ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 57 ผลประโยชน์
ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 57 ผลประโยชน์
“คนผู้นี้ต้องจงใจแกล้งข้า รู้ทั้งรู้ว่าเขาดูเหมือนจะพิสุทธิ์ผุดผ่อง แต่แท้จริงแล้วกลับร้ายกาจยิ่งนัก”
ฉินชิงชิงกล่าวพึมพำพลางเดินท่องไปในความว่างเปล่า เท้าเปลือยขาวผ่องราวกับหิมะ กระดิ่งที่ข้อเท้าดังก้องกังวาน
เบื้องหลัง หญิงชราติดตามมา กล่าวพร้อมกับรอยยิ้มว่า “คุณหนู หากคุณหนูชอบ ข้าจะกลับไปเรียนกล่าวบรรพชน แม้ว่าพวกเขาจะรักและเอ็นดูคุณหนู แต่เมื่อพิจารณาถึงฐานะของบุตรเทพตระกูลกู้ พวกเขาคงต้องรีบตอบรับอย่างแน่นอน”
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้อาวุโสในตระกูลหลายท่านได้พิจารณาที่จะให้ฉินชิงชิงแต่งงานกับตระกูลกู้
แต่เมื่อบรรพชนล่วงรู้ พวกเขากลับตำหนิอย่างรุนแรงและลงโทษพวกเขา
ฉินชิงชิงเป็นกายาสุญตา หากไม่มีเรื่องไม่คาดคิด อนาคตของนางย่อมไร้ขอบเขต สามารถเพิ่มยอดฝีมือไร้เทียมทานให้กับตระกูลฉิน ปกครองทุกสิ่ง!
พวกเขากลับกล้าคิดที่จะให้นางแต่งงาน นั่นไม่ใช่การรนหาที่ตายหรือ?
ผู้อาวุโสเหล่านั้นก็รู้สึกสิ้นหวัง
สาเหตุก็คือบุคคลสำคัญผู้หนึ่งที่เคยปกป้องตระกูลฉิน บุคคลสูงส่งท่านนั้นกำลังจะละสังขาร
เรื่องนี้ยังไม่มีขุมอำนาจอมตะอื่น ๆ ล่วงรู้
แต่เชื่อว่าไม่นาน พวกเขาก็จะรู้เรื่องนี้
เพราะกลิ่นอายของบุคคลสูงส่งท่านนั้นที่ปรากฏอยู่บนโลก ย่อมต้องมีเวลาที่สลายหายไป
ดังนั้น ก่อนที่จะถึงวันนั้น ตระกูลฉินจึงต้องหาพันธมิตร
เห็นได้ชัดว่าตระกูลกู้เป็นตระกูลอมตะเช่นกัน รากฐานและพลังอำนาจของพวกเขามิได้ด้อยไปกว่าตระกูลฉิน เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ฉินชิงชิง เป็นธิดาเทพแห่งตระกูลฉิน ฐานะของนางสูงส่งยิ่งนัก จึงแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของพวกเขา
เรื่องราวเหล่านี้ หญิงชราล่วงรู้ แต่นางมิได้กล่าวกับฉินชิงชิง เพราะกลัวว่านางจะมีความกังวล
แต่วันนี้ เมื่อเห็นความสัมพันธ์ระหว่างบุตรเทพตระกูลกู้กับนาง ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่ง
โชคชะตาช่างดีนัก!
ฉินชิงชิงกัดฟันด้วยความโกรธเคือง กล่าวว่า “ใครกันที่จะชอบคนน่ารังเกียจผู้นั้น เขารู้เพียงแค่แกล้งข้า”
หญิงชรากลับหัวเราะออกมาเสียงดัง นางตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปบอกเล่าเรื่องนี้กับบรรพชน
……………
เรื่องราวที่เกิดขึ้น ณ สุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง งานชุมนุมล่าสัตว์ ได้จบลงแล้ว
แต่เรื่องราวต่าง ๆ ยังคงแพร่กระจายไปทั่วสารทิศ ทำให้เกิดความโกลาหล ผู้คนมากมายต่างก็ตกตะลึง
ข่าวสารที่ว่ามีศพชั่วร้ายของอริยะถูกผนึกไว้ในสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง แม้ว่าจะน่ากลัวยิ่งนัก แต่เมื่อพวกเขานึกถึงศพชั่วร้ายถูกคันฉ่องเบิกฟ้าดินทำลายจนกลายเป็นเถ้าธุลี พวกเขาก็ไม่สนใจอีกต่อไป
เรื่องราวที่น่าสนใจที่สุดก็คือเหล่าอัจฉริยะฟ้าประทาน
ท้ายที่สุดแล้ว ในอนาคต พวกเขาจะเป็นตัวเอกของโลกใบนี้ ส่องประกายเจิดจรัส มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วสารทิศ
ทุกเมือง ทุกโรงเตี๊ยม เหล่าผู้บำเพ็ญต่างก็กล่าววิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ คึกคักอย่างยิ่ง
“ข้าจะบอกพวกเจ้า วันนั้น คลื่นสัตว์อสูรที่ปกคลุมทั่วทั้งฟ้าดินพุ่งทะลักออกมาจากสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง น่ากลัวยิ่งนัก ราวกับคลื่นยักษ์……” ผู้บำเพ็ญที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นด้วยตาของตนเองกำลังเล่าเรื่องนี้ให้กับทุกคนฟัง รอบข้างมีผู้คนมากมาย ทุกคนต่างก็ฟังอย่างตั้งใจ
“ตระกูลอมตะกู้ ตระกูลอมตะฉิน ตระกูลอมตะหยิง สามตระกูลอมตะเป็นผู้นำ ตามมาด้วยทะเลสาบมิดับสูญและขุมอำนาจอมตะอื่น ๆ นับว่าเป็นงานชุมนุมที่น่าตกใจที่สุดในรอบพันปี……”
“พวกเจ้าถามถึงอัจฉริยะฟ้าประทานเหล่านั้นหรือ?”
“หลานชายของข้ามีวาสนาได้เข้าร่วมกับสำนักศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน นี่เป็นเรื่องราวที่เขาเห็นด้วยตาของตนเอง” ทันใดนั้น ก็มีคนกล่าวขึ้น
“ทายาทบุตรเทพของสำนักศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันแข็งแกร่งยิ่งนัก ด้วยตบะระดับแยกปฐพีเจ็ดวัฏ สามารถสังหารสัตว์อสูรเสื่อมทรามระดับเบิกฟ้าสี่วัฏได้”
ชายผู้นั้นกล่าวอย่างภาคภูมิใจ ราวกับว่าเขาเป็นทายาทบุตรเทพแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน
“แต่ข้าได้ยินมาว่าทายาทบุตรเทพแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันผู้นั้น ไม่ติดอันดับหนึ่งร้อยคนแรกในงานชุมนุมล่าสัตว์ครั้งนี้” ทันใดนั้น ก็มีผู้บำเพ็ญกล่าวอย่างสงสัย
“เอ่อ……เรื่องนี้ ก็เพราะศิษย์ของตระกูลอมตะและขุมอำนาจอมตะมีพรสวรรค์โดดเด่นมากมาย……หากเป็นในอดีต ทายาทบุตรเทพแห่งสำนักศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันผู้นั้น คงต้องติดอันดับสามสิบคนแรก”
“แต่ว่านั่นคือตระกูลอมตะ หากกล่าวถึงเรื่องน่าตกใจที่สุดในงานชุมนุมล่าสัตว์ครั้งนี้ คงต้องเป็นทายาทของตระกูลอมตะกู้”
“กล่าวขานว่าเขามีกายาที่ลึกลับและแข็งแกร่งที่สุด ด้วยตบะระดับแยกปฐพี สามารถสังหารสัตว์อสูรระดับหวนเอกาได้อย่างง่ายดาย นั่นคือเขตแดนต้องห้ามที่ปรากฏอยู่ในตำราโบราณเท่านั้น คาดว่าในหมู่คนรุ่นเดียวกัน ไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้”
“ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ เขายังไม่ได้เติบโตเต็มที่ ยังคงเป็นเพียงเด็กน้อย”
นี่!
ภายในโรงเตี๊ยม เกิดเสียงสูดลมหายใจดังขึ้น ผู้คนมากมายต่างก็เบิกตากว้าง กระทั่งมีเสียงถ้วยชาตกแตก
ระดับหวนเอกา หมายถึง การกลับคืนสู่ต้นกำเนิด หรือที่เรียกว่า ผู้ทรงอิทธิพลหมื่นปี
เมื่อบรรลุถึงระดับนี้ ผู้บำเพ็ญก็จะมีอายุขัยเกือบหนึ่งหมื่นปี
พวกเขาบำเพ็ญเพียรมานานหลายปี แต่จำนวนครั้งที่พวกเขาได้พบเจอกับผู้บำเพ็ญระดับหวนเอกา นับได้เพียงไม่กี่ครั้ง
การสังหารผู้บำเพ็ญที่ระดับตบะเหนือกว่าสองระดับใหญ่
เรื่องราวเช่นนี้ พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการ
“ผู้ที่สามารถทำลายสถิติระดับสูงสุดเนื้อหนังมังสาของมหาจักรพรรดิเพียรบำเพ็ญได้ คงต้องเป็นบุตรเทพแห่งตระกูลกู้อย่างแน่นอน”
เมื่อสิบกว่าปีก่อน อนุสาวรีย์มรรคาสวรรค์ภายในเมืองจักรพรรดิโบราณได้ปรากฏชื่อของกู้ฉางเซิงขึ้น
ภาพเหตุการณ์ในวันนั้น ทำให้ผู้บำเพ็ญมากมายต้องตกตะลึง
หลังจากที่งานชุมนุมล่าสัตว์ ณ สุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงได้จบลง ชื่อนี้ก็ทำให้ดินแดนมรรคาต่าง ๆ ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
……………
ดินแดนมรรคาหนานเซิ่ง ณ เขตแดนของตระกูลกู้ เกาะเทพใจกลาง
ภายในโถงตำหนัก บุรุษชุดขาวสะอาดราวกับหิมะกำลังนั่งขัดสมาธิ ดวงตาของเขาลึกลับ กำลังมองดูแหล่งกำเนิดวิญญาณสีครามขนาดเท่าอ่างล้างหน้า
หลังจากที่ออกจากเมืองเป่ยหวง กู้ฉางเซิงก็กลับมายังตระกูล
ในฐานะที่เป็นผู้ที่ได้ลำดับที่ดีที่สุดในงานชุมนุมล่าสัตว์ เขาย่อมได้รับสิ่งของล้ำค่ามากมาย
ต้นกำเนิดหัวใจทะเลสาบแห่งทะเลสาบมิดับสูญที่มีอายุมากกว่าล้านปี วิชาหลอมตำราสวรรค์บัญญัติเทพ สมบัติลับของโถงมรรคาสวรรค์ โอสถหัวใจศักดิ์สิทธิ์ล่องลอยที่ตระกูลฉินใช้เวลากว่าแสนปีในการหลอมสร้าง พลังอิทธิฤทธิ์หนึ่งกระบี่สวรรค์มรรคาของตระกูลหยิง……
ท้ายที่สุดแล้ว นี่คือรางวัล หากเป็นสิ่งของธรรมดาสามัญ นั่นคือการทำให้ตระกูลของพวกเขาต้องอับอาย
ดังนั้น ขุมอำนาจอมตะต่าง ๆ จึงได้มอบสิ่งของล้ำค่าให้
แต่น่าเสียดาย สุดท้ายแล้ว กลับตกอยู่ในมือของเขา
ปฐมบรรพชนแห่งทะเลสาบมิดับสูญกล่าวขานว่าเกิดจากต้นกำเนิดหัวใจทะเลสาบ สวรรค์เป็นผู้เลี้ยงดู บำเพ็ญจนบรรลุมรรค มีตบะที่แข็งแกร่งไร้เทียมทาน ภายหลังได้ตัดทิ้งต้นกำเนิดหัวใจทะเลสาบ
ต้นกำเนิดหัวใจทะเลสาบที่มีอายุมากกว่าล้านปี ภายในนั้นบรรจุปราณวิญญาณอันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง คาดว่าแม้แต่ทะเลสาบมิดับสูญก็ยังคงมีไม่มากนัก
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสำเนียงมรรคและกลไกสวรรค์ที่สะสมมานานหลายปี มูลค่าของมันไม่อาจประเมินได้