บทที่ 147 ชีวิตดั่งแขวนบนเส้นด้าย
บทที่ 147 ชีวิตดั่งแขวนบนเส้นด้าย
ทั้งหกคนล้อมวงอยู่รอบโต๊ะอาหาร
เพียงไม่กี่คำก็สามารถตัดสินใจลำดับการแสดงได้
หูหยุนควนอาสาขึ้นแสดงเดินบนเส้นลวด
กวนเต้าหรงจะแสดงเลียนแบบการเดินแบบเมืองหานตัน
อู๋เซี่ยนจับคู่กับตู้เอ๋นในโชว์วาดภาพทายคำ
เว่ยเตียนกับเหลียงฟางรับหน้าที่การแสดงตรงใจตรงกัน
เมื่อจัดลำดับเรียบร้อย การแสดงก็เริ่มขึ้น
หูหยุนควนเป็นคนแรกที่เดินขึ้นเวที ถือสลากที่ได้เป็นการแสดงเดินบนเส้นลวด
สิ่งที่ทำให้ทุกคนสงสัยคือ บนเวทีไม่มีเครื่องมือใด ๆ ให้เดินบนลวดแล้วเขาจะเดินลวดได้อย่างไร?
คำตอบปรากฏขึ้นทันทีเมื่อพ่อบ้านหู ตบมือ เสียงดังฟึบ ฟุ้งกระจายไปทั่วเวที ครั้นหมอกสีขาวเลือนหายไป ปรากฏเป็นโครงสร้างสูงห้าเมตรที่สองด้าน บนโครงเหล่านี้เชื่อมกันด้วยลวดเหล็กยาวสิบเมตรกลางอากาศซึ่งจะเป็นเวทีให้หูหยุนควนแสดงเดินบนเส้นลวด
หากมีเพียงเท่านี้ การเดินบนเส้นลวดนี้ก็คงถือเป็นการแสดงกายกรรมทั่วไปที่อาจไม่อันตรายถึงตายแม้จะตกจากความสูงห้าเมตร
แต่เบื้องล่างโครงสร้างทั้งสองด้านนั้น กลับเต็มไปด้วยใบมีดคมหลายพันเล่ม!
ใบมีดเหล่านี้บางเฉียบและแหลมคม ระยะห่างระหว่างใบมีดเพียงหนึ่งเซนติเมตร หากหูหยุนควนพลาดตกลงไป เขาจะถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทันที
หูหยุนควนกลืนน้ำลาย
เขาเคยคิดว่าตนเองมีทักษะการทรงตัวที่ดีพอจึงเลือกการแสดงเดินบนเส้นลวดซึ่งดูเป็นการแสดงที่เข้าใจง่ายที่สุด เพราะตามนิสัยของถ้ำสวรรค์นี้ สิ่งที่ดูยากที่สุดอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดก็เป็นได้
แต่เมื่อเห็นใบมีดด้านล่าง ความมั่นใจของเขาก็เริ่มสั่นคลอน
อู๋เซี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย
เขาสังเกตว่า ใบมีดที่เว้นห่างกันเพียงหนึ่งเซนติเมตรนี้ คล้ายกับบาดแผลบนร่างของซาเซี่ยวเหวิน
หรือว่าเธอก็เคยเลือกเกมนี้เช่นกันและพลาดตกลงมาจากเส้นลวด?
อู๋เซี่ยนได้แต่หวังอย่างจริงใจว่าหูหยุนควนจะไม่ล้มเหลว เพราะหากเขาตาย ธงพิงลายมังกรสี่สีจะสูญหายไปด้วย
เหล่าอสุรกายต่างพากันส่งเสียงร้อง
แต่สิ่งที่ทำให้พวกมันตื่นเต้นไม่ใช่เพราะการแสดงอันตรายนี้ แต่เพราะแค่การตบมือก็สามารถสร้างเวทีเส้นลวดขึ้นมาได้ทันที
ปีศาจจิ้งจอกเช่นนี้
ต้องมีอายุห้าสิบปีขึ้นไปจึงจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และจะมีพลังวิเศษเมื่ออายุครบหนึ่งร้อยปี สามารถสะกดจิตและสร้างภาพลวงตาเล็กน้อยได้
ก่อนหน้านี้การที่พ่อบ้านหู สร้างถังจับสลากขึ้นมาไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับปีศาจจิ้งจอกที่มีอายุครบหนึ่งร้อยปี
แต่การสร้างเวทีเส้นลวดขนาดใหญ่ขึ้นต่อหน้าเหล่าอสุรกายมากมายโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ นั้น เป็นสิ่งที่จิ้งจอกหนึ่งร้อยปีธรรมดาย่อมไม่อาจทำได้แน่
ปีศาจประหลาดนกหัวคนส่งเสียงแหลมดัง “จิ้งจอกพันปีสามารถสื่อสารกับฟ้าได้ พ่อบ้านหู เจ้าไม่ใช่ว่าบรรลุเป็นจิ้งจอกสวรรค์แล้วรึ?”
พ่อบ้านหู ลูบเคราด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ต้องขอบคุณท่านหลิวที่ประทานวิชาเซียน ข้าไปยังเมืองมนุษย์แล้วกลับมาได้อายุพันปี คืนนี้ท่านหลิวจะประทานวิชาเซียนอีกหลายแขนง ไม่นานทุกท่านคงได้พบกับโชควาสนานั้น!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น
เหล่าอสุรกายพากันอ้าปากค้าง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก
แต่จิตใจของอู๋เซี่ยนกลับดำดิ่ง
หลังจากย่าใหญ่ตาย คุณชายหลิวเลือกที่จะเผยวิชาชิงอายุขัยอันชั่วร้ายนี้!
เมื่อเหล่าอสุรกายได้วิชานี้ไป พวกมันจะทำอะไรได้อีก?
คำตอบนั้นชัดเจน
โจมตีมนุษย์เพื่อเพิ่มอายุขัยให้ตน!
งานเลี้ยงนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะจากเหล่ามาร!
สำหรับหูหยุนควน
เสียงอึกทึกครึกโครมนอกเวทีนั้นไร้ความหมาย เพราะเขาต้องหาวิธีเอาชีวิตรอดบนเวทีนี้ให้ได้
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
จากนั้นจึงขอยืมหอกงูยาวหนึ่งจ้างแปดฉื่อจากกวนเต้าหรง แล้วปักธงสีเขียวลงตรงกลางระหว่างเส้นลวด จากนั้นกอดหอกงูไว้ในอ้อมแขนแล้วค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนโครงสูง
เมื่อขึ้นมาบนโครงสูง ทุกสิ่งด้านล่างดูเล็กลง สายตาของเขาสะดุดกับใบมีดบางเฉียบหลายพันเล่มเบื้องล่างจนรู้สึกวิงเวียน
แต่เขาจำเป็นต้องรีบเดินข้ามระยะสิบเมตรนี้ให้เร็วที่สุด
เพราะธงสีเขียวที่เพิ่มความแม่นยำในการเคลื่อนไหวให้กับเขาจะมีผลเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น
“เพิ่มความหนา!”
ลวดที่ตึงนั้นเดิมมีขนาดบางเท่าหัวปากกา แต่ทันทีที่สัญลักษณ์บนธงมีผล ลวดก็หนาขึ้นทันทีจนมีขนาดเท่าหัวแม่มือ พอที่จะยืนได้มั่นคงมากขึ้น
หูหยุนควนถอดรองเท้าออก กางหอกงูยาวหนึ่งจ้างแปดฉื่อในแนวนอนเพื่อรักษาสมดุล และก้าวขึ้นไปบนเส้นลวด
โครงสร้างเริ่มสั่นทันทีที่เขาก้าวขึ้นไป
หูหยุนควนเหยียบโครงด้วยท่าทางที่เก้ ๆ กัง ๆ พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อรักษาสมดุล กว่าจะทรงตัวอยู่บนลวดได้เพียงครู่หนึ่ง เสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขารู้สึกหมดแรงจนขาสั่นไปหมด
เว่ยเตียนและคนอื่น ๆ ที่มองอยู่ก็แทบหยุดหายใจ เหลียงฟางถึงกับคว้าแขนเว่ยเตียนและก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเหตุการณ์สุดหวาดเสียวนี้
กลับกันเหล่าอสุรกายที่อยู่บนเวทีต่างแสดงท่าทางผิดหวัง มีอสุรกายหัวหมูตัวหนึ่งถึงกับถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างหยาบคาย
“ฮี่ฮี่ ถ้าหมอนั่นร่วงลงมาคงดี ทุกคนจะได้มีเนื้อคนกินกันคนละคำ!”
อู๋เซี่ยนเหลียวมองอสุรกายที่ส่งเสียงหัวเราะแหลมอย่างแปลกใจ
ที่แท้ก็มีสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียง ‘ฮี่ฮี่’ แบบนี้ได้จริง ๆ
หูหยุนควนที่อยู่บนเส้นลวดไร้ซึ่งสมาธิจะสนใจเสียงอึกทึกด้านล่าง เขากอดหอกไว้แน่น แล้วค่อย ๆ เดินไปทีละก้าว เคลื่อนไหวช้า ๆ ราวกับหอยทาก แต่ละก้าวที่เหยียบลง เขาจะเผยสีหน้าผ่อนคลายออกมาเล็กน้อย
การแสดงนี้ยากกว่าที่เขาคิด เขารู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนกำลังนั่งอยู่บนรถไฟเหาะ
โชคดีที่ยังมีธงสีเขียวช่วยเพิ่มความแม่นยำ ทำให้แต่ละการเคลื่อนไหวของเขาแม่นยำอย่างยิ่ง แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่พลาดตกลงไป
ในที่สุดหูหยุนควนก็เดินมาถึงกลางเส้นลวด
พรึบ!
