ตอนที่แล้วบทที่ 146 เหล่ามารรวมตัวในงานเลี้ยง
ทั้งหมดรายชื่อตอน

บทที่ 147 ชีวิตดั่งแขวนบนเส้นด้าย


บทที่ 147 ชีวิตดั่งแขวนบนเส้นด้าย

ทั้งหกคนล้อมวงอยู่รอบโต๊ะอาหาร

เพียงไม่กี่คำก็สามารถตัดสินใจลำดับการแสดงได้

หูหยุนควนอาสาขึ้นแสดงเดินบนเส้นลวด

กวนเต้าหรงจะแสดงเลียนแบบการเดินแบบเมืองหานตัน

อู๋เซี่ยนจับคู่กับตู้เอ๋นในโชว์วาดภาพทายคำ

เว่ยเตียนกับเหลียงฟางรับหน้าที่การแสดงตรงใจตรงกัน

เมื่อจัดลำดับเรียบร้อย การแสดงก็เริ่มขึ้น

หูหยุนควนเป็นคนแรกที่เดินขึ้นเวที ถือสลากที่ได้เป็นการแสดงเดินบนเส้นลวด

สิ่งที่ทำให้ทุกคนสงสัยคือ บนเวทีไม่มีเครื่องมือใด ๆ ให้เดินบนลวดแล้วเขาจะเดินลวดได้อย่างไร?

คำตอบปรากฏขึ้นทันทีเมื่อพ่อบ้านหู ตบมือ เสียงดังฟึบ ฟุ้งกระจายไปทั่วเวที ครั้นหมอกสีขาวเลือนหายไป ปรากฏเป็นโครงสร้างสูงห้าเมตรที่สองด้าน บนโครงเหล่านี้เชื่อมกันด้วยลวดเหล็กยาวสิบเมตรกลางอากาศซึ่งจะเป็นเวทีให้หูหยุนควนแสดงเดินบนเส้นลวด

หากมีเพียงเท่านี้ การเดินบนเส้นลวดนี้ก็คงถือเป็นการแสดงกายกรรมทั่วไปที่อาจไม่อันตรายถึงตายแม้จะตกจากความสูงห้าเมตร

แต่เบื้องล่างโครงสร้างทั้งสองด้านนั้น กลับเต็มไปด้วยใบมีดคมหลายพันเล่ม!

ใบมีดเหล่านี้บางเฉียบและแหลมคม ระยะห่างระหว่างใบมีดเพียงหนึ่งเซนติเมตร หากหูหยุนควนพลาดตกลงไป เขาจะถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทันที

หูหยุนควนกลืนน้ำลาย

เขาเคยคิดว่าตนเองมีทักษะการทรงตัวที่ดีพอจึงเลือกการแสดงเดินบนเส้นลวดซึ่งดูเป็นการแสดงที่เข้าใจง่ายที่สุด เพราะตามนิสัยของถ้ำสวรรค์นี้ สิ่งที่ดูยากที่สุดอาจจะกลายเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดก็เป็นได้

แต่เมื่อเห็นใบมีดด้านล่าง ความมั่นใจของเขาก็เริ่มสั่นคลอน

อู๋เซี่ยนหรี่ตาลงเล็กน้อย

เขาสังเกตว่า ใบมีดที่เว้นห่างกันเพียงหนึ่งเซนติเมตรนี้ คล้ายกับบาดแผลบนร่างของซาเซี่ยวเหวิน

หรือว่าเธอก็เคยเลือกเกมนี้เช่นกันและพลาดตกลงมาจากเส้นลวด?

อู๋เซี่ยนได้แต่หวังอย่างจริงใจว่าหูหยุนควนจะไม่ล้มเหลว เพราะหากเขาตาย ธงพิงลายมังกรสี่สีจะสูญหายไปด้วย

เหล่าอสุรกายต่างพากันส่งเสียงร้อง

แต่สิ่งที่ทำให้พวกมันตื่นเต้นไม่ใช่เพราะการแสดงอันตรายนี้ แต่เพราะแค่การตบมือก็สามารถสร้างเวทีเส้นลวดขึ้นมาได้ทันที

ปีศาจจิ้งจอกเช่นนี้

ต้องมีอายุห้าสิบปีขึ้นไปจึงจะสามารถแปลงร่างเป็นมนุษย์ได้ และจะมีพลังวิเศษเมื่ออายุครบหนึ่งร้อยปี สามารถสะกดจิตและสร้างภาพลวงตาเล็กน้อยได้

ก่อนหน้านี้การที่พ่อบ้านหู สร้างถังจับสลากขึ้นมาไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับปีศาจจิ้งจอกที่มีอายุครบหนึ่งร้อยปี

แต่การสร้างเวทีเส้นลวดขนาดใหญ่ขึ้นต่อหน้าเหล่าอสุรกายมากมายโดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ นั้น เป็นสิ่งที่จิ้งจอกหนึ่งร้อยปีธรรมดาย่อมไม่อาจทำได้แน่

ปีศาจประหลาดนกหัวคนส่งเสียงแหลมดัง “จิ้งจอกพันปีสามารถสื่อสารกับฟ้าได้ พ่อบ้านหู  เจ้าไม่ใช่ว่าบรรลุเป็นจิ้งจอกสวรรค์แล้วรึ?”

พ่อบ้านหู ลูบเคราด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ต้องขอบคุณท่านหลิวที่ประทานวิชาเซียน ข้าไปยังเมืองมนุษย์แล้วกลับมาได้อายุพันปี คืนนี้ท่านหลิวจะประทานวิชาเซียนอีกหลายแขนง ไม่นานทุกท่านคงได้พบกับโชควาสนานั้น!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น

เหล่าอสุรกายพากันอ้าปากค้าง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่ร้องยินดีดังกึกก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยง บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก

แต่จิตใจของอู๋เซี่ยนกลับดำดิ่ง

หลังจากย่าใหญ่ตาย คุณชายหลิวเลือกที่จะเผยวิชาชิงอายุขัยอันชั่วร้ายนี้!

เมื่อเหล่าอสุรกายได้วิชานี้ไป พวกมันจะทำอะไรได้อีก?

คำตอบนั้นชัดเจน

โจมตีมนุษย์เพื่อเพิ่มอายุขัยให้ตน!

งานเลี้ยงนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะจากเหล่ามาร!

สำหรับหูหยุนควน

เสียงอึกทึกครึกโครมนอกเวทีนั้นไร้ความหมาย เพราะเขาต้องหาวิธีเอาชีวิตรอดบนเวทีนี้ให้ได้

เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นจึงขอยืมหอกงูยาวหนึ่งจ้างแปดฉื่อจากกวนเต้าหรง แล้วปักธงสีเขียวลงตรงกลางระหว่างเส้นลวด จากนั้นกอดหอกงูไว้ในอ้อมแขนแล้วค่อย ๆ ก้าวขึ้นไปบนโครงสูง

เมื่อขึ้นมาบนโครงสูง ทุกสิ่งด้านล่างดูเล็กลง สายตาของเขาสะดุดกับใบมีดบางเฉียบหลายพันเล่มเบื้องล่างจนรู้สึกวิงเวียน

แต่เขาจำเป็นต้องรีบเดินข้ามระยะสิบเมตรนี้ให้เร็วที่สุด

เพราะธงสีเขียวที่เพิ่มความแม่นยำในการเคลื่อนไหวให้กับเขาจะมีผลเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น

“เพิ่มความหนา!”

ลวดที่ตึงนั้นเดิมมีขนาดบางเท่าหัวปากกา แต่ทันทีที่สัญลักษณ์บนธงมีผล ลวดก็หนาขึ้นทันทีจนมีขนาดเท่าหัวแม่มือ พอที่จะยืนได้มั่นคงมากขึ้น

หูหยุนควนถอดรองเท้าออก กางหอกงูยาวหนึ่งจ้างแปดฉื่อในแนวนอนเพื่อรักษาสมดุล และก้าวขึ้นไปบนเส้นลวด

โครงสร้างเริ่มสั่นทันทีที่เขาก้าวขึ้นไป

หูหยุนควนเหยียบโครงด้วยท่าทางที่เก้ ๆ กัง ๆ พยายามอย่างสุดกำลังเพื่อรักษาสมดุล กว่าจะทรงตัวอยู่บนลวดได้เพียงครู่หนึ่ง เสื้อผ้าก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขารู้สึกหมดแรงจนขาสั่นไปหมด

เว่ยเตียนและคนอื่น ๆ ที่มองอยู่ก็แทบหยุดหายใจ เหลียงฟางถึงกับคว้าแขนเว่ยเตียนและก้มหน้าลง ไม่กล้ามองเหตุการณ์สุดหวาดเสียวนี้

กลับกันเหล่าอสุรกายที่อยู่บนเวทีต่างแสดงท่าทางผิดหวัง มีอสุรกายหัวหมูตัวหนึ่งถึงกับถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างหยาบคาย

“ฮี่ฮี่ ถ้าหมอนั่นร่วงลงมาคงดี ทุกคนจะได้มีเนื้อคนกินกันคนละคำ!”

อู๋เซี่ยนเหลียวมองอสุรกายที่ส่งเสียงหัวเราะแหลมอย่างแปลกใจ

ที่แท้ก็มีสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียง ‘ฮี่ฮี่’ แบบนี้ได้จริง ๆ

หูหยุนควนที่อยู่บนเส้นลวดไร้ซึ่งสมาธิจะสนใจเสียงอึกทึกด้านล่าง เขากอดหอกไว้แน่น แล้วค่อย ๆ เดินไปทีละก้าว เคลื่อนไหวช้า ๆ ราวกับหอยทาก แต่ละก้าวที่เหยียบลง เขาจะเผยสีหน้าผ่อนคลายออกมาเล็กน้อย

การแสดงนี้ยากกว่าที่เขาคิด เขารู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ เหมือนกำลังนั่งอยู่บนรถไฟเหาะ

โชคดีที่ยังมีธงสีเขียวช่วยเพิ่มความแม่นยำ ทำให้แต่ละการเคลื่อนไหวของเขาแม่นยำอย่างยิ่ง แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่พลาดตกลงไป

ในที่สุดหูหยุนควนก็เดินมาถึงกลางเส้นลวด

พรึบ!

หัวใจหูหยุนควนเต้นรัวเร็วขึ้นจนแทบหยุด เขารู้สึกถึงความสิ้นหวัง

ผลของธงสีเขียวหมดลงแล้ว!

เขาเดินช้ากว่าที่คาดไว้มาก ใช้เวลาไปสิบนาทีเพียงเพื่อจะเดินมาถึงกลางลวด!

เขายืนนิ่งอยู่บนเส้นลวดเป็นเวลานาน ไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย หอกงูที่เขากอดไว้สั่นไหวเล็กน้อย เพราะการทรงตัวอยู่เฉย ๆ ก็แทบจะทำให้เขาหมดแรงอยู่แล้ว

อสุรกายด้านล่างส่งเสียงโห่ร้องดังขึ้นเรื่อย ๆ เร่งให้เขาเดินต่อ

เหลียงฟางตะโกนบอก “ใจเย็นไว้ ถ้าใจเย็น คุณจะรอด!”

แต่หูหยุนควนเป็นคนที่ประหม่าได้ง่าย จะให้เขาใจเย็นเพียงเพราะคำบอกของผู้อื่นย่อมเป็นไปไม่ได้ เบื้องหน้าของเขาเหมือนมีอสุรกายหลายตนขวางไว้ ส่วนด้านล่างคือเหวลึกไร้ก้นที่หากตกลงไปย่อมไม่มีทางขึ้นมาได้อีกเลย

“ทนอยู่เฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้แล้ว!”

ยิ่งรู้ว่าความประหม่าไม่เป็นผลดี หูหยุนควนก็ยิ่งประหม่าเข้าไปใหญ่ ความหวาดกลัวในใจแทบจะระเบิดออกมา เขาเริ่มรู้สึกเสียใจในทุกการตัดสินใจตั้งแต่เข้ามาในถ้ำสวรรค์นี้

ถ้าไม่ได้เข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ถ้าไม่ได้เลือกการเดินบนลวด ถ้าไม่ได้ขึ้นเวทีพร้อมกับธงบนหลัง

ถ้า…ไม่ได้หลอกตัวเอง!

คิดได้ถึงตรงนี้ เขานึกถึงคำพูดของอู๋เซี่ยนที่เคยกล่าวพร้อมสีหน้าล้าจากการอดนอน และแฝงคำพูดเสียดสีรุนแรง

“หึ ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่า คนที่ไม่มีแม้แต่สภาพจิตใจพื้นฐานจะมีศรัทธาอันแรงกล้าพอที่จะเสียสละตัวเองได้”

หูหยุนควนเงยหน้าขึ้นทันที ความกล้าในใจพลุ่งพล่าน

“ฉันอยากจะร่วมซิ่นเถียว ฉันอยาก…”

เขาพึมพำเบา ๆ มีเพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่ได้ยิน

“เพื่อผู้ยังมีชีวิตอยู่ ฉันพร้อมจะตาย เพื่อผู้ตาย ข้ฉันพร้อมจะอยู่ รักษาความมุ่งมั่น อุทิศตนตามศรัทธา…”

ความประหม่าในใจเขาหายไปทันที เขายกขาและก้าวออกไปอย่างมั่นคง ก้าวนี้แม่นยำและเด็ดเดี่ยวยิ่งกว่าตอนมีธงเพิ่มความแม่นยำเสียอีก!

บางครั้งการตัดสินความเป็นตายไม่ใช่แค่ฝีมือ

แต่คือสภาพจิตใจ

เมื่อเห็นว่าหูหยุนควนกำลังจะเดินถึงปลายทาง เหงื่อที่ไหลออกมาตอนเขาตื่นเต้นนั้นหยดลงมาเข้าตาเขาพอดี

ขาที่กำลังก้าวไปข้างหน้าเกิดสะดุดเล็กน้อย

จากนั้น…

เขาสูญเสียการทรงตัว

….

บันทึกเซียนลี้ลับ

"สุนัขจิ้งจอก เมื่ออายุครบห้าสิบปี สามารถแปลงร่างเป็นหญิงได้ เมื่ออายุครบหนึ่งร้อยปี จะกลายเป็นหญิงงาม หรือเทพเจ้าหญิงและสามารถผูกพันกับมนุษย์หรือปีศาจ สามารถรับรู้เหตุการณ์ที่อยู่ห่างไกลได้หลายพันลี้ และมีความสามารถในการหลอกลวงให้ผู้คนหลงผิดสูญเสียสติ เมื่ออายุครบหนึ่งพันปี จะสามารถสื่อสารกับสวรรค์ได้และกลายเป็นจิ้งจอกสวรรค์"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด