ตอนที่แล้วMDB ตอนที่ 507 แลกเปลี่ยนอย่างอื่น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMDB ตอนที่ 509 เฟิงจือเฉียนมาเยือน

MDB ตอนที่ 508 หยางหมิงไม่ใช่คนร้าย


หลินจินได้รับรู้จากซูเสี่ยวหลัวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในสถาบันฯ โดยเริ่มต้นจากอสูรหกตาหกหูสังเกตเห็นการลักพาตัวของเขา และเหล่าอาจารย์ที่นำโดยท่ายชายจงได้รุดหน้าเพื่อมาช่วยหลินจิน

เมื่อเขาได้ยินว่าอาจารย์ของสถาบันฯมาช่วยเขา หลินจินก็ยิ้มและรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ

เขายังได้ยินเกี่ยวกับหยางหมิงอีกด้วย

ซูเสี่ยวหลัวโกรธจัด และประกาศว่าเธอจะจัดการกับหยางหมิงด้วยมือของเธอเอง แต่หลินจินปรามเธอไว้

หลังจากกลับไปที่สถาบันฯ และถามไถ่ไปทั่ว หลินจินก็รู้ว่าหยางหมิงหายตัวไป ในขณะเดียวกัน อาจารย์หลายคนเข้ามาหาเพื่อถามถึงสภาพร่างกายของเขา และพวกเขาก็พูดปลอบโยนอย่างใจดี

ซูเสี่ยวหลัวยังคงอยู่เคียงข้างเขา แต่เธอไม่เปิดเผยตัวตน เธอทำเช่นนี้โดยแอบซ่อนตัวอยู่ในบ้านของหลินจิน และดื่มชาของเขาอย่างลับ ๆ

หลินจินคิดว่าความกังวลของเหล่าอาจารย์มาจากใจ แต่ความตั้งใจของพวกเขาที่จะเป็นมิตรกับซูเสี่ยวหลัวก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน

ท่านชายจงมาถึงเป็นคนสุดท้าย เขาซักถามถึงรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย และหลินจินก็ตอบทุกอย่างโดยไม่ปิดบัง

อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ตอบเรื่องการเอาชนะศัตรู และบอกว่าผู้อาวุโสซูเป็นคนช่วยเขาแทน

จากนั้น ท่านชายจงถามถึงความขัดแย้งระหว่างหลินจินกับหยางหมิง

เห็นได้ชัดว่าสถาบันฯกำลังตามล่าหยางหมิงอยู่ เพราะทุกคนต่างก็รู้ดีว่าหยางหมิงเป็นคนเดียวเท่านั้นที่มีแรงจูงใจที่จะเริ่มต้นการโจมตีดังกล่าว

ไม่ว่าเขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังแค่ไหน การฝ่าฝืนกฎของสถาบันฯ และพยายามฆ่าเพื่อนร่วมงานถือเป็นการกระทำที่มากเกินไป

หลังจากทุกคนออกไปแล้ว ซูเสี่ยวหลัวสังเกตเห็นว่าหลินจินเงียบลงราวกับว่าเขากำลังคิดบางอย่างอยู่ เธอจึงคิดว่าเขาคงจะกังวลอยู่ เธอจึงปลอบเขาไปว่า

“อย่ากลัวไปเลย ข้าจะอยู่ในเรือนดอกท้ออีกสักสองสามวัน ไม่ว่าหยางหมิงจะเก่งแค่ไหน หากเขากล้าพอที่จะปรากฏตัวที่นี่ ข้าก็จะไม่มีทางปล่อยให้เขารอดกลับไป”

อย่างไรก็ตาม หลินจินส่ายหัวตอบกลับ

“อืม... ข้าคิดว่าคนร้ายไม่ใช่ผู้ประเมินหยางหมิง”

ซูเสี่ยวหลัวรู้สึกประหลาดใจ

หลักฐานทั้งหมดชี้ไปที่หยางหมิง อย่างน้อยที่สุด เขาก็มีแรงจูงใจและความสามารถในการเป็นคนร้าย ที่สำคัญกว่านั้น ทันทีที่การโจมตีล้มเหลว เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

คำตอบไม่อาจจะชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลินจินกลับยืนกรานว่าหยางหมิงไม่ใช่คนร้าย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ

“ว่ามาสิ ข้าอยากรู้ว่าทำไมเจ้าถึงคิดอย่างนั้น”

แม้ว่าซูเสี่ยวหลัวจะตกใจ แต่เธอก็ไม่เสียความสงบนิ่ง เธอได้เอามือเท้าคางด้วยมือทั้งสองข้าง และแสดงท่าทางที่ดูเหมือนจะบอกหลินจินว่า ‘ฉันฟังอยู่’

หลินจินอธิบายว่า

“มันง่ายมาก ข้ากับผู้ประเมินหยางอาจมีเรื่องขัดแย้งกันบ้าง แต่เรื่องนั้นไม่ร้ายแรงถึงขนาดที่เขาต้องฆ่าแกงกัน อีกทั้งผู้ประเมินหยางก็ไม่เคยมาที่เรือนดอกท้อด้วยซ้ำ”

เป็นช่วงเวลานั้นเองที่ซูเสี่ยวหลัวตระหนักถึงความจริงข้อนี้

เธอจำกล่องเหล็กเล็ก ๆ นั่นได้

พวกเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามีใครบางคนเทของเหลวของปีศาจโลหิตบางส่วนลงในกล่องเหล็กแล้วซ่อนไว้ในเรือนดอกท้อ มันเป็นต้นเหตุที่ทำให้หลินจินถูกพาตัวไป

คนร้ายจะต้องมีทักษะสูง และมีวิธีการหลีกเลี่ยงการตรวจจับโดยระบบรักษาความปลอดภัยอันทรงพลังของสถาบันฯได้

หากหยางหมิงเป็นคนร้าย เขาคงมาที่เรือนดอกท้อเพื่อวางกล่องเหล็กในที่ที่ไม่ใครสังเกตเห็น อย่างไรก็ตาม หยางหมิงไม่เคยเหยียบย่างมาที่นี่เลย

แน่นอนว่าเขาสามารถส่งคนไปทำก็ได้ แต่หลินจินรู้ดีว่าตั้งแต่เขาย้ายมาที่นี่ นอกจากอาจารย์ที่เป็นมิตรไม่กี่คนแล้ว ก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเขาอีกเลย

การลอบเข้ามาก็เป็นไปไม่ได้เช่นกัน เนื่องจากเฒ่าโม่ได้รับมอบหมายให้เฝ้าบ้าน แถมตัวเขาไม่เคยออกจากบ้านเลย และด้วยสัมผัสอันเฉียบแหลมของเขา เขาไม่น่าปล่อยให้แขกที่ไม่ได้รับเชิญผ่านเข้ามา

แน่นอนว่ามีข้อยกเว้นเช่น ซูเสี่ยวหลัว เฒ่าโม่ไม่ได้สังเกตเห็นเธอ แต่หลินจินไม่สงสัยในตัวเธอเลย หากเธอต้องการทำร้ายหลินจิน เธอสามารถทำได้โดยไม่ต้องทำให้เรื่องทุกอย่างมันยุ่งยากเช่นนี้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ผู้ที่มาเยี่ยมเรือนดอกท้อหลังจากที่หลินจินย้ายเข้ามาล้วนน่าสงสัย และหยางหมิงก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น และด้วยอุปนิสัยที่เขารับรู้มา เขาจึงมั่นใจว่าคนหลังไม่ใช่ผู้ร้ายอย่างแน่นอน

หากหยางหมิงอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ อย่างน้อย ๆ เขาต้องมีแผนสำรองหากสถานการณ์กลับตาลปัตร ไม่มีทางที่เขาจะทิ้งทุกอย่าง และหนีไปอย่างดื้อ ๆ แบบนี้

เขาคิดว่าคนร้ายเป็นผู้ประเมินมาร หรืออาจจะเป็น 'ทูตดำ' ผู้ลึกลับที่ชูโกวพูดถึง

แต่หากเขาเป็นทูตดำ อีกฝ่ายต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อแทรกซึมเข้าไปในสถาบันเกลียวสวรรค์ ดังนั้นเขาต้องมีแผนการที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ เขาจะยอมเสี่ยงเวลาหลายปีหรือหลายทศวรรษให้สูญเปล่าเพียงเพื่อฆ่าหลินจินอย่างนั้นเหรอ?

มันไม่สมเหตุสมผลเลย

คนร้ายน่าจะเป็นคนระมัดระวังตัว ดังนั้นเขาคงเป็นคนวางกล่องเหล็กไว้ที่นี่ด้วยตัวเอง หรือไม่ก็เขาคงสั่งให้ใครสักคนนำมันเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม คน ๆ นั้นคงเคยมาเยือนเรือนดอกท้อเมื่อไม่นานมานี้ และเขาอาจจะเป็นหนึ่งในคนที่หลินจินต้อนรับอย่างยินดีก็เป็นได้

เมื่อคิดเช่นนี้ หลินจินก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน

เขาเริ่มทบทวนว่ามีใครมาเยี่ยมเขาบ้าง

นอกจากซูเสี่ยวหลัวแล้ว ท่านชายจงก็เคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ผู้ประเมินหยานและผู้ประเมินโอวหยางก็เคยมาที่นี่เช่นกัน และยังมีผู้ประเมินหวังอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเหล่านักเรียนส่วนตัวของเขา

หลี่ซินฉี, หลี่หยวนฉิง, เยว่หยุน, หวังผิง, เซินเยว่ชี, หยู่ต้ายเว่ย และหนอนหนังสือ ฟานหยวน

‘จะเป็นหนึ่งในพวกเขาหรือเปล่า?’

หลินจินสงสัยนักเรียนเหล่านี้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าใครมีเจตนาไม่ดี ในบรรดาคนจำนวนมากที่ถูกระบุขึ้นมา หลินจินสามารถแยกพวกเขาออกมาจากกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้เพียงสองคนเท่านั้น

คนหนึ่งคือซูเสี่ยวหลัว และอีกคนคือท่านชายจง

ส่วนคนอื่น ๆ นั้นยังคงเป็นผู้ต้องสงสัยไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือนักเรียนก็ตาม

ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้

ส่วนแผนการของคนร้ายก็รัดกุมมาก หากการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นกับผู้ประเมินระดับสี่คนอื่น ๆ พวกเขาไม่มีทางรอดชีวิตได้เลยแม้แต่คนเดียว

หลินจินพูดแบบนี้ได้ เพราะตัวเขาเองก็เกือบเอาตัวไม่รอดเหมือนกัน ถ้าเขาไม่เปิดใช้งานพิพิธภัณฑ์ในนาทีสุดท้ายและพลิกสถานการณ์ เขาคงจะตายก่อนที่ซูเสี่ยวหลัวจะเข้ามาช่วยเขา

เพียงปัจจัยนี้ก็เพียงพอที่จะบอกว่า คนร้ายคนนี้ต้องเป็นยอดฝีมือที่เป็นเลิศในการวางแผนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หลินจินไม่ใช่คนยอมแพ้ง่าย ๆ เมื่อเขากลับมา เขาจงใจแสร้งทำเป็นอ่อนแอราวกับว่าเขาได้รับบาดเจ็บ เขาพยายามปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเอง โดยหวังจะหลอกลวงศัตรู

บางทีคนร้ายหรือลูกน้องของคนร้ายอาจจะซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอาจารย์ที่เข้ามาตรวจดูเขาหรือกับนักเรียนที่เข้ามาเยี่ยมเขาหลังจากรุ่งสางก็เป็นได้

ไม่ว่าจะอย่างไร หลินจินต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง

การแสดงจุดอ่อนอาจทำให้ศัตรูสับสน และล่อลวงให้พวกเขาลงมือรอบสอง

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หากเขาสามารถคิดแผนการลอบสังหารที่ละเอียดลออเช่นนี้ได้ เขาคงโกรธมากที่รู้ว่าแผนการนั้นล้มเหลว ดังนั้น หลังจากที่ตระหนักว่าเป้าหมายของเขาอยู่ในสถานะที่เปราะบาง เขาย่อมคิดว่านี่คือโอกาสที่ดี่ที่จะลงมือ

เขาไม่น่าจะรอให้หลินจินฟื้นตัวก่อนอย่างแน่นอน

หลินจินเองก็ไม่แน่ใจว่าศัตรูจะลงมืออีกหรือไม่ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีกฝ่ายฉลาดกว่าที่หลินจินคิดไว้มาก

แต่หลินจินก็คิดว่ามันไม่ได้เสียหายอะไรที่จะลองใช้แผนนี้ ก่อนที่เขาจะเปิดเผยได้ว่าศัตรูคือใคร การล่อให้อีกฝ่ายเปิดเผยตัว ถือว่าเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด