ตอนที่แล้วตอนที่ 11 : เคลื่อนไหวอย่างกล้าหาญเพื่อหาเงิน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 : งานเลี้ยงรุ่น

ตอนที่ 12 : ทริปหนึ่งวันกับเสี่ยวฟู่โผ


เสี่ยวฟู่โผ 小富婆 แปลว่า สาวรวยตัวน้อย, คุณหนู แต่ผมจะขอใช้ทับศัพท์ไปเลยนะครับ คำนี้เป็นคำที่พระเอกใช้เรียกเฟิงหนานซูโดยเฉพาะ รู้สึกคำไทยมันไม่ค่อยเข้ายังไงไม่รู้ เอาตรงๆ คือไม่รู้จะใช้คำไหนดีเลยขอทับศัพท์ไปก่อน

—----------------------------------------------

หลังจากไล่กัวจื่อหังออกไปแล้ว เจียงฉินก็ออกจากร้านบะหมี่และไปที่ห้องสมุดเมืองจี้โจว จากนั้นก็พาผู้สนับสนุนทางการเงินของเขาซึ่งก็คือเสี่ยวฟู่โผไปที่ตลาดนัดสินค้าราคาถูก

วันนี้เฟิงหนานซูสวมชุดเดรสลายดอกไม้ดูหวานละมุนราวกับนางฟ้า โดยสะพายกระเป๋าหนังสีดำใบเล็กไว้ที่ไหล่ สวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลขนาดเล็ก เผยให้เห็นถุงน่องลายลูกไม้บางๆ ที่ข้อเท้า ทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวน่ารักและสดใส

จิตวิญญาณมันเยิ้มวัยสามสิบแปดปีให้การประเมินว่าดูนุ่มนวลจนแทบจะคั้นน้ำออกมาได้

เธอเดินไปตามทางเดินแคบๆ ดวงตาที่ใสกระจ่างมองไปมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งของที่วางโชว์อยู่บนแผงลอย

ร้านขายสินค้าเล็กๆ แห่งนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียงในโรงเรียนมัธยมเฉิงหนาน เนื่องจากสินค้าที่ขายส่วนใหญ่เป็นของลอกเลียนแบบ ราคาถูก และมีสินค้าให้เลือกหลากหลายประเภท

เป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักเรียนยากจนสุดๆ

โดยเฉพาะนักเรียนที่ไม่ได้นอนหอ ทานข้าวเช้าและเย็นอยู่ที่บ้าน และไม่ได้มีเงินติดกระเป๋ามากนัก

ดังนั้นในช่วงสุดสัปดาห์พวกเขาจะจับกลุ่มกันมาที่นี่เพื่อซื้อของ แต่สิ่งที่พวกเขาซื้อโดยส่วนใหญ่แล้วกลับเป็นของที่ไม่มีประโยชน์

เฟิงหนานซูอาจได้ยินคนพูดถึงสถานที่นี้ตอนอยู่ที่โรงเรียน เธอจึงอยากมาดูให้เห็นกับตา

“ทำไมร้านนี้ถึงมีกุญแจรถเยอะจัง?”

“อา… อันที่จริงนั่นไฟแช็ก”

“ใบรับรองสาวงามต้องสอบไหม? ฉันอยากได้บ้าง”

“อันนั้นเป็นของปลอมและไม่มีความหมายอะไร ถ้าอยากได้ก็ซื้อเอาเลย อันละหนึ่งหยวนเอง”

“เจียงฉิน ฉันหิวน้ำ อยากดื่มสไปรท์”

“เธอดูผิดแล้ว นั่นรุ่นน้องของสไปรท์อีกที เหลยปี้”

“กางเกงในพวกนี้ตรงเป้ามันขาดแล้ว ทำไมถึงเอามาขายอยู่ล่ะ”

“เธอยังเด็กอยู่ เพราะงั้นอย่าถามถึงเรื่องของผู้ใหญ่”

สามนาทีต่อมา เฟิงหนานซูหยุดอยู่หน้าร้านตรงหัวมุม ไม่สามารถก้าวขาออกจากตรงนี้ได้

ด้านหน้าเธอคือรถหยอดเหรียญรูปเฮลโลคิตตี้ ซึ่งกำลังส่องแสงระยิบระยับพร้อมทั้งส่งเสียงเชื้อเชิญให้เพื่อนๆ ของมันเข้ามาลองเล่น

เฟิงหนานซูหันศีรษะและมองไปที่เจียงฉินอย่างเงียบๆ ดวงตาที่เย็นชาของเธอเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่น ทำให้เจียงฉินรู้สึกสับสน

“เธอคงไม่ได้อยากจะเล่นเจ้านี่หรอกใช่ไหม”

“คุณหนู เธอฟังฉันนะ ของสิ่งนี้มีไว้สำหรับเด็กอายุต่ำกว่าแปดปี”

“เธออายุสิบแปดแล้ว ถ้าเธอลองเล่นเจ้านี่เธอจะต้องอับอายจนอยากตายแน่ๆ”

เจียงฉินพยายามโน้มน้าวให้เธอล้มเลิกความคิดนี้ แม้ว่าของเล่นชิ้นนี้จะสามารถเปล่งแสง เคลื่อนไหว และแม้แต่ร้องเพลงได้ แต่ถ้าไม่ได้ใส่กางเกงผ้าอ้อมก็ไม่มีสิทธิ์เล่น

สามนาทีต่อมา มีเสียงเพลงไพเราะดังมาจากหน้าประตูร้านหัวมุม

พ่อของพ่อเรียกว่าอะไร พ่อของพ่อเรียกว่าปู่...

สาวสวยผู้งดงามราวกับเทพธิดากำลังนั่งอยู่บนนั้น ใบหน้าเธอยังคงเรียบเฉยและเย็นชา แต่ทว่าแววตาของเธอกลับมีประกายแห่งความสุขอย่างเห็นได้ชัด

เจียงฉินอดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุขไปกับเธอในขณะที่เขากำเหรียญซึ่งเพิ่งแลกมาจากร้านค้า ไหล่ของเขาพิงไปที่กรอบประตูร้านพลางมองดูเธออย่างเงียบๆ

วันนั้นเขาเห็นตารางที่เคลือบด้วยพลาสติกในกระเป๋าของเฟิงหนานซู เธอต้องฝึกเปียโนและไวโอลินในตอนเช้า บัลเล่ต์และยูโดตอนเที่ยง สุดท้ายก็ต้องอ่านข่าวและหนังสือพิมพ์การเงินในตอนเย็นก่อนจึงจะสามารถไปผ่อนคลายที่ห้องสมุดได้

เสี่ยวฟู่โผคงไม่ได้มีวัยเด็กเหมือนคนทั่วไป…

นั่นเป็นสาเหตุที่เธอไม่มีเพื่อนและไม่สามารถเข้าสังคมได้ เธอกลายเป็นพวกหวาดกลัวสังคมและถูกเข้าใจผิดว่าเย็นชา

เจียงฉินยิ้มเล็กน้อยและไม่คิดถึงเรื่องนี้อีก แต่กลับหยิบสัญญาที่อยู่ในกระเป๋าออกมาโดยไม่ตั้งใจ

ตอนนี้เขามีบ้านที่อยู่ในโครงการรื้อถอนสี่หลัง โดยแต่ละหลังมีขนาดต่างกัน รวมๆ แล้วเขาใช้เงินในบัตรไปทั้งหมด 2.73 ล้าน

ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศแผนการชดเชยสำหรับการปรับปรุงย่านเมืองเก่าของเมืองจี้โจว และเขาก็ไม่เคยเห็นมันในชีวิตก่อนหน้า แต่อ้างอิงจากค่าชดเชยที่ลุงสามของเขาได้รับ ค่าชดเชยในย่านฝานหัวน่าจะได้ประมาณ 1:2.8 ส่วนชุมชนซิ่งฝูและชุมชนหงหยุนนั้นอยู่ค่อนข้างไกล ดังนั้นค่าชดเชยจึงอาจจะไม่สูงนัก คงได้สัก 1:2.1

เขาไม่รู้สถานการณ์ในหรงเฉิง แต่น่าจะสามารถขึ้นไปถึง 1:2.4 ได้

จี้โจวไม่ใช่จิงตูหรือเซินเฉิง แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวยแบบชั่วข้ามคืนด้วยค่ารื้อถอน ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว ยังต้องการเรียกร้องอะไรอีก

คุณควรรู้ว่าหมู่บ้านเฉียนปาที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณวงแหวนที่สองของทางเหนือก็รวมอยู่ในขอบเขตการรื้อถอนในปี 2018 เช่นกัน แต่อัตราส่วนค่าชดเชยอยู่ที่เพียง 1:1.3 เท่านั้น

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร?

แสดงว่าการรื้อถอนก็เหมือนกับความรัก ลำดับขั้นตอนนั้นสำคัญมาก

หลังจากได้รับเงินค่ารื้อถอนแล้ว เจียงฉินจะคืนเงินที่เฟิงหนานซูให้เขายืม เมื่อถึงตอนนั้นเขาน่าจะยังมีเงินเหลืออยู่หนึ่งหรือสองล้านบวกกับอพาร์ทเมนท์อีกสี่ห้อง

แน่นอนว่าเขาเลือกที่จะเอาแค่เงินไม่เอาบ้านก็ได้ แต่ถ้าเขาขายทอดตลาดโดยตรงก็คงไม่ได้ราคาตลาดอย่างแน่นอน ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือพอได้บ้านมาแล้วค่อยขายเองทีหลังดีกว่า แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย เช่น ทำเลที่ตั้งของบ้าน ถ้าเป็นทำเลที่มีแนวโน้มราคาขึ้นสูงในอนาคตเขาก็คงเก็บไว้เอง

ในขณะที่รอเงินค่ารื้อถอน เจียงฉินก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะนั่งอยู่เฉยๆ

เขาจะเอาเงินอีก 270,000 ไปทำธุรกิจบางอย่าง

การซื้อบ้านที่กำลังจะถูกรื้อถอนยังคงเป็นการฉกฉวยโอกาส แต่การเริ่มต้นธุรกิจนั้นแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง หากเขาต้องการเข้าสู่สถานะของผู้ประกอบการอย่างรวดเร็ว เขาจะต้องคุ้นเคยกับกระบวนการทางธุรกิจและกลยุทธ์ต่างๆ

ดังนั้นเขาจะใช้เงินจำนวน 270,000 หยวนก้อนนี้ในการเริ่มต้นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในจี้โจว เหมือนเป็นการทดสอบน้ำก่อนเริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการ

ขณะที่เขากำลังคิด เสียงเพลงที่อยู่ข้างๆ ก็หยุดลงกะทันหัน

หมดเวลาโยกแล้ว

แต่เฟิงหนานซูไม่เต็มใจที่จะละทิ้งเฮลโลคิตตี้ ดวงตาของเธอยังคงส่องประกายด้วยความรู้สึกไม่หนำใจ

เจียงฉินยิ้มอย่างขมขื่น หยิบเหรียญออกมาจากกระเป๋าแล้วส่งไปที่ฝ่ามือของเธอ

“มาเล่นด้วยกันสิ” เฟิงหนานซูชี้ไปที่รถหยอดเหรียญอีกคันซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ

“ฉัน? อย่ามาล้อเล่นน่า ฉันคือมิสเตอร์มัสเซิล ชายผู้โคตรแมน บุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาล…”

สามนาทีต่อมา เพลง [พ่อของพ่อเรียกว่าปู่] ก็ดังมาจากหน้าประตูร้านเล็กๆ อีกครั้ง

เจียงฉินนั่งอยู่ในรถที่มีขนาดเล็กกว่าตัว โยกตัวไปมาพร้อมกับเฮลโลคิตตี้ ใบหน้าแสดงออกถึงความประหลาดใจ

เจ้าสิ่งนี้...

สนุกเหมือนกันนี่หว่า!

หลังจากส่ายไปส่ายมาอยู่พักใหญ่ ในที่สุดเฮลโลคิตตี้ที่บ้าคลั่งทั้งสองก็หยุดลง ในขณะเดียวกันเจ้าของร้านก็เดินออกมาด้วยสีหน้าขมวดคิ้ว สายตาของเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่า

เด็กมีน้ำหนักเท่าไหร่?

แล้วชายหนุ่มร่างสูงแบบนี้หนักกี่กิโล?

นี่ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่!

อย่างไรก็ตามเจียงฉินไม่ได้สังเกตสีหน้าของเจ้าของร้าน แต่เขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์และหยิบโนเกียที่เหลือจากการใช้งานของพ่อออกมา

ตอนที่เขานั่งรถหยอดเหรียญเมื่อกี้เขารู้สึกว่าเหมือนมีเสียงอะไรดังอยู่ตลอด เมื่อเขาเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาจึงพบว่ามันเป็นเสียงแจ้งเตือนข้อความ QQ ที่สำคัญมันยังเป็นเสียงเพลง ‘ตกหลุมรักผ่านโทรศัพท์’ ของ QQ เวอร์ชั่นปี 2008 ด้วย โคตรจะย้อนยุคเลย

“พี่เจียง ลองทายดูสิว่าคราวนี้คนในห้องเรียนมารวมตัวกันที่ไหน!”

“เอาล่ะเอาล่ะ ไม่อุบไว้แล้ว สถานที่รวมตัวอยู่แถวตลาดเลย นายคิดว่ามันบังเอิญหรือเปล่า?”

“ฉินจื่ออังจองห้องจัดเลี้ยงที่โรงแรมหลงเวยซึ่งอยู่ใกล้ๆ นี่แหละ ฉันกำลังไปที่นั่นแล้ว วันนี้ฉันต้องทำให้เจ้าหมาโง่นั่นร้องไห้ให้ได้!”

“ใช่แล้ว นายก็อยู่แถวๆ ตลาดด้วยใช่ไหม? กินข้าวเสร็จฉันจะไปหานาย เดี๋ยวเราค่อยกลับบ้านพร้อมกัน!”

รูปโปรไฟล์ของกัวจื่อหังเป็นผู้ชายผมยาวสวมแว่นกันแดด รูปภาพยังมีการปรับโทนสีเป็นสีพาสเทล ทำให้ดูเหมือนพวกเด็กแนว

มันยากสำหรับเจียงฉินที่จะเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องใช้ผู้ชายผอมแห้งเหมือนไก่เป็นรูปโปรไฟล์ ทั้งๆ ที่ตัวจริงเขาจะอ้วน เตี้ย และดำก็ตาม

ฉันอยู่ที่...

ให้ตายเถอะ แป้นพิมพ์เก้าปุ่มนี่ใช้โคตรยาก!

เจียงฉินกดปุ่มวางสายโดยตรงและกลับไปที่หน้าแรก หมดความอดทนในการตอบกลับข้อความอย่างสิ้นเชิง

“เสี่ยวฟู่โผ เธออยากไปที่ไหนต่อ?”

“ไปกินอาหารขยะ!”

เฟิงหนานซูยื่นมือออกมา ใช้ปลายนิ้วที่เรียวยาวราวกับหยกชี้ไปยังร้านขายขนมตรงหน้า ดวงตาของเธอเปล่งประกายระยิบระยับ

(จบตอน)

มิสเตอร์มัสเซิล คือชื่อผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างห้องน้ำ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด