บทที่ 18 จับตัวเขา!
อารมณ์ของเสี่ยวพั่งมาไวและไปไว เมื่ออาหารหอมกรุ่นถูกนำมาวางบนโต๊ะ มือที่กำแน่นของเสี่ยวพั่งก็เปลี่ยนเป็นจับตะเกียบทันที เพียงตะเกียบแรกก็หนีบเอาส่วนที่อร่อยที่สุดของปลาทอดราดซอสคือเนื้อส่วนท้องไปได้
ฉินชวนมองแล้วอดตะลึงไม่ได้ ก่อนจะทั้งหงุดหงิดทั้งขำ เขารีบคว้าตะเกียบขึ้นมา
"เหลือให้ฉันบ้างสิ!"
การกินข้าวของนักเรียนมัธยมปลาย ไม่มีพิธีรีตองหรือการให้เกียรติกันใด ๆ มีเพียงความรวดเร็วและความมุ่งมั่นในการได้กินเนื้อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในช่วงที่ทั้งสองกำลังกินดื่มกันอย่างเอร็ดอร่อย อาหารสามอย่างและซุปธรรมดาก็กลับให้ความรู้สึกเหมือนเป็นอาหารหรูขึ้นมาได้
"เถ้าแก่ เอาเนื้อกับผักมาอย่างละจาน ขอไว ๆ นะ!"
เสียงเรียกดังมาจากหน้าร้าน เถ้าแก่ที่กำลังยุ่งอยู่รีบตอบรับเสียงดัง
ฉินชวนกลับหยุดตะเกียบไว้ชั่วครู่
เขารู้สึกว่าเสียงเมื่อครู่ฟังดูคุ้น ๆ
ฉินชวนอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน นั่งลงที่โต๊ะที่ใกล้ประตูมากที่สุด
ชายคนนั้นดูแปลกหน้า ฉินชวนแน่ใจว่าเขาไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน ความรู้สึกคุ้นเคยนั้นก็เลยค่อย ๆ หายไป คนที่มีเสียงคล้ายกันบนโลกนี้ก็มีอยู่เยอะ
"มีอะไรเหรอ?" เสี่ยวพั่งสังเกตเห็นท่าทีแปลก ๆ ของฉินชวน จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
"ไม่มีอะไร" ฉินชวนส่ายหัว ก่อนจะหนีบพริกหยวกกับเนื้อชิ้นสุดท้ายเข้าปาก
"บ้าจริง ฉันประมาทไปหน่อย!" เสี่ยวพั่งตาโต มองชิ้นเนื้อสามชั้นที่เป็นชั้นไขมันสลับกับเนื้ออย่างลงตัว และเป็นมันวาวในแสงไฟด้วยท่าทีเหมือนเสียภรรยาไป
เมื่อกินอาหารเสร็จ ทั้งสองก็ยกซุปขึ้นดื่มจนหมด ถือเป็นการจบมื้ออาหารอย่างสมบูรณ์
"อิ่ม~" ฉินชวนลูบท้องด้วยความพอใจ "นาน ๆ ทีได้กินเนื้อ ขอบใจนะ"
"พวกเราพูดเรื่องนี้ทำไม" เสี่ยวพั่งโบกมือ ก่อนจะนิ่งไปชั่วขณะ
เขาขยี้ตาแรง ๆ แล้วใช้ข้อศอกสะกิดฉินชวน "ฉินชวน ดูทางนั้นสิ"
ฉินชวนมองตามนิ้วของเสี่ยวพั่งทันที แล้วก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคย
เป็นโจวจื่อซิว คนที่เคยมาเป็นตัวแทนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษเพื่อมาแนะนำที่โรงเรียนวันนั้น
ตอนนี้เขานั่งอยู่ในร้านอาหารฝั่งตรงข้าม กำลังกินข้าวร่วมกับคนอื่น ๆ อยู่ และก็มองมาทางนี้เป็นระยะ
"คนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษมาทำอะไรแถวโรงเรียนเราเนี่ย?" เสี่ยวพั่งอดบ่นออกมาเบา ๆ ไม่ได้ "หรือบ่ายนี้พวกเขาจะมาพูดแนะนำอีก?"
"ก็อาจจะ" ฉินชวนเองก็ไม่แน่ใจ ตอบไปตามที่คิด
ชายที่สั่งเนื้อกับผักอย่างละอย่างที่นั่งไม่ไกลจากทั้งสองคน หูของเขาขยับเล็กน้อย แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
"เคร้ง!"
เสียงดังขึ้น ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วและกำลังจะเดินออกไป
"เฮ้! นายยังไม่ได้จ่ายเงินนะ!" เถ้าแก่ที่สังเกตเห็นความเคลื่อนไหวอดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียก แต่ชายคนนั้นกลับไม่สนใจ
ฉินชวนหันไปมองอาหารที่ยังอยู่บนโต๊ะของชายคนนั้น
อาหารของเขาพึ่งจะมาเสิร์ฟได้ไม่นาน ตอนนี้แทบจะยังไม่ได้ทานเลย
ต่อให้จะกินอาหารฟรี ก็ต้องกินให้อิ่มก่อนแล้วค่อยหนีไม่ใช่เหรอ?
เขายังสงสัยอยู่ ก็ได้ยินเสียงอุทานของเสี่ยวพั่ง "คนจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษออกมาแล้ว!"
อะไรนะ?
ฉินชวนหันไปทันที แล้วก็ได้เห็นโจวจื่อซิวและคนที่กินข้าวด้วยกันวิ่งออกมาพร้อมกัน มุ่งหน้าไปทางชายคนนั้น
จากทิศทางอื่น ๆ ก็มีเงาร่างอีกหลายคนที่เดิมทีกำลังทำสิ่งต่าง ๆ ของตัวเอง แต่ทันทีที่ชายคนนั้นเริ่มหนี ทุกคนก็หยุดงานที่กำลังทำแล้ววิ่งตามไปทันที
"จับตัวเขาไว้!"
นี่มัน...
ฉินชวนรู้สึกเหมือนมีสายฟ้าผ่าผ่านความคิดของเขา
เขานึกออกแล้วว่าทำไมเสียงของชายคนนี้ถึงฟังดูคุ้นเคยนัก!
มันเป็นเสียงที่เขาได้ยินเมื่อคืนวานนี้ เสียงที่ได้ยินผ่านกำแพงบ้าน เป็นเสียงการทะเลาะวิวาท!
ชายคนนี้คือจางเจ๋อ ผู้ที่เพิ่งถูกหมายจับในวันนี้เอง!
แม้ว่าไม่รู้ว่าทำไมหน้าตาของชายคนนี้ถึงเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม แต่ในโลกนี้มีวิธีการเปลี่ยนรูปลักษณ์มากมาย ฉินชวนเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง
เขารีบลุกขึ้นวิ่งออกจากร้าน หันหน้าไปยังทิศทางที่จางเจ๋อกำลังหนีไป
เขาเห็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษในชุดนอกเครื่องแบบกำลังไล่ตาม และยังเห็นเงาของจางเจ๋อที่อยู่ไกลออกไป
จางเจ๋อที่ดูเหมือนจะไม่คุ้นเคยกับพื้นที่นี้ หันหนีเข้าไปในตรอกแคบด้วยความสับสน
ตรอกนั้น...
ฉินชวนซึ่งคุ้นเคยกับพื้นที่แถวนี้เป็นพิเศษ ตาก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
"ลุง ขอยืมหมวกหน่อยนะ เดี๋ยวเจ้าอ้วนจ่ายให้" ฉินชวนหยิบหมวกแก๊ปจากแผงขายข้าง ๆ แล้วชี้ไปที่เสี่ยวพั่ง ก่อนจะหันไปวิ่งไปอีกทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว
เขารู้ดีว่าตรอกนี้มีทางออกอยู่ตรงไหนและถ้าคำนวณเวลา เขาน่าจะมีโอกาสขวางจางเจ๋อได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะออกจากตรอก
ฉินชวนก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงเลือกที่จะทำแบบนี้ อาจเป็นเพราะความกล้าหาญในวัยเยาว์ หรืออาจจะเป็นเพราะความหุนหันของช่วงวัยรุ่น
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขารู้
เมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องลงมือทำให้ดีที่สุด
"เฮ้ ฉินชวน!"
เสี่ยวพั่งเพิ่งได้สติ เขาวิ่งออกจากร้าน พยายามที่จะวิ่งตามฉินชวน แต่ถูกเถ้าแก่ร้านขายหมวกข้างถนนขวางไว้
"หมวกใบนั้นยี่สิบสามหยวน เขาบอกให้นายจ่าย"
"ฉัน..." เสี่ยวพั่งตะลึงไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโกรธขึ้นมา
"หมวกแบบนี้ อย่างมากก็แค่สิบห้า ถ้ามากกว่านั้น นี่ดูถูกฉันชัด ๆ!"
...
...
...
"จางเจ๋อ อย่าดื้อรั้นไปเลย!"
เสียงตะโกนที่ดังสะท้อนมาจากด้านหลังในตรอก จางเจ๋อหันหน้ากลับมาด้วยแววตาเย็นชา
ดื้อรั้นอย่างนั้นเหรอ?
จางเจ๋อที่ตกอยู่ในสภาพลำบาก บ้านยากจนแทบจะไม่มีข้าวกิน ในขณะที่เหล่า "พี่น้อง" ที่เคยยกแก้วชนกันบนโต๊ะเหล้าต่างก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ ใช้ชีวิตสุขสบายขึ้นเรื่อย ๆ เขาอิจฉาหรือ?
ไม่ใช่เลย!
เขาเพียงแค่หวังให้เหล่า "พี่น้อง" ที่เคยดีกันช่วยเหลือตน ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ยื่นมือมาช่วยกันสักหน่อย ทั้ง ๆ ที่สำหรับพวกเขามันเป็นแค่เรื่องง่าย ๆ แต่สิ่งที่เขาได้รับกลับมามีเพียงการปฏิเสธที่เสแสร้ง
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อย่าโทษเขา จางเจ๋อ ว่าไม่รู้คุณธรรมก็แล้วกัน
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของจางเจ๋อก็เต็มไปด้วยความดุดัน
ไอ้โลกแห่งความฝันที่น่าตายนี่มันมาในเวลาที่เหมาะเจาะจริง ๆ
ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาต้องทนทุกข์ไม่น้อย แต่มันก็ทำให้เขามีพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้
แสงสีหมอกจาง ๆ ลอยขึ้นบนใบหน้าของจางเจ๋อ เมื่อแสงนั้นสลายไป ใบหน้าของจางเจ๋อก็เปลี่ยนไป อีกทั้งเสื้อผ้าของเขาก็เปลี่ยนรูปลักษณ์ตามไปด้วย
เขามองเห็นทางออกอีกด้านหนึ่งของตรอกนี้แล้ว
ที่ทางออกมีผู้คนสัญจรไปมา
เขามั่นใจว่า หากซ่อนตัวท่ามกลางฝูงชน ย่อมไม่มีใครหาตัวเขาเจอได้แน่นอน
เมื่อเขาได้หลบซ่อนและกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เขาจะล้างแค้นทุกคนที่เคยเย็นชาต่อเขา!
"ตุ๊บ!"
เสียงฝีเท้าที่ชัดเจนดังขึ้น
จางเจ๋อเหยียบลงบนแอ่งน้ำที่ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ที่อยู่ตรงปากทางออกของตรอก
ในตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
หยดน้ำที่กระเซ็นขึ้นมาค้างอยู่กลางอากาศ แรงมหาศาลที่ซ่อนอยู่ในน้ำจับยึดเท้าของเขาไว้
การทรงตัวขณะวิ่งไปข้างหน้าของเขาถูกทำลายลงในพริบตา จางเจ๋อล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง
ยังไม่ทันที่เขาจะลุกขึ้นมา ร่างเงาหลายร่างก็พุ่งเข้ามาจากปากตรอก กดเขาลงกับพื้น พลังเหนือธรรมชาติที่หลากหลายปรากฏขึ้น ทำให้เขาไม่อาจขยับเขยื้อนได้เลย
หยดน้ำกลับตกลงสู่แอ่งน้ำ เพียงแค่ทำให้เกิดระลอกคลื่นเล็ก ๆ ราวกับไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย จางเจ๋อแอบเห็นเด็กหนุ่มที่สวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้ามองมาที่เขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันหลังแล้วหายไปในฝูงชน
.
(จบตอน)