บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 389 เซียนทองกระอักเลือด
บรรพบุรุษข้ามภพสยบหล้า ตอนที่ 389 เซียนทองกระอักเลือด
“ตูม!”
มหาค่ายกลขนาดใหญ่ ผุดขึ้นมาจากชิ้นส่วนโลกเซียนพิรุณ
นี่คือมหาค่ายกลที่หลี่ซูร่ายขึ้น
เห็นว่าหลี่ซูใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็ร่ายมหาค่ายกลฟ้าดินขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ จอมเซียนจื่อหลัว ดวงตางดงามก็ยิ่งเปล่งประกายมากขึ้น
ข้าง ๆ สายตาของจอมเซียนหมื่นบุปผาผ่านใบหน้าของนาง
จากสีหน้าของจอมเซียนจื่อหลัว มองออกไม่ยากว่า จอมเซียนต้าหลัวแห่งชั้นฟ้าหมื่นบุปผาผู้นี้ มีความอยากรู้อยากเห็นและสนใจหลี่ซู...ไม่ธรรมดา
หลังจากที่มหาค่ายกลผุดขึ้นมา ทวีปแห่งนั้นก็มาถึงขอบของชั้นฟ้าหมื่นบุปผา
จากนั้น ทวีปแห่งนี้ก็ออกจากชั้นฟ้าหมื่นบุปผา ไม่นานก็มาถึงสถานที่ที่กว้างใหญ่ไพศาล
ที่นี่คือสถานที่ที่โลกเซียนพิรุณเคยอยู่ แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า
ไม่มีอะไรเลย
ในเรื่องตำแหน่ง ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากชั้นฟ้าหมื่นบุปผา
อยู่ไม่ไกลจากโลกเซียนจันทราเช่นกัน
“เอาที่นี่ก็แล้วกัน”
จากนั้น ทวีปขนาดใหญ่แห่งนี้ก็หยุดลง
หยุดอยู่ตรงกลางของโลกเซียนพิรุณในอดีต
“หลี่ซู โลกเซียนพิรุณในอดีตได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นเพียงชิ้นส่วน แต่ก็เป็นทวีปที่สมบูรณ์ เจ้าสามารถตั้งชื่อใหม่ได้”
จอมเซียนชั้นฟ้าหมื่นบุปผากล่าว
หลี่ซูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กล่าวว่า “เรียกว่ามณฑลเทพก็แล้วกัน”
มณฑลเทพ!
นี่เป็นความรู้สึกของหลี่ซู
“มณฑลเทพ...ชื่อนี้ไม่เลว”
จอมเซียนชั้นฟ้าหมื่นบุปผากล่าว
.
หลายวันต่อมา หลี่ซูก็จากทวีปมณฑลเทพไป
หลี่ซูต้องย้ายบ้านก่อน
ย้ายคนของตระกูลหลี่ทั้งหมด ไปยังทวีปมณฑลเทพ
ส่วนต่อไปหากได้ชั้นฟ้าที่สิบกลับมาแล้ว จะเรียกว่าอะไร ค่อยว่ากันทีหลัง
หลังจากที่จัดการเรื่องของตระกูลหลี่เรียบร้อยแล้ว หลี่ซูจึงจะลงมือทำขั้นตอนต่อไป
“จอมเซียน เขาจะทำสำเร็จหรือไม่”
เห็นร่างของหลี่ซูจากไป จอมเซียนจื่อหลัวถาม
สายตาของจอมเซียนชั้นฟ้าหมื่นบุปผา จ้องมองไปที่ร่างของหลี่ซู จนกระทั่งหลี่ซูหายไป
“สำเร็จ!”
จากนั้น นางก็เอ่ยขึ้นหนึ่งคำ
จอมเซียนมั่นใจในตัวหลี่ซูขนาดนี้เชียวหรือ
ต้องรู้ว่า จอมเซียนชั้นฟ้าหมื่นบุปผานอกจากจะมอบภาพวาดของจอมเซียนโลกเซียนพิรุณในอดีตให้กับหลี่ซูแล้ว ก็ไม่มีอะไรอีก
นางแม้แต่สถานที่ที่จอมเซียนโลกเซียนพิรุณในอดีตอยู่ ก็ยังไม่ทราบ
จอมเซียนจื่อหลัวคิดไม่ออกว่าหลี่ซูจะทำอย่างไร
.
“ท่านพี่!”
ไม่นาน หลี่ซูก็กลับมาถึงเมืองเซียนเสวียนหยวนอย่างเงียบ ๆ
เห็นหลี่ซูกลับมา จื่อเหอที่คอยดูแลอยู่ที่นี่ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหลี่ซูโดยตรง
ผ่านไปนานมาก จื่อเหอจึงปล่อยหลี่ซู
จากนั้น นางก็เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นช่วงนี้ให้หลี่ซูฟัง
ผู้หญิงของหลี่ซูมากมาย และทายาทที่โดดเด่น ต่างก็ปิดด่านบำเพ็ญ
หลายปีมานี้ ทายาทที่ขึ้นสวรรค์ของหลี่ซูก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
จำนวนได้เกินสองพันคนแล้ว
“ท่านพี่ ร้อยปีก่อนมีคนในชั้นฟ้าหมื่นบุปผาพิสูจน์มรรคต้าหลัว เป็นท่านพี่หรือไม่”
จื่อเหอถาม
หลี่ซูลูบหัวเล็ก ๆ ของนาง เอ่ย “อืม” เบา ๆ
“ว้าว ท่านพี่เก่งกาจมาก!”
จื่อเหอมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม
ถึงแม้ว่านางจะเป็นต้าหลัวแล้ว แต่ต่อหน้าหลี่ซู กลับดูอ่อนโยนมาก
ตอนนี้ เห็นว่าหลี่ซูใช้เวลาไม่นานก็เป็นต้าหลัว จื่อเหอก็ได้กลายเป็นแฟนคลับตัวน้อยของหลี่ซูอีกครั้ง
“ท่านพี่!”
เวลานี้ หนิงเสี่ยวหยู่ก็มาถึง
“เสี่ยวหยู่ ให้ทุกคนเก็บของ พวกเราย้ายบ้าน”
หลี่ซูกล่าว
“เจ้าค่ะ ท่านพี่!”
หนิงเสี่ยวหยู่กล่าว
“ถูกแล้ว จื่อเหอ เถาเหยาอยู่ที่ใด”
หลี่ซูถามอีกครั้ง
“ท่านพี่ วันนี้มีคนขึ้นสวรรค์ เถาเหยาไปต้อนรับที่บ่อน้ำผันเซียน”
จื่อเหอกล่าว
หลี่ซู “โอ้” เบา ๆ
เวลานี้ แสงหนึ่งก็พุ่งเข้ามาจากระยะไกล
จื่อเหอสะบัดมือ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
“เกิดอะไรขึ้น”
หลี่ซูถาม
“ท่านพี่ ทูตเซียนของจอมเซียนต้าหลัวคนหนึ่งมอบสัญญาแต่งงานให้กับเถาเหยา จอมเซียนต้าหลัวคนนั้นอยากรับทายาทที่ขึ้นสวรรค์คนหนึ่งของท่านพี่เป็นนางสนม!”
จื่อเหอกล่าว
จอมเซียนต้าหลัวอยากรับทายาทของหลี่ซูเป็นนางสนมหรือ
สายตาของหลี่ซูเย็นชา
“ท่านพี่ ข้ารู้ว่าเป็นใคร น่าจะเป็นจอมเซียนเฉียนจี๋แห่งดาวเฉียนจี๋ จอมเซียนผู้นี้แข็งแกร่งมาก แต่ก็ชอบความงาม หลายปีก่อน เขายังเคยหมายตาเซียนหญิงที่โดดเด่นคนหนึ่งในเกาะหมื่นเซียน อยากจะบังคับนางเป็นอนุภรรยา สุดท้ายโลกเซียนจันทราจึงได้เข้ามาช่วยเหลือเซียนหญิงคนนั้น”
จื่อเหอกล่าว
เมื่อจื่อเหอพูดถึงเรื่องนี้ หลี่ซูก็คิดขึ้นมาได้ เขาก็เคยได้ยินเรื่องนี้
เดิมทีเพียงแค่ฟังเป็นเรื่องเล่า แต่ไม่คิดว่า จอมเซียนในเรื่องเล่า กลับมีความเกี่ยวข้องกับเขา
คนผู้นี้ กลับอยากรับบุตรสาวของเขาเป็นอนุภรรยาหรือ
ถึงแม้ว่าผู้หญิงของหลี่ซูจะมีมากมาย แต่เขาไม่เคยบังคับคนอื่น และปฏิบัติต่อผู้หญิงทุกคนเป็นอย่างดี
ร่างของหลี่ซูกระพริบตา ก็หายไปจากถ้ำพำนัก
เห็นดังนั้น จื่อเหอก็รีบตามไป
.
“ทำไม พวกเจ้าตระกูลหลี่แม้แต่สัญญาแต่งงานของจอมเซียนก็ไม่รับหรือ จอมเซียนอยากผูกมิตรกับหลี่ซู มิเช่นนั้น ด้วยสถานะของจอมเซียน ไม่รู้ว่ามีเซียนหญิงกี่คนที่อยากจะแต่งงานกับจอมเซียน จะมารับเซียนแท้คนหนึ่งเป็นอนุภรรยาได้อย่างไร”
เวลานี้ ข้างบ่อน้ำผันเซียน เสียงของทูตเซียนคนหนึ่งดังขึ้น
รอบ ๆ มีผู้บำเพ็ญมากมายมามุงดู
“จอมเซียนเฉียนจี๋ผู้นี้ ช่างไร้เหตุผลเกินไป นี่มันวิธีการมอบสัญญาแต่งงานแบบไหนกัน”
“เบา ๆ หน่อย ระวังจะถูกได้ยิน”
“หลี่ซูถึงแม้จะบรรลุเซียนเก้าวัฏ แต่ก็ยังห่างไกลจากจอมเซียน จอมเซียนเฉียนจี๋อาจจะมีเจตนาผูกมิตรจริง ๆ แต่การกระทำเช่นนี้ช่างหยาบคายเกินไป”
“อาจจะเป็นการทดสอบก็ได้ หลายพันปีมานี้ อาณาจักรฟ้าครามมีผู้บำเพ็ญขึ้นสวรรค์มากมายขนาดนี้ ผู้ยิ่งใหญ่ในโลกเซียนไม่น่าจะมองไม่เห็น เจ้าไม่เห็นหรือว่าทูตเซียนของเก้าชั้นฟ้าต่างก็หายไปหมดแล้ว”
“เจ้าหมายความว่า จอมเซียนเฉียนจี๋ถูกคนอื่นใช้เป็นเครื่องมือหรือ”
“เจ้าอย่าใส่ร้ายข้า ข้าไม่ได้พูด เจ้าพูดเองต่างหาก!”
“…”
ผู้บำเพ็ญรอบ ๆ จำนวนมากต่างก็พูดคุยกันเบา ๆ
.
จุดสนใจของทุกคน ก็คือเถาเหยา และบุตรสาวคนหนึ่งของหลี่ซู
บุตรสาวผู้นี้ใบหน้าเย็นชา สายตาของเถาเหยาก็มุ่งร้ายเช่นกัน
ฝั่งตรงข้าม ทูตเซียนที่เป็นถึงระดับเซียนทองได้ปิดกั้นเส้นทางการหลบหนีของพวกนