ตอนที่แล้วตอนที่ 124
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 126

ตอนที่ 125


ตอนที่  125

"แต่ช่างเถอะ... ยังไงที่หนึ่งของรุ่นน้องก็ยังแพ้ฉันอยู่ดี" หลี่เว่ยพึมพำอย่างมั่นใจ  "นายรู้สึกเหมือนคอถูกไฟเผาไหม?ทันทีที่การต่อสู้เริ่ม ฉันก็แอบใช้ 'พิษเพลิง' ใส่นายแล้ว..."

แต่ยังไม่ทันที่หลี่เว่ยจะอธิบายแผนการร้ายเสร็จ  ฟางซิงก็พุ่งเข้ามาประชิดตัวราวกับเหาะเหินเดินอากาศได้

"เหาะเหินเดินอากาศเหรอ... ไม่นะ นายทะลวงขั้นแล้วเหรอ?" หลี่เว่ยตกใจรีบชักมีดสั้นสีดำสองเล่มออกมาและต่อสู้สุดชีวิตแต่ก็ไม่ทันการณ์

เพล้ง!

ฝ่ามือขวาของฟางซิงฟาดลงมา  มีดสั้นทั้งสองกระเด็นตามด้วยฝ่ามือเปล่งประกายสีทองประทับลงบนใบหน้าของหลี่เว่ยอย่างจังจนใบหน้าบิดเบี้ยว

"อ๊าก!"  หลี่เว่ยกระเด็นออกจากสนามยกมือขึ้นลูบใบหน้าและยังคงหวาดกลัว  "ไม่นึกเลยว่าฟางซิงจะทะลวงขั้นแล้วใช้พิษเพลิงก็ไม่ได้ผล...  พิษผสมที่ฉันเตรียมมาก็ไร้ประโยชน์"

หลี่เว่ยได้แต่กัดฟันกรอด  นักรบขั้นพลังพิเศษนั้นสามารถใช้พลังขอบเขตป้องกันตัวเองราวกับเกราะกำบังยากที่พิษจะทำอันตรายได้และเป็นคู่ต่อสู้ที่นักปรุงยาหวั่นเกรง

ยิ่งไปกว่านั้น  ที่นี่คือสนามประลองเสมือนจริงไม่ว่าจะบาดเจ็บสาหัสจากพิษร้ายแรงหรือแม้แต่ตายก็แค่ เริ่มใหม่ ร่างกายก็จะกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมไม่มีอะไรต้องกังวล

"อย่างไรก็ตาม  ครั้งหน้าคงไม่ง่ายแบบนี้คงต้องใช้พิษที่ทำลายขอบเขตได้...  ฉันยังขาดฝีมืออีกนิดหน่อย..."  หลี่เว่ยตัดสินใจไปฝึกฝนต่อที่ห้องทดลองเสมือนจริงเพื่อปรุงพิษตามที่เขาคิดค้นขึ้น

ใช่แล้วในโลกเสมือนจริงฉันสามารถทดลองได้อย่างอิสระไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดพลั้งทำร้ายใครหรือ แม้แต่ทำลายตัวเอง

ที่นี่คือสวรรค์ของนักวิจัย นักปรุงยาและนักวิทยาศาสตร์!

ที่สำคัญคือวัตถุดิบในการปรุงยามีราคาแพงแต่ในพื้นที่เสมือนจริงกลับมีราคาถูกเขาสามารถฝึกฝนจนชำนาญแล้วค่อยไปทดลองในโลกแห่งความเป็นจริงช่วยประหยัดทรัพยากรไปได้มาก!

ทันใดนั้น  เขาก็ได้ยินหญิงสาวสองคนกำลังนินทาฟางซิง

"เคยเจอไอ้บ้าตบหน้าคนนั้นไหม?"

"เคยสิ หมอนั่นดุร้ายมากพอขึ้นมาก็ตบ นิสัยแย่สุดๆ"

"ได้ยินมาว่าเขาเป็นรุ่นน้องแผนกวิทยายุทธ์มหาวิทยาลัยบลูสตาร์  ตอนสอบเข้าเขาก็ตบหน้าเด็กผู้หญิงคนหนึ่งจนสลบเลย..."

"ต่อมาเด็กผู้หญิงคนนั้นก็กลายเป็นลูกศิษย์เขา ไม่รู้ว่าเขาจะฝันร้ายบ้างไหม..."

"ไอ้บ้าตบหน้าน่ากลัวชะมัด!"

-

หลี่เว่ยรีบตรวจสอบพบว่าฟางซิงกำลังไต่อันดับอย่างรวดเร็ว

ก็สมเหตุสมผลนักรบขั้นพลังพิเศษย่อมได้เปรียบในลานประลองเสมือนจริงแห่งนี้

...ก็แค่ชอบตบหน้าไปทั่วแค่นั้นเอง

"ไอ้บ้าตบหน้าฟางซิง..."  หลี่เว่ยเอามือลูบแก้มตัวเอง

ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นแค่ภาพลวงตาแต่ก็ยังรู้สึกเจ็บ...

-

ฟางซิงมุ่งมั่นกับการต่อสู้ในลานประลองและเริ่มคุ้นเคยกับพลังที่เพิ่มขึ้น

คู่ต่อสู้ในช่วงแรกล้วนอ่อนแอ  เขาสามารถจัดการได้ง่ายๆด้วยหมัดเดียว

หลังจากผู้ชมทะลุ 10,000 คน  เขาก็เริ่มมีชื่อเสียง

"หืม?"  ฟางซิงลืมตาขึ้นมองคู่ต่อสู้คนใหม่ด้วยความประหลาดใจ

"ลูกพี่! ไม่ได้เจอกันนานเก่งขึ้นมากเลยนะ ฉันได้ยินข่าวว่าลูกพี่ทะลวงสู่ขั้นพลังพิเศษแล้วแถมยังมาโชว์เทพในลานประลองอีก ฉันนี่รีบออนไลน์มาเลยแต่ไม่คิดว่าคิวจะยาวขนาดนี้......"

"นายมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันจะทดสอบดูว่าสุดยอดวิชาป้องกันตัวของนายจะแข็งแกร่งแค่ไหน"  ฟางซิงพยักหน้าเรียกกระบี่แสงสีเขียวออกมา

"ได้เลย  แต่ลูกพี่เราตกลงกันก่อนนะว่าห้ามตบหน้าฉัน!"  ซ่งจิงกังรีบพูด

"ทำไมจะตบหน้าไม่ได้?"  ฟางซิงขมวดคิ้ว

"ลูพี่ไม่รู้หรือไง? ตอนนี้ฉายาของลูกพี่ดังกระฉ่อนไปทั่ว  ใครๆก็เรียกลูกพี่ว่าไอ้บ้าตบหน้า..."  ซ่งจิงกัง  พูดเสียงเบาลงเรื่อยๆ

"ไอ้บ้าตบหน้า?"  สีหน้าของฟางซิงมืดครึ้ม  กระบี่แสงสีเขียวพุ่งเข้าใส่ราวกับสายฟ้าฟาดฟันเกราะเพชรของซ่งจิงกัง

"โอ๊ย!  ลูกพี่...  ฉันไม่ได้เป็นคนตั้งฉายานะ!"  แสงสีทองของซ่งจิงกังสลายไปราวกับเปลือกไข่  ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง

จากนั้น...

เขาก็เห็นฝ่ามือสีทองฟาดลงมาจากฟากฟ้า...

'สมแล้วกับฉายาไอ้บ้าตบหน้า'  ก่อนที่จะหมดสติไปซ่งจิงกังได้แต่คิดในใจ

ฟางซิงหน้าบึ้งตึงเดินออกจากลานประลองและเปิดอินเทอร์เน็ตดู  เขาเห็นข้อความมากมาย  "เฮ้อ...  เฟิงปิงตายไปแล้ว" เขารีบสั่งให้ฟ้าล็อกเอาท์ปล่อยให้ผู้ชมที่มามุงดูผิดหวัง

"วันนี้ฉันทะลวง  10,000  อันดับแรกแล้ว...  อีกสองวันฉันคงติด  100  อันดับแรกฉันรับประกันว่าน่าจะได้ท้าประลองก่อนสิ้นเดือน"

สองวันต่อมาฟางซิงยังคงมุ่งมั่นกับการต่อสู้ในลานประลองและไม่สนใจสิ่งรบกวนใดๆ

ในที่สุดเขาก็ติดอันดับ  66  ก่อนสิ้นเดือนและได้สิทธิ์ท้าประลอง

อีกไม่นานก็จะสิ้นเดือน...

กู้เจียนถงรีบเข้าสู่ห้องโดยสารเสมือนจริงมายังชุมชนบลูสตาร์

"ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นมาถึงแล้วการท้าประลองส่งท้ายเดือน!"

รอบๆ ลานประลองเต็มไปด้วยนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆทุกคนเงยหน้ามองจอขนาดใหญ่เพื่อรับชมการต่อสู้

"ไม่ต้องสงสัยดาวมืดต้องชนะเลิศแน่นอน"

"ฉันว่าลั่วไคก็มีสิทธิ์  ได้ยินมาว่าเขาอัปเกรดเครื่องจักร  สร้างอาวุธในโรงงานเสมือนจริงและมีอานุภาพมากพอที่จะสังหารนักรบขั้นพลังพิเศษได้..."

"ไร้สาระ  ลูกพี่ของพวกเราลูกพี่หูหยานเก่งที่สุด...  อย่างน้อยก็ดูเท่"

-

นักศึกษามากมายต่างตื่นเต้นกับการประลองส่งท้ายเดือน  พวกเขาออนไลน์เข้ามาชมการต่อสู้และส่งเสียงเชียร์นักสู้คนโปรดจนเสียงดังกึกก้องไปทั่วลานประลองเสมือนจริง

กู้เจียนถงหรี่ตาจ้องมองอันดับของตัวเองบนกระดาน  "ที่ 108...  บ้าเอ๊ย!  ถ้าฉันทะลวงขั้นได้คงติดอันดับสูงๆ ไปแล้ว"  ถึงแม้จะหัวเสียที่ยังไม่สามารถทะลวงสู่ขั้นพลังพิเศษได้แต่เขาก็ยังคงมั่นใจในศักยภาพของตัวเองและเชื่อว่าสักวันจะต้องโดดเด่นเหนือใคร

"เพื่อนกู้..."  เสียงทักทายดังขึ้นข้างๆ

"อ้อ  หยินฮวนเจิน..."  กู้เจียนถงพยักหน้ารับเขายังคงประทับใจเพื่อนคนนี้ที่เคยร่วมหัวจมท้ายกันมา

"100 อันดับแรกล้วนเป็นนักรบขั้นพลังพิเศษพวกเราคงยากที่จะสอดแทรก"  หยินฮวนเจินเอ่ยถาม  "นายคิดว่าฟางซิงจะท้าสู้กับใคร?"

"ถ้าเป็นฉัน  ฉันจะท้าดาวมืด!"  กู้เจียนถงประกาศกร้าว  "ลั่วไคกับหูหยานชิวสุ่ยไม่ได้อยู่ในสายตาฉัน...  มีเพียงกระบี่ของดาวมืดที่คู่ควรแก่การต่อสู้  แน่นอนว่าดาวมืดแข็งแกร่งเกินไป  ส่วนกู่เจินก็ไม่เลว...  ครั้งที่แล้วเขาพลาดแต่ครั้งนี้คงตั้งใจจะติด  10 อันดับแรก!"  กู้เจียนถงยังคงเคืองที่พ่ายแพ้ให้กับฟางซิง  และกู่เจินในการสอบเข้า

ถึงแม้เขาจะปากแข็งแต่ในใจก็ยอมรับว่าทั้งสองคือคู่แข่งที่แท้จริง  เขากระหายที่จะเอาชนะและจะล้างแค้นให้จงได้

ครั้งนี้คู่แข่งทั้งสองจะลงแข่ง  กู้เจียนถงรู้สึกตื่นเต้นแทบรอไม่ไหวอยากจะเห็นฟางซิงกับกู่เจินประลองกันและใครจะเป็นผู้เหนือกว่า

-

ในลานประลอง

ฟางซิงนั่งอยู่ในห้องรับรองจ้องมองกระดานจัดอันดับและครุ่นคิด  "วันนี้สิบอันดับแรกต้องรับคำท้าสิบครั้ง...  ฉันควรเลือกใครดี?"  สายตาของเขากวาดมองดาวมืดผู้แข็งแกร่ง  ลั่วไคปรมาจารย์เครื่องจักร  จากนั้นก็มองหูหยานชิวสุ่ยร่างสูงระหงดวงตาเฉียบคมก่อนจะแอบยิ้ม

"หูหยานชิวสุ่ยเป็นถึงประธานสภานักศึกษาดูท่าทางไม่เลว..."  เขาเลื่อนนิ้วไปที่อันดับ  9  อย่างมีเลศนัย

"ฉันไม่โง่จะไปท้าตัวท็อปตั้งแต่ยกแรกหรอก..."  ฟางซิงพึมพำกับตัวเอง  "อันดับ  10  ก็ดูอ่อนแอเกินไป  ท้าทายไม่สะใจ...  อันดับ  9  กำลังดี"

อันดับที่  9  ในบอร์ดจัดอันดับมีชื่อว่า  'อูลี่'  มาจากมหาวิทยาลัยเกราะศักดิ์สิทธิ์เป็นปรมาจารย์เครื่องจักร!

"จากข้อมูลในพื้นที่เสมือนจริง  อูลี่เป็นผู้เชี่ยวชาญเครื่องจักรระดับ  5  หมายความว่าเขาสามารถต่อกรกับนักรบขั้นพลังพิเศษได้...  น่าสนใจ"  ฟางซิงกดปุ่มท้าประลองทันที

ไม่นานอูลี่ก็ตอบรับคำท้า

"ยังมีอีกตั้งสามคู่ก่อนจะถึงตาฉัน...  หวังว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาดนะ"  หากอูลี่พ่ายแพ้อันดับก็จะเปลี่ยน  การต่อสู้ก่อนหน้านี้ก็จะถือเป็นโมฆะ  ฟางซิงจึงต้องลุ้นให้อูลี่ชนะ

ฟางซิงรออยู่ครึ่งชั่วโมงเสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้น  เขายิ้มก่อนจะหายวับไป

ปรากฏตัวอีกครั้งท่ามกลางซากปรักหักพังของเมือง

เขายืนอยู่บนยอดตึกสูงมองอูลี่ที่ยืนอยู่บนตึกอีกฝั่งอย่างไม่เกรงกลัว

อูลี่สวมชุดเกราะสีดำสนิทมีเพียงใบหน้าที่เผยออกมา  ผิวคล้ำ  ดวงตาสีฟ้าจ้องมองฟางซิงอย่าง  เคียดแค้น

"ฟางซิง  นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงตอบรับคำท้านาย?"  เขาเอ่ยถามเสียงดังก้อง

"เพราะฉันเป็นรุ่นน้องและรังแกง่ายงั้นเหรอ?"  ฟางซิงเดา

"ไม่ใช่...  เพราะนายคือไอ้บ้าตบหน้าไงล่ะ! นายตบหน้าพี่สาวฉัน  ฉันสัญญากับเธอว่าจะสั่งสอนนาย!"  อูลี่คำราม  แขนของหุ่นยนต์แปรสภาพเป็นปืนใหญ่สองกระบอก  "รับปืนใหญ่ของฉันไปซะ!"

ตูม!  ตูม!

เปลวเพลิงพวยพุ่งกระสุนโลหะพุ่งเข้าใส่ฟางซิงแต่กลับพลาดเป้าไปโดนกำแพง

ฟางซิงกระโดดขึ้นฟ้าร่างกายบิดพลิ้วกลางอากาศพุ่งเข้าหาอูลี่ด้วยวิชาระบำวูคง

"อยากเหาะงั้นเหรอ?"  ข้อมูลมากมายปรากฏขึ้นในระบบของอูลี่  ปัญญาประดิษฐ์กำลังคำนวณเส้นทางการเคลื่อนที่ของฟางซิง

"อย่าคิดว่ามีแค่นายที่บินได้!"  เปลวเพลิงพุ่งออกจากใต้ฝ่าเท้า  หุ่นยนต์สีดำกางปีกดุจยมทูตทะยานขึ้นฟ้า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด