว่า “ไม่ถึงสองร้อยเมตร ผมกับลูกน้องรู้ทางไปที่นั่น พ่อ ผมจะนำทางเอง”
“ไม่ต้อง มีวิธีที่ดีกว่านั้น”
ลู่หย่วนหมิงส่ายหัว เขาหันไปมองคนที่แบกขีปนาวุธต่อต้านรถถัง FGM-148 ลู่หย่วนหมิงคว้าคนนั้นขึ้นมา ยกแขนขึ้น แล้ววางคนนั้นลงบนแขนของเขา ภาพนี้สร้างความตื่นตะลึง ลู่หย่วนหมิงไม่สนใจ เขากล่าวกับคนอื่น ๆ ว่า "ให้พวกมันวิ่งมาเอง ตอนนี้ เริ่มยิงได้"
ทันทีที่พูดจบ ลู่หย่วนหมิงก็วิ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด เหล่าลูกน้องมองหน้ากัน ลูกน้องคนหนึ่งถามว่า "ยิงใคร? ให้ผมผู้หญิงคนนี้เหรอ?"
ชาร์ลีหน้าดำคล้ำ ตบหน้าลูกน้องคนนั้น แล้วตะโกนว่า "ยิงขึ้นฟ้า ให้ดัง เร็ว ๆ เร็ว ทำตามฉัน"
เหล่าลูกน้องจึงรู้ตัว รีบหยิบอาวุธขึ้นมายิงขึ้นฟ้า
อีกด้านหนึ่ง กลุ่มคนของแก๊ง MXG ได้ยินเสียงกรีดร้องจากป้อมยาม พวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วมาก รีบคว้าไม้เหล็กยาวที่ทำจากเหล็กเส้นจากมุมกำแพงแล้ววิ่งออกไป ชายตาเหล่ที่กำลังกินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อย ก็คว้าปืนไรเฟิลจากด้านหลัง เตรียมจะวิ่งออกจากโกดัง
ทันใดนั้น เสียงปืนดังขึ้นเป็นชุด เหล่านักเลงที่วิ่งออกไป หยุดทันที รีบซ่อนตัวอยู่หลังแผ่นเหล็กของโกดังเมื่อเสียงปืนหยุดลง พวกเขาจะรีบออกไปต่อสู้เพื่อรักษาชีวิตของพวกเขาไว้ในทันที
และในตอนนั้น วัตถุรูปทรงกระบอกที่มีเปลวไฟพุ่งออก ทะลุผ่านแผ่นเหล็กบาง ๆ นั้น เหล่านักเลงทุกคนหันไปมอง ม่านตาของพวกเขาหดลงพร้อม ๆ กัน
เสียงระเบิดดังสนั่นสั่นไหวไปทั่ว
เมื่อชาร์ลีกับปีเตอร์ตามมาถึงลู่หย่วนหมิง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าทุกคนคือกองไฟที่ถูกทำลายราบคาบ
พวกแก๊งนักเลง MXG หายไปแล้ว หายไปอย่างสิ้นเชิงเลยในแบบความหมายตามที่บอกไป