บทที่ 11 : เข้าห้องสมุดและเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ของสัตว์อสูร!
บทที่ 11 : เข้าห้องสมุดและเรียนรู้ทักษะการต่อสู้ของสัตว์อสูร!
"นักเรียนทุกคน อ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนกันไปก่อนนะ"
เฉินฉีเหนียนบอกกับเหล่านักเรียนก่อนจะหันมาทางเซียวซิงหยู
"เซียวซิงหยู ออกมาหาฉันข้างนอกหน่อย"
ที่ระเบียงทางเดินนอกห้องเรียน เฉินฉีเหนียนหันมาคุยกับเซียวซิงหยูเป็นการส่วนตัว
"นายนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็เรียนเนื้อหาภาคทฤษฎีจบทั้งเทอมแล้ว"
เฉินฉีเหนียนมองเซียวซิงหยูด้วยความสนใจราวกับมองสิ่งมหัศจรรย์
เซียวซิงหยูยิ้มและพูดอย่างถ่อมตัว
"ก็อาจารย์เฉินสอนดีนี่ครับ"
"เหอะๆ" เฉินฉีเหนียนส่ายหน้า
"อย่าเอาฉันไปยอเลย ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอที่จะสอนนายรึเปล่า นายมันอัจฉริยะตัวจริงเสียงจริง!"
คำว่า "อัจฉริยะ" เป็นคำยกย่องสูงสุดสำหรับปรมาจารย์อสูรรุ่นเยาว์
ในประเทศมังกรมีการจัดอันดับอัจฉริยะซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ ผู้ที่ติดอันดับล้วนเป็นปรมาจารย์อสูรรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่น
เเละหลังจากการสอบระดับประเทศครั้งก่อน, เซียวซิงหยูก็ติดอันดับที่ 24 ในบัญชีอัจฉริยะทั้งหมด
"ด้วยพรสวรรค์ขนาดนี้ อันดับของเด็กคนนี้คงจะพุ่งสูงมากกว่านี้ในอีกไม่นานแน่ๆ" เฉินฉีเหนียนพึมพำในใจ
"ว่าเเต่อาจารย์เฉิน เรียกผมออกมาข้างนอกเเบบนี้มีอะไรรึเปล่าครับ?" เซียวซิงหยูถามอย่างสงสัย
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เฉินฉีเหนียนก็ยื่นบัตรสีทองใบหนึ่งให้เซียวซิงหยู
บัตรใบนั้นสลักรูปหัวมังกรชิงหลง
"นี่คือบัตรยืมหนังสือของห้องสมุดชิงหลง นายสามารถใช้บัตรใบนี้เข้าออกห้องสมุดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังยืมหนังสือได้ฟรีอีกด้วย"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ตาลุกวาวด้วยความดีใจทันที
"ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ มุมปากของนายเเทบจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว" เฉินฉีเหนียนเอ่ยแซว
"ขอบคุณครับอาจารย์เฉิน!"
เซียวซิงหยูรู้สึกขอบคุณเฉินฉีเหนียนมาก
บัตรยืมหนังสือใบนี้มีความสำคัญกับเขามากจริงๆ
วิทยาลัยฝึกสัตว์อสูรทั้งสี่แห่งต่างก็มีห้องสมุดเป็นของตัวเอง ห้องสมุดชิงหลงของวิทยาลัยชิงหลงมีหนังสือเกี่ยวกับการฝึกสัตว์อสูรและการรับมือกับสัตว์อสูรนับแสนเล่ม
ที่สำคัญที่สุดคือมันมีหนังสือประเภท "ตำราทักษะต่อสู้" อยู่ด้วย
สัตว์อสูรส่วนใหญ่ต้องใช้ทักษะในการสู้รบ ทักษะเหล่านี้เรียกว่าทักษะการต่อสู้
บางทักษะเป็นทักษะติดตัวที่สัตว์อสูรเกิดมาพร้อมกับมัน เช่น ทักษะ "พันธนาการนรก" และ "คำรามอเวจี" ของหมาป่าวายุนรก
เเต่ทักษะต่อสู้บางทักษะต้องเรียนรู้เพิ่มเติม
สำหรับโลกใบนี้, อารยธรรมปรมาจารย์อสูรพัฒนามา 300 ปีแล้ว
เหล่าปรมาจารย์อสูรรุ่นก่อนได้ร่วมมือกันสร้างตำราทักษะต่อสู้ขึ้นมามากมาย ตำราเหล่านี้ถูกแบ่งประเภทตามคุณสมบัติและรูปแบบการต่อสู้ของสัตว์อสูร
ยกตัวอย่างเช่น "ตำราทักษะต่อสู้สำหรับสัตว์อสูรตระกูลหมาป่า" หรือ "บันทึกทักษะการต่อสู้ธาตุไฟ"
"เอาล่ะ เอาบัตรไปใช้ที่ห้องสมุดได้เลย" เฉินฉีเหนียนเร่ง
"แล้วคาบเรียนของอาจารย์ล่ะครับ?"
"นายเรียนเนื้อหาภาคทฤษฎีจบทั้งเทอมแล้ว ถ้าจะนั่งอยู่ในห้องเรียนต่อมันก็เสียเวลาเปล่าๆ ฉันอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ให้นายไม่ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎี ไปใช้เวลาที่ห้องสมุดได้เลย"
คำพูดของเฉินฉีเหนียนทำให้เซียวซิงหยูรู้สึกอบอุ่นใจ
ในยุคที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด มันจึงมีเพียงอัจฉริยะเท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
ทันใดนั้น เฉินฉีเหนียนก็พูดเสริมต่อ
"จริงสิ ถึงนายไม่ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎี แต่ห้ามขาดเรียนภาคปฏิบัติเด็ดขาดนะ…นายเข้าใจไหม?"
เซียวซิงหยูพยักหน้ารับ เขาเข้าใจว่าภาคปฏิบัติมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนใหม่
เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ทฤษฎีทั้งหมดจะต้องนำไปใช้ในทางปฏิบัติ ถึงจะสามารถต่อกรกับกองทัพสัตว์อสูรที่กำลังจ้องจะทำลายมนุษยชาติ
…….
ณ ห้องสมุดชิงหลง
ในขณะที่เพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ยังคงเรียนเนื้อหาบทแรกในห้องเรียน เเต่เซียวซิงหยูกลับกำลังใช้สิทธิพิเศษเพื่อเข้ามาในห้องสมุดชิงหลง
"ห้องสมุดนี่ใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนพระราชวังโบราณเลยเเฮะ..."
ภายในห้องสมุดตกแต่งอย่างหรูหรา
กลางห้องโถงมีเสาขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน บนเสามีชั้นหนังสือฝังอยู่เต็มไปหมด
"เคล็ดลับพัฒนาสัตว์อสูรฉบับเร่งรัด"
"เทคนิคในการสอบปรมาจารย์อสูรระดับสองดาว"
"สอนรับมือกับสัตว์อสูรเผ่าร้ายภายในสามนาที"
"การดูแลแม่หมูหลังคลอด"
"หนังสือในห้องสมุดนี่หลากหลายจริงๆ..."
หมาป่าวายุนรกมีคุณสมบัติทั้งธาตุไฟและธาตุลม เซียวซิงหยูจึงพยายามเลือกตำราทักษะต่อสู้สองเล่มที่ตรงกับคุณสมบัติทั้งสองนี้
จากนั้นเขาก็หาที่นั่งตามมุมห้องแล้วเริ่มอ่านหนังสือ
ด้วยพลังของดวงตาเทพอสูร เซียวซิงหยูใช้เวลาเพียงหนึ่งนาทีก็สามารถอ่านหนังสือทั้งสองเล่มจบ
แต่การที่จะฝึกฝนสัตว์อสูรให้เรียนรู้และเชี่ยวชาญทักษะต่อสู้ใหม่ๆได้นั้น…มันก็ต้องขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของสัตว์อสูรตัวนั้นๆด้วย
อย่างไรก็ตาม, โชคยังดีที่เซียวซิงหยูมียาเพิ่มความเข้าใจอยู่ในระบบ
เมื่อให้หมาป่านรกกินยาชนิดนี้ สติปัญญาของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก…มันไม่เพียงแต่จะเรียนรู้ทักษะต่อสู้ได้เร็วขึ้น แต่ยังสามารถเรียนรู้ทักษะต่อสู้ระดับสูงได้อีกด้วย
…..
เวลาผ่านไปสองชั่วโมง
หลังจากอ่านหนังสือจบเล่มที่ 1032 จบ เซียวซิงหยูก็ถอนหายใจออกมา
"ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้ว พี่สาวคงมารอที่หน้าโรงเรียนแล้วล่ะ"
เซียวรั่วเสวี่ยไม่อยากให้เซียวซิงหยูกินข้าวที่โรงอาหาร เธอจึงเตรียมข้าวกล่องมาให้ที่หน้าโรงเรียนทุกวัน เพื่อให้น้องชายได้กินอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์
เเละก่อนออกจากห้องสมุด เซียวซิงหยูได้หยิบหนังสือ "สารานุกรมทักษะการต่อสู้ธาตุความมืด" มาเล่มหนึ่ง
บรรณารักษ์เป็นคุณตาอ้วนใจดี ไม่มีใครรู้จักชื่อของเขา...แต่ทุกคนในโรงเรียนเรียกเขาว่า ลุงสาม
"ลุงสาม ผมขอยืมหนังสือเล่มนี้กลับไปอ่านที่หอพักนะครับ"
เมื่อเห็นชื่อหนังสือ, ลุงสามก็ทำหน้างงเล็กน้อย
"เซียวซิงหยู สัตว์อสูรของเธอมีคุณสมบัติธาตุไฟและธาตุลม ทำไมเธอถึงยืมตำราทักษะการต่อสู้ธาตุความมืดล่ะ?"
เซียวซิงหยูยิ้มรับ แล้วตอบปัดๆไปว่า
"ผมแค่อยากอ่านเล่นๆน่ะครับ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้, ลุงสามก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรต่อ
เเละเซียวซิงหยูก็มีบัตรยืมหนังสือ, ไม่ว่าเขาจะยืมหนังสือเล่มไหนมันก็ไม่ผิดกฎ
"เอาล่ะ ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว อย่างช้าสุดต้องคืนภายในสามวันนะ"
"ครับผม พรุ่งนี้เช้าผมก็เอามาคืนแล้วครับ!" เซียวซิงหยูตอบพร้อมรอยยิ้ม
หลังจากออกจากห้องสมุด เซียวซิงหยูก็กลับไปที่ห้องเรียน นั่งรอประมาณสิบนาที เสียงกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้น
………
"ในที่สุดก็เลิกเรียนสักที!"
"หิวแล้ว ไปกินข้าวที่โรงอาหารกันเถอะ!"
"ได้ยินมาว่ามีร้านปิ้งย่างอยู่หลังโรงเรียน ไปกินปิ้งย่างกันไหม?"
"ไปสิ ฉลองเปิดเทอมกัน คืนนี้ต้องเมาให้หลับกันไปข้าง!"
นี่แหละคือพลังของนักเรียนปีหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง เเละยังไม่รู้จักความโหดร้ายของการฝึกเเบบนรก
เเต่ทันใดนั้น, เฉินฉีเหนียนก็ตบโต๊ะเรียกความสนใจ
"ทุกคน พรุ่งนี้ตอนบ่ายเราจะเริ่มเรียนภาคปฏิบัติคาบแรก กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่ เตรียมสัตว์อสูรของตัวเองให้พร้อมสำหรับการฝึกพรุ่งนี้ด้วย!"
หลังจากกำชับนักเรียนเสร็จ เฉินฉีเหนียนก็ออกจากห้องเรียนไป
เมื่อเห็นอาจารย์ไปแล้ว, อู๋เซิงโหย่วก็รีบวิ่งเข้ามาหาเซียวซิงหยูด้วยสีหน้าชื่นชม
"เซียวซิงหยู ฉันนับถือนายจริงๆ!"
"เเค่วันแรกของการเปิดเทอม อาจารย์เฉินก็ให้บัตรยืมหนังสือนายเป็นกรณีพิเศษ แถมยังอนุญาตให้นายไม่ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎีอีกต่างหาก"
เมื่อเห็นอู๋เซิงโหย่วพูดไม่หยุด เซียวซิงหยูก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วคิดในใจ
"เจ้านี่เป็นหนูขี้เม้าท์ตัวจริงเสียงจริงเลย"
หลังจากเก็บหนังสือใส่กระเป๋า เซียวซิงหยูและอู๋เซิงโหย่วก็เดินออกจากอาคารเรียนด้วยกัน
"เซียวซิงหยู ฉันจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร นายไม่ไปด้วยกันเหรอ?"
"ฉันบอกไปแล้วไง ว่าพี่สาวฉันจะเอากล่องข้าวมาให้" เซียวซิงหยูกล่าวเเล้วเดินตรงไปที่ประตูโรงเรียน
ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อู๋เซิงโหย่วจึงแอบมองเซียวซิงหยูจากระยะไกล
ที่หน้าประตูโรงเรียน
สาวสวยผมสีเงิน ยืนถือกระเป๋าเก็บความร้อนรออยู่ท่ามกลางสายลม
แม้ว่าเธอจะแต่งตัวเรียบง่าย แต่มันก็ไม่อาจปกปิดใบหน้าที่งดงามและออร่าความอ่อนโยนของเธอได้
"พี่สาว!"
"เสี่ยวหยู!"
เซียวซิงหยูรีบวิ่งเข้าไปรับกระเป๋าเก็บความร้อนจากมือเซียวรั่วเสวี่ย
ข้างในนั้นมีกล่องข้าวที่จัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม
ในนั้นมีกับข้าวสองอย่าง ผักหนึ่งอย่าง และขนมหวานอีกนิดหน่อย เน้นสารอาหารครบถ้วน
เซียวซิงหยูเป็นม้ามืดที่โด่งดังอยู่แล้ว ส่วนเซียวรั่วเสวี่ยก็เป็นสาวสวยผมเงินที่สะดุดตา พี่น้องคู่นี้จึงตกเป็นเป้าสายตาของนักเรียนคนอื่นๆอย่างง่ายดาย
"ผู้หญิงผมเงินคนนั้นสวยมาก!"
"เหมือนเธอจะเป็นพี่สาวของเซียวซิงหยูนะ"
"ทำไมพี่สาวผมเงิน แต่น้องผมดำ สงสัยจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ"
"เซียวซิงหยูเหรอ? เด็กคนนั้นมีพรสวรรค์มากนี่…แถมยังมาจากเมืองเล็กๆอีก"
เซียวซิงหยูไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง
เขาหาต้นไม้แถวนั้นนั่งพิงแล้วเริ่มกินข้าวเย็นฝีมือพี่สาวอย่างเอร็ดอร่อย
……………………