บทที่ 14 : ช่วงเวลาฉายเเสงของหมาป่าวายุนรก!
บทที่ 14 : ช่วงเวลาฉายเเสงของหมาป่าวายุนรก!
“เซียวซิงหยูเท่จัง~”
“หล่อแล้วไง คราวนี้โดนหวังเยี่ยนอัดเละแน่”
“สัตว์อสูรของหวังเยี่ยน พ่อของเขาที่เป็นรองอธิการบดีเป็นคนเลือกให้เองกับมือเลยนะ”
“ใช่ เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ สายเลือดระดับตำนาน”
“ได้ยินว่ารองอธิการบดีหวัง ใช้เงินไปเยอะมากถึงจะได้สัตว์อสูรตัวนี้มา”
ก่อนการประลองจะเริ่ม ผู้ชมต่างก็พูดคุยกันไม่หยุด
ถ้าพูดถึงเรื่องถูกผิด ทุกคนเข้าข้างเซียวซิงหยู
แต่ถ้าพูดถึงผลการประลอง ทุกคนต่างก็มองว่าหวังเยี่ยนจะเป็นผู้ชนะ
ทันใดนั้น, กรรมการก็ประกาศ
“เชิญทั้งสองฝ่ายเข้าสู่สนามประลองได้!”
เซียวซิงหยูและหวังเยี่ยนก้าวขึ้นเวทีประลองพร้อมกัน พวกเขามองหน้ากันนิ่งๆ จากนั้นทั้งคู่ก็จับมือกันก่อนเริ่มประลอง…ซึ่งหวังเยี่ยนฉวยโอกาสกระซิบขู่
“เซียวซิงหยู ฉันจะให้แกได้รู้ว่าการเป็นศัตรูกับฉันมันเป็นยังไง การประลองครั้งนี้ ไม่ใช่แค่ฉันจะชนะแก แต่จะทำให้สัตว์อสูรของแกพิการ ให้แกไม่มีที่ยืนในวิทยาลัยชิงหลง!”
ใบหน้าของหวังเยี่ยนเต็มไปด้วยความมั่นใจและหยิ่งยโส เขาไม่แยแสเซียวซิงหยูเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ตอบกลับด้วยยิ้มอ่อนโยน
“หวังเยี่ยน หว่างขาเเกยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”
พอเซียวซิงหยูพูดถึงถึงเรื่องนี้ หวังเยี่ยนก็รู้สึกปวดแปลบขึ้นมาทันที
ตอนที่อยู่ห้องสมุด เซียวซิงหยูใช้เข่ากระแทกไข่ของเขาเต็มแรงเลย
“เซียวซิงหยู รอดูตอนแกแพ้แล้วต้องมาคุกเข่าขอโทษฉันก่อนเถอะ!”
“หวังเยี่ยน ระวังตกใจกลัวจนฉี่รดกางเกงนะ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้, หวังเยี่ยนก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ โมโหแทบคลั่ง
เมื่อเห็นทั้งสองตีฝีปากกันไม่เลิก, กรรมการก็พูดเเทรกขึ้นทันที
“ทั้งสองฝ่าย ถอยห่างกันสิบเมตร…เเล้วอัญเชิญสัตว์อสูรของตัวเองได้”
ทั้งสองถอยห่างกันเเละหวังเยี่ยนเป็นคนเริ่มอัญเชิญสัตว์อสูรก่อน
ครืนนน!!
เมื่อวงเวทของเขาปรากฏขึ้น เสือดาวตัวใหญ่ที่ถูกลมกรดห่อหุ้มก็ปรากฏตัวขึ้นบนเวที
เสือดาวตัวนี้มีเขี้ยวแหลมคมเหมือนดาบยาว เเละที่ต่างจากเสือดาวทั่วไปมากๆคือ มันมีกรงเล็บถึงหกเล็บ!
นี่คือเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ สัตว์อสูรตัวแรกที่หวังเยี่ยนทำพันธสัญญาด้วย
บนจอยักษ์ แสดงข้อมูลพื้นฐานของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ
…………
[ชื่อ]: ปิงเยี่ยน (เสือดาวฉีกฟ้าหกกงเล็บ)
[ระดับ]: ระดับเริ่มต้น (ขั้นที่หนึ่ง)
[สายเลือด]: คุณภาพระดับตำนาน
[พรสวรรค์]: น้ำแข็งทมิฬ (การโจมตีใดๆจะเพิ่มความเสียหายเยือกแข็งจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถลดความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูลง 30% และลดความเร็วในการโจมตีลง 30% ….เมื่อทักษะของเสือดาวฉีกฟ้าหกกงเล็บโจมตีถูกศัตรู…ความเร็วในการเคลื่อนที่และความเร็วในการโจมตีของเสือดาวฉีกฟ้าจะเพิ่มขึ้น 20%)
[คุณสมบัติ]: น้ำแข็ง, ลม
………
บนอัฒจันทร์ เพื่อนๆห้องสามได้มานั่งรวมกัน
ซ่งหู่และอู๋เซิงโหย่วซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องของเซียวซิงหยู ต่างก็ลุ้นแทนเพื่อนรัก
“อู๋เซิงโหย่ว ถึงชื่อของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บจะไม่มีคำว่า ‘น้ำแข็ง’ แต่มันก็เป็นสัตว์อสูรธาตุน้ำแข็งหรือเปล่า”
“ก็ใช่น่ะสิ เเละถ้าพูดถึงการแพ้ทางธาตุ น้ำแข็งก็ย่อมชนะไฟ”
“แถมสายเลือดของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บยังเป็นระดับตำนาน เหนือกว่าหมาป่าวายุนรกที่เป็นระดับมหากาพย์อีกขั้น”
“การประลองครั้งนี้ เซียวซิงหยูเสียเปรียบทุกอย่าง ตามหลักการแล้วเเทบจะไม่มีทางเอาชนะได้เลย”
…….
อีกด้าน
เซียวซิงหยูก็ได้ทำการเปิดตราอสูร เเล้วเรียกหมาป่าวายุนรกออกมาเช่นกัน
กรรร~~~
ทันทีที่หมาป่าวายุนรกปรากฏตัว มันก็เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ทันที
“โห! หมาป่าสุดเท่!”
“ถ้าพูดถึงหน้าตา หมาป่าวายุนรกชนะขาด!”
“เปลวไฟสีดำบนตัวมัน นั่นแหละคือเพลิงนรกที่สามารถสร้างความเสียหายจริงให้กับศัตรูได้!”
หมาป่าวายุนรกที่ทั้งตัวถูกปกคลุมด้วยเปลวไฟสีดำ ขาทั้งสี่มีโซ่นรกพันอยู่ เงยหน้าขึ้นเเล้วคำรามอย่างน่าเกรงขาม
ทันใดนั้น, บนจอยักษ์ก็แสดงข้อมูลของหมาป่าวายุนรกออกมา
[ชื่อ]: เฮยเฟิง (หมาป่าวายุนรก)
[ระดับ]: ระดับเริ่มต้น (ขั้นที่หนึ่ง)
[สายเลือด]: คุณภาพระดับมหากาพย์
[พรสวรรค์]: เพลิงนรก (เพิกเฉยเกราะป้องกันของศัตรูเเละสร้างความเสียหายจริง)
[คุณสมบัติ]: ไฟ, ลม
……..
เมื่อนำข้อมูลของสัตว์อสูรทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน ทุกคนจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเซียวซิงหยูกับหวังเยี่ยนเป็นนักเรียนใหม่เหมือนกัน เป็นปรมาจารย์อสูรระดับ 1 ดวงดาวเหมือนกัน…ดังนั้นสัตว์อสูรของทั้งคู่จึงมีระดับเท่ากันคือระดับเริ่มต้นขั้นที่ 1
แต่นอกจากระดับที่เท่ากันแล้ว หมาป่าวายุนรกก็ไม่มีอะไรเหนือกว่าอีกเลย
ไม่ว่าจะเป็นสายเลือดระดับตำนานที่เหนือกว่าระดับมหากาพย์ หรือการแพ้ทางธาตุ โดยลมจะหักล้างกับไฟ…แต่น้ำแข็งชนะไฟ
ก่อนจะเริ่มการประลอง ไม่มีใครคิดว่าเซียวซิงหยูจะสามารถชนะได้
กรรมการมองไปที่ซูหรูหยานที่นั่งอยู่บนอัฒจันทร์
เมื่อเห็นซูหรูหยานพยักหน้า, กรรมการก็ประกาศเสียงดังลั่น
“เริ่มการประลองได้!”
สิ้นเสียงกรรมการ หวังเยี่ยนก็ไม่มีความลังเลใดๆ
เขาตั้งใจจะชิงความได้เปรียบตั้งแต่เริ่มต้น
เเละเวทีการประลองนี้มีพิธีกรที่ยืนอยู่บนแท่นบรรยายข้างเวที พร้อมพูดผ่านไมโครโฟน (ต้องมีด้วยหรือ (-_-))
“สวัสดีอาจารย์และนักเรียนทุกท่าน ผมหยางซู่ พิธีกรของการประลองในวันนี้ครับ”
“ตอนนี้การประลองเริ่มขึ้นแล้ว เเละหวังเยี่ยนเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน!”
“ในยกเเรกนี้ เขาได้ให้เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บใช้ท่าไม้ตาย ‘กรงเล็บน้ำแข็งฉีกฟ้า’ ทันที!”
“ดูเหมือนว่าหวังเยี่ยนจะมั่นใจว่าจะสามารถชนะการประลองในครั้งนี้มากเลยนะครับ!”
เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บกระโดดขึ้นสูง กรงเล็บทั้งหกของมันเต็มไปด้วยพลังเยือกแข็งเเละพุ่งเข้าใส่หมาป่าวายุนรก
“เฮยเฟิง, หลบหลีกเต็มกำลัง!”
หลังจากนั้น เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หนึ่งนาทีที่ผ่านมา สัตว์อสูรทั้งสองปะทะกันไปแล้วกว่าสิบแปดยก
ณ ขณะนี้…ที่ไหล่ หลัง และขาหลังของหมาป่าวายุนรกมีบาดแผลจากความเย็น เเละแก้มซ้ายก็ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง
เมื่อเห็นเช่นนี้, หยางซู่ก็พูดผ่านไมโครโฟนด้วยน้ำเสียงเสียดาย
“เฮ้อ…นี่แหละผลของการแพ้ทางธาตุ”
“น้ำแข็งชนะไฟ”
“พรสวรรค์ ‘น้ำแข็งทมิฬ’ ของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ สามารถสยบพรสวรรค์ ‘เพลิงนรก’ ของหมาป่าวายุนรกได้อย่างง่ายดาย”
ยิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อเท่าไหร่…เปลวไฟสีดำบนตัวหมาป่าวายุนรกก็ยิ่งหรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด
เเละเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บก็มีนิสัยเหมือนกับเจ้าของ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความยโสโอหัง
“การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อ!”
“เสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บโจมตีสิบสามครั้งติดเลย!”
“หมาป่าวายุนรกกำลังเสียเปรียบ!”
หลังจากพากย์มาสักระยะ, หยางซู่ก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“จริงๆแล้วผมไม่เข้าใจว่าทำไมเซียวซิงหยูไม่ยอมลองสวนกลับแบบเสี่ยงตายดูบ้าง”
……
อีกด้านบนอัฒจันทร์
เพื่อนๆห้องสามต่างก็กำลังเป็นห่วงเซียวซิงหยู
อู๋เซิงโหย่วหันมาถามเฉินฉีเหนียนด้วยความกังวล
“อาจารย์ครับ เซียวซิงหยูยังมีโอกาสชนะไหมครับ?”
เฉินฉีเหนียนลูบคาง พรางหรี่ตาลงเล็กน้อย
“ตามหลักการแล้ว เซียวซิงหยูต้องลองสวนกลับแบบเสี่ยงตายถึงจะมีโอกาสชนะ”
“แต่พวกนายก็เห็น ตั้งแต่เริ่มประลองมา เซียวซิงหยูตั้งรับอย่างเดียวโดยไม่ยอมให้หมาป่าวายุนรกสวนกลับเลย”
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป อีกไม่เกินหนึ่งนาที การประลองก็คงจะจบลงเเล้ว”
เฉินฉีเหนียนมีประสบการณ์มาก เขาจึงพอจะคาดการณ์ได้
เเละสถานการณ์ในสนามก็เป็นไปตามที่เขาคาดการณ์ไว้
หนึ่งนาทีต่อมา
หมาป่าวายุนรกถอยร่น พร้อมแสดงสีหน้าเจ็บปวด
ขาหน้าซ้ายของมันถูกแช่แข็ง จนเเทบจะยกไม่ขึ้น
เมื่อเห็นเช่นนี้, หยางซู่ก็รีบอธิบายทันที
“ทุกท่านครับ นี่แหละการปราบปรามสายเลือดและการแพ้ทางธาตุ”
“การประลองครั้งนี้ใกล้จะจบลงแล้ว…”
“หืม…เดี๋ยวก่อน!”
“เซียวซิงหยูเหมือนกำลังจะสวนกลับเเล้ว!”
หยางซู่สังเกตเห็นแววตาของเซียวซิงหยูที่กำลังเปลี่ยนไป
ส่วนหวังเยี่ยนยังไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะมีภัยมาถึงตัว
“เซียวซิงหยู! ฉันจะทำให้สัตว์อสูรของแกพิการ!”
“ปิงเยี่ยน(ชื่อสัตว์อสูร) ใช้ท่า ‘เยือกแข็งทำลายล้างสวรรค์!”
‘เยือกแข็งทำลายล้างสวรรค์’ คือท่าไม้ตายของเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ
เเละเมื่อเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บได้ยินคำสั่งของเจ้านาย
มันก็ได้รวบรวมพลัง เเละพ่นลูกบอลน้ำแข็งขนาดใหญ่ออกมา
บูมมมมม!!!
ลูกบอลน้ำแข็งนี้พุ่งผ่านกลางอากาศ เเละตรงมายังหมาป่าวายุนรกอย่างรวดเร็ว!
เมื่อเห็นเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ตะโกนก้อง
“เฮยเฟิง! ‘เงาพรางตัว’!”
หมาป่าวายุนรกคำรามลั่น ร่างกายของมันกลายเป็นหมอกสีม่วงดำ หายลงไปใต้ดิน เหลือไว้เพียงเงาสีดำสนิทอบนพื้น
ตอนนี้ พิธีกรหยางซู่ตกใจสุดขีด
“ธาตุมืด!?”
“หมาป่าวายุนรกมีคุณสมบัติที่สามคือธาตุมืด!”
ทุกคนบนอัฒจันทร์ลุกขึ้นยืนด้วนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“เหลือเชื่อ! ที่แท้หมาป่าวายุนรกก็เป็นสัตว์อสูรสามธาตุ!”
………………..