ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 59 ขุนเขาหลอมโลหะ
ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 59 ขุนเขาหลอมโลหะ
“การหลอมสร้าง เหมาะที่จะไปชมขุนเขาหลอมโลหะของตระกูลเสียหน่อย หลายปีมานี้ได้ยินเพียงชื่อเสียง แต่ยังไม่เคยเห็น”
กู้ฉางเซิงพึมพำเบา ๆ หลังจากที่เขาอ่านวิชาหลอมตำราสวรรค์บัญญัติเทพจบ ตำราเล่มเล็กที่สร้างขึ้นจากทองคำเงินต้าหลัวก็แปรเปลี่ยนเป็นเถ้าธุลี หายไปในทันที
ภายในนั้นมีอาคมต้องห้ามของสำนักสวรรค์ธยานะอยู่ เมื่ออ่านจบก็จะถูกทำลาย
พร้อมกันนั้น ตามข้อตกลง กู้ฉางเซิงมิอาจถ่ายทอดวิชานี้ให้กับผู้ใด
เรื่องนี้เข้าใจได้โดยง่าย
ท้ายที่สุด สำนักสวรรค์ธยานะย่อมไม่ยินยอมให้วิธีการหลอมสมบัติลับของสำนักถูกเปิดเผย นั่นก็เป็นเพราะฐานะของกู้ฉางเซิงนั้นพิเศษ
ผู้บำเพ็ญทั่วไป หากได้รับวิชานี้ สิ่งที่ต้องเผชิญก็คือการตามล่าอย่างไม่สิ้นสุด!
ต่อมา กู้ฉางเซิงจึงเรียกคนรับใช้ บอกกล่าวสมบัติวิเศษที่เขาต้องการ ให้พวกเขาไปตามหา
นี่คือข้อดีของการมีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง การหลอมสมบัติลับ ไม่ต้องกังวลเรื่องวัสดุ
ไม่นานนัก ข่าวสารก็ถูกส่งจากเกาะเทพไปยังทุกสารทิศ เกือบจะกล่าวได้ว่าทั่วทั้งตระกูลกู้ต่างก็ตกตะลึง
“กระไรนะ!?”
“บุตรเทพต้องการหลอมสมบัติลับ ต้องการวัสดุเหล่านี้……”
“บังเอิญว่าชายชรามีสมบัติสะสมมาหลายแสนปี หากบุตรเทพต้องการ ก็สามารถนำไปได้” เสียงสนทนาดังกล่าว ปรากฏขึ้นบนเกาะเทพและขุนเขามากมาย
ไม่ถึงครึ่งวัน สมบัติวิเศษมากมายหลากสีปลดปล่อยแสงเทพสว่างไสว ก็ถูกส่งมายังโถงตำหนักที่กู้ฉางเซิงอยู่
สำเนียงมรรคไหลเวียน เจตจำนงเทพส่องประกายเจิดจรัส ทุกชิ้น ล้วนหายากในโลก
ทองอัสนียอดมรรคาขนาดเท่ากำปั้น ภายในนั้นแฝงไว้ด้วยพลังสายฟ้าแท้ สามารถใช้หลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์
ทองหงส์ชาดขนาดเท่าอ่างล้างหน้า ย้อมติดด้วยโลหิตแก่นแท้ของหงส์เซียนที่ล้มตาย หากปรากฏตัวในโลกภายนอก ย่อมต้องทำให้เกิดสงครามนองเลือด และการแย่งชิง!
สมบัติวิเศษเช่นนี้ ยังมีอีกมากมาย
……
ขุนเขาหลอมโลหะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของตระกูลกู้
กล่าวว่าเป็นขุนเขา แต่แท้จริงแล้ว เป็นเทือกเขาที่ทอดยาวออกไปอย่างไร้จุดสิ้นสุด แทบจะทุกยอดเขาล้วนมีเปลวไฟพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า
กลิ่นอายของเปลวไฟเทวะ เปลวไฟวิญญาณมากมายแผ่กระจายออกไป ปลดปล่อยคลื่นความร้อนอันน่ากลัว
นี่คือเปลวไฟเทวะ เปลวไฟแปลกประหลาดที่บรรพบุรุษตระกูลกู้รวบรวมมาจากทุกสารทิศตลอดหลายปี พวกมันถูกกักขังเอาไว้ ณ ที่แห่งนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังใช้หลอมอาวุธเทพ
เปลวไฟแต่ละสาย ล้วนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สามารถมอบพลังอำนาจให้กับอาวุธเทพได้
บนท้องฟ้า เต็มไปด้วยเงาร่างของสมาชิกตระกูลกู้ พวกเขากำลังเดินทางไปมาระหว่างยอดเขามากมาย คึกคักอย่างยิ่ง
“ข้าต้องการเปลวไฟกระดูกเยือกแข็ง เพื่อหลอมขั้นตอนสุดท้าย พี่น้องคนใดว่างบ้าง……”
“เปลวไฟมารวายุทมิฬช่วงนี้มีคนใช้มากมาย ชายชราเฝ้ารอมานานแล้ว ยังคงเข้าไปไม่ได้” ชายชราผู้แข็งแกร่งรุ่นก่อนถูกกลุ่มคนรุ่นใหม่เบียดออกมา ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหดหู่
ที่แห่งนี้แตกต่างจากสถานที่อื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องให้ความเคารพผู้อาวุโส หากต้องการหลอมสมบัติ เพียงแค่นำวัสดุมาเอง ใครมาก่อนก็ได้ใช้ก่อน
หากเกิดการแย่งชิง หน่วยลาดตระเวนก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดา
ดังนั้น จึงมักจะเห็นชายชรากลุ่มหนึ่งถูกคนรุ่นใหม่แย่งชิงตำแหน่งจนต้องกระโดดโหยงด้วยความโมโห เพราะไม่สามารถแย่งชิงได้
“เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ปู่บรรพชนสี่หรือ? ท่านมาที่นี่อีกแล้วหรือ? หรือว่าเมื่อวานไม่ได้หลอม?” ชายหนุ่มคนหนึ่งมองชายชราที่อยู่ข้างกาย กล่าวขึ้น
“ไสหัวไป เจ้าสารเลวน้อย เมื่อกลับไป ชายชราจะสั่งสอนเจ้า วันนี้ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่ได้หลอม!” ชายชราได้ยินเช่นนั้น หนวดเคราของเขาก็สั่นเทาด้วยความโกรธ
……
กู้ฉางเซิงแปรเปลี่ยนเป็นสายรุ้ง เดินทางมาถึงที่แห่งนี้ ยังไม่ทันได้ลงสู่พื้นดิน เขาก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังมาจากยอดเขามากมาย
ดูคึกคัก แต่ก็แฝงไว้ด้วยความสงบสุขและความสามัคคี
ขุนเขาหลอมโอสถ ขุนเขาหลอมโลหะ เกือบจะกล่าวได้ว่าเป็นสถานที่ที่มีผู้คนมากมายที่สุด
อาวุธเทพ สมบัติลับ เป็นสิ่งของที่ผู้บำเพ็ญทุกคนต้องมี
ตระกูลกู้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
การปรากฏตัวของกู้ฉางเซิง ทำให้ทั่วทั้งเทือกเขาสั่นสะเทือน
ในตระกูลกู้ตอนนี้ ไม่มีผู้ใดไม่รู้จักเขา
“คารวะบุตรเทพ!”
สายรุ้งหนึ่งสายพุ่งเข้ามา หยุดอยู่เบื้องหน้ากู้ฉางเซิง เป็นชายหนุ่มผู้มีกลิ่นอายแข็งแกร่ง ทั่วทั้งร่างกายราวกับมีพลังดวงดาวปกคลุม มีนามว่า กู้ซิงเฉิน
หนึ่งในสิบลำดับรุ่นเยาว์ของตระกูลกู้ เขามีกายาเทพดวงดาว
สามารถดึงดูดพลังดวงดาวจากเก้าสวรรค์ชั้นฟ้ามาใช้หลอมกาย ตบะของเขาอยู่ที่ระดับเบิกฟ้าสามวัฏ!
เขาเพิ่งจะกลับมาจากโลกภายนอก เตรียมพร้อมที่จะหลอมสมบัติลับ ณ ขุนเขาหลอมโลหะ แต่กลับพบเจอกับกู้ฉางเซิง
ผู้บำเพ็ญและสมาชิกตระกูลกู้คนอื่น ๆ ที่อยู่โดยรอบ เห็นเช่นนั้นก็รีบหยุดสิ่งที่อยู่ในมือ แปรเปลี่ยนเป็นสายรุ้ง เดินทางเข้ามาคารวะ กล่าวด้วยความเคารพว่า “คารวะบุตรเทพ”
ช่วงก่อนหน้านี้ พวกเขาได้ยินมาว่ากู้ฉางเซิงกำลังตามหาสมบัติวิเศษที่หายากในโลก ดูเหมือนว่าต้องการหลอมสมบัติลับ
วันนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริง
กู้ฉางเซิงมีท่าทางที่อ่อนโยน พยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “ไม่ต้องมากพิธี”
“ไม่ทราบว่าบุตรเทพต้องการใช้เปลวไฟอัคคีชนิดใดในการหลอม พวกเราสามารถยกตำแหน่งให้ได้”
“ใช่แล้ว บุตรเทพต้องการเปลวไฟอัคคีดชนิดใด? ที่แห่งนี้มีเปลวไฟวิญญาณนับหมื่นสาย ไฟเทวะนับพันสาย และเพลิงศักดิ์สิทธิ์นับร้อยสาย หากท่านต้องการใช้อัคคีจักรพรรดิ คงต้องให้ผู้อาวุโสเป็นผู้กระตุ้น……”
ผู้คนมากมายต่างกล่าวขึ้น แม้ว่าจะรู้ดีถึงกฎของที่แห่งนี้ แต่พวกเขายินดีที่จะให้กู้ฉางเซิงใช้ก่อน
กู้ฉางเซิงส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้ม กล่าวว่า “ไม่จำเป็น วันนี้ข้ามาที่นี่ เพื่อที่จะเปิดเตาเบิกฟ้า ดึงดูดแก่นแท้ไฟสิบทิศจากดินแดนดารา ไม่จำเป็นต้องใช้เปลวไฟอัคคี”
เตาเบิกฟ้า!
ผู้คนได้ยินเช่นนั้น ต่างก็ตกตะลึง
ใช้ฟ้าดินเป็นเตา เป็นวิธีการหลอมสมบัติลับของตระกูลกู้ มักจะใช้เมื่อหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์สูงสุดเท่านั้น
แทบจะไม่เคยเห็นมาก่อน
บุตรเทพสามารถหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์สูงสุดได้แล้วหรือ?
ภายในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“เพียงแต่วัสดุนั้นพิเศษ จำเป็นต้องใช้แก่นแท้ไฟสิบทิศในการหลอม” กู้ฉางเซิงรู้ดีว่าพวกเขาตกใจเรื่องใด จึงกล่าวอธิบายพร้อมกับรอยยิ้ม
ได้ยินเช่นนั้น ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ แต่ความตกใจในใจยังคงไม่หายไป
ต้องรู้ว่าแก่นแท้ไฟที่อยู่ภายนอกดินแดนดารา มาจากดวงดาวไร้ผู้คนนับพันดวงในต่างแดน
พวกมันถูกเชื่อมต่อด้วยมหาค่ายกล ดึงดูดเปลวไฟจากส่วนลึกของดวงดาวมาหลอมรวม นำแก่นแท้ที่บริสุทธิ์ที่สุดออกมา
แก่นแท้ไฟดินแดนดาราเพียงเส้นเดียว หากตกลงสู่พื้นดิน ก็สามารถทำลายทวีปให้ราบเป็นหน้ากลอง!
ดังนั้น หากไม่มีความมั่นใจ ก็ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะควบคุมแก่นแท้ไฟเหล่านี้
หากโชคร้ายก็คือร่างกายถูกเผาผลาญ หากโชคร้ายยิ่งกว่าก็คือกลายเป็นเถ้าธุลี จิตวิญญาณแตกสลาย!
แม้ว่าการหลอมแก่นแท้ไฟดินแดนดาราจะดูยุ่งยาก
แต่สำหรับตระกูลอมตะเช่นตระกูลกู้แล้ว กลับเป็นเรื่องง่ายดายอย่างยิ่ง
ต้องรู้ว่าดินแดนมรรคาหนึ่งดินแดน ครอบคลุมดินแดนดาราหลายแห่ง ภายในนั้นมีดวงดาวนับพันนับหมื่นดวง การหลอมแก่นแท้ไฟสิบทิศ ไม่ได้สิ้นเปลืองทรัพยากรมากมาย
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขอบเขตอำนาจของตระกูลอมตะ ที่ครอบคลุมดินแดนมรรคามากกว่าสิบดินแดน
ต่อมา กู้ฉางเซิงจึงเดินทางไปยังยอดเขาแห่งหนึ่ง
ชุดขาวสะบัด กลิ่นอายพุ่งทะยาน ทั่วทั้งฟ้าดินเริ่มต้นดังก้องกังวาน
รอยแยกหนึ่งสายปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า เผยให้เห็นความว่างเปล่าอันลึกลับ
ดวงดาวนับไม่ถ้วนกำลังส่องประกายเจิดจรัส
นั่นคือความว่างเปล่าอันไร้ขอบเขต!
“เตาเบิกฟ้าเปิดแล้ว! บุตรเทพกำลังจะเริ่มหลอมแล้ว!”
เสียงสนทนาดังกล่าวปรากฏขึ้น เสียงแผ่วเบา กลัวว่าจะรบกวนบุรุษชุดขาวเบื้องหน้า
ไม่นานนัก สายรุ้งมากมายก็พุ่งเข้ามา หยุดอยู่บนยอดเขาโดยรอบ
ล้วนเป็นสมาชิกตระกูลกู้ที่เดินทางมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น และผู้คนที่ได้ยินข่าวสารแล้วรีบเดินทางมา
การได้เห็นบุตรเทพในระยะใกล้เช่นนี้ ทำให้หญิงสาวรุ่นเยาว์มากมาย ดวงตาเป็นประกาย หัวใจเต้นรัว
บุรุษผู้นี้ช่างสง่างามราวกับเซียนที่จุติลงมา!