หัวใจหูหยุนควนเต้นรัวเร็วขึ้นจนแทบหยุด เขารู้สึกถึงความสิ้นหวัง
ผลของธงสีเขียวหมดลงแล้ว!
เขาเดินช้ากว่าที่คาดไว้มาก ใช้เวลาไปสิบนาทีเพียงเพื่อจะเดินมาถึงกลางลวด!
เขายืนนิ่งอยู่บนเส้นลวดเป็นเวลานาน ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย หอกงูที่เขากอดไว้สั่นไหวเล็กน้อย เพราะการทรงตัวอยู่เฉย ๆ ก็แทบจะทำให้เขาหมดแรงอยู่แล้ว
อสุรกายด้านล่างส่งเสียงโห่ร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ เร่งให้เขาเดินต่อ
เหลียงฟางตะโกนบอก “ใจเย็นไว้ ถ้าใจเย็น คุณจะรอด!”
แต่หูหยุนควนเป็นคนที่ประหม่าได้ง่าย จะให้เขาใจเย็นเพียงเพราะคำบอกของผู้อื่นย่อมเป็นไปไม่ได้ เบื้องหน้าของเขาเหมือนมีอสุรกายหลายตนขวางไว้ ส่วนด้านล่างคือเหวลึกไร้ก้นที่หากตกลงไปย่อมไม่มีทางขึ้นมาได้อีกเลย
“ทนอยู่เฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้แล้ว!”
ยิ่งรู้ว่าความประหม่าไม่เป็นผลดี หูหยุนควนก็ยิ่งประหม่าเข้าไปใหญ่ ความหวาดกลัวในใจแทบจะระเบิดออกมา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจในทุกการตัดสินใจตั้งแต่เข้ามาในถ้ำสวรรค์นี้
ถ้าไม่ได้เข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ถ้าไม่ได้เลือกการเดินบนลวด ถ้าไม่ได้ขึ้นเวทีพร้อมกับธงบนหลัง
ถ้า…ไม่ได้หลอกตัวเอง!
คิดได้ถึงตรงนี้ เขานึกถึงคำพูดของอู๋เซี่ยนที่เคยกล่าวพร้อมสีหน้าล้าจากการอดนอน และแฝงคำพูดเสียดสีรุนแรง
“หึ ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า คนที่ไม่มีแม้แต่สภาพจิตใจพื้นฐานจะมีศรัทธาอันแรงกล้าพอที่จะเสียสละตัวเองได้”
หูหยุนควนเงยหน้าขึ้นทันที ความกล้าในใจพลุ่งพล่าน
“ฉันอยากจะร่วมซิ่นเถียว ฉันอยาก…”
เขาพึมพำเบา ๆ มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่ได้ยิน
“เพื่อผู้ยังมีชีวิตอยู่ ฉันพร้อมจะตาย เพื่อผู้ตาย ข้ฉันพร้อมจะอยู่ รักษาความมุ่งมั่น อุทิศตนตามศรัทธา…”
ความประหม่าในใจเขาหายไปทันที เขายกขาและก้าวออกไปอย่างมั่นคง ก้าวนี้แม่นยำและเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าตอนมีธงเพิ่มความแม่นยำเสียอีก!
บางครั้งการตัดสินความเป็นตายไม่ใช่แค่ฝีมือ
แต่คือสภาพจิตใจ
เมื่อเห็นว่าหูหยุนควนกำลังจะเดินถึงปลายทาง เหงื่อที่ไหลออกมาตอนเขาตื่นเต้นนั้นหยดลงมาเข้าตาเขาพอดี
ขาที่กำลังก้าวไปข้างหน้าเกิดสะดุดเล็กน้อย
จากนั้น…
เขาสูญเสียการทรงตัว
….
บันทึกเซียนลี้ลับ
"สุนัขจิ้งจอก เมื่ออายุครบห้าสิบปี สามารถแปลงร่างเป็นหญิงได้ เมื่ออายุครบหนึ่งร้อยปี จะกลายเป็นหญิงงาม หรือเทพเจ้าหญิงและสามารถผูกพันกับมนุษย์หรือปีศาจ สามารถรับรู้เหตุการณ์ที่อยู่ห่างไกลได้หลายพันลี้ และมีความสามารถในการหลอกลวงให้ผู้คนหลงผิดสูญเสียสติ เมื่ออายุครบหนึ่งพันปี จะสามารถสื่อสารกับสวรรค์ได้และกลายเป็นจิ้งจอกสวรรค์"