ตอนที่ 605 ชื่อว่าอะไรนะ
จริงๆ แล้ว สถานที่ที่ว่านี่ก็ไม่ได้ว่าเป็นสถานที่ที่ลึกลับอะไรเลย ที่ที่กำลังว่าอยู่นี้ก็คือ — สนามบินเมืองเซี่ยงไฮ้ นั่นเอง
ช่วงนี้ เย่เฉิน และซู หนิงซวง มาที่สนามบินเมืองเซี่ยงไฮ้บ่อยมาก เริ่มจากที่ทั้งสองคนได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดของ เย่เฉิน ด้วยกันครั้งหนึ่ง
จากนั้นก็คืองานแต่งงานของพี่ชาย(ลูกพี่ลูกน้อง) เย่เฉิน กับพ่อแม่ รวมถึงคุณปู่คุณย่าก็ได้มาที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ทำให้ช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เย่เฉิน กับซู หนิงซวง ต้องมาที่นี่บ่อยๆ
วันนี้ คนที่มาถึงเมืองเซี่ยงไฮ้ก็คือ — พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง
พ่อของ ซู หนิงซวง เนื่องจากมีเรื่องบางอย่างของตระกูลซูที่ต้องมาจัดการในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมื่อรู้ว่าสามีจะมาเมืองเซี่ยงไฮ้ แม่ของ ซู หนิงซวง ก็คิดถึงลูกสาวมากจึงตามสามีมาด้วยเพื่อมาเยี่ยม ซู หนิงซวง ด้วยกัน
“คุณพ่อคะ คุณแม่คะ”
ไม่นาน พ่อแม่ของ ซู หนิงซวง ก็ออกมาจากสนามบิน ซู หนิงซวง พลันโบกมือไปมาอย่างตื่นเต้น
“สวัสดีครับคุณลุง คุณป้า”
เมื่อเห็นพ่อแม่ของ ซู หนิงซวง เดินมา เย่เฉิน ก็ทักทายด้วยความสุภาพ
“เสี่ยวเฉิน ไม่เจอกันนานเลยนะ”
พ่อของ ซู หนิงซวง พยักหน้ารับ
“เสี่ยวเฉิน ดูเหมือนว่าลูกจะผอมลงนิดหน่อย ช่วงนี้คงเหนื่อยมากสินะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก ทานอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ…”
แม่ของ ซู หนิงซวง พูดด้วยความห่วงใย
“ไม่น่าจะผอมนะครับ ขอบคุณครับ คุณป้า”
เย่เฉิน ตอบ เขาจริงๆ แล้วก็ไม่ได้ว่าผอมลง แต่บางทีอาจจะเป็นเพราะคุณป้าไม่ได้เจอกับเขานานแล้วก็เป็นได้
เมื่อ ซู หนิงซวง เห็นแม่ของตัวเองทักทาย เย่เฉิน เป็นคนแรก แถมยังเป็นห่วงเป็นใยเขาอย่างมาก ก็อดรู้สึกอิจฉาไม่ได้
นี่มันแม่แท้ๆ ชัดๆ
บรรยากาศในตอนนี้ ช่างตรงข้ามกับตอนที่ไปบ้านของ เย่เฉิน เลย
“คุณพ่อ คุณแม่ เราไปทานข้าวกันก่อนดีกว่าคะ”
“ได้จ้ะ”
พวกเขาขึ้นรถกันแล้ว เย่เฉิน ก็พาพวกเขาไปที่ร้านอาหารหวังเจียงเก๋อ
หลังจากทานข้าวกันเสร็จแล้ว เดิมทีพ่อแม่ของ ซู หนิงซวง ตั้งใจจะจองโรงแรมเอง แต่ เย่เฉิน ก็เชิญให้ทั้งคู่ไปพักที่ทอมสัน ริเวียร่า
เย่เฉิน ยังมีห้องว่างอยู่ไม่กี่ห้องที่ทอมสัน ริเวียร่า ซึ่งอยู่ใกล้กันมากกับร้านอาหารหวังเจียงเก๋อ
และพ่อของ ซู หนิงซวง ตั้งใจมาทำธุระที่เมืองเซี่ยงไฮ้ การพักที่ใจกลางเมืองอย่าง ทอมสัน ริเวียร่า จึงเป็นเรื่องที่สะดวกกว่า
หลังจากจัดการเรื่องที่พักเสร็จแล้ว ซู หนิงซวง ก็นั่งพูดคุยกับแม่ของเธอ ส่วนพ่อของ ซู หนิงซวง ก็พา เย่เฉิน ออกจากทอมสัน ริเวียร่า ไป
พ่อของ ซู หนิงซวง ดูเหมือนจะมีเรื่องบางอย่างที่ต้องการพูดคุยกับ เย่เฉิน เป็นการส่วนตัว
ทั้งสองมาที่ร้านกาแฟใกล้ๆ ทอมสัน ริเวียร่า หลังจากสั่งกาแฟเสร็จแล้ว พ่อของ ซู หนิงซวง ก็เริ่มพูดถึงเรื่องบางอย่าง
“เหล่าซู?”
พ่อของ ซู หนิงซวง ยังไม่ทันได้พูดถึงเรื่องสำคัญ จู่ๆ ก็มีแขกคนหนึ่งที่เดินผ่านเอ่ยทักขึ้นมา
“เหล่าเฉิง, เฉิง ซานซง?!”
เฉิง ซานซง เป็นเพื่อนเก่าของเขา เนื่องจากตอนที่พ่อของ ซู หนิงซวง ย้ายไปเมืองเจียงโจว เฉิง ซานซง ก็ย้ายไปเมืองอื่นเหมือนกัน ทำให้ทั้งคู่ขาดการติดต่อกัน
เมื่อได้ยินเสียงเรียกตัวเอง พ่อของ ซู หนิงซวง ก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขามองเห็นหน้าของคนที่ทักเขา เขาก็รู้สึกประหลาดใจมาก
ไม่คาดคิดเลยว่า หลายปีผ่านไป จะได้เจอเพื่อนเก่าที่นี่
พ่อของ ซู หนิงซวง ลุกขึ้นไปสวมกอด เฉิง ซานซง
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันนาน พ่อของ ซู หนิงซวง จึงเชิญ เฉิง ซานซง ให้นั่งลงด้วยกัน
“เหล่าเฉิง ขอแนะนำหน่อย นี่คือ เย่เฉิน ว่าที่ลูกเขยของฉัน”
พ่อของ ซู หนิงซวง อธิบาย
“ลูกเขย เหล่าซู คุณมีลูกสาวด้วยหรือ?”
เฉิง ซานซง ถามด้วยความประหลาดใจ
“ใช่แล้ว ฉันมีลูกสาวสุดที่รักคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ถูกคนลักพาตัวไปแล้ว”
พ่อของ ซู หนิงซวง พูดยิ้มๆ พลางหันหน้าไปมอง เย่เฉิน
“ฮ่าฮ่า ฉันเองก็มีแค่ลูกสาวคนเดียวเหมือนกัน ลูกสาวฉันหนักกว่าของคุณอีก ตอนนี้แต่งงานไปแล้วด้วย”
เฉิง ซานซง พูดด้วยความรู้สึกปนเป ทั้งยังรู้สึกผิดคาดมากที่มาเจอกันแบบนี้
“เสี่ยวเฉิน นี่คือเพื่อนเก่าของลุงเอง, เฉิง ซานซง”
พ่อของ ซู หนิงซวง แนะนำ เฉิง ซานซง ให้ เย่เฉิน รู้จัก
“สวัสดีครับ คุณลุงเฉิง”
เย่เฉิน ทักทายอย่างสุภาพ
“เสี่ยวเฉิน ดูดีมากนะ ตอนนี้เรียนอยู่ หรือทำงานแล้วล่ะ?”
เฉิง ซานซง ถามด้วยความอยากรู้
“ยังเรียนอยู่ครับ”
“มหาวิทยาลัยไหนเหรอ?”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ครับ”
“มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ ก็ดีเลยนะ”
เฉิง ซานซง พยักหน้า
หลังจากพูดคุยกับ เย่เฉิน ไม่กี่ประโยค เมื่อรู้ว่า เย่เฉิน เป็นแค่นักศึกษา เฉิง ซานซง ก็ไม่ได้สนใจเขามากเท่าไหร่นัก
เขาจึงหันมาพูดคุยกับพ่อของ ซู หนิงซวง แทน ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ดังนั้นจึงมีเรื่องให้พูดคุยกันมากมาย
เมื่อคุยกันไปเรื่อยๆ ในฐานะที่ต่างก็เป็นพ่อคน ทั้งสองก็เริ่มคุยถึงเรื่องลูกสาว และลูกเขยของพวกเขา
พอพูดถึงลูกเขยของตัวเอง เฉิง ซานซง ก็เกิดความภาคภูมิใจขึ้นมา
“เหล่าเฉิง ตอนนี้ทำอะไรอยู่ล่ะ?”
พ่อของ ซู หนิงซวง ถามด้วยความสงสัย
“ฉันน่ะเหรอ ฉันทำตำแหน่งว่างๆ ในบริษัทจัดเลี้ยงของลูกเขยน่ะ”
เฉิง ซานซง ได้ตอบกลับ
“ลูกเขยของฉันปีนี้เพิ่งอายุ 28 ปี บริษัทของเขาก็ติดอันดับ 20 บริษัทจัดเลี้ยงชั้นนำของเมืองเซี่ยงไฮ้แล้ว”
เฉิง ซานซง พูดด้วยความภาคภูมิใจ
“ติดอันดับ 20 งั้นก็ถือว่าเก่งเลยนะ”
พ่อของ ซู หนิงซวง พูดต่ออย่างให้เกียรติ
ต้องยอมรับว่า การมีบริษัทติดอันดับ 20 อันดับแรกในอุตสาหกรรมของเมืองเซี่ยงไฮ้ในวัยเพียง 28 ปีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
แต่เมื่อเทียบกับ เสี่ยวเฉิน ลูกเขยของเขาแล้ว ก็ยังห่างกันอยู่มาก
“ปีที่แล้วลูกเขยของฉันเกือบได้เป็นหนึ่งในสิบผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้เชียวนะ”
เฉิง ซานซง ยังคงคุยโวต่อไป
ลูกสาวของเขาไม่ได้โดดเด่นมากนัก ทุกครั้งที่เจอเพื่อนเก่า เขามักจะไม่พูดถึงเรื่องลูกสาวของเขา
แต่พอมีลูกเขยเก่งๆ เขาก็รู้สึกภูมิใจขึ้นมา พอเจอคนรู้จักหน่อยก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงลูกเขยของเขา
“เกือบได้เป็นหนึ่งในสิบผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่น ..ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ”
พ่อของ ซู หนิงซวง ตอบรับอย่างสุภาพ
ด้านข้าง เย่เฉิน ดื่มกาแฟอยู่ เขารู้สึกว่าเหมือนเคยพบใครอะไรสักอย่างเกี่ยวกับสิบผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่โดดเด่นของเมืองเซี่ยงไฮ้มาก่อน นั่นแหละ
“เห็นไหม ลูกเขยของฉันเก่งจริงๆ”
เฉิง ซานซง พูดต่อด้วยความภาคภูมิใจ
“แถวนี้พอดีมีร้านอาหารหนึ่งในเครือบริษัทของลูกเขยฉันด้วยนะ ไปดูกันไหม?”
เฉิง ซานซง ถามขึ้นมา
“อย่างนี้ละกัน เหล่าซู ฉันจะให้บัตรสมาชิกแพลตินัมใบหนึ่งแก่คุณ และเสี่ยวเฉิน เวลาพวกคุณไปทานอาหารในเครือบริษัทของลูกเขย ไม่ว่าจะจ่ายเท่าไหร่ จะได้ลด 50%”
เฉิง ซานซง พูดพร้อมหยิบบัตรสมาชิกแพลตินัมออกมาให้กับทั้งสองคน
“เหล่าเฉิง ขอบคุณสำหรับน้ำใจ แต่ว่าไม่จำเป็นหรอก จริงๆ แล้ว เสี่ยวเฉิน เขามีร้านอาหารของตัวเองอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้…”
พ่อของ ซู หนิงซวง รีบปฏิเสธ
“หา?”
คำพูดของพ่อ ซู หนิงซวง ทำให้ เฉิง ซานซง ถึงกับประหลาดใจ
ลูกเขยของ เหล่าซู ไม่ใช่ว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เหรอ? ทำไมถึงมีธุรกิจของตัวเองได้ล่ะ?
“ร้านไหน? เผื่อว่าฉันอาจจะเคยได้ยินชื่อ?”
เฉิง ซานซง ถามอย่างสงสัย เขาอาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้มากว่าสิบปี แม้แต่ร้านอาหารหรูๆ เขาก็รู้จักหมดทุกประเภท
แน่นอนว่าถ้าร้านของลูกเขย เหล่าซู เป็นร้านระดับกลางๆ เขาก็อาจคงไม่รู้จัก…
“ตอนเที่ยงเราก็เพิ่งไปทานอาหารที่ร้านของ เสี่ยวเฉิน กันมา…เอ ชื่ออะไรนะ…”
พ่อของ ซู หนิงซวง นึกไม่ออก ดังนั้นจึงหันไปหา เย่เฉิน
เฉิง ซานซง ก็หันไปมอง เย่เฉิน เช่นกัน
เขาคิดว่าร้านอาหารของ เสี่ยวเฉิน น่าจะเป็นร้านระดับกลาง อาจจะเป็นการลองทำอะไรสักอย่างในช่วงที่ยังเรียนอยู่ก็ได้..
แต่คำตอบของ เย่เฉิน ที่ตามมานั้น กลับทำให้ เฉิง ซานซง ถึงกับอึ้งไปในทันที!!!