ตอนที่ 612 ซู หนิงซวง ออดอ้อน : พี่เย่เฉิน
เย่เฉิน อดไม่ได้ที่จะยิ้ม เมื่อเห็นบุคคลที่เขาคาดไม่ถึงนั้น ไม่ใช่ใครอื่นเลย แต่คือ ซู หลิงเอ๋อร์
“พี่เขย ไม่คิดเลยใช่ไหมว่าหนูจะมาที่นี่?”
ซู หลิงเอ๋อร์ ยิ้มออกมาเมื่อเห็นสายตาตกใจของ เย่เฉิน
“พี่ไม่คิดเลยจริงๆ”
เย่เฉิน พยักหน้า เพราะเขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอ ซู หลิงเอ๋อร์ ที่นี่จริงๆ
“เรามาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?”
เย่เฉิน ถามด้วยความสงสัย
“เพิ่งมาไม่นานค่ะ โรงเรียนของหนูหยุดช่วงนี้พอดี หนูก็เลยมาที่เซี่ยงไฮ้”
ซู หลิงเอ๋อร์ อธิบาย
เนื่องจาก เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ออกจากเจียงโจวแล้ว ซู หลิงเอ๋อร์ รู้สึกเบื่อหน่าย ดังนั้นเธอจึงอ้อนวอนคุณแม่ให้พามาเที่ยวที่เซี่ยงไฮ้
และในที่สุด หลังจากทำงานหนักของ ซู หลิงเอ๋อร์ แม่ของเธอก็ยอมใจอ่อนพาเธอมา
“แล้วคุณป้าล่ะ?”
เย่เฉิน ไม่เห็นแม่ของ ซู หลิงเอ๋อร์
“แม่ของหนูมีธุระออกไปข้างนอกค่ะ”
ซู หลิงเอ๋อร์ ตอบพร้อมเดินไปหยิบสิ่งหนึ่งจากกระเป๋าออกมาอย่างลึกลับ
“พี่เขย ยังจำข้อตกลงของเราได้ไหม?”
เธอพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูมีเลศนัยขณะยื่นของในมือให้ เย่เฉิน
เมื่อ ซู หนิงซวง ได้ยินก็หันมาฟังอย่างสนใจ
ข้อตกลงที่ว่า? เย่เฉิน พยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก
“พี่เขย ดูเองเถอะค่ะ”
ซู หลิงเอ๋อร์ ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งในมือเธอให้ เย่เฉิน
เย่เฉิน รับมาดู และปรากฏว่าเป็นผลการเรียนของชั้นปี
เขามองเพียงแวบเดียวก็เห็นชื่อ ซู หลิงเอ๋อร์ ทันที และเหตุใดชื่อของเธอจึงหาได้ง่ายหนัก นั่นก็เพราะว่าเธอได้อันดับที่สามของชั้นปี!
เมื่อเห็นอันดับนี้ เย่เฉิน ถึงกับนึกได้ว่าเขาเคยให้สัญญากับ ซู หลิงเอ๋อร์ ไว้
ก่อนที่ เย่เฉิน จะย้ายมาเซี่ยงไฮ้ เขาเคยไปร่วมประชุมผู้ปกครองที่โรงเรียนของ ซู หลิงเอ๋อร์
ในครั้งนั้น ซู หลิงเอ๋อร์ ถูกครูตำหนิเรื่องผลการเรียนตกลงไปมาก เพื่อกระตุ้นให้เธอพยายามมากขึ้น เย่เฉิน จึงได้ให้สัญญาว่า หาก ซู หลิงเอ๋อร์ สอบติดอันดับสามของชั้นได้ เขาจะยอมทำตามคำขอหนึ่งข้อของเธอ
ไม่นึกเลยว่าการพบกันครั้งนี้ ซู หลิงเอ๋อร์ จะทำสำเร็จ แม้จะได้คะแนนมากกว่าอันดับที่สี่เพียงคะแนนเดียว
แต่ก็ถือว่าเธอได้อันดับที่สามจริงๆ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอันน่าทึ่งของเธอในช่วงนี้
“เก่งมาก ไม่เลวเลยนะ สอบติดอันดับสามได้ไวขนาดนี้”
เย่เฉิน พยักหน้าชมเชย
“อะไรนะ อันดับสามของชั้น?!”
คราวนี้แม้แต่ ซู หนิงซวง ก็ยังคงความใจเย็นไม่อยู่
เพราะโดยปกติแล้วแม้ผลการเรียนของ ซู หลิงเอ๋อร์ จะไม่แย่ แต่ไม่เคยสูงถึงระดับติดอันดับสามของชั้นมาก่อน
ช่วงที่ ซู หลิงเอ๋อร์ ทำได้ดีที่สุดก็แค่ติดอยู่ในกลุ่มสิบอันดับแรกของระดับชั้น
เพิ่งผ่านไปแค่ครึ่งเทอมเอง หลิงเอ๋อร์ ก้าวหน้าไปมากขนาดนี้เชียวหรือ?
ซู หนิงซวง รับใบผลการเรียนมาอ่านดูอย่างละเอียด
“หลิงเอ๋อร์ บอกมาเถอะ ว่าเธออยากได้อะไร”
เย่เฉิน เอ่ยขึ้น เมื่อ ซู หลิงเอ๋อร์ สอบได้ที่สามของระดับชั้นจริงๆ เย่เฉิน ก็ต้องรักษาสัญญา
“เอ่อ...พี่เขย สำหรับพี่แล้ว คำขอของหนูนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย เล็กนิดเดียวเอง”
ซู หลิงเอ๋อร์ พูดด้วยความตื่นเต้น
“หนูรู้ว่าบริษัทของพี่เซ็นสัญญากับ เมยเมย พี่ช่วยจัดให้หนูได้เจอเธอหน่อยได้ไหมคะ? หนูอยากถ่ายรูปกับเธอ”
ซู หลิงเอ๋อร์ มอง เย่เฉิน ด้วยสายตาอ้อนวอน
“ได้อยู่แล้ว”
เย่เฉิน พยักหน้า เขายังนึกว่า ซู หลิงเอ๋อร์ จะขออะไรที่ยากกว่านี้เสียอีก
ไม่คิดเลยว่าแค่ขอเจอ เมยเมย และถ่ายรูปคู่ด้วยกัน แค่นี้ง่ายมาก
ตามตารางของบริษัท พอเธอจบทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลกแล้ว ก็จะมาจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศหลายรอบ ตอนนั้นจะถ่ายรูปคู่ก็ง่ายนิดเดียว
“จริงๆ นะ?”
“พี่เขย พี่ใจดีที่สุดเลย!”
เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน ตกลง ซู หลิงเอ๋อร์ ก็ดีใจจนกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้นที่เก็บไม่อยู่
“ไม่เลวเลยนะ หลิงเอ๋อร์”
หลังจากดูผลการเรียนเสร็จ ซู หนิงซวง ก็ส่งคืนให้ ซู หลิงเอ๋อร์
ซู หลิงเอ๋อร์ ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะหันหลังไปเก็บผลการเรียนของเธอ
จากนั้น ซู หนิงซวง ขยับเข้าไปใกล้ เย่เฉิน มากขึ้น ก่อนกระซิบเบาๆ ข้างหูด้วยเสียงที่มีเพียง เย่เฉิน เท่านั้นที่ได้ยินว่า :
“พี่เย่เฉินคะ...ถ้าหนูเองก็สอบได้ที่สามของระดับชั้น...พี่จะให้หนูขออะไรสักอย่างเหมือนกันไหม?…”
ในเมื่อ หลิงเอ๋อร์ สอบได้ที่สามแล้ว เย่เฉิน ยอมรับปากคำขอของเธอ ถ้าตนเองสอบได้ที่สามบ้าง เย่เฉิน ก็ควรรับปากคำขอของเธอด้วยเช่นกัน ..หรือไม่?
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยิน หนิงซวง พูดออดอ้อนแบบนี้ เย่เฉิน ถึงกับอึ้งไป พร้อมกับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างแปลกๆ ยุกยิกในหัวใจขึ้นมา
“หนิงซวง นี่หรือว่า ..คุณ กำลังอิจฉาอยู่?”
เย่เฉิน ถามเบาๆ
“ปะ.. เปล่านะ... ฉันจะอิจฉาได้ยังไงล่ะ”
ซู หนิงซวง ตอบพลางเมินหน้าไปทางอื่น
“จริงหรือ?”
เย่เฉิน ไม่พูดถึงเรื่องนี้ต่อ แต่ตบอกตัวเองให้คำมั่นว่า :
“หนิงซวง ถ้าคุณสอบได้ที่สาม ไม่ต้องขอแค่หนึ่ง คุณขอมากี่ข้อก็ได้ ถึงสามข้อ ผมก็จะให้คุณ”
“สามข้อเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยิน เย่เฉิน พูดแบบนั้น ซู หนิงซวง ถึงกับยิ้มกว้างออกมา
“เป็นว่าตกลงนะ ห้ามเปลี่ยนใจล่ะ”
ไม่ทันรอให้ เย่เฉิน ตอบกลับอะไร ซู หนิงซวง ก็รีบจับมือเขาพร้อมกับยกมือมาแปะมือ เย่เฉิน ถือเป็นการให้คำสัญญา
หลังแปะมือแล้ว ซู หนิงซวง ก็พลันยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเดินจากไป
เย่เฉิน นั่งนิ่งอึ้งอยู่ที่เดิม ก่อนจะส่ายหน้าไปมา เขารู้สึกเหมือนถูก หนิงซวง ‘หลอก’ เข้าเต็มๆ
แต่อย่างไรเสีย ..เขาก็เต็มใจให้เธอหลอก
สักพัก แม่ของ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็กลับมา
“คุณป้า”
เย่เฉิน กล่าวทักทาย
“เสี่ยวเฉิน ฉัน กับหลิงเอ๋อร์ มารบกวนเธอสินะ”
แม่ของ ซู หลิงเอ๋อร์ พูดอย่างเกรงใจ
“ไม่หรอกครับ ผมยินดีด้วยซ้ำ ยิ่งคนเยอะยิ่งครึกครื้น”
ตอนเย็น แม่ของ ซู หนิงซวง กับแม่ของ ซู หลิงเอ๋อร์ ก็ช่วยกันทำอาหารเย็น ทุกคนทานอาหารกันพร้อมหน้า
วันรุ่งขึ้น เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ก็เตรียมตัวพา ซู หลิงเอ๋อร์ ไปเที่ยวในเซี่ยงไฮ้
หลิงเอ๋อร์ เพิ่งได้มาเยือนที่นี่ เย่เฉิน จึงถามว่า หลิงเอ๋อร์ อยากไปเที่ยวที่ไหน
ซู หลิงเอ๋อร์ ตอบโดยไม่ลังเลว่า :
“ดิสนีย์แลนด์!”
ดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่ชื่อดังในประเทศ หลิงเอ๋อร์ ได้ยินมานานแล้ว และอยากไปมากที่สุด
ในฐานะเด็กผู้หญิงที่ได้มาเมืองนี้ เมื่อให้เลือกสถานที่ที่อยากไป หลิงเอ๋อร์ ก็ย่อมต้องเลือกดิสนีย์แลนด์เป็นอันดับต้นๆ แน่นอน
“ดิสนีย์แลนด์เหรอ?”
คำตอบของ หลิงเอ๋อร์ ทำให้ เย่เฉิน ทั้งแปลกใจ และเข้าใจได้ไปพร้อมกัน
ในฐานะผู้ชาย เขาไม่ได้คาดคิดว่า หลิงเอ๋อร์ จะอยากไปดิสนีย์แลนด์
ซู หนิงซวง ก็แปลกใจ เพราะเธอเองมีนิสัยเย็นชา ไม่ชอบสถานที่ที่คนเยอะๆ แบบดิสนีย์แลนด์เท่าไรนัก
แต่ดิสนีย์แลนด์ที่เซี่ยงไฮ้เป็นสถานที่โด่งดังมาก แม้วันธรรมดาก็มีนักท่องเที่ยวเยอะ
ยิ่งโดยเฉพาะในวันหยุดซึ่งตอนนี้เป็นช่วงเทศกาล คิวรอเข้าชมจึงยาวมาก อาจจะต้องรอคิวกันหลายชั่วโมงก็ได้
เมื่อคิดได้ว่าคนเยอะเกินไป ซู หลิงเอ๋อร์ จึงเปลี่ยนใจแล้วพูดว่า :
“ช่วงนี้คนเยอะเกินไปค่ะ พี่สาว พี่เขย งั้นเราเปลี่ยนไปที่อื่นเถอะ”
ถึงแม้ หลิงเอ๋อร์ จะไม่แปลกใจที่ต้องรอคิว แต่กลัวว่าพี่สาว กับพี่เขยจะไม่ชอบ เลยยอมตัดใจเปลี่ยนที่หมาย
แต่พอ ซู หลิงเอ๋อร์ เริ่มรู้สึกเสียดาย เย่เฉิน กลับพูดขึ้นมาว่า :
“เราไปดิสนีย์แลนด์กันเถอะ ผมมีวิธีที่เราไม่ต้องต่อคิว..”