บทที่ 17 ไม่ขาย
บทที่ 17 ไม่ขาย
“ดาร์คสไปเดอร์ซิลค์ 600 ชุดแลกกับโกลเดนเดรคชิลด์”
“ลูมินัสเอเลเมนท์ 600 ชุดแลกกับทูแฮนด์ซอร์ท”
“หนังสือสกิลเบรซซิ่งเบิร์สกับสกิลรีซิสท์ไฟร์ริงแลกกับมีดและหมวกเกราะ”
รายการสิ่งของทำให้ฉงป้ากับฉือมู่แสดงความสนใจ เพราะการเก็บเลเวลปกติสมาชิกภายในกิลด์ก็จะได้รับหนังสือสกิลและวัตถุดิบมาอยู่แล้ว เพียงแต่ทั้งคู่ยังไม่เข้าใจว่าผู้เล่นคนเดียวจะเอาวัตถุดิบมากมายขนาดนี้ไปทำอะไร
“น้องชายลูมินัสเอเลเมนท์ 1 ชุดมี 30 ชิ้น การที่นายขอมัน 600 ชุดก็เท่ากับการขอให้สมาชิกในกิลด์ของเราทำงานให้นายฟรี ๆ 1 วันเลยนะ” ฉงป้าถามลองเชิง
ลู่หยางเผยรอยยิ้มแต่ไม่พูดอะไร
ลูมินัสเอเลเมนท์เป็นไอเท็มพิเศษจากมอนสเตอร์เลเวล 1 อย่างเช่นเมจิกเดรค โดยมีอัตราการดรอปอยู่ที่ประมาณ 1% ปัจจุบันฉงป้าได้นำสมาชิกภายในกิลด์ครองพื้นที่จุดเกิดของเมจิกเดรคเอาไว้ การเก็บรวบรวมลูมินัสเอเลเมนท์ 600 ชุดจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากลำบากสำหรับเขามากนัก
ส่วนดาร์คสไปเดอร์ซิลค์ก็เป็นวัตถุดิบที่ดรอปมาจากมอนสเตอร์เลเวล 3 ที่มีชื่อว่าดาร์คสไปเดอร์ แล้วถึงแม้ว่าอัตราการดรอปของมันจะต่ำมาก แต่ลู่หยางก็ยังเชื่อว่าฉือมู่กับฉงป้าที่ต้องการโล่โกลเดนเดรคสามารถรวบรวมวัตถุดิบเหล่านี้มาให้เขาอย่างรวดเร็วแน่นอน
“น้องชายพอจะบอกหน่อยได้ไหมว่านายจะเอาวัตถุดิบพวกนี้ไปทำอะไร?” ฉือมู่ถาม
“ขอโทษด้วย แต่ผมไม่สามารถบอกได้” ลู่หยางตอบ
“พอจะลดจำนวนพวกมันลงมาหน่อยได้ไหม?” ฉงป้าถาม
“ขอโทษด้วย แต่ฉันจำเป็นจะต้องใช้ของพวกนี้อย่างเร่งด่วน” ลู่หยางตอบพร้อมกับยักไหล่
ท่าทางอันเย็นชาแต่สุภาพของลู่หยางทำให้ฉงป้าและฉือมู่อับจนหนทาง ส่วนเซี่ยหยู่เว่ยที่อยู่ข้าง ๆ ก็ไม่สามารถจะพูดอะไรออกมาได้สักอย่าง เพราะสิ่งที่ลู่หยางต้องการไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถรวบรวมได้อย่างแน่นอน
ทางด้านแบล็คบลัดก็ไม่สามารถจัดหาไอเท็มตามที่ลู่หยางต้องการได้ด้วยเช่นกัน เพราะในตอนนี้กิลด์ของเขายังไม่ได้เป็นระเบียบมากนัก แม้แต่การสั่งให้ลูกน้องไปรวบรวมไอเท็มหายากก็ยังไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถจัดการได้ง่าย ๆ
ส่วนผู้เล่นคนอื่น ๆ จึงไม่ต้องพูดถึงทำให้ในชั่วขณะหนึ่งทุกคนต่างก็ยืนนิ่งอย่างอึดอัดใจ
เมื่อฉงป้าเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ เขาจึงลองพูดขึ้นมาว่า “ฉันมีสกิลรีซิสท์ไฟร์ริง ฉันขอแลกกับมีดสั้นเขาวัวก่อนได้ไหม?”
ภายในทีมของเขามีโจรชั้นยอดอยู่คนหนึ่ง การได้มีดเล่มนี้ไปก็จะทำให้พลังโจมตีของลูกน้องคนนั้นเพิ่มขึ้นจากเดิมไม่น้อยกว่า 2 เท่า
“ได้” ลู่หยางพยักหน้าก่อนที่จะทำการแลกเปลี่ยนมีดสั้นเขาวัวไปให้ฉงป้า
“ฉันมีหนังสือสกิลเบรซซิ่งเบิร์สอยู่เหมือนกัน ฉันขอแลกมันกับแบล็คเฮลเมท” ฉือมู่กล่าว
“ตกลง” ลู่หยางกล่าวพร้อมกับทำการแลกเปลี่ยนแบล็คเฮลเมทให้กับชายชรา
“ฉันเอาทูแฮนด์ซอร์ทด้วย ทางฉันเตรียมลูมินัสเอเลเมนท์มาครบแล้วสามารถแลกเปลี่ยนในตอนนี้ได้เลย” ฉงป้ากล่าว
ลู่หยางแลกเปลี่ยนทูแฮนด์ซอร์ทให้ฉงป้า ซึ่งในระหว่างนั้นลูกน้องของฉงป้าก็ได้นำลูมินัสเอเลเมนท์ 600 ชุดมาส่งให้กับลู่หยาง
“ฉันต้องการโล่โกลเดนเดรคชิลด์ แต่ดาร์คสไปเดอร์ซิลค์ที่นายต้องการไม่ใช่สิ่งที่จะหาได้ง่าย ๆ ฉันต้องใช้เวลา 2 วันกว่าจะรวบรวมพวกมันได้ครบ” ฉือมู่กล่าว
“ไม่มีปัญหา ฉันเชื่อว่าคุณเป็นคนรักษาคำพูด ฉันรอได้” ลู่หยางตอบอย่างสบาย ๆ และเขาก็ยังเชื่อถือในคำพูดของหัวหน้ากิลด์ที่มีสมาชิกกว่า 30,000 คน
“ตกลงตามนี้” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับลอบถอนหายใจ เพราะการเจรจาในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผ่านพ้นไปได้ง่าย ๆ เลย
“แล้วธนูยาวล่ะน้องชาย นายจะขายมันยังไง?” ฉงป้าถาม
ลู่หยางรวบรวมวัตถุดิบตามที่ต้องการได้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงยังไม่คิดจะขายธนูยาวออเนตลองโบออกไป ท้ายที่สุดหากเขาตั้งราคาผู้เล่นเหล่านี้ก็ยังไม่มีเงินมาซื้อ หากจะให้เขาขายถูก ๆ เขาก็ยังไม่อยากจะขายด้วยเหมือนกัน ส่วนจะให้เอามันไปแลกกับวัตถุดิบเหมือนกับอุปกรณ์ชิ้นอื่น ๆ เขาก็ไม่ได้ต้องการวัตถุดิบใด ๆ แล้ว
ในระหว่างที่ลู่หยางกำลังคิดหนัก ฉงป้าก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“เอาแบบนี้ไหมน้องชาย ฉันขอเสนอซื้อธนูยาวชิ้นนั้นในราคา 1,000 เครดิต”
“1,000 เครดิต?” ลู่หยางไม่คิดเลยว่าฉงป้าจะใจกว้างยอมซื้ออาวุธเลเวล 5 ด้วยเงินมากขนาดนี้
“ตกลง เรามาทำการแลกเปลี่ยนกันที่แพลตฟอร์มด้านนอก” ลู่หยางกล่าว
“ไม่มีปัญหา นายให้ไอดีนายมาเดี๋ยวฉันจะโอนเงินผ่านแพลตฟอร์มเดี๋ยวนี้เลย” ฉงป้ากล่าว
ปัจจุบันภายในเกมยังไม่มีระบบแลกเปลี่ยนกับโลกภายนอก และทางตัวเกมยังไม่สนับสนุนให้ผู้เล่นทำการแลกเปลี่ยนนอกเกมอีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้เล่นก็ได้สร้างแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินจริงกับไอเท็มภายในเกมตามกลุ่มต่าง ๆ มาตั้งนานแล้ว และการแลกเปลี่ยนในสมัยนี้ยังเชื่อถือได้ รวดเร็วและไม่เสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย
หลังจากลู่หยางกับฉงป้าทำการแลกเปลี่ยนในแพลตฟอร์มภายนอกสำเร็จ บัญชีของชายหนุ่มก็มีเงินเพิ่มขึ้นมา 1,000 เครดิตในขณะที่ธนูยาวออเนตลองโบก็ถูกส่งไปให้กับฉงป้า
“ขอบใจมากน้องชาย” ฉงป้ากล่าวพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะอย่างพอใจ
“เช่นกันครับ” ลู่หยางกล่าว
การแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ทำให้ผู้เล่นรอบข้างนิ่งอึ้งไปตาม ๆ กัน เพราะตอนแรกพวกเขาคิดว่าลู่หยางรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินในเกมกับวัตถุดิบเพียงเท่านั้น ไม่มีใครคิดว่าแท้ที่จริงชายหนุ่มยังรับแลกเปลี่ยนเป็นเงินในโลกแห่งความเป็นจริงด้วย
“ไม้เท้านี่ขายยังไง?” ผู้เล่นคนหนึ่งถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ผู้เล่นที่พอมีเงินในโลกภายนอกก็เริ่มแสดงความสนใจมากขึ้น
“ใช่ ไม้เท้านี้ขายยังไง? พวกเราก็อยากซื้อเหมือนกัน” เซี่ยหยู่เว่ยถาม
“ช่วยขายให้พวกเราด้วยเถอะนะ” หลานอวี่กล่าวอย่างออดอ้อน
ลู่หยางหันไปมองหลานอวี่ แต่ก่อนที่เขาจะทันได้พูดอะไรมันก็ได้มีเสียงแหลมดังกลบคำถามของคนอื่น ๆ ขึ้นมาเสียก่อน
“โธ่! ไอ้เราก็นึกว่าจะแน่ ที่แท้แกก็เป็นแค่ขอทานคนหนึ่งสินะ พูดมาว่าแกอยากได้เท่าไหร่เดี๋ยวฉันจะซื้อของพวกนี้ให้เอง”
คนรอบข้าง “...”
ลู่หยางขมวดคิ้วหันไปทางต้นเสียง ก่อนที่จะได้พบกับเจิ้งหยวนที่หันมองมาทางเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม
“ไม่ขาย” ลู่หยางกล่าวด้วยความรังเกียจ
สตาฟออฟเมดดิเทชั่นเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสำหรับนักบวชเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงแรกของเกม เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้จะทำให้นักบวชฟื้นฟูพลังชีวิตได้มากยิ่งขึ้น และมันก็จะทำให้การปราบบอสเป็นไปได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้นด้วยเช่นกัน
เดิมทีฉงป้ากับฉือมู่คิดว่าทีมของเซี่ยหยู่เว่ยพอจะรู้จักกับลู่หยางอยู่แล้ว ชายหนุ่มอาจจะแบ่งขายไอเท็มบางส่วนให้กับทางฝ่ายนั้นก็ได้ พวกเขาจึงไม่คิดมาก่อนว่าแท้ที่จริงในทีมของเซี่ยหยู่เว่ยจะมีตัวปแปลกประหลาดที่กล้าพูดกับลู่หยางแบบนี้อยู่ด้วย
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ทั้งคู่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะถ้าหากลู่หยางไม่ต้องการขายอุปกรณ์ให้กับทีมของเซี่ยหยู่เว่ย มันก็หมายความว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้อาจจะตกมาเป็นของพวกเขา
“เราขอซื้ออุปกรณ์ชิ้นนี้ได้ไหม?” หัวหน้ากิลด์ทั้งสองต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน
เซี่ยหยู่เว่ยหงุดหงิดกับคำพูดของเจิ้งหยวนมาก เพราะพวกเธอมีโอกาสได้ซื้ออุปกรณ์จากลู่หยางแล้วแท้ ๆ แต่คำพูดของเจิ้งหยวนทำให้โอกาสของพวกเธอหลุดลอยไปต่อหน้าต่อตา
ยิ่งไปกว่านั้นลู่หยางยังเคยหยิบยื่นความช่วยเหลือมาให้พวกเธอแล้วถึงสองครั้ง เธอจึงรีบพูดขอโทษชายหนุ่มไปอย่างสำนึกผิด
“ฉันขอโทษแทนเพื่อนร่วมทีมของฉันด้วย นี่เป็นความผิดของพวกเราเองหวังว่าคุณจะไม่ถือสา”
เจิ้งหยวนไม่คิดว่าเซี่ยหยู่เว่ยจะพูดแบบนั้น เขาจึงพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า
“หยู่เว่ย! เธอจะไปขอโทษเขาทำไม ไอ้นี่มันก็แค่ขอทานต้องการเงินในเกม มันก็แค่ทำตัวขี้เก๊กไปเท่านั้นแหละ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าถ้าฉันเสนอเงินให้กับมันมากพอแล้วมันจะไม่ขายของพวกนั้นให้กับเรา”
“5,000 ขายไหม?” เจิ้งหยวนถามอย่างดูถูก
หู้!
คราวนี้ผู้เล่นรอบข้างต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กันเพราะเงินจำนวน 5,000 เครดิตไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นราคานี้ยังสูงกว่าราคาที่ฉงป้าซื้ออุปกรณ์ไปในก่อนหน้านี้มาก ทำให้ผู้นำกิลด์ทั้งคู่ล้มเลิกความคิดที่จะประมูลราคาและหันหน้าไปมองลู่หยางพร้อมกัน
ยิ่งเจิ้งหยวนได้เห็นว่าตัวเองกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจ มันก็ยิ่งทำให้เขายืดอกอย่างภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น
“ไงล่ะ คราวนี้จะยอมขายได้หรือยัง เลิกทำตัวขี้เก๊กแล้วรีบ ๆ ขายคทานั่นมาให้ฉันได้แล้ว ฉันไม่มีเวลามาพูดจาไร้สาระหรอกนะ”
ในระหว่างที่ทุกคนคิดว่าลู่หยางกำลังจะขายอุปกรณ์ออกไป ชายหนุ่มกลับยังคงเผยรอยยิ้มและกล่าวออกมาอย่างชัดเจนว่า
“ไม่ขาย”
“แก…” เจิ้งหยวนอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เพราะเขาได้เสนอราคาที่สูงกว่าออเนตลองโบถึง 5 เท่า แต่ถึงกระนั้นลู่หยางก็ยังคงปฏิเสธข้อเสนอจากเขาอยู่
“แกหมายความว่ายังไง?!” เจิ้งหยวนถามด้วยความโกรธ
“ไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษหรอก ฉันแค่รู้สึกไม่ถูกชะตาก็เลยไม่ขายของให้กับนายเท่านั้นเอง” ลู่หยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เจิ้งหยวนรู้สึกโกรธจนแทบจะเป็นบ้า เพราะเขาไม่คิดว่าลู่หยางจะกล้าตบหน้าเขากลางสาธารณชน
แต่ในระหว่างที่เจิ้งหยวนกำลังจะอาละวาดออกไปอยู่นั่นเอง เซี่ยหยู่เว่ยก็รีบส่งสายตาให้จางจื่อโป๋ในทันที ชายหนุ่มจึงรีบลากตัวสหายของตัวเองออกไปเพื่อไม่ให้เจิ้งหยวนพูดอะไรออกมาอีก
“อาจารย์ คุณพอจะขายไม้เท้านี้ให้พวกเราหน่อยได้ไหม? พวกเราต้องการมันจริง ๆ” หลานอวี่พูดอ้อนวอน
ลู่หยางมองไปยังใบหน้าของหญิงสาวขณะที่เขายังคงตอบด้วยรอยยิ้มว่า
“ไม่ขาย”
เบื่อคนโง่อย่างเจิ้งหยวนจริง ๆ นะ!! แต่ถ้าไม่มีคนแบบนี้ลู่หยางก็คงดำเนินเรื่องแบบไม่ตื่นเต้น เพราะฉะนั้นทุกคนฝืนใจอ่านกันหน่อยนะะะะ (ขอร้องงงงง)