บทที่ 12 ใส่ร้าย
บทที่ 12 ใส่ร้าย
“เหม็นแล้ว?”
ฟางจือสิงสูดลมหายใจ พยายามแยกกลิ่นเหม็นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นปัสสาวะ อุจจาระ กลิ่นเหงื่อ กลิ่นปาก และพบว่ามีกลิ่นเฉพาะแทรกอยู่จริงๆ
นั่นคือกลิ่นศพ!
ตอนนี้เป็นช่วงปลายเดือนกันยายน หากมีกลิ่นศพแบบนี้ แสดงว่าเสียชีวิตมานานกว่า 48 ชั่วโมงแล้ว
“ป้าบอกว่าลุงหลิวถูกฆ่า มีหลักฐานอะไรที่ยืนยันล่ะ?” ฟางจือสิงถาม
“โถ ลุงหลิวของเธอตายอย่างน่าอนาถจริงๆ!”
หวังต้าซันเล่าพลางทำท่าทางให้ดูที่หน้าอก “เขาถูกคว้านท้อง อวัยวะทั้งหัวใจ ตับ และปอด หายไปหมด!”
คว้านท้อง แถมอวัยวะภายในยังถูกเอาไปด้วย!
ฟางจือสิงสะท้านไปทั้งตัว
ปฏิกิริยาแรกของเขาคือ เจ้าอสูรกินคนที่ฆ่าลุงเอ้อร์โกวนั่นอีกแล้ว คราวนี้มันลงมืออีกครั้ง!
ลุงหลิวอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครพึ่งพิง ก็เลยกลายเป็นเป้าหมายหนึ่งของเจ้าอสูรกินคน
คิ้วของฟางจือสิงขมวดเข้าหากันแน่น ความเย็นยะเยือกแทรกซึมในใจ
เสียงประตูดังเอี๊ยด!
ในตอนนั้น ประตูห้องด้านในก็เปิดออก
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าเดินออกมา
เขาจับจมูกไว้ ใบหน้าเคร่งขรึม ขณะเดินมายังหน้าชาวบ้าน พลางยกไปป์สูบหมุนไปมา
เหล่าชาวบ้านหันไปมองหัวหน้าหมู่บ้านเก่าด้วยความสนใจ
ฟางจือสิงฉวยจังหวะนั้นเขย่งเท้า มองเข้าไปในห้องด้านใน และทันใดนั้นดวงตาก็เบิกกว้าง
ที่ไม่ไกลจากประตูห้องด้านใน มีศพที่ดำคล้ำแน่นิ่งอยู่ ร่างท่อนบนเปลือยเปล่า หน้าอกถูกคว้านเป็นรูโบ๋ มีหนอนไต่ยั้วเยี้ยอยู่ในเนื้อ และ เลือด สภาพศพน่ากลัวจนทำให้คนรู้สึกขยะแขยง
บนโต๊ะข้างๆ ยังมีเศษหัวใจอยู่ครึ่งหนึ่ง
ภาพที่เห็นทำให้ฟางจือสิงแทบกลั้นหายใจ
“โว้ย!” “โว้ย!”
เสี่ยวโก่วที่นอนอยู่บนพื้นหูลู่ต่ำลง พลางส่งเสียงในหัวว่า “หลังฆ่าลุงหลิวแล้ว เจ้าฆาตกรยังทิ้งเขาไว้แบบนั้นในบ้านอีก!”
ฟางจือสิงพยักหน้ารับ “อืม”
เสี่ยวโก่วสั่นกลัวแล้วพูดว่า “รายต่อไป อาจจะเป็นนายก็ได้นะ!”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าหยิบไปป์สูบขึ้นมา สูบเข้าไปเฮือกหนึ่ง มองด้วยแววตาขุ่นมัว แล้วพูดเสียงดัง “ทุกคนฟัง ลุงหลิวถูกฆ่าแล้ว”
ความเงียบเข้าปกคลุม ทุกคนตกอยู่ในความหวาดกลัวที่ยากจะบรรยาย
ลุงเอ้อร์โกวตายไปแล้ว ตอนนี้ลุงหลิวก็ตายอีก!
ขาของลุงเอ้อร์โกวถูกตัดไปสองข้าง ขณะที่ท้องของลุงหลิวถูกคว้านจนว่างเปล่า!
เกิดอะไรขึ้นกันแน่? คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว
มีใครบางคนในหมู่บ้านฝูหนิวกำลังกินคนอยู่!
ชาวบ้านต่างนิ่งเงียบ มองหน้ากันด้วยความหวาดระแวงและไม่ไว้วางใจ
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าเห็นดังนั้น รีบพูดขึ้นทันทีว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก ในเมื่อมีคนถูกฆ่าในหมู่บ้าน เราต้องแจ้งทางการให้จัดการ ไม่ว่าใครจะเป็นคนฆ่าลุงหลิว เราจะจับตัวมันมาให้ได้ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ลุงหลิว”
“ใช่แล้วๆ ต้องทำอย่างนี้!” ชาวบ้านต่างเห็นพ้อง
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าสั่งสมความน่าเชื่อถือมานาน ทุกคนไม่มีใครกล้าตั้งข้อสงสัย เขาพูดให้ทำอย่างไรก็ต้องทำตาม
"เอาล่ะ ทุกคนกลับบ้านกันไปเถอะ ล็อกประตูให้ดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นให้ตะโกนเรียกดังๆ" หัวหน้าหมู่บ้านเก่าโบกมือไล่ชาวบ้านกลับบ้าน
ฟางจือสิงหันไปมองเสี่ยวโก่วก่อนจะเดินกลับบ้าน
เสี่ยวโก่วรับรู้ทันที แอบย่องไปที่มุมกำแพง หายเข้าไปในความมืดจนไม่มีใครมองเห็น
เมื่อชาวบ้านแยกย้ายกลับไป เหลือเพียงหัวหน้าหมู่บ้านเก่ากับลูกชายสามคนของเขา
จ้าวต้าหู่พูดขึ้นว่า “พ่อ จะให้รายงานทางการจริงๆ หรือ? แค่ใครจากอำเภอมาเราก็ต้องเลี้ยงข้าวสามมื้อทุกวัน แล้วจะเอาจากบ้านใครล่ะ? ไหนจะคุณพ่อที่เป็นผู้ใหญ่บ้านอีก ทั้งต้องเสียเงินเสียแรง!”
จ้าวเอ้อร์หู่พยักหน้า “จริงครับ เชิญมาแล้วไล่กลับยาก”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าหัวเราะ “จะให้แจ้งอะไรล่ะ ฉันก็แค่พูดไปงั้นเองเพื่อให้พวกชาวบ้านสบายใจ แล้วก็ขู่เจ้าอสูรกินคนนั่นไปในตัว”
ลูกชายทั้งสามคนก็พยักหน้ารับ
จ้าวต้าหู่ถามต่อว่า “ถ้าไม่แจ้งทางการ แล้วจะจัดการเรื่องนี้ยังไงล่ะ?”
จ้าวซาหู่ รีบพูดว่า “พี่ใหญ่ ไหนพี่เคยสงสัยว่าต้าเหนียวคืออสูรกินคน ถ้าอย่างนั้นเราก็จับเขามาประหารให้รู้แล้วรู้รอดจะดีกว่าไหม?”
จ้าวต้าหู่ส่ายหน้า “ลุงเอ้อร์โกวอาจจะเป็นฝีมือต้าเหนียว แต่ลุงหลิวนี่ไม่ใช่ฝีมือเขาหรอก”
จ้าวซาหู่ทำหน้า งง “ไม่ใช่หรือ?”
จ้าวต้าหู่ยักไหล่ “สองสามวันนี้ ฉันให้ลูกชายแอบเฝ้าดูต้าเหนียว เห็นเขาออกจากบ้านเช้ากลับค่ำไปที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ลุงหลิวหายหน้าไปตั้งแต่บ่ายสามวันที่ผ่านมา หลังจากเข้าบ้านก็ไม่ออกมาอีก ตลอดเวลานั้น ลูกชายฉันก็เฝ้ามองต้าเหนียวตลอด”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าพยักหน้า “คนถ้าหิวสุดๆ อะไรก็กินทั้งนั้น ต้าเหนียวกินลุงเอ้อร์โกวไป ส่วนอีกคนกินลุงหลิว ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ พอถึงหน้าหนาว คนทั้งหมู่บ้านอาจจะเริ่มกินคนกันหมด”
จ้าวต้าหู่ตาโต “พ่อ แล้วพ่อเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในปีที่เกิดความอดอยากไหม?”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าทำหน้าครุ่นคิด ใบหน้าผันแปรไปมาราวกับคิดอะไรบางอย่างได้ ก่อนเปลี่ยนเรื่องถามว่า “ซ่งต้าแย่หายไปกี่วันแล้ว?”
จ้าวต้าหู่ตอบว่า “สักเจ็ดแปดวันแล้วครับ”
“อืม”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าเผยรอยยิ้มอย่างพอใจ
ช่วงนี้ซ่งต้าแย่ และ อีกสามคนออกไปล่าสัตว์ ยังไม่ได้กลับมาหมู่บ้าน ทำให้ซ่งต้าหนาง ภรรยา และลูกสะใภ้กังวลใจมาก
ซ่งต้าหนาง มาขอร้องให้หัวหน้าหมู่บ้านเก่าช่วยจัดคนไปตามหาในป่า แต่ในยุคสมัยแบบนี้ ทุกคนยังลำบากปากท้องของตัวเองอยู่ ใครจะมีเวลาหรือกำลังไปช่วยหาคน?
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าหัวเราะ “ดูท่าคนตระกูลซ่งจะตายหมดในป่าแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมาก!”
ลูกชายทั้งสามคนอึ้งไป “พ่อ ทำไมถึงว่าดีล่ะ?”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่ากลอกตา หันไปมองจ้าวซาหู่ ยิ้มแล้วพูดว่า “เจ้าซาหู่ไม่ใช่ว่าเคยหมายปองเมียของ ซ่งเอ้อร์ ใช่ไหม? เดี๋ยวพ่อจะไปสู่ขอให้ เจ้าจะแต่งงานกับเธอ แล้วเอาข้าวของเงินทองของบ้านซ่งมาให้หมด”
จ้าวซาหู่ดีใจจนเนื้อเต้น “พ่อ เป็นความคิดที่ดีจริงๆ ขอบคุณครับพ่อ!”
จ้าวต้าหู่ถามต่อว่า “แล้วซ่งต้าหนางจะทำยังไง?”
หัวหน้าหมู่บ้านเก่าพูดอย่างเย็นชา “ยายแก่คนนี้ต้องหาทางกำจัดเธอแน่ เธอคงต้องตายไปด้วยกัน พวกเราก็จะบอกชาวบ้านไปว่า คนที่ฆ่าลุงหลิวก็คือซ่งต้าหนางเอง เพราะเธอเสียทั้งสามี และ ลูกจนกลายเป็นบ้า!”
จ้าวต้าหู่พยักหน้ารัวๆ “พ่อท่านนี่ทั้งฉลาด และ สุขุมจริงๆ!”
หลังจากตกลงกันเรียบร้อย หัวหน้าหมู่บ้านเก่าก็สั่งให้ลูกชายสามคนฝังศพของลุงหลิว ส่วนตัวเขาเดินไปยังบ้านของซ่งเอ้อร์
เมื่อทั้งสี่จากไป เสี่ยวโก่วก็กระโดดออกมาจากความมืด แล้ววิ่งกลับบ้านสุดชีวิต
ฟางจือสิงที่รออยู่ถามทันที “ได้ยินอะไรบ้างไหม?”
เสี่ยวโก่วเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด
“อะไรนะ พวกเขาสงสัยว่าฉันเป็นคนกินลุงเอ้อร์โกว?”
ฟางจือสิงอึ้งไป พูดไม่ออก รู้สึกงงงวยอย่างบอกไม่ถูก
เสี่ยวโก่วมองเขาแล้วพูดว่า “ฉันคิดว่าพวกเขาสงสัยนาย เพราะนายตัวใหญ่ขึ้นน่ะสิ!”
ฟางจือสิงมองตัวเองอย่างตะลึง แล้วก็ถึงบางอ้อ “อย่างนี้นี่เอง ถึงว่าล่ะ!”
เสี่ยวโก่วพูดต่อ “หัวหน้าหมู่บ้านเก่านี่ร้ายจริงๆ ใจดำขนาดนี้ เล่นงานครอบครัวซ่งจนหมดสิ้น”
ฟางจือสิงรู้สึกเสียวสันหลัง วิตกอยู่ในใจ
“แค่อีกนิดเดียว หัวหน้าหมู่บ้านเก่าก็จะเอาฉันเป็นเหยื่อแทนแล้ว”
..........