ตอนที่ 19 : ช่วยหยุดทำเป็นเจ๋งแทนพ่อบุญธรรมได้ไหม
“เห็นไหม ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ได้โม้”
คำพูดสุดท้ายของกัวจื่อหังทำให้ทั้งกลุ่มเงียบกริบ
ไม่มีใครพูดอะไรอีกต่อไป แม้แต่คนโง่อย่างฉินจื่ออังที่ตะโกนบอกทุกคนในโรงอาหารว่าฉันเลี้ยงเองก็ยังไม่ได้พูดอะไรอีก
พูดตามตรง ในขณะนี้พวกเขาอยากจะเชื่อว่าตนเองตาฝาดมากกว่าที่จะเชื่อว่าสิ่งที่กัวจื่อหัง หวงอิ๋ง และหยางซู่อันพูดนั้นเป็นความจริง
สามแสน! นี่ไม่ใช่จำนวนที่นักเรียนมัธยมปลายเอื้อมถึงได้
แค่มีเงินสิบหยวนอยู่ในกระเป๋าพวกเขาก็ดีใจจนตัวลอยขึ้นฟ้าแล้ว แต่ถ้ามีสามแสนพวกเขาคงลอยออกไปนอกจักรวาลกันเลยทีเดียว
แต่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่กัวจื่อหังจะคุยโม้ให้เจียงฉิน เพราะเวลาที่อยู่ในโรงเรียนเขาก็มักจะตามตูดเจียงฉินต้อยๆ ทว่าหวงอิ๋งและหยางซู่อันไม่มีเหตุผลอะไรให้คุยโม้แทนเจียงฉิน
นั่นหมายความว่าสิ่งที่กัวจื่อหังพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงหมดเลย?
แต่ขนาดพวกเราใช้เงินไม่กี่หยวนเติมเพชรเหลือง[1]ก็ยังเสียดายจนแทบปวดใจ เจ้าสารเลวเจียงฉินนั่นกล้าดียังไงมาใช้เงินสามแสน?
แม่มันเถอะ พวกเราเรียนมัธยมปลายที่เดียวกันไหมเนี่ย?
คนที่ตกใจมากที่สุดในที่นี้ก็คือฉู่ซือฉี เธอไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเจียงฉินจะทำอะไรไปมากมายในช่วงวันหยุดฤดูร้อน และทุกเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ดูไม่น่าเชื่อสุดๆ
ในขณะที่ทุกคนยังคงท่องอินเทอร์เน็ตอยู่ที่บ้านและคุยแชทออนไลน์ ขโมยผักในแฮปปี้ฟาร์ม และชอกช้ำอยู่กับความทุกข์จากเรื่องราวความรักในวัยเรียน เจียงฉินกลับกำลังทำธุรกิจมูลค่าหลายแสนอยู่
แต่เขาไม่เคยป่าวประกาศมันราวกับว่าเงินหลายแสนนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรค่าแก่การโอ้อวด
เมื่อเธอนึกถึงตรงนี้ ฉู่ซือฉีก็รู้สึกทันทีว่าเจียงฉินในใจของเธอนั้นดูห่างไกลออกไปเรื่อยๆ ทำให้เธอรู้สึกหวั่นใจราวกับจะเอื้อมไม่ถึง
ปรากฏว่าวันนั้นที่เขาไม่มาไม่ใช่เพราะว่ากลัวเสียหน้า
แต่เขากำลังทำธุรกิจอยู่จริงๆ
ขณะที่คนอื่นกำลังเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์และใช้การดื่มเหล้าเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าตนเองโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขากลับกลายเป็นคนที่ทำให้ทั้งห้องเรียนต่างรู้สึกประหลาดใจ
หลังจากคิดสะเปะสะปะอยู่ครู่หนึ่ง ฉู่ซือฉีก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย
เรื่องสำคัญขนาดนี้เจียงฉินกลับไม่บอกฉัน แม้แต่กัวจื่อหังก็ยังรู้เรื่องแล้ว เขากลับปิดบังมันจากฉัน ทำกันเกินไปแล้ว ทั้งๆ ที่เขาเคยเล่าทุกเรื่องให้ฉันฟังเสมอนี่นา!
“กัวจื่อหัง บอกความจริงมาเถอะ เขาเอาเงินมาจากไหน?”
“ตอนที่เราไปงานเลี้ยงวันก่อนฉันก็บอกพวกเธอไปแล้วนี่นาว่าเจียงฉินกำลังทำธุรกิจอยู่ แน่นอนว่าต้องรวยขึ้นเป็นธรรมดา”
“ธุรกิจอะไรทำกำไรได้ตั้งสามแสน?”
“จะไปรู้เหรอ ถ้าฉันรู้ป่านนี้ก็คงมีเงินสามแสนไปแล้วไหม?”
“แต่ธุรกิจที่นายพูดถึงมันไม่ใช่การขายข้าวกล่องหรอกเหรอ วันก่อนฉันก็เห็นกับตาว่าพวกนายขายข้าวกล่องอยู่!”
กัวจื่อหังพิมพ์จุดไข่ปลา: “ขนาดเหล่ากันมา[2]ยังเคยขายเกี๊ยวมาก่อน มันทำให้พวกเขาเปิดบริษัทช้าลงหรือเปล่าล่ะ?”
ฉินจื่ออังในเวลานี้นั่งไม่ติดแล้ว: “เป็นไปไม่ได้ แม้แต่ฉันก็ยังไม่มีเงินสามแสนด้วยซ้ำ เขาจะเอาเงินสามแสนมาจากไหน? ไร้สาระ!”
กัวจื่อหังยิ้มแล้วพิมพ์ตอบว่า: “อย่าไปเทียบกับเจียงฉินเลย การพึ่งพาพ่อแม่มันไม่ใช่ความสามารถอะไร”
“พวกนายกำลังคุยเรื่องอะไรกัน?” จู่ๆ หวังฮุ่ยหรูก็โผล่ออกมาจากสถานะดำน้ำ
ฉู่ซือฉี: “ฮุ่ยหรู พวกเขาบอกว่าเจียงฉินใช้เงินสามแสนหยวนเพื่อเช่าบาร์ครึ่งหนึ่ง!”
“ห๊ะ???”
“เธอก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อเหมือนกันใช่ไหม?”
หวังฮุ่ยหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบว่า: “เปล่า ไม่กี่วันก่อนฉันเคยเห็นเจียงฉินทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อยิ่งกว่านี้ซะอีก”
ทันใดนั้นฉู่ซือฉีก็ทำสีหน้าประหลาดใจ: “ยังมีอีกเหรอ?”
“...”
“ฮุ่ยหรู เธอยังอยู่หรือเปล่า?”
“ไม่มีไรๆ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ”
หวังฮุ่ยหรูลังเลแล้วลังเลอีก แต่ก็ยังไม่ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับเจียงฉินและเฟิงหนานซูออกไป
เรื่องเงินสามแสนนั้นฟังดูน่าตกใจมาก แต่ไม่ว่าจะน่าตกใจแค่ไหนมันก็แค่ตัวเลขชุดหนึ่ง ทุกคนอาจจะอุทาน แต่อย่างมากก็แค่รู้สึกทึ่งกับตัวเลขชุดหนึ่งเท่านั้น ทว่าเฟิงหนานซูนั้นแตกต่างจากเงินสามแสน เธอคือไป๋เยว่กวงที่แท้จริง หากสิ่งนี้ถูกเปิดเผยรับรองว่ากลุ่มนี้จะระเบิดแน่นอน และภายในไม่เกินหนึ่งคืนทั้งโรงเรียนก็จะรับรู้
อันที่จริงตอนนี้เจียงฉินก็ดูแชทกลุ่มอยู่เช่นกัน เหตุผลหลักคือเสียงแจ้งเตือนข้อความ QQ มันน่ารำคาญเกินไป เขาพยายามหลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถปิดมันได้ ไม่รู้เป็นเพราะ QQ เวอร์ชั่นปี 2008 ยังไม่ได้อัปเกรดฟังก์ชันนี้หรือเปล่า
ถ้าเป็นฉินจื่ออังตอนนี้เขาคงรีบโดดออกมาอวดแน่นอน
อ่า ใช่ ใช่แล้ว นั่นฉันทำเอง ฉันนี่แหละเจ๋งที่สุด!
แต่เจียงฉินไม่สนใจที่จะทำแบบนี้ และเขาก็ไม่ได้อยากจะแสดงอะไรมากมายนัก
ทำไมฉันต้องออกไปเก๊กโชว์ความเท่ แล้วยังต้องจ่ายค่าเหล้าให้กับเพื่อนอีกตั้งสิบกว่าคนด้วย? คิดว่าฉันว่างจนปวดไข่หรือไง?
นอกจากนี้ เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องอธิบายให้กัวจื่อหังฟังว่าฉันไม่ได้แสร้งทำเป็นเจ๋ง เพราะฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเด็กน้อยเกินไป นายช่วยหยุดเป็นคนออกหน้าแทนพ่อบุญธรรมอยู่เรื่อยได้ไหม
ปิดโทรศัพท์ดีกว่า
ไม่อย่างนั้นคงอยากดูต่อ
แต่พูดจริงๆ นะ การมีคนมาช่วยแสร้งทำเป็นเจ๋งนี่มันก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ
เจียงฉินกดปุ่มปิดเครื่องค้างไว้ รอให้หน้าจอดับ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้องสมุดเมืองจี้โจวพร้อมกับถุงขนมในมือ
หลังจากกลับมาจากบ่อน้ำพุร้อนเวลาครึ่งเดือนก็ผ่านไปในพริบตา และเขาก็ไม่ได้เจอกับเสี่ยวฟู่โผคนนั้นอีกเลย แถมยังแทบจะไม่ได้คุยกันใน QQ เลยสักนิด พอดีว่าตอนนี้บาร์ยังไม่เปิดเขาก็เลยแวะเข้ามาดูสักหน่อย
ทันทีที่เขาไปถึงชั้นสองของห้องสมุด เขาก็เห็นร่างของเสี่ยวฟู่โผ
วันนี้เธอสวมใส่ชุดกระโปงสำหรับสุภาพสตรีสีขาว มีโบว์เล็กสีดำผูกที่คอ ดูสงบเงียบเรียบร้อย ในมือถือหนังสือหนาๆ เล่มหนึ่ง แต่สายตากลับไม่ได้อยู่ที่หนังสือ ทว่ามองออกไปที่นอกหน้าต่าง
ในความเป็นจริง หลังจากกลับจากบ่อน้ำพุร้อนเฟิงหนานซูก็มาที่ห้องสมุดทุกวัน เธอต้องการอ่านส่วนสุดท้ายของ [เพ็กกี้ซู สาวน้อยดวงตาเวทมนตร์]
ส่วนนี้เป็นส่วนที่เรียกได้ว่าน่าสนใจที่สุดในซีรีย์ทั้งหมด
มันบอกเล่าเรื่องราวของภัยพิบัติร้ายแรงบนดาวกันทัตตา
สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งที่หลับใหลอยู่ใต้ดินมาหลายร้อยล้านปีตื่นขึ้นมาจากการจำศีล ด้วยหนวดนับพันนับหมื่นเส้น มันแทงทะลุช่องว่างในพื้นดินอย่างบ้าคลั่งและลักพาตัวเด็กๆ ที่กำลังนอนหลับอยู่ในบ้านไป
เมื่อเวลาผ่านไป สัตว์ประหลาดก็ยิ่งตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พื้นถนนคอนกรีตแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เมืองต่างๆ พากันพังทลายลงทีละแห่ง
หลังจากที่เพ็กกี้ซูและทีมได้ทำการสืบสวน พวกเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าเดิมทีดาวดวงนี้เป็นไข่ใบหนึ่ง ไข่ที่ฟักออกมาหลังจากล่องลอยอยู่ในอวกาศมานานหลายร้อยล้านปี และสิ่งมีชีวิตที่บังเอิญเกิดขึ้นบนดาวดวงนี้ต่างหากที่เป็นผู้บุกรุก
หากเป็นเมื่อก่อน เฟิงหนานซูจะต้องหลงใหลมันมากแน่ๆ
หนังสือที่หนาเพียงแค่ 396 หน้าเล่มนี้เธอสามารถอ่านมันจบได้โดยใช้เวลาแค่สามช่วงบ่าย
แต่……
แต่ผ่านมาตั้งครึ่งเดือนแล้ว และเธอก็ยังอ่านเนื้อหาได้ไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ
แม้แต่เรื่องราวในอดีตที่เคยผ่านมาก็ยังรู้สึกคลุมเครือเมื่อย้อนกลับไปนึกถึงมันตอนนี้
เฟิงหนานซูมองออกไปนอกหน้าต่างที่ส่องประกายด้วยแสงแดดสว่างจ้าและต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม จู่ๆ เธอก็พลันรู้สึกถึงความเหงาที่ไม่อาจอธิบายได้อยู่ในใจ
ทันใดนั้นเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก็ถูกดึงออกอย่างกะทันหัน
เฟิงหนานซูรีบตั้งสติกลับคืนมา พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเจียงฉินนั่งลงเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำและค่อยๆ วางถุงขนมในมือลง
“ช่วงนี้ฉันยุ่งมาก ในที่สุดก็มีเวลาให้พักนิดหน่อย เสี่ยวฟู่โผ ช่วงนี้เธอเป็นไงบ้าง”
“เจียงฉิน ฉันดูเหมือนจะเหงาจริงๆ”
ร่องรอยของความสับสนแวบขึ้นมาในดวงตาที่เย็นชาของเฟิงหนานซู
การอ่านหนังสือคนเดียวเป็นรูปแบบชีวิตที่เรียบง่ายและเป็นธรรมชาติที่สุดของเธอ และการที่เจียงฉินเข้ามาในชีวิตก็เป็นเพียงอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวัน มันก็เหมือนกับถั่วลิสงที่ปะปนอยู่ในถังข้าวสาร หากถั่วลิสงถูกนำออก ถังข้าวสารก็ควรจะกลับไปเป็นถังข้าวสารเหมือนเดิมไม่ใช่เหรอ?
แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมชีวิตของตัวเองถึงเริ่มรู้สึกเหงาขึ้นมาอย่างกะทันหัน
(จบตอน)
[1] เพชรเหลือง เป็นบริการแบบ VIP ที่จะปลดล็อคสิทธิพิเศษระดับสูงในแอพ QQ ง่ายๆ ก็คือเต็มวีไอพี
[2] เหล่ากันมา แบรนด์น้ำพริกชื่อดังของจีน ฟีลคล้ายๆ น้ำพริกแม่ประนอมของไทย