ตอนที่ 16 : เรื่องของฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ
ในชีวิตก่อนหน้าเจียงฉินเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยหลินชวน โดยเรียนคณะการค้าระหว่างประเทศในระดับปริญญาตรี ดังนั้นในชีวิตนี้เขาจึงจะไปที่หลินชวนอีกครั้ง เพราะเขาคุ้นเคยกับเมืองนั้นเป็นอย่างดีแล้ว
หากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจ การเริ่มต้นในเมืองที่คุ้นเคยจะเป็นเรื่องง่ายกว่า
เมื่อได้ยินคำตอบของเจียงฉิน เฟิงหนานซูก็ยกมือขึ้นลูบหน้าเบาๆ จากนั้นมองไปยังถุงขนมที่เพิ่งกินหมดไปเมื่อสักครู่อย่างเหม่อลอย โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ในขณะนี้เอง จู่ๆ โทรศัพท์โนเกียที่วางอยู่บนโต๊ะก็ส่องแสงกระพริบขึ้นมา เจียงฉินกดปลดล็อคและพบว่าเป็นข้อความ QQ ที่ส่งมาโดยหวังฮุ่ยหรู
“เจียงฉิน ฉู่ซือฉีสอบได้ 632 คะแนน แล้วนายล่ะ?”
“เธอให้เธอมาถามฉันใช่ไหม?”
“นายเดาถูกแล้ว เธอเป็นคนขอให้ฉันมาถามนายจริงๆ”
“เรื่องของฉันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ แค่บอกเธอไปแบบนี้ก็พอ” เจียงฉินพิมพ์ข้อความลงไปหนึ่งบรรทัดจากนั้นก็กดส่ง
หวังฮุ่ยหรูตกตะลึง: “เจียงฉิน นายกับฉู่ซือฉีก็ไม่ได้เกลียดอะไรกันถึงขนาดนั้นไม่ใช่เหรอ แค่ถามผลการสอบกันบ้างในฐานะเพื่อนร่วมชั้นมันก็เป็นเรื่องปกติ เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว”
“ฉันทำอะไร?”
“ใจแคบ!”
ยิ่งเจียงฉินใช้แป้นพิมพ์แบบปุ่มกดเขาก็ยิ่งพิมพ์ได้ลื่นไหลมากขึ้น: “ก็แค่ใจแคบ จะคิดยังไงก็คิดไปเถอะ”
หวังฮุ่ยหรูส่งจุดไข่ปลา: “เจียงฉิน ฉู่ซือฉีไม่ได้ทำผิดอะไรเลย การที่เธอไม่รับรักนายมันก็เป็นสิทธิ์ของเธอ แต่พวกนายก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้นะ”
“งั้นฉันเป็นฝ่ายผิด? การเลือกที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเธอไม่ใช่สิทธิ์ของฉันงั้นเหรอ ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกับเธอ”
“ทำไม?”
เจียงฉินเปลี่ยนมาพิมพ์ด้วยมือข้างเดียว: “เธอคิดว่าทุกคนบนโลกนี้ต้องชอบเธอ และทุกคนก็ต้องทำตามที่เธอต้องการ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรมันก็ต้องเป็นแบบนั้น สั่งให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกก็ห้ามหันไปทางทิศตะวันตก เพื่อนแบบนี้ฉันไม่กล้ามีหรอก น่ารำคาญ น่ารำคาญสุดๆ”
หวังฮุ่ยหรูเงียบไปสักพัก: “ฉันรู้ว่าซือฉีค่อนข้างหยิ่ง แต่นี่ก็เป็นเสน่ห์ของเธอด้วยไม่ใช่เหรอ”
“จะหยิ่งบ้างก็ไม่เป็นไร แต่บางทีเธอก็ล้ำเส้นเกินไป เหมือนวันนั้นที่ถนนคนเดิน เธอสั่งให้ฉันหยุดเดินต่อหน้าคนมากมาย เธอมีสิทธิ์อะไร? เราไม่ได้เป็นเพื่อนกันด้วยซ้ำ เธอยังบอกอีกว่าไม่ให้ไปไหนถ้าเธอไม่ได้สั่ง เธอคิดว่าโลกหมุนรอบตัวเองหรือไง?”
“ถ้านายบอกเธอดีๆ เธอจะต้องยอมเปลี่ยนแปลงแน่นอน”
เจียงฉินขมวดคิ้ว: “ทำไมฉันจะต้องเสียเวลากับเธอด้วยล่ะ ถ้าเพื่อนคนนี้ไม่ดีก็แค่หาเพื่อนคนใหม่ มันผิดตรงไหนกัน?”
ความเร็วในการพิมพ์ตอบกลับของหวังฮุ่ยหรูช้าลงอย่างเห็นได้ชัด: “ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่แน่ใจนะว่านายไม่ได้พูดแบบนี้เพราะรักกลายเป็นชัง?”
“ฉันพูดชัดเจนขนาดนี้แล้วทำไมเธอถึงยังคิดแบบนั้นอยู่อีก ฉันคิดว่าเธอก็คงคิดแบบเดียวกับฉู่ซือฉีใช่ไหม? คิดว่าฉันโดนปฏิเสธแล้วก็เลยทำเป็นไม่สนใจเพื่อรักษาหน้า?”
“ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น เจียงฉิน อย่าเข้าใจฉันผิด!”
เจียงฉินยังคงรัวแป้นพิมพ์ต่อไป: “เพื่อนร่วมชั้นหวัง จริงๆ แล้วฉันไม่อยากจะพูดกับเธอเลยแม้แต่คำเดียว(หมายถึงฉู่ซือฉี) ที่ฉันอธิบายให้เธอฟังยาวเหยียดแบบนี้ก็เพราะว่าฉันเห็นแก่หน้าเธอ เธอเข้าใจไหม?”
หวังฮุ่ยหรูใจอ่อนลงทันทีที่เห็นข้อความตอบกลับนี้: “ถ้าอย่างนั้นฉันจะค่อยๆ พูดกับเธอ และจะบอกให้เธอไม่ไปรบกวนนายช่วงนี้”
“ไม่ใช่แค่ช่วงนี้ แต่เป็นตลอดไป”
“เจียงฉิน สิ่งที่นายพูดมันทำร้ายจิตใจคนอื่นมากเกินไป เธอปฏิเสธนายก็จริง แต่เธอก็ยังให้โอกาสและยังให้กำลังใจนายด้วย นายช่วยหยุดเย็นชาใส่เธอแบบนี้ได้ไหม?”
“ให้ตายเถอะ พูดเรื่องนี้ทีไรฉันของขึ้นทุกที ที่บอกว่าถ้าพยายามต่อไปก็อาจจะมีหวังนี่มันหมายความว่ายังไง เธอไม่ได้รู้สึกดีกับฉันหรอก เธอแค่ยังไม่เจอคนที่ชอบจริงๆ ก็เลยรู้สึกเหงาและคิดว่าฉันจะคอยอยู่เป็นเพื่อนเธอได้ต่างหาก พอเธอเจอคนที่ชอบแล้วเธอก็คงจะลืมฉันไปง่ายๆ เลยล่ะ”
“...”
“เพื่อนร่วมชั้นหวัง บางครั้งการพูดจาทำร้ายจิตใจกันก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้ตัดสัมพันธ์กันได้เด็ดขาด และทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องคาดหวังอะไรจากกันอีกต่อไป”
เมื่อเห็นข้อความนี้หวังฮุ่ยหรูก็เงียบไปทันที เพราะจู่ๆ เธอก็จำบทสนทนาระหว่างเธอกับฉู่ซือฉีบนถนนคนเดินได้
[ซือฉี เธอจะทำยังไงถ้าในอนาคตเธอเจอคนที่ชอบจริงๆ?]
[แน่นอนว่าฉันจะเลือกคนที่ตัวเองชอบ ฉันไม่สามารถเลือกเจียงฉินเพียงเพราะเขายืนหยัดมานานหรอกใช่ไหม?]
เธอรู้ว่าสิ่งที่เจียงฉินพูดนั้นถูกต้องทั้งหมด ดังนั้นเธอจึงไม่มีเหตุผลที่จะคัดค้าน และแม้กระทั่งแอบรู้สึกว่าตัวเองเข้าข้างเจียงฉินอยู่เล็กน้อย
“เอาล่ะเจียงฉิน ฉันรู้ว่าต้องทำยังไง”
“เพื่อนร่วมชั้นหวัง ดีใจที่ได้คุยกับเธอ แต่ว่าต่อจากนี้อย่าเอาเรื่องของเธอมาคุยกับฉันอีก ฉันไม่อยากทำลายอารมณ์ดีๆ ในวันนั้น เธอเข้าใจไหม?”
“ขอโทษ”
“ไม่เป็นไร แค่เข้าใจก็พอ”
หลังจากจบการสนทนา หวังฮุ่ยหรูก็ถอนหายใจ ดวงตาของเธอดูมึนงงสับสน
อย่างที่คิด เจียงฉินไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้กับเพื่อนสนิทของเธออีกต่อไปแล้ว แม้กระทั่งกลายเป็นความรังเกียจและไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยซ้ำ
แล้วเฟิงหนานซูล่ะ?
เธอมีความสัมพันธ์กับเจียงฉินจริงๆ เหรอ?
นั่นคือคุณหนูที่นั่งเบนท์ลีย์ไปโรงเรียนเลยนะ เป็นนางในฝันของเด็กผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนในโรงเรียนมัธยมเฉิงหนาน เด็กผู้ชายที่แอบชอบเธอสามารถต่อแถวจากโรงเรียนมัธยมเฉิงหนานไปจนถึงในเมืองได้เลย แถมเธอยังโดนเจียงฉินบีบแก้มอีกต่างหาก หน้าตาตอนนั้นดูน่ารักน่าชังสุดๆ เรื่องแบบนี้ใครจะไปเชื่อได้
แม้แต่หวังฮุ่ยหรูก็ยังอยากจะถามว่า: ทำไม?
เจียงฉินหน้าตาดีมาก สูง และก็เรียนเก่ง แต่เธอยังไม่อยากเชื่อว่าเขาจะสามารถจีบเฟิงหนานซูได้สำเร็จ
เฟิงหนานซูนั้นมีชื่อเสียงในโรงเรียนว่าเป็นคนเย็นชา เธอจะไม่คุยกับใครเลย และดูเหมือนว่ารอบกายจะมีออร่าอันสูงส่งแผ่ออกมา ราวกับว่าคนแปลกหน้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้
ไม่ต้องพูดถึงการจีบเธอเลย เด็กผู้ชายบางคนแค่เข้าใกล้ก็รู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าแล้ว คิดว่าตัวเองช่างกล้าจริงๆ ที่ไปหวังอะไรลมๆ แล้งๆ แบบนั้น ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองหน้าตาเป็นอย่างไร?
นี่จึงไม่สมเหตุสมผลสุดๆ!
หวังฮุ่ยหรูรู้สึกว่าเธอมองเจียงฉินไม่ออกมากขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็อดนึกถึงเพื่อนสนิทของตัวเองไม่ได้
จนถึงตอนนี้ฉู่ซือฉียังคงแสดงความเย่อหยิ่งออกมา เธอรอให้เจียงฉินรู้สึกเสียใจและมาขอโทษเธอ แต่เธอไม่รู้เลยว่าในช่วงเวลาสั้นๆ เพียงครึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นได้มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น
หวังฮุ่ยหรูหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาอีกครั้ง ค้นหาหมายเลข QQ ของฉู่ซือฉีแล้วส่งข้อความหาเธอ
“ฉันเพิ่งไปถามเจียงฉินมา เขาบอกว่าเรื่องของเขาไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ และบอกให้เธออย่าติดต่อเขาอีก”
“สารเลว เขาพูดแบบนั้นได้ยังไง! ทำไมเธอไม่ด่าเขาแทนฉัน?”
“ซือฉี เลิกคิดเรื่องนี้เถอะ ยังไงเธอก็ปฏิเสธเขาไปแล้ว ต่อไปก็ลืมเขาซะ”
ภายในห้องนอนของบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านเฟิงหลินลวี่ตู ฉู่ซือฉีซึ่งสวมชุดนอนกำลังโกรธมากจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ เธอขว้างหนังสือคู่มือการสมัครเข้ามหาวิทยาลัยไปยังผนังตรงหน้าด้วยความโมโห ในดวงตามีชั้นน้ำใสๆ ปรากฏขึ้น
เจ้าเจียงฉินนั่น เขาแค่กลัวว่าตัวเองจะเสียหน้าเรื่องที่เธอปฏิเสธเขา เพราะงั้นเขาก็เลยพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อทำให้เธอโกรธ!
ใช่ เขาทำสำเร็จแล้ว และเธอก็โกรธมากจริงๆ
แต่เขาไม่รู้สึกเจ็บปวดบ้างเหรอที่ต้องอดทนกับมันนานขนาดนี้? ช่างเป็นการทนทุกข์เพราะยึดติดกับหน้าตาแท้ๆ
จริงๆ แล้วที่ฉู่ซือฉีให้หวังฮุ่ยหรูไปถามเกี่ยวกับผลสอบของเจียงฉินนั้นมีเหตุผลของเธอเอง เธอต้องการเสนอทางลงให้เจียงฉินและบอกเป็นนัยว่าเขาควรหยุดสู้กับเธอ
เพราะช่วงนี้เธอเริ่มอารมณ์เสียมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมักจะจ้องโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลาและจินตนาการว่าเจียงฉินส่งข้อความหาเธอว่า— ฉันผิดไปแล้ว
นี่แทบจะกลายเป็นปมในใจของเธอไปแล้ว
เมื่อก่อนเธอไม่ได้สนใจเจียงฉินมากนัก แต่ตอนนี้ในหัวเธอมีแต่เรื่องของเจียงฉินเต็มไปหมด ฉู่ซือฉีไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกที่สูญเสียการควบคุม
แต่เธอไม่คิดว่าเจียงฉินจะใจร้ายและไม่รู้จักดีชั่วขนาดนี้!
ก็ได้ ไม่ติดต่อกันแล้วใช่ไหม งั้นใครติดต่อก่อนคนนั้นเป็นหมา!
(จบตอน)