ตอนที่แล้วบทที่ 12 : ทักษะ​การต่อสู้​ธาตุ​มืด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 14 : ช่วงเวลาฉายเเสงของหมาป่า​วายุ​นรก​!

บทที่ 13 : ปะทะหวังเยี่ยน!


บทที่ 13 : ปะทะหวังเยี่ยน!

ภายในห้องสมุดชิงหลง บรรยากาศตึงเครียดราวกับจับต้องได้ เด็กผู้หญิงหลายคนขดตัวอยู่ตามมุมห้อง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้น

ส่วนเซียวซิงหยูนั่งอ่านหนังสืออย่างเฉยเมยเเละไม่สะทกสะท้าน

“นายน้อยหวัง ไอ้เด็กนั่นมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ผมไปสั่งสอนมันให้เองครับ!”

ลูกน้องคนหนึ่งของหวังเยี่ยนขันอาสา แล้วเดินอาดๆไปหาเซียวซิงหยู

“นี่แก…อยู่ห้องไหน?”

เซียวซิงหยูไม่ตอบ เขาขี้เกียจจะเสียเวลากับลูกกระจ็อกเเบบนี้

“เห้ย! ทำเป็นหยิ่งนะมึง! รู้ไหมว่าวันนี้นายน้อยหวังของเราจองห้องสมุดทั้งหลังไว้เเล้ว…อยากอยู่รอดในสถาบัน​นี้ก็ไสหัวไปซะ!”

ลุงสาม บรรณารักษ์รีบวิ่งมาดึงแขนเสื้อเซียวซิงหยู แล้วกระซิบเบาๆ

“น้องเซียว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทำเก่ง รีบออกไปจากที่นี่เถอะ!”

“ลุงสาม ไอ้หน้าปลวกคนนั้นมันเป็นใครหรือ?”

“เขาชื่อหวังเยี่ยน ลูกชายของรองอธิการบดีหวังตงเซิง!”

“อ้อ ที่แท้ก็มีพ่อเป็นรองอธิการบดี ถึงว่ากร่างเชียว” เซียวซิงหยูยิ้มเย็น

“นายไม่มีเส้นสาย อย่าไปยุ่งกับมันเลย เชื่อลุง รีบหนีไปเถอะ!” ลุงสามเตือนด้วยความหวังดี

เเต่ขณะที่​ลุงสามกำลังจะดันเซียวซิงหยูออกไป หวังเยี่ยนก็ปรากฏตัวขวางหน้ากระทัน​หัน​

ทันใดนั้น, เขาก็เหลือบมองป้ายชื่อบนหน้าอกของเซียวซิงหยู

“ห้องสาม เซียวซิงหยูสินะ ฉันให้เวลาแกให้ไสหัวไปตั้งนาน แต่แกกลับอยู่หาเรื่องใส่ตัว งั้นก็คุกเข่าขอโทษซะ!”

“แล้วทำไมฉันต้องทำอย่างนั้นด้วยล่ะ?” เซียวซิงหยูถามอย่างใจเย็น

“ก็เพราะพ่อของฉันคือหวังตงเซิง!”

หวังเยี่ยนพูดชื่อพ่อออกมาอย่างภาคภูมิใจ

เหมือนคนคนนี้จะทำเเบบนี้ทุกที่ทุกเวลา

หวังตงเซิง รองอธิการบดีวิทยาลัยชิงหลง

เขามีอำนาจรองจากอธิการบดีซูหรูหยาน แถมยังเป็นคนดูแลประวัติของนักเรียนอีก

สำหรับคนไม่มีเงินเเละไม่มีเส้นอย่างเซียวซิงหยู หวังตงเซิงมีเป็นร้อยวิธีที่จะสามารถ​ไล่เขาออกได้ทันที​

“เซียวซิงหยู! คุกเข่าขอโทษฉันซะ!” หวังเยี่ยนกดดันอีกครั้ง

“คุกเข่าพ่อมึงสิ!”

เซียวซิงหยูไม่พูดมากอีกต่อไป

เขายกเข่าขึ้นแล้วกระแทกเข้าหว่างขาของหวังเยี่ยนอย่างจัง

ปั่กกกกก!!!

“โอ๊ยยยย!!!”

เสียงร้องโหยหวนดังลั่นห้องสมุด

“นายน้อยหวัง! เป็นอะไรรึเปล่าครับ!?”

“ไข่แตกหรือเปล่า ไปโรงพยาบาลกันเถอะ!”

“เซียวซิงหยู! แกกล้าทำร้ายฉัน! แกตายแน่!”

……

อีก​ด้าน​ ณ อาคารเรียนปีหนึ่งห้องสาม

เสียงกริ่งหมดคาบดังขึ้น เฉินฉีเหนียนจึงวางชอล์กแล้วพูดว่า

“นักเรียนทุกคน บ่ายนี้เราจะมีคาบเรียนภาคปฏิบัติ เตรียมสัตว์อสูรของตัวเองให้พร้อม อย่าขาดล่ะ”

ทันใดนั้น เสียงโหวกเหวกก็ดังมาจากทางเดิน

“ห้องสมุดชิงหลงเกิดเรื่อง!”

“พวกนายได้ยินหรือเปล่า เซียวซิงหยูห้องสาม กำลัง​ตีกับหวังเยี่ยนห้องหนึ่ง”

“หวังเยี่ยน มันลูกชายรองอธิการบดีไม่ใช่เหรอ? มีใครกล้าหาเรื่องมันด้วยหรอ?”

“ไป…ไปดูกัน!”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เฉินฉีเหนียนก็ได้เเต้ถอนหายใจในใจ

ไอ้เด็กเวรนี่ เพิ่งเข้าเรียนได้วันเดียวก็ก่อเรื่องซะแล้ว!

……

หน้าห้องสมุดชิงหลง

เซียวซิงหยูถูกลูกน้องของหวังเยี่ยนรุมล้อม…ส่วนหวังเยี่ยนกุมหว่างขา ตาแดงก่ำ พร้อมตะคอกเสียงต่ำ

“รุมมัน! หักขาไอ้เด็กนี่ซะ!”

คนมุงดูเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ, บรรยากาศเริ่มตึงเครียดถึงขีดสุด

เเต่ทันใดนั้นเอง

เสียงเย็นชาหนึ่งก็ดังขึ้นทันที​

“กล้าทะเลาะวิวาทกันในวิทยาลัย ไม่เคารพกฎระเบียบกันเลยรึไง!?”

หญิงสาวผมแดงสะสวยสง่าคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางฝูงชน

เเละเธอคือซูหรูหยาน อธิการบดีของวิทยาลัยชิงหลง

เมื่อเห็นเธอ, ความกร่างของหวังเยี่ยนก็ลดลงอย่างรวดเร็ว​

“ท่านอธิการบดีซู”

ซูหรูหยานจ้องหวังเยี่ยนเขม็ง

“ในฐานะลูกชายรองอธิการบดี เธอน่าจะทำตัวให้เป็นแบบอย่างในการเคารพกฎระเบียบ แต่นี่เธอกลับมาทะเลาะวิวาทเสียเอง…เเบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน!?”

หวังเยี่ยนกลัวซูหรูหยานลงโทษ, เขาจึงรีบโยนความผิดทันที​

“ท่านอธิการบดีครับ เรื่องนี้ผมไม่ผิด! เซียวซิงหยูเตะหว่างขาผมก่อน ผมเลยต้องสวนกลับ!”

ทุกสายตาจับจ้องไปที่เซียวซิงหยู

ซูหรูหยานเองก็เพิ่งสังเกตเห็นเซียวซิงหยูเป็นครั้งแรก เธอจึงเอ่ยถามทันที​

“มันเกิดอะไรขึ้นกันเเน่?”

เมื่อ​ได้ยิน​คำถามนี้ เซียวซิงหยูก็เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องสมุดทั้งหมด​ให้ทุกคน​ได้ฟัง

……..

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง…”

“หวังเยี่ยนนี่มันอวดดีเกินไป แค่เป็นลูกชายรองอธิการบดีก็คิดว่าจะรังแกผู้หญิงได้งั้นเหรอ?”

“เซียวซิงหยู ฉันสนับสนุนนาย!”

เรื่องนี้หวังเยี่ยนผิดเต็มๆ, เซียวซิงหยูเลยได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ

เเละทันใดนั้น, เฉินฉีเหนียนก็รีบมาถึงที่เกิดเหตุ

“ท่านอธิการบดีครับ ผมได้สอบถามเรื่องราวทั้งหมดจากบรรณารักษ์แล้ว หวังเยี่ยนเป็นฝ่ายทำผิดกฎก่อนจริงครับ”

ซูหรูหยานมองเฉินฉีเหนียน แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“อาจารย์เฉิน นี่คุณกำลังเข้าข้างนักเรียนของตัวเองอยู่รึเปล่า?”

“เอ่อ…ผมเปล่านะครับ”

“การทะเลาะวิวาทในวิทยาลัย ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องถูกลงโทษ และต้องขอโทษซึ่งกันและกัน”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, หวังเยี่ยนก็ทำท่าแข็งกร้าวขึ้นมาทันที

“ให้ผมไปขอโทษมันเหรอ?

…ไม่มีทาง!”

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, ซูหรูหยานก็หันไปมองเซียวซิงหยู

“แล้วนายล่ะ?”

“ผมไม่ขอโทษหมาหรอก”

ยิ่ง​ได้ยิน​เเบบนี้, หวังเยี่ยนก็ยิ่งเดือด

“เซียวซิงหยู! แกว่าใครเป็นหมา?”

“ฉันไม่ได้​เอ่ยชื่อเสียหน่อย…แล้วแกจะร้อนตัวไปทำไมล่ะ?”

เมื่อ​เห็น​ว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งคู่ถึงจุดแตกหักแล้ว ซูหรูหยานจึงตัดสินใจทันที​

“ในเมื่อทั้งคู่ไม่ยอมขอโทษ ก็จัดการตามกฎข้อที่ 8”

กฎข้อที่ 8 ของวิทยาลัย:

[นักเรียนมีเรื่องขัดแย้งกัน ไม่ว่าใครถูกใครผิด ต้องแก้ปัญหาด้วย “การประลองบนเวที”]

[ฝ่ายแพ้ต้องขอโทษฝ่ายชนะ]

กฎข้อนี้เป็นกฎที่นักเรียนบ่นกันมากที่สุด…เพราะดูเผินๆแล้วมันไม่มีความยุติธรรมเอาซะเลย

อย่างในกรณีของเซียวซิงหยูกับหวังเยี่ยน ทุกคนต่างเข้าข้างเซียวซิงหยู ซึ่งแสดงว่าเซียวซิงหยูไม่ได้ทำอะไรผิด

คนที่ผิดคือหวังเยี่ยน แต่ถ้าทำตามกฎข้อที่ 8 หากเซียวซิงหยูแพ้หวังเยี่ยนในการประลอง เซียวซิงหยูก็ต้องขอโทษหวังเยี่ยนอยู่ดี

“กฎข้อที่ 8 นี่มันไร้หัวใจสิ้นดี!”

“หวังเยี่ยนผิดชัดๆ ทำไมต้องมาประลองตัดสินว่าใครต้องขอโทษใครด้วย?”

“ได้ยินว่าสัตว์อสูรที่หวังเยี่ยนทำพันธสัญญาด้วยคือเสือดาวฉีกฟ้าหกกรงเล็บ ที่มีสายเลือดระดับตำนานเชียวนะ”

“งานนี้เซียวซิงหยูคงยากที่จะชนะได้”

……

สิบห้านาทีต่อมา

บนลานประลองด้านหลังอาคารเรียนวิทยาลัยชิงหลง

ที่นี่เป็นสถานที่จัดการแข่งขันปรมาจารย์​อสูร...หากนักเรียนคนไหนทำผิดกฎข้อที่ 8 ก็จะมาขึ้นเวทีที่นี่

รอบๆเวทีตอนนี้​มีผู้คนมากมาย

เซียวซิงหยูคือม้ามืดอัจฉริยะที่เป็นข่าว ส่วนหวังเยี่ยนคือลูกชายรองอธิการบดี

แค่ตัวตนของทั้งคู่ก็ดึงดูดความสนใจได้มากมายแล้ว

ดังนั้น, นักเรียนทั้งวิทยาลัย​จึงพากันมาดู โดยมีซูหรูหยานนั่งมองอยู่บนอัฒจันทร์

……..

ที่ห้องเตรียมตัว

เฉินฉีเหนียนตบไหล่เซียวซิงหยู แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เซียวซิงหยู สัตว์อสูรของหวังเยี่ยนมีสายเลือดที่เหนือกว่าหมาป่าวายุนรกของเธอ ถ้าเธอแพ้มันก็ไม่แปลกหรอก…อย่าเสียใจไปล่ะ”

“อาจารย์เฉิน ทำไมอาจารย์ถึงคิดว่าผมจะแพ้ล่ะครับ?” เซียวซิงหยูถามกลับ

“ก็สายเลือดมันต่างกันไง อาจารย์​พูดชัดเจนแล้วนะ”

“อาจารย์เฉิน ผมจะชนะการประลองครั้งนี้ภายในสามนาที”

“อะไรนะ!!”

“เธอไปเอาความ​มั่นใจเเบบนี้​มาจากไหนเนี่ย!?”

………………

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด