ตอนที่แล้วยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 54 งานชุมนุมล่าสัตว์ถูกยกเลิก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 56 ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติเถิด

ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 55 พวกเจ้าไม่รู้หรือ


ยอดกายากำราบยุค ตอนที่ 55 พวกเจ้าไม่รู้หรือ

กระไรนะ!?

งานชุมนุมล่าสัตว์ครั้งนี้ถูกยกเลิกอย่างนั้นหรือ?

ได้ยินคำพูดของกู้ฉางเซิงเบื้องล่างก็พลันเกิดความโกลาหล ทุกคนต่างหยุดการต่อสู้กับสัตว์อสูร

ไม่เพียงแต่เหล่าผู้บำเพ็ญเท่านั้น แม้แต่สมาชิกตระกูลกู้ก็ยังคงตกตะลึงเล็กน้อย จากนั้นจึงมองไปยังกู้ฉางเซิงด้วยความสับสน

“น่าจะเป็นเพราะภายในสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงเกิดความเปลี่ยนแปลง มีสิ่งชั่วร้ายปรากฏขึ้น จำเป็นต้องทำลายมัน” มองดูเงาร่างสูงสง่าบนท้องฟ้า กู้หมิงหวงและคนอื่น ๆ ต่างก็คาดเดาอย่างเงียบ ๆ

จอมสรรพสิ่งรุ่นเยาว์มากมายต่างก็มีความคิดเช่นเดียวกัน พวกเขากำลังรอฟังคำอธิบาย

ในเวลานั้น ชายชราชุดทอง หยิงเฟิง ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ราวกับรู้ว่าทุกคนกำลังสงสัย จึงกล่าวอธิบายอย่างแผ่วเบาว่า “ภายในสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงมีศพชั่วของอริยะถูกผนึกเอาไว้ ปราณอาฆาตท่วมท้น เพื่อความปลอดภัยของทุกคน งานชุมนุมล่าสัตว์ในปีนี้ ขอจบลงเพียงเท่านี้”

ศพชั่วของอริยะ!

ในยุคปัจจุบัน อริยะบุคคลล้วนหายสาบสูญไปนานแล้ว แทบไม่ปรากฏตัวขึ้นบนโลก

หากศพชั่วถูกปลดปล่อยออกมา จะเกิดหายนะมากเพียงใด ยากที่จะจินตนาการได้

ตอนแรก พวกเขาไม่เชื่อคำพูดนี้

แต่คำพูดของกู้ฉางเซิงทำให้พวกเขาต้องให้ความสนใจ ยิ่งไปกว่านั้น ฉินชิงชิงก็กล่าวเช่นเดียวกัน

กระทั่งใช้วิชาลับของตระกูลฉิน แสดงภาพเหตุการณ์ในตอนนั้น

เรื่องนี้เป็นความจริง!

ยิ่งไปกว่านั้น สสารอมตะต่างแดนยังตกลงมา ณ ที่แห่งนี้ ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็ต้องลงมือฝังกลบสถานที่แห่งนี้

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน พวกเขาจึงตัดสินใจเช่นนี้

“กระไรนะ? ภายในนั้นมีศพชั่วของอริยะอย่างนั้นหรือ?”

เหล่าผู้บำเพ็ญมากมายต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป ปรากฏความหวาดกลัวขึ้นมา

พวกเขารู้ดีว่าสิ่งนี้หมายถึงอันใด

ทันใดนั้น ก็มีคนรู้สึกตัว เอ่ยถามขึ้นว่า “ภายในสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงมีอริยะถูกผนึกเอาไว้ เช่นนั้นแล้ว บุตรเทพตระกูลกู้พบเจอมันได้อย่างไร และหลบหนีออกมาได้อย่างไร?”

พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ

พลังอำนาจของอริยะบุคคล กว้างใหญ่ดุจดั่งมหาสมุทร เพียงแค่สะบัดนิ้วมือ ก็สามารถทำลายดินแดนดารา ทำให้ดวงดาวนับไม่ถ้วนดับสูญ

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นศพชั่วที่ปราณอาฆาตท่วมท้น!

“บุตรเทพตระกูลกู้ ลึกลับยากหยั่งถึงจริง ๆ!”

เหล่าจอมสรรพสิ่งรุ่นเยาว์มองไปยังกู้ฉางเซิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

จากนั้น เหล่าผู้อาวุโสที่มีระดับตบะลึกซึ้ง ไม่อาจหยั่งถึงก็เริ่มต้นลงมือ ปราบปรามคลื่นสัตว์อสูรที่กำลังหลบหนี และดวงวิญญาณพยาบาทที่กำลังแผ่กระจายออกไปยังสี่ทิศแปดทาง

เหล่าผู้บำเพ็ญรุ่นเยาว์ที่เข้าร่วมงานชุมนุมล่าสัตว์ ต่างก็ควบคุมเรือเหาะ รถศึก และสัตว์เทพ ถอยร่นกลับไปยังเมืองเป่ยหวง

“ทำไมถึงไม่เห็นบุตรมรรคาของพวกเรา?”

หยิงเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่พบเจอกลิ่นอายของหยิงเนี่ยในฝูงชนจึงรู้สึกสับสน

จากนั้น สายตาของเขาก็จับจ้องไปยังใบหน้าที่สงบนิ่งของกู้ฉางเซิง แต่ก็ไม่ได้คิดมาก

ในเวลานี้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการทำลายสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง!

ตู้ม!

ผู้อาวุโสตระกูลกู้ หญิงชราตระกูลฉิน ยอดฝีมือแห่งทะเลสาบผู้วายชนม์...... ทุกคนเริ่มต้นลงมือ กระตุ้นคันฉ่องเบิกฟ้าดิน พลังเวทอันไร้ขอบเขตพุ่งทะลักเข้าไป ปลดปล่อยแสงสว่างเจิดจรัสราวกับดวงดาว!

ต่อมา ราวกับว่ามีดวงดาวมากมายระเบิดออก ท้องฟ้าสั่นสะเทือน พลังอันรุนแรงแผ่กระจายลงมา แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงขนาดใหญ่ รัศมีพันลี้ มุ่งตรงไปยังสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง

สัตว์อสูรและดวงวิญญาณพยาบาทที่ยังคงอยู่ภายในสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวง ไม่ว่าจะมีจิตสำนึกหรือไม่ ในเวลานี้ ต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัวและสิ้นหวัง

นี่คือสัญชาตญาณเมื่อเผชิญหน้ากับพลังอำนาจแห่งสวรรค์

ชั่วขณะถัดมา พื้นพิภพสั่นสะเทือน ราวกับฟ้าดินกำลังพังทลาย

แสงสว่างอันไร้ขอบเขตระเบิดออก เหล่าผู้บำเพ็ญที่กำลังเฝ้ามองอยู่ไกล ๆ รู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตา น้ำตาไหลรินโดยไม่รู้ตัว

น่ากลัวยิ่งนัก!

นี่คือพลังอำนาจของสมบัติลับ แม้จะไม่มีลวดลายสำเนียงมรรคระดับจอมสรรพสิ่ง แต่พลังอำนาจกลับเหนือกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมานานหลายปี

จากนั้น แสงสว่างและคลื่นพลังก็สลายหายไป ณ ที่แห่งนั้น ปรากฏหลุมขนาดใหญ่ รัศมีพันลี้

บางที ในอีกหลายร้อยปีข้างหน้า ที่แห่งนี้อาจจะกลายเป็นทะเลสาบ

แต่ในเวลานี้ ทุกสิ่งทุกอย่างภายในหลุมล้วนกลายเป็นเถ้าธุลี รวมไปถึงตำหนักน้ำแข็ง

กู้ฉางเซิงมองดูเหตุการณ์ทั้งหมด สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

ฉินชิงชิงที่อยู่ข้างกายกล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “นี่นับว่าเป็นการทำตามความปรารถนาสุดท้ายของอริยะบุคคลผู้นั้นกระมัง”

ทำลายศพชั่ว และศพเชาว์ปัญญา ป้องกันไม่ให้พวกมันทำร้ายผู้คน แม้แต่ตายไปแล้ว ก็ยังคงไม่ต้องการให้ความวุ่นวายตกอยู่กับคนรุ่นหลัง

นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกชื่นชม

“สามารถกล่าวเช่นนั้นได้ แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญ ตอนนี้ ภัยพิบัติได้ถูกขจัดไปแล้ว แม้แต่คลื่นสัตว์ทมิฬก็ถูกกำจัด” กู้ฉางเซิงกล่าว

หลังจากคันฉ่องเบิกฟ้าดินโจมตี ภายในรัศมีหมื่นลี้ คงไม่มีสัตว์อสูรตัวใดกล้าเข้าใกล้

พวกมันย่อมไม่ถูกสสารอมตะต่างแดนย้อมติด

บนกำแพงเมืองเป่ยหวง เจ้าเมืองเป่ยหวงและคนอื่น ๆ ต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เดินทางไปยังสุสานศักดิ์สิทธิ์เป่ยหวงด้วยตนเอง แต่เมื่อได้ยินว่าภายในนั้นมีศพชั่วของอริยะถูกผนึกเอาไว้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจและกังวล

จากนั้น พวกเขาก็รู้สึกทึ่งกับกู้ฉางเซิง

สมกับที่เป็นบุตรเทพแห่งตระกูลกู้ ผู้ที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดของดินแดนเซียนในอนาคต

หากเป็นพวกเขา คงไม่มีชีวิตรอดจากศพชั่วของอริยะได้

ยิ่งไปกว่านั้น คงไม่มีโอกาสส่งข่าวสารออกไป

เพียงเท่านี้ ก็เหนือกว่าพวกเขามากมายนักแล้ว

“บุตรเทพตระกูลกู้ บุตรมรรคาของพวกเราหายตัวไป เหตุใดจึงไม่เห็นแม้แต่ร่องรอย? ตอนที่คันฉ่องเบิกฟ้าดินพร่ามัวเกิดเรื่องอันใดขึ้น?”

ทันใดนั้น ก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธดังขึ้นจากที่ไกล

เรื่องราวได้ถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว กู้ฉางเซิงกำลังจะออกจากเขตชานเมือง ได้ยินเช่นนั้น ฝีเท้าของเขาก็พลันหยุดลง เงยหน้าขึ้นมอง

เสียงลมดังก้อง ความเร็วดั่งสายฟ้า

แสงรุ้งหนึ่งสายปรากฏขึ้นเบื้องหน้า จากนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ปรากฏตัวเบื้องหน้ากู้ฉางเซิงในชั่วพริบตา

เป็นชายชราชุดทอง หยิงเฟิง

เดิมที เขาคิดว่าบุตรมรรคของพวกเขามีธุระจำเป็น แต่เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ที่คันฉ่องเบิกฟ้าดินแสดงให้เห็น เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

กู้ฉางเซิงจงใจทำบางอย่างทำให้กลไกสวรรค์สับสน ภาพเหตุการณ์จึงพร่ามัว พวกเขาจึงไม่สามารถมองเห็น

ตอนนี้ บุตรมรรคาหายตัวไป เก้าส่วน สิบส่วน เกี่ยวข้องกับกู้ฉางเซิง

แรงกดดันอันน่ากลัวยิ่งนัก เหนือกว่าระดับหวนเอกา แผ่กระจายออกไป ฉินชิงชิงที่อยู่ข้างกายขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าซีดเผือด

ชายชราตระกูลหยิงผู้นี้ มีระดับตบะระดับสะพานเคราะห์ห้าวัฏ

เขาคือกึ่งอริยะ!

กึ่งอริยะ เพียงแค่คิด ก็สามารถเปิดดินแดนสวรรค์ ทำลายสายธารดวงดาว!

กระทั่งสามารถหลุดพ้นจากพันธนาการอายุขัย เกือบจะอมตะ

แม้ว่าอริยะสูงสุดทั่วเทียนจะเหลือเพียงเศษดวงวิญญาณ ก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้หลายแสนปี เห็นได้ชัดว่าอริยะบุคคลแข็งแกร่งเพียงใด!

เบื้องหลังหยิงเฟิง ยังคงมีเงาร่างมากมายติดตามมา เป็นยอดฝีมือจากทะเลสาบผู้วายชนม์ โถงมรรคาสวรรค์...... เหล่านิกายอมตะขนาดใหญ่ กลิ่นอายไม่ด้อยไปกว่าหยิงเฟิงแม้แต่น้อย

“หยิงเฟิง เจ้าอย่าได้ทำผิดพลาด! หากบุตรเทพของพวกเราเกิดอันตราย แม้ว่าจะต้องก่อสงครามอมตะ ทำลายดินแดนเซียนนับไม่ถ้วน ฝังกลบดวงดาวมากมาย พวกเราก็ยินดี!” ผู้อาวุโสตระกูลกู้ติดตามมา ใบหน้าเคร่งขรึม กล่าวเตือน

เขากำลังถูกยอดฝีมือจากทะเลสาบผู้วายชนม์ โถงมรรคาสวรรค์...... เหล่านิกายอมตะขนาดใหญ่ จับตามอง หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เขาคงไม่มีโอกาสปกป้องกู้ฉางเซิง

พวกเขาคงดีใจ หากบุตรเทพเกิดอันตราย นั่นคือการทำลายความหวังในอนาคตของตระกูลกู้

“บุตรมรรคาของพวกเราหายตัวไป เรื่องนี้ข้าต้องรู้ความจริง!” หยิงเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา การมีอยู่ของหยิงเนี่ยสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตระกูลหยิง ไม่อาจสูญเสียได้

“ข้าไม่รู้ว่าหยิงเนี่ยอยู่ที่ใด เขาตายไปแล้วหรือไม่ พวกเจ้าไม่รู้หรือ?”

กู้ฉางเซิงกล่าวอย่างแผ่วเบา สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าเขากำลังถูกแรงกดดันของกึ่งอริยะปกคลุม

“อวดดี!”

หยิงเฟิงมีสีหน้าไม่ดีนัก เขากำลังจะกล่าวบางอย่าง แต่ทันใดนั้น เสียงคำรามราวกับสายฟ้าเคราะห์ก็ดังขึ้นข้างหู

ใบหน้าของเขาพลันซีดเผือด โลหิตสีทองที่แฝงไว้ด้วยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์ พุ่งทะลักออกมาจากปาก ทำให้ภูเขาเบื้องหน้าพังทลาย!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด