ตอนที่แล้วบทที่ 10 : เด็กอัจฉริยะที่น่าประหลาด​ใจ​!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 12 : ทักษะ​การต่อสู้​ธาตุ​มืด

บทที่ 11 : เข้าห้องสมุดและเรียนรู้ทักษะ​การต่อสู้ของสัตว์อสูร​!


บทที่ 11 : เข้าห้องสมุดและเรียนรู้ทักษะ​การต่อสู้ของสัตว์อสูร​!

"นักเรียนทุกคน อ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนกันไปก่อนนะ"

เฉินฉีเหนียนบอกกับเหล่านักเรียนก่อนจะหันมาทางเซียวซิงหยู

"เซียวซิงหยู ออกมาหาฉันข้างนอกหน่อย"

ที่ระเบียงทางเดินนอกห้องเรียน เฉินฉีเหนียนหันมาคุยกับเซียวซิงหยูเป็นการส่วนตัว

"นายนี่มันไม่ธรรมดาจริงๆ ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาทีก็เรียนเนื้อหาภาคทฤษฎีจบทั้งเทอมแล้ว"

เฉินฉีเหนียนมองเซียวซิงหยูด้วยความสนใจราวกับมองสิ่งมหัศจรรย์

เซียวซิงหยูยิ้มและพูดอย่างถ่อมตัว

"ก็อาจารย์เฉินสอนดีนี่ครับ"

"เหอะๆ" เฉินฉีเหนียนส่ายหน้า

"อย่าเอาฉันไปยอเลย ตอนนี้ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าตัวเองมีคุณสมบัติพอที่จะสอนนายรึเปล่า นายมันอัจฉริยะตัวจริงเสียง​จริง​!"

คำว่า "อัจฉริยะ" เป็นคำยกย่องสูงสุดสำหรับปรมาจารย์​อสูร​รุ่นเยาว์

ในประเทศมังกรมีการจัดอันดับอัจฉริยะซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะ ผู้ที่ติดอันดับล้วนเป็นปรมาจารย์​อสูร​รุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์โดดเด่น

เเละหลังจากการสอบระดับประเทศครั้งก่อน, เซียวซิงหยูก็ติดอันดับที่ 24 ในบัญชีอัจฉริยะทั้งหมด

"ด้วยพรสวรรค์ขนาดนี้ อันดับของเด็กคนนี้คงจะพุ่งสูงมากกว่า​นี้ในอีกไม่นานแน่ๆ" เฉินฉีเหนียนพึมพำ​ในใจ

"ว่าเเต่อาจารย์เฉิน เรียกผมออกมาข้างนอกเเบบนี้​มีอะไรรึเปล่าครับ?" เซียวซิงหยูถามอย่าง​สงสัย​

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เฉินฉีเหนียนก็ยื่นบัตรสีทองใบหนึ่งให้เซียวซิงหยู

บัตรใบนั้นสลักรูปหัวมังกรชิงหลง

"นี่คือบัตรยืมหนังสือของห้องสมุดชิงหลง นายสามารถใช้บัตรใบนี้เข้าออกห้องสมุดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังยืมหนังสือได้ฟรีอีกด้วย"

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, เซียวซิงหยูก็ตาลุกวาวด้วยความดีใจทันที​

"ดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ มุมปากของนาย​เเทบจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว" เฉินฉีเหนียนเอ่ยแซว

"ขอบคุณครับอาจารย์เฉิน!"

เซียวซิงหยูรู้สึกขอบคุณเฉินฉีเหนียนมาก

บัตรยืมหนังสือใบนี้มีความสำคัญกับเขามากจริงๆ

วิทยาลัย​ฝึกสัตว์อสูรทั้งสี่แห่งต่างก็มีห้องสมุดเป็นของตัวเอง ห้องสมุดชิงหลงของวิทยาลัย​ชิงหลงมีหนังสือเกี่ยวกับการฝึกสัตว์อสูรและการรับมือกับสัตว์อสูรนับแสนเล่ม

ที่สำคัญที่สุดคือมันมีหนังสือประเภท "ตำราทักษะ​ต่อสู้" อยู่​ด้วย

สัตว์อสูรส่วนใหญ่ต้องใช้ทักษะในการสู้​รบ​ ทักษะเหล่านี้เรียกว่าทักษะการต่อสู้

บางทักษะ​เป็นทักษะ​ติดตัวที่สัตว์อสูรเกิดมาพร้อมกับมัน เช่น ทักษะ​ "พันธนาการนรก" และ "คำรามอเวจี​" ของหมาป่าวายุ​นรก

เเต่ทักษะ​ต่อสู้บางทักษะ​ต้องเรียนรู้เพิ่มเติม

สำหรับ​โลกใบ​นี้, อารยธรรมปรมาจารย์​อสูร​พัฒนามา 300 ปีแล้ว

เหล่าปรมาจารย์​อสูร​รุ่นก่อนได้ร่วมมือกันสร้างตำราทักษะ​ต่อสู้ขึ้นมามากมาย ตำราเหล่านี้ถูกแบ่งประเภทตามคุณสมบัติและรูปแบบการต่อสู้ของสัตว์อสูร

ยกตัว​อย่างเช่น "ตำราทักษะ​ต่อสู้สำหรับสัตว์อสูรตระกูลหมาป่า" หรือ "บันทึกทักษะการ​ต่อสู้ธาตุไฟ"

"เอาล่ะ เอาบัตรไปใช้ที่ห้องสมุดได้เลย" เฉินฉีเหนียนเร่ง

"แล้วคาบเรียนของอาจารย์ล่ะครับ?"

"นายเรียนเนื้อหาภาคทฤษฎีจบทั้งเทอมแล้ว ถ้าจะนั่งอยู่ในห้องเรียนต่อมันก็เสียเวลาเปล่าๆ ฉันอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ ให้นายไม่ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎี ไปใช้เวลาที่ห้องสมุดได้เลย"

คำพูดของเฉินฉีเหนียนทำให้เซียวซิงหยูรู้สึกอบอุ่นใจ

ในยุคที่ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะอยู่รอด มันจึงมีเพียงอัจฉริยะเท่านั้นที่จะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ

ทันใดนั้น​ เฉินฉีเหนียนก็พูดเสริมต่อ

"จริงสิ ถึงนายไม่ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎี แต่ห้ามขาดเรียนภาคปฏิบัติเด็ดขาด​นะ…นายเข้าใจไหม?"

เซียวซิงหยูพยักหน้ารับ เขาเข้าใจว่าภาคปฏิบัติมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนใหม่

เพราะในท้ายที่สุดแล้ว ทฤษฎีทั้งหมดจะต้องนำไปใช้ในทางปฏิบัติ ถึงจะสามารถต่อกรกับกองทัพ​สัตว์อสูรที่กำลังจ้องจะทำลาย​มนุษยชาติ​

…….

ณ ห้องสมุดชิงหลง

ในขณะที่เพื่อนนักเรียนคนอื่นๆ ยังคงเรียนเนื้อหาบทแรกในห้องเรียน เเต่เซียวซิงหยูกลับกำลังใช้สิทธิพิเศษเพื่อเข้ามาในห้องสมุดชิงหลง

"ห้องสมุดนี่ใหญ่โตโอ่อ่าเหมือนพระราชวังโบราณเลยเเฮะ..."

ภายในห้องสมุดตกแต่งอย่างหรูหรา

กลางห้องโถงมีเสาขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน บนเสามีชั้นหนังสือฝังอยู่เต็มไปหมด

"เคล็ดลับพัฒนาสัตว์อสูรฉบับเร่งรัด"

"เทคนิคในการสอบปรมาจารย์​อสูร​ระดับสองดาว"

"สอนรับมือกับสัตว์อสูรเผ่าร้ายภายในสามนาที"

"การดูแลแม่หมูหลังคลอด"

"หนังสือในห้องสมุดนี่หลากหลายจริงๆ..."

หมาป่าวายุ​นรกมีคุณสมบัติทั้งธาตุไฟและธาตุลม เซียวซิงหยูจึงพยายาม​เลือกตำราทักษะ​ต่อสู้สองเล่มที่ตรงกับคุณสมบัติทั้งสองนี้

จากนั้นเขาก็หาที่นั่งตามมุมห้องแล้วเริ่มอ่านหนังสือ

ด้วยพลังของดวงตาเทพอสูร เซียวซิงหยูใช้เวลาเพียงหนึ่งนาทีก็สามารถ​อ่านหนังสือทั้งสองเล่มจบ

แต่การที่จะฝึกฝนสัตว์อสูรให้เรียนรู้และเชี่ยวชาญทักษะ​ต่อสู้ใหม่ๆได้นั้น…มันก็ต้องขึ้นอยู่กับพรสวรรค์ของสัตว์อสูรตัวนั้นๆด้วย

อย่างไร​ก็ตาม, โชคยังดีที่เซียวซิงหยูมียาเพิ่มความเข้าใจ​อยู่ในระบบ

เมื่อให้หมาป่านรกกินยาชนิดนี้ สติปัญญาของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก…มันไม่เพียงแต่จะเรียนรู้ทักษะ​ต่อสู้ได้เร็วขึ้น แต่ยังสามารถเรียนรู้ทักษะ​ต่อสู้ระดับสูงได้อีกด้วย

…..

เวลาผ่านไปสองชั่วโมง

หลังจากอ่านหนังสือจบเล่มที่ 1032 จบ เซียวซิงหยูก็ถอนหายใจออกมา

"ใกล้เวลาเลิกเรียนแล้ว พี่สาวคงมารอที่หน้าโรงเรียนแล้วล่ะ"

เซียวรั่วเสวี่ยไม่อยากให้เซียวซิงหยูกินข้าว​ที่โรงอาหาร เธอจึงเตรียมข้าวกล่องมาให้ที่หน้าโรงเรียนทุกวัน เพื่อให้น้องชายได้กินอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์

เเละก่อนออกจากห้องสมุด เซียวซิงหยูได้หยิบหนังสือ "สารานุกรมทักษะ​การต่อสู้ธาตุความมืด" มาเล่มหนึ่ง

บรรณารักษ์เป็นคุณตาอ้วนใจดี ไม่มีใครรู้จักชื่อของเขา...แต่ทุกคนในโรงเรียนเรียกเขาว่า ลุงสาม

"ลุงสาม ผมขอยืมหนังสือเล่มนี้กลับไปอ่านที่หอพักนะครับ"

เมื่อ​เห็น​ชื่อหนังสือ, ลุงสามก็ทำหน้างงเล็กน้อย​

"เซียวซิงหยู สัตว์อสูรของเธอมีคุณสมบัติธาตุไฟและธาตุลม ทำไมเธอถึงยืมตำราทักษะการ​ต่อสู้ธาตุความมืดล่ะ?"

เซียวซิงหยูยิ้มรับ แล้วตอบปัดๆไปว่า

"ผมแค่อยากอ่านเล่นๆน่ะครับ"

เมื่อ​ได้ยิน​เช่นนี้, ลุงสามก็ไม่ได้ซักไซ้​อะไรต่อ

เเละเซียวซิงหยูก็มีบัตรยืมหนังสือ, ไม่ว่าเขาจะยืมหนังสือเล่มไหนมันก็ไม่ผิดกฎ

"เอาล่ะ ลงทะเบียน​เรียบร้อยแล้ว อย่างช้าสุดต้องคืนภายในสามวันนะ"

"ครับผม พรุ่งนี้เช้าผมก็เอามาคืนแล้วครับ!" เซียวซิงหยูตอบพร้อมรอยยิ้ม​

หลังจากออกจากห้องสมุด เซียวซิงหยูก็กลับไปที่ห้องเรียน นั่งรอประมาณสิบนาที เสียงกริ่งเลิกเรียนก็ดังขึ้น

………

"ในที่สุดก็เลิกเรียนสักที!"

"หิวแล้ว ไปกินข้าวที่โรงอาหารกันเถอะ!"

"ได้ยินมาว่ามีร้านปิ้งย่างอยู่หลังโรงเรียน ไปกินปิ้งย่างกันไหม?"

"ไปสิ ฉลองเปิดเทอมกัน คืนนี้ต้องเมาให้หลับกัน​ไปข้าง!"

นี่แหละคือพลังของนักเรียนปีหนึ่งที่เต็มไปด้วยความสดใสร่าเริง เเละยังไม่รู้จักความโหดร้ายของการฝึกเเบบนรก

เเต่ทันใดนั้น, เฉินฉีเหนียนก็ตบโต๊ะเรียกความสนใจ

"ทุกคน พรุ่งนี้ตอนบ่ายเราจะเริ่มเรียนภาคปฏิบัติคาบแรก กลับไปพักผ่อนให้เต็มที่ เตรียมสัตว์อสูรของตัวเองให้พร้อมสำหรับการฝึกพรุ่งนี้ด้วย!"

หลังจากกำชับนักเรียนเสร็จ เฉินฉีเหนียนก็ออกจากห้องเรียนไป

เมื่อ​เห็น​อาจารย์​ไปแล้ว, อู๋เซิงโหย่วก็รีบวิ่งเข้ามาหาเซียวซิงหยูด้วยสีหน้าชื่นชม

"เซียวซิ​ง​หยู​ ฉันนับถือนายจริงๆ!"

"เเค่วันแรกของการเปิดเทอม อาจารย์เฉินก็ให้บัตรยืมหนังสือนายเป็นกรณีพิเศษ แถมยังอนุญาตให้นายไม่ต้องเข้าเรียนภาคทฤษฎีอีกต่างหาก"

เมื่อ​เห็น​อู๋เซิงโหย่วพูดไม่หยุด เซียวซิงหยูก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ แล้วคิดในใจ

"เจ้านี่เป็นหนูขี้เม้าท์ตัวจริงเสียง​จริง​เลย​"

หลังจากเก็บหนังสือใส่กระเป๋า เซียวซิงหยูและอู๋เซิงโหย่วก็เดินออกจากอาคารเรียนด้วยกัน

"เซียวซิ​ง​หยู​ ฉันจะไปกินข้าวที่โรงอาหาร นายไม่ไปด้วยกันเหรอ?"

"ฉันบอกไปแล้วไง ว่าพี่สาวฉันจะเอากล่องข้าวมาให้" เซียวซิงหยูกล่าว​เเล้ว​เดินตรงไปที่ประตูโรงเรียน

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อู๋เซิงโหย่วจึงแอบมองเซียวซิงหยูจากระยะไกล

ที่หน้าประตูโรงเรียน

สาวสวยผมสีเงิน ยืนถือกระเป๋าเก็บความร้อนรออยู่ท่ามกลางสายลม

แม้ว่าเธอจะแต่งตัวเรียบง่าย แต่มันก็ไม่อาจปกปิดใบหน้าที่งดงามและออร่าความอ่อนโยนของเธอได้

"พี่สาว!"

"เสี่ยวหยู!"

เซียวซิงหยูรีบวิ่งเข้าไปรับกระเป๋าเก็บความร้อนจากมือเซียวรั่วเสวี่ย

ข้างในนั้นมีกล่องข้าวที่จัดเตรียมไว้อย่างสวยงาม

ในนั้นมีกับข้าวสองอย่าง ผักหนึ่งอย่าง และขนมหวานอีกนิดหน่อย เน้นสารอาหารครบถ้วน

เซียวซิงหยูเป็นม้ามืดที่โด่งดังอยู่แล้ว ส่วนเซียวรั่วเสวี่ยก็เป็นสาวสวยผมเงินที่สะดุดตา พี่น้องคู่นี้จึงตกเป็นเป้าสายตาของนักเรียนคนอื่นๆอย่างง่ายดาย​

"ผู้หญิงผมเงินคนนั้นสวยมาก!"

"เหมือนเธอจะเป็นพี่สาวของเซียวซิงหยูนะ"

"ทำไมพี่สาวผมเงิน แต่น้องผมดำ สงสัยจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ"

"เซียวซิงหยูเหรอ? เด็กคนนั้นมีพรสวรรค์มากนี่…แถมยังมาจากเมืองเล็กๆอีก"

เซียวซิงหยูไม่สนใจสายตาของคนรอบข้าง

เขาหาต้นไม้แถวนั้นนั่งพิงแล้วเริ่มกินข้าวเย็นฝีมือพี่สาวอย่างเอร็ดอร่อย

……………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด