ตอนที่แล้วตอนที่ 8 เสริมพลัง เวทมนตร์?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 ความรู้คือพลัง

ตอนที่ 9 ความสนใจของคิงพิน


นอกจากนี้ การใช้ปืนสังหารนั้นมีประสิทธิภาพที่มากเกินไป

ปี้เซียวยังคงสนุกกับความรู้สึกของการฆ่าด้วยปืนในชั่วพริบตาเช่นกัน

ยังมีวิธีฆ่าที่ง่ายกว่าด้วยระเบิดทรงพลังที่สังเคราะห์จากสารเคมีเพียงไม่กี่ลูกสามารถจัดการกับผู้คนได้จำนวนมาก

แต่บ่อยครั้งในหมู่แก๊งเหล่านี้ นอกจากสมาชิกแก๊งเองแล้ว ยังมีผู้หญิงและคนบริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องอื่นๆ เข้ามาพัวพันด้วย

ปี้เซียวไม่อาจลงมือฆ่าคนเหล่านั้นได้ เขาไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคทางจิตใจของเขาในเรื่องนี้

เขาไม่ต้องการเป็นคนที่ไร้อุดมการ โดยเฉพาะเมื่อโลกนี้ยังมีจอมเวทสูงสุดอย่างแอนเชียนต์วัน เขาไม่แน่ใจว่าหากเขากลายเป็นเทพนักฆ่าไร้เมตตา จอมเวทหญิงหัวโล้นคนนั้นจะโผล่มาจัดการเขาในทันทีหรือไม่

ปี้เซียวรู้ว่าเขายังสามารถก่อปัญหาได้ในตอนนี้ ทุกวินาทีเขาเหมือนกำลังเต้นรำบนเส้นทางแห่งความตาย

ว่าแอนเชียนต์วันจะค้นพบเขาหรือไม่ ปี้เซียวไม่รู้ แต่เขาคิดว่ามีโอกาสสูงที่จะถูกสังเกตเห็น

เมื่อการกระทำของปี้เซียวเริ่มใหญ่โตขึ้น มันก็จะส่งผลกระทบต่ออนาคตมากขึ้นไปด้วย จอมเวทอย่างแอนเชียนต์วันซึ่งชอบยุ่งกับกาลเวลา จะไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้อย่างไร?

สำหรับการค้นหาเขา ปี้เซียวไม่เชื่อว่ามันจะยากเกินไปสำหรับแอนเชียนต์วัน

เขาคิดว่าแอนเชียนต์วันยังไม่พบเขา เพราะบางทีดอร์มัมมูที่ปรารถนาในจักรวาลนี้อยู่ตลอดเวลากำลังทำให้แอนเชียนต์วันยุ่ง หรือเธออาจจะแค่เฝ้ามองเขาอยู่ในเงามืดเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ ปี้เซียวจึงคิดว่าการเก็บตัวไว้ในขณะที่เขายังอ่อนแออยู่เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อที่จะคู่ควรกับการเป็นตำนาน คนๆ หนึ่งต้องบรรลุถึงระดับของสกายฟาเธอร์

พิจารณาทิศทางที่เขาแสดงออกมาในตอนนี้ ในอนาคตเขาจะมุ่งมั่นในการสังหารมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ ปีศาจ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อโลก

สิ่งสำคัญคือต้องสร้างความประทับใจที่ดีกับแอนเชียนต์วันตั้งแต่เริ่มต้น

ท้ายที่สุด เขาก็ตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ

ด้วยความสนใจของเขาเอง การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคามาร์-ทาจและแอนเชียนต์วันถือเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม ช่องทางในการได้มาซึ่งความรู้ทางเวทมนตร์จะปลอดภัยและมั่นคง ซึ่งจะมีได้ผ่านคามาร์-ทาจเท่านั้น แน่นอนว่ายังมีดาร์คโฮลด์ แต่ของสิ่งนี้มีดีบัฟที่น่าสะพรึงอยู่ไม่น้อย

เพราะการศึกษาสิ่งนี้และการเรียนรู้เวทมนตร์ด้านมืดข้างใน มันง่ายมากที่จะทำให้วิญญาณของตนถูกกัดกร่อน หรือแม้กระทั่งดึงดูดความสนใจของเทพโบราณ

…มันไม่คุ้มเลยจริงๆ

พิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ ปี้เซียวรู้ว่าเขาควรจะเริ่มวางแผนในขั้นตอนต่อไปตั้งแต่เนิ่นๆ จากระดับชีวิตของเขาในตอนนี้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะถูกกองกำลังทหารขนาดใหญ่ล้อมและถูกถล่มด้วยขีปนาวุธ ความสามารถในการต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวของเขาก็ถือได้ว่าติดอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว

ตราบใดที่เขาไม่ไปยั่วให้พวกอย่างศาสตราจารย์เอ็กซ์หรือแม็กนีโตโกรธ ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนทั่วไปจะเอาชนะเขาได้

แน่นอนว่า ปี้เซียวจะไม่หยิ่งยโสหรือแสดงตัวโดดเด่นเกินไป ก่อนที่เขาจะเชื่อมั่นว่าเขาจะกลายเป็นตำนาน ความมั่นคงนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

การดำเนินการตามเส้นทางและแผนในอนาคตจะต่างจากความเป็นจริง แต่มีแก่นหลักที่ชัดเจน และปี้เซียวก็ไม่ได้กังวลกับรายละเอียดปลีกย่อยมากนัก เพราะความไม่คาดฝันในชีวิตจริงมักนำพาการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงเสมอ

นอกจากนี้ ที่ควีนส์ การปราบปรามได้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากการสังหารต่อเนื่องกันเป็นเวลาสี่เดือน ไม่เพียงแค่ตำรวจเท่านั้น แม้แต่แก๊งที่นี่ก็ไม่ได้โง่

พวกมือปืนของเอร์มาโน เดล ถือเป็นหนึ่งในแก๊งสำคัญในควีนส์ และเมื่อพวกเขาถูกกวาดล้างไป แก๊งท้องถิ่นที่เหลือจะต้องละทิ้งพื้นที่นี้อย่างแน่นอน ไม่มีใครอยากให้ยมทูตมาเยือนโดยไม่ทันตั้งตัว

ด้วยการปราบปรามอย่างหนักของตำรวจ ปี้เซียวจึงวางแผนที่จะขยายขอบเขตธุรกิจของเขา

ในความเป็นจริง เขาขี้เกียจเกินกว่าจะไปฆ่าคนกระจอกๆ เพราะเขารู้สึกได้ว่าพลังชีวิตจากการสังหารหนึ่งหรือสองชีวิตที่เคยเพิ่มพลังให้เขาค่อยๆ ลดลง สาเหตุหลักเพราะระดับชีวิตของเขาได้ยกระดับไปเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ ยิ่งเขาแข็งแกร่งขึ้น ประสบการณ์จากการฆ่าศัตรูตัวกระจอกๆ ก็ยิ่งลดน้อยลง

ตอนนี้เขาจึงทำได้เพียงอาศัยปริมาณ

มันไม่มีประสิทธิภาพมากพอ เขาจำเป็นต้องหาสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติอื่นๆ มาฆ่า เช่น มนุษย์กลายพันธุ์ มนุษย์หมาป่า หรือแวมไพร์

เขาจะเปลี่ยนแนวทางในช่วงเวลานี้ โดยจะปรับแต่งและพัฒนาร่างกายของเขาอย่างละเอียด โดยเฉพาะการควบคุมพลัง ซึ่งเขามองว่าเป็นทั้งการบังคับและสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง

"ถึงเวลานอนแล้ว~~"

ตอนนี้เป็นช่วงเย็น คลื่นความง่วงเริ่มถาโถมเข้ามา หลังจากที่บิดขี้เกียจและล้างจานเสร็จ ปี้เซียวก็กลับไปยังห้องของเขาเพื่อพักผ่อน ความวุ่นวายภายนอกไม่ได้เป็นเรื่องที่เขาสนใจแต่อย่างใด

...

เฮลส์ คิทเช่น สถานที่นี้เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ทั้งวุ่นวายที่สุด แต่ก็มั่นคงและสงบที่สุดในนิวยอร์ก

มันวุ่นวายเพราะมีแก๊งอาชญากรมากมาย ทั้งการวางเพลิง การปล้นสะดม และการก่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่สงครามระหว่างแก๊งและการแย่งชิงอาณาเขต ผู้อยู่อาศัยที่นี่ตื่นขึ้นทุกเช้าพร้อมกับภาวนาว่าจะไม่มีโชคร้ายมาถึงพวกเขา

ตำรวจเองก็ไม่สามารถขจัดอาชญากรรมในพื้นที่นี้ได้

หรืออาจจะเป็นเพราะผลประโยชน์ที่เกี่ยวพันกัน ทำให้พวกตำรวจไม่สามารถและไม่ต้องการที่จะใช้กำลังอย่างจริงจัง พื้นที่นี้จึงกลายเป็นจุดที่ไม่เหมือนที่ใดในนิวยอร์ก

อย่างไรก็ตาม ความสงบที่มีอยู่มาจากบุคคลหนึ่ง

หัวหน้าแก๊งที่ชื่อคิงพิน เขาควบคุมกลุ่มนักเลงและมือปืนจำนวนมาก และยึดครองทั้งเฮลส์ คิทเช่นและโลกใต้ดินของนิวยอร์ก เขาได้รักษาความสงบและตั้งกฎระเบียบไว้

ภายใต้การปกครองที่แข็งแกร่ง เฮลส์ คิทเช่นก็มีความสงบที่ไม่ปกติเอาเสียเลย

คิงพินรู้ดีว่าเฮลส์ คิทเช่นอาจวุ่นวายได้ แต่ต้องไม่วุ่นวายจนถึงจุดที่ดึงดูดความสนใจของรัฐบาลและตำรวจ

ซึ่งอาจมองว่าพื้นที่นี้เป็นแหล่งรวมของเสื่อมทรามที่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ จนท้ายที่สุดอาจถูกตัดทิ้งอย่างไร้ความปรานีเหมือนเนื้องอกที่ต้องขจัดออกไป

การมีอยู่ของคิงพินทำให้แก๊งต่างๆ ในเฮลส์ คิทเช่นต่างเกรงกลัวเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้

ในเฮลส์ คิทเช่นมีตึกใหญ่แห่งหนึ่ง บนชั้นบนสุดของตึกในห้องทำงานขนาดใหญ่หรูหรา มีชายรูปร่างสูงใหญ่ราว 1.9 เมตร สวมสูทสีเทาขาว นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ พลิกดูเอกสารสำคัญบางอย่าง

จากนั้นมีเสียงเคาะประตู ตามด้วยเสียงหมุนลูกบิดประตูและร่างหนึ่งเดินเข้ามา

"มีงานให้ทำไหม?"

นี่คือชายที่มีรอยสักรูปเป้ากลมบนหน้าผาก ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความเยือกเย็นราวกับเป็นลูกจ้างที่พบเจอกับนายจ้าง ไม่ได้แสดงถึงความหวาดกลัวหรือเกรงใจแต่อย่างใด

อันที่จริง ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับชายตรงหน้าเป็นแบบลูกจ้างและนายจ้างโดยแท้

“มีคนที่เรียกว่า ‘นักฆ่า’ โผล่มาที่ควีนส์ ฉันสนใจเขา ไปดูให้หน่อยสิ ‘บูลส์อาย’” ชายร่างท้วมศีรษะโล้นกล่าวด้วยรอยยิ้มอันน่ากลัว มือที่เต็มไปด้วยแหวนของเขาวางแฟ้มงานไว้ตรงหน้าบูลส์อาย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด