บทที่ 35 พลังแห่งแดนฝังสวรรค์ ข้าขอให้เจ้าเสริมการฝึกของข้า!
###
หลังจากจุดประทีปในจิตใจได้สำเร็จ พร้อมกับการได้รับคุณสมบัติ "การครอบงำ" มู่หลินก็รู้สึกประทับใจไม่น้อย
ขณะเดียวกันก็เกิดบางสิ่งขึ้นที่ทำให้เขาต้องเลิกคิ้ว ประทีปที่จุดติดครั้งแรกได้ส่องแสงสว่างจ้าไปทั่วทะเลจิตของเขา ทำให้ความสามารถในการควบคุมสิ่งที่ตนสร้างเพิ่มขึ้นอีกระดับ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่มู่หลินเหมือนจะลืมไป นั่นคือในจิตวิญญาณของเขามีบางสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา
“เช้ง!”
เสียงดาบดังขึ้น ดาบยาวที่มีคราบเลือดเปรอะเปื้อนลอยขึ้นมาเอง ราวกับมันถูกคุกคามจึงพุ่งตรงมาหาประทีปที่ลุกไหม้อยู่
เห็นภาพนี้ มู่หลินเพียงหรี่ตาลงโดยไม่มีท่าทีตกใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าไม่ได้หมายความว่าเขาลืมบางสิ่งไปโดยแท้จริง เพราะเขารู้อยู่แล้วว่าดาบของตนได้ถูกพลังแห่งแดนฝังสวรรค์ปนเปื้อนจากการทดลองไม่กี่ครั้งที่ผ่านมา
มู่หลินเคยพยายามทุบดาบให้แหลกแล้วหลอมขึ้นมาใหม่ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถลบคราบเลือดนั้นออกได้
เหตุผลที่เขาแลกเปลี่ยนวิชาประทีปแห่งเจตจำนงก็เพื่อจะใช้มันต้านทานการปนเปื้อนจากพลังแห่งแดนฝังสวรรค์
แน่นอนว่ามู่หลินประสบความสำเร็จ เพราะแสงแห่งการครอบงำจากประทีปทำให้พลังแห่งแดนฝังสวรรค์รู้สึกถูกคุกคามจนต้องปฏิบัติการด้วยตนเองเพื่อกำจัดภัยคุกคามนี้
แต่แน่นอนว่า มู่หลินจะไม่ปล่อยให้มันทำตามใจ
“หวือ!”
“โครม!”
“ครืด...”
ในทะเลจิตของเขา จิตวิญญาณของมู่หลินที่เป็นทรงกลมยังคงนิ่ง แต่ตามคำสั่งของเขาโซ่ที่เขาจินตนาการขึ้นก็พุ่งเข้าไปพันรอบดาบยาวราวกับงูเลื้อยเข้าหา
นอกจากนี้ยังมีร่างหุ่นยักษ์ที่เขาสร้างขึ้นเข้ามาขัดขวางดาบ และอาวุธอื่น ๆ ที่เขาจินตนาการไว้ทั้งมีด หอก และทวนก็บินขึ้นมาขัดขวางดาบนั้นเช่นกัน
แต่แน่นอนว่าการขัดขวางนี้ไม่ได้ผล
ดาบนี้เป็นเพียงร่างพาหะของพลังแห่งแดนฝังสวรรค์ ไม่ใช่ตัวพลังโดยตรง
ดาบถูกขัดขวางทำให้คราบเลือดย้ายไปยังวัตถุอื่น ๆ ที่สัมผัสมัน และใช้สิ่งเหล่านั้นโจมตีประทีปอีกครั้ง
ความสามารถในการเคลื่อนย้ายได้อิสระเช่นนี้เองที่ทำให้พลังแห่งแดนฝังสวรรค์กำจัดได้ยากยิ่ง
โชคดีที่มู่หลินดึงพลังจากแดนฝังสวรรค์มาเพียงเล็กน้อย ทำให้คราบเลือดนั้นแม้มีคุณภาพสูง แต่ด้วยปริมาณที่น้อยจึงไม่สามารถสร้างความปั่นป่วนในทะเลจิตของเขาได้
หากต้องการ เขาสามารถใช้โลงศพปิดผนึกคราบเลือดนี้ไว้ได้
แต่ครั้งนี้เขาไม่จำเป็นต้องปิดผนึกมัน
“ตูม!”
เมื่อเขาฉีดพลังจิตเข้าไปในประทีป ทำให้ไฟลุกโชนยิ่งขึ้น จากนั้นแสงที่แฝงพลังครอบงำก็สาดส่องลงบนคราบเลือดทำให้วัตถุที่ถูกครอบงำระเบิดเป็นไฟลุกไหม้ทันที
“ฉ่า!”
เหมือนกับน้ำมันเดือด เมื่อคราบเลือดสัมผัสกับเปลวไฟ เสียงระเบิดก็ดังก้องในทะเลจิตของมู่หลิน
ด้วยการสังเกตผ่านจิตวิญญาณ มู่หลินพบว่าประทีปของเขากำลังแปรสภาพคราบเลือดนั้น
ไม่ใช่การต้านทานหรือชำระล้าง แต่เป็นการหลอมรวม
เพลิงแห่งการครอบงำในประทีปที่จุดติดด้วยความเย่อหยิ่งของเขานั้นถูกจุดขึ้นมาพร้อมความเชื่อมั่นว่าเขาจะกลายเป็นเทพเจ้าเหนือทุกสิ่ง แม้กระทั่งฟ้าดิน
พระราชา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แม้กระทั่งกฎแห่งสวรรค์ ล้วนเป็นสิ่งที่มู่หลินต้องการก้าวข้าม ‘สิ่งเล็กน้อย’ อย่างแดนฝังสวรรค์จะไปมีอะไรให้น่าเกรงกลัว
ไม่เพียงไม่หวาดกลัว มู่หลินเชื่อมั่นว่าหากตนเติบโตขึ้นไปได้ พลังแห่งแดนฝังสวรรค์ก็จะอยู่ใต้การควบคุมของเขาเช่นกัน
แน่นอนว่านี่คือความเย่อหยิ่ง
แต่ความคิดและอารมณ์ที่เย่อหยิ่งนี้เองที่จุดไฟแห่งการครอบงำในประทีปของเขา และทำให้มู่หลินไม่หวาดกลัวพลังแห่งแดนฝังสวรรค์
ด้วยเหตุนี้ ไฟในประทีปของมู่หลินจึงพยายามหลอมรวมพลังแห่งแดนฝังสวรรค์และดึงมันเข้าสู่การครอบงำและควบคุม
แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ง่ายนัก เพราะทันทีที่พลังทั้งสองสัมผัสกัน มู่หลินก็พบว่าพลังแห่งแดนฝังสวรรค์นั้นมีคุณภาพสูงมาก ต้องใช้พลังจากประทีปเป็นร้อยเท่าในการหลอมรวมพลังแห่งแดนฝังสวรรค์เพียงเศษเสี้ยว
โชคดีที่เขาดึงพลังมาเพียงเล็กน้อย ขณะที่เปลวไฟของเขามีเจตจำนงที่แข็งแกร่งและพลังจิตวิญญาณสนับสนุน
“จงสลายไป!”
ด้วยเสียงคำรามของมู่หลิน พลังจิตของเขาก็หลั่งไหลเข้าไปในประทีปทำให้ไฟลุกสว่างจ้า
“ตูม!”
แสงสว่างแผ่กระจายและเผาผลาญพลังแห่งแดนฝังสวรรค์จนเสียงระเบิดดังสนั่น สุดท้าย หลังจากผ่านไปหนึ่งถ้วยชา เมื่อจิตของเขาเริ่มอ่อนล้า พลังแห่งแดนฝังสวรรค์ที่เหลืออยู่ในทะเลจิตของเขาก็ถูกหลอมรวมทั้งหมด
“ฮู้…”
มู่หลินถอนหายใจพลางมองพลังแห่งแดนฝังสวรรค์
หลังจากหลอมรวมแล้ว พลังนี้ยังคงหลงเหลืออยู่บนดาบโดยกระจายตัวอยู่บริเวณปลายดาบ
คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนทำให้ดาบทั้งหมดมีกลิ่นอายแห่งความเสื่อมโทรมและน่าหวาดกลัว จนสามารถคาดได้ว่าหากสิ่งใดถูกดาบนี้ฟาดฟันคงไม่มีจุดจบที่ดีแน่นอน
อย่างไรก็ตาม มู่หลินรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ไม่อาจไม่ตื่นเต้นได้ เพราะพลังที่ไม่เป็นมงคลนั้นเพิ่มอานุภาพให้ดาบยิ่งขึ้น และยังเป็นการเพิ่มวิธีการโจมตีให้เขาอีกด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือหลังจากที่หลอมรวมและควบคุมได้ พลังนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อเขาอีกต่อไป
“หากดาบทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยคราบเลือดแห่งความเสื่อมโทรม อานุภาพของดาบนี้คงไม่ด้อยไปกว่านักดาบผู้ชำนาญวิชาควบคุมดาบเลย!”
คิดได้เช่นนี้ มู่หลินก็ส่ายหัวเล็กน้อย
แม้ว่าประทีปจะมีความสามารถในการหลอมรวมพลังแห่งแดนฝังสวรรค์ แต่เนื่องจากมันยังไม่แข็งแกร่งพอ เขาจึงต้องใช้พลังจากประทีปเป็นร้อยเท่าในการหลอมรวมพลังแห่งแดนฝังสวรรค์เพียงเล็กน้อย
ความแตกต่างในคุณภาพที่มากเช่นนี้ทำให้เขาต้องใช้พลังจิตอย่างมาก ดังนั้นมู่หลินจึงวางแผนว่าจะดึงพลังมาหลอมรวมอีกเมื่อวิชานี้มีความก้าวหน้ามากขึ้น
แต่ความคิดนี้ก็ถูกทำลายทันทีในวินาทีถัดมา
มู่หลินไม่ได้เปลี่ยนใจไปเอง แต่เป็นเพราะเขาคาดไม่ถึงว่าการหลอมรวมพลังแห่งแดนฝังสวรรค์จะกลายเป็นการฝึกฝนที่ได้ผลสำหรับประทีปด้วย
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการหลอมรวมพลัง หรือการควบคุมพลังหลังหลอมรวม ประทีปของเขาก็ได้รับความชำนาญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งความชำนาญนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกด้วย
【ประทีปแห่งเจตจำนง ระดับ 2 ความชำนาญ (33/4900) คุณสมบัติ: การครอบงำ】
“การหลอมรวมเพียงครั้งเดียวก็ได้ค่าชำนาญเพิ่มถึง 33 หน่วย หากข้าดึงพลังแห่งแดนฝังสวรรค์มาอีกและหลอมรวม ความชำนาญในประทีปของข้าก็จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว!”
“ที่สำคัญที่สุด พลังแห่งแดนฝังสวรรค์ที่หลอมรวมแล้วนั้นมีพลังมหาศาล ไม่ว่าจะติดไว้กับดาบ โซ่ หรือร่างหุ่นยักษ์ มันก็ช่วยเพิ่มพลังให้ข้าได้อย่างมาก!”
คิดได้ดังนั้น มู่หลินก็ตัดสินใจทันทีโดยไม่ลังเล เขาอาศัยการเชื่อมต่อที่มองไม่เห็นและดึงพลังแห่งแดนฝังสวรรค์ลงมาอีกครั้ง
“สิ่งชั่วร้ายเอ๋ย ข้าขอให้เจ้าช่วยการฝึกฝนของข้า!”
“ตูม!”
เมื่อมู่หลินดึงพลังแห่งแดนฝังสวรรค์ ประทีปก็ลุกไหม้อย่างรุนแรง การต่อสู้ดุเดือดในทะเลจิตของเขาเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
……
หนึ่งชั่วยามต่อมา มู่หลินที่อ่อนล้าต้องหยุดการต่อสู้ชั่วคราว พลังจิตของเขาเกือบจะหมดลงแล้ว
แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะรุนแรง แต่ผลลัพธ์ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมาก
อย่างแรก ดาบของมู่หลินมีคราบเลือดแห่งความเสื่อมโทรมปกคลุมไปถึงหนึ่งในสามแล้ว
ถัดมา ความชำนาญในประทีปก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับ 2 ความชำนาญ (81/4900)
สุดท้าย สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือหลังจากดึงพลังแห่งแดนฝังสวรรค์ลงมาแล้ว ความชำนาญในวิชาภาพจิตเมืองฝังสวรรค์ของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วย
“...นี่มันอะไร เป็นการยิงนกทีเดียวได้นกสามตัวเลยหรือ?”