บทที่ 1020: ความสับสนของกองทัพเรือ สวรรค์กับนรกต่างกันอย่างไร?
[แปลโดยฝีมือ...ยักษาแปร...มาติดตามได้ที่แฟนเพจหรือเพื่อติดตามเอาข่าวสารได้นะ\]
[Thai-novelจะทำการลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ เป็นจำนวน 5 ตอน แต่เรื่องราคาแพงกว่าที่อื่นนิดหน่อย]
[หลังแปลจบ คิดว่าจะมีการเกลาคำเบื้องต้น แก้คำผิด ปรับสำนวนให้สละสลวย เทียบคำต่อคำ ขอบคุณที่ให้การสนับสนุนกันเสมอมานะครับ]
บทที่ 1020: ความสับสนของกองทัพเรือ สวรรค์กับนรกต่างกันอย่างไร?
“ขอถามคุณลูฟี่หน่อย ในฐานะโจรสลัดหน้าใหม่ อะไรทำให้คุณกล้าบุกเข้าไปในมารีนฟอร์ดครับ?”
“หา? ก็เพื่อช่วยเอสไง ฉันไม่มีเหตุผลอะไรมากมายหรอก”
“เอ่อ คือว่า... คุณมีความคิดเห็นยังไงกับดราก้อน? เขาน่ะเป็นอาชญากรที่เลวร้ายที่สุดในโลกตามที่รัฐบาลโลกประกาศไว้ จนถึงตอนนี้ได้โค่นล้มรัฐบาลของประเทศสมาชิกไปหลายประเทศแล้ว”
“การที่คุณเป็นโจรสลัด ได้รับอิทธิพลจากเขามาบ้างไหม? การที่อิวานคอฟ แห่งกองทัพปฏิวัติ ช่วยคุณแหกคุก เป็นคำสั่งจากพ่อของคุณรึเปล่าครับ?”
“เรื่องนั้น... จริง ๆ แล้วฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองมีพ่อ เพราะฉันไม่เคยเจอเขาเลย”
บทสัมภาษณ์นี้แปลกมาก คำตอบของลูฟี่ทำให้นักข่าวตรงหน้าปวดหัว ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด จะบอกว่าไม่มีเหตุผลก็ได้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังสัมภาษณ์คน หรือหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยด้วงกว่าง
เพราะหลังจากที่ด้วงกว่างตัวนั้นเอาไม้เคาะหัวลูฟี่ ลูฟี่ก็เปลี่ยนท่าทาง ยกไหล่ขึ้นมาเผยให้เห็นสัญลักษณ์บนไหล่ เหมือนหุ่นเชิดไม่มีผิด
ลวดลายสักนั้นคือข้อความที่เขาส่งถึงเพื่อน ๆ แค่ภาพนี้ได้ลงหนังสือพิมพ์ เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญแล้ว
ถึงแม้ว่าผลการสัมภาษณ์จะไม่น่าพอใจ แต่นักข่าวก็ไม่ได้รู้สึกท้อแท้ เขามีทักษะการบิดเบือนข้อเท็จจริงขั้นเทพอยู่แล้ว แค่ตัดต่อคำพูดของลูฟี่บางส่วน ก็สามารถสร้างข่าวที่ดึงดูดความสนใจได้
แต่เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองโมโหจนตาย เขาจึงรีบจบการสัมภาษณ์นี้โดยเร็ว
ณ เวลานี้ มารีนฟอร์ดกลายเป็นซากปรักหักพัง ชาวเมืองที่อพยพออกไปก่อนสงครามก็ไม่ได้ย้ายกลับมา สงครามหลายครั้งทำให้ที่นี่กลายเป็นเพียงเศษซาก
พูดเกินจริงไปก็ได้ว่า ที่นี่จะสร้างบ้านก็ไม่ต้องลงเสาเข็มแล้ว เพราะมีเสาเข็มสำเร็จรูปเต็มไปหมด
หากต้องการฟื้นฟูมารีนฟอร์ด สิ่งแรกที่ต้องทำคือถมทะเลสร้างแผ่นดินใหม่ เติมเต็มส่วนที่เสียหายของเกาะ
เนื่องจากยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะพัฒนาต่อไปอย่างไร หรือจะย้ายที่ตั้งกองทัพเรือหรือไม่ ภายในกองทัพเรือจึงยังไม่มีแผนการที่ชัดเจน
ตอนนี้งานศพของเซเฟอร์เพิ่งจบลง กองทัพเรือได้จัดงานศพให้เซเฟอร์ในระดับพลเรือเอก และการตายของเซเฟอร์ยิ่งกระตุ้นความแค้นของกองทัพเรือที่มีต่อเหล่าโจรสลัด
หลังจากพักฟื้น กองทัพเรือก็เริ่มระดมพลเพื่อจัดการกับเหล่าโจรสลัดที่เพิ่มจำนวนขึ้น แต่ก็ได้ผลเพียงเล็กน้อย โจรสลัดที่ออกทะเลมีมากเกินไป แม้ว่าจะขับเคลื่อนด้วยความแค้น พวกเขาพยายามมากขึ้นแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้ทะเลกลับไปสงบสุขเหมือนก่อนที่หนวดขาวจะตายได้
ในโลกใหม่ก็เช่นกัน เขตแดนชั้นในของอาณาเขตของผมแดง บิ๊กมัม และไคโด ยังคงสงบสุข
แต่แม้แต่เขตชายแดนของทั้งสามคนนี้ก็เริ่มถูกโจมตีจากเหล่าโจรสลัดที่บ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนดินแดนที่เหลืออยู่ของกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
สิ่งเดียวที่กลุ่มโจรสลัดหนวดขาวที่เหลืออยู่สามารถรับมือได้ก็คือดินแดนเหล่านี้
ความวุ่นวายในโลกใหม่จะต้องดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าเลือดจะไหลนองมากพอ จนกว่าพวกหัวรั้นจะชนกันจนหัวแตก เลือดสาด กระแสลมนี้ถึงจะสงบลงได้ชั่วคราว
บทสัมภาษณ์ของลูฟี่สรุป "ความผิด" ของเขาที่เริ่มต้นจากอิมเพลดาวน์ ทำให้เขากลายเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดรุ่นเลวร้ายโดยตรง ความเสียหายที่กลุ่มโจรสลัดรุ่นเลวร้ายคนอื่น ๆ ก่อขึ้นรวมกันอาจจะเทียบไม่ได้กับการกระทำของลูฟี่ในครั้งนี้
และผลการสัมภาษณ์ครั้งนี้ทำให้บางคนรู้สึกไม่สงบใจ เช่น บางคนในกองทัพเรือ
“การ์ป! ดูหลานชายนายสิ! ดูสิ่งที่เขาทำ!”
ข่าวในหนังสือพิมพ์ทำเอาเซ็นโงคุแทบจะสติแตก ถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมใจที่จะลาออกจากตำแหน่งแล้ว แต่ผู้ที่จะมารับช่วงต่อยังไม่ได้ข้อสรุป
เซ็นโงคุเองอยากจะให้คุซันเป็นคนสืบทอดตำแหน่ง การ์ปและเหล่าทหารระดับสูงคนอื่น ๆ ก็เห็นด้วย แต่เบื้องบนกลับเล็งอาคาอินุไว้ แถมเหล่าทหารระดับกลางหลายคนก็เริ่มเอนเอียงไปทางสายเหยี่ยวหลังจากการตายของเซเฟอร์ ทำให้เสียงสนับสนุนอาคาอินุก็ดังไม่แพ้กัน
ปัญหาคือ ทั้งสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร ทำให้เรื่องนี้ยังคาราคาซัง สุดท้ายเซ็นโงคุก็ต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องนี้อยู่ดี
คราวนี้ การ์ปไม่ได้แอบงีบหลับเหมือนทุกที แต่ก็นั่งเคี้ยวข้าวเกรียบเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร
"คนในตระกูลนายนี่มันไม่มีใครปกติบ้างเลยรึไง?! ให้สัมภาษณ์แบบนี้มันต้องการอะไรกันแน่? แล้วเจ้ามอร์แกนส์นั่นมันก็บังอาจ ช่างเถอะ ยังไงมันก็ไม่มีอะไรที่มันไม่กล้าทำอยู่แล้ว"
เซ็นโงคุถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย
เขารู้ดีว่าการ์ปออมมือในสงครามมารีนฟอร์ด ต่อให้ต้องตายเขาก็ไม่เชื่อว่าลูฟี่จะต่อยการ์ปกระเด็นได้ด้วยหมัดเดียว
แต่เซ็นโงคุกลับพบปัญหาที่ร้ายแรงกว่านั้น ในสถานการณ์แบบนั้น ต่อให้การ์ปเอาจริง ก็คงไม่สามารถยุติสงครามได้อยู่ดี นี่สิคือสิ่งที่เขาเป็นกังวล
ก็เพราะพวกโจรสลัดมันไม่มีทางร่วมมือกันอย่างจริงใจ แต่ถ้าหากเป็นอย่างที่รัฐบาลโลกคาดการณ์ ว่าแชงค์สกำลังวางแผนสร้างพันธมิตรโจรสลัดขนาดยักษ์ นั่นแหละปัญหาใหญ่จะมาเยือน
.
ข่าวจากหนังสือพิมพ์แพร่สะพัดไปถึงกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ทุกคนได้เห็นหน้าลูฟี่ในข่าว
ต้องยอมรับว่า คุมะทุ่มเทอย่างมากเพื่อลูกชายของดราก้อน
หลังจากที่ได้พบกับพวกลูฟี่ที่ทริลเลอร์บาร์ก คุมะก็เริ่มสืบหาข้อมูลของพวกเขา และในช่วงเวลาสุดท้าย ก็จัดการส่งพวกเขาไปยังสถานที่ที่เหมาะสม
ราวกับคุมะมองเห็นอนาคต เขาส่งทุกคนไปยังที่ที่ควรจะไป
ช็อปเปอร์ไปอยู่ที่อาณาจักรโทริโนบนเกาะนกยักษ์ แฟรงกี้ไปอยู่ที่เกาะแห่งอนาคต นามิไปอยู่ที่เกาะแห่งท้องฟ้าเวเธอร์เรีย ทุกคนได้พบกับสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง
แต่เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว ประสบการณ์ของคนอื่น ๆ กลับยิ่งน่าอัศจรรย์กว่า
อย่างเช่น ซันจิกับบอน เครย์ สองคนนี้ถูกคุมะส่งไปยังที่เดียวกัน นั่นคืออาณาจักรคามาบัคคา
"ฉันจะหนีออกจากนรกนี่ให้ได้!"
"ที่นี่มันสวรรค์ชัด ๆ !"
สำหรับซันจิ คามาบัคคาที่ไม่มีผู้หญิงแท้ ๆ คือขุมนรก ไม่ใช่แค่เพราะสัญญากับเพื่อนร่วมกลุ่ม ต่อให้ไม่มีสัญญานั้น เขาก็ต้องหนีออกจากเกาะนี้อยู่ดี
แต่สำหรับบอน เครย์ ที่นี่คือสวรรค์ในฝัน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ในใจเขา
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาเสียดาย คือไม่ได้เจอกับราชินี ในขณะที่ซันจิดิ้นรนเอาชีวิตรอด บอน เครย์กลับกลมกลืนกับชาวคามาบัคคา ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
พออิวานคอฟกลับมาที่อาณาจักรคามาบัคคา บอน เครย์ก็ยิ่งตื่นเต้น เข้าสู่โหมดติ่งแบบเต็มตัว
หลังจากได้รับข่าวของลูฟี่ ซันจิกับบอน เครย์ก็ตัดสินใจฝึกฝนวิชาที่อาณาจักรคามาบัคคา แต่ก่อนหน้านั้น ซันจิมีปัญหาใหญ่ที่ต้องแก้ไข
เนื่องจากเส้นทางการเดินทางของกลุ่มหมวกฟางเปลี่ยนไป ทำให้ไม่ได้มีค่าหัวกันทุกคน บอน เครย์ยังพอมีใบประกาศจับเก่า ๆ แถมยังเป็นกะเทยทำให้เข้ากับที่นี่ได้ง่าย ในขณะที่ซันจิกำลังกลุ้มใจ เขาก็สนิทกับชาวคามาบัคคาเป็นอย่างดีแล้ว
แต่ซันจิแตกต่างออกไป
อิวานคอฟจึงถามขึ้นว่า
"นายบอกว่าเป็นลูกเรือของหมวกฟางรึ?"
"ใช่"
"ถ้าอย่างนั้น นายจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าเป็นลูกเรือของหมวกฟาง?"
ติดตามผู้แปลได้ที่แฟนเพจ:ยักษาแปร ผู้แปลลงแค่ในMy-NovelและThai-novelเท่านั้น หากอ่านที่อื่นรบกวนมาสนับสนุนทีนะครับผม หรือจะมากดไลก์แฟนเพจก็ได้ กระซิกกระซิก ;-;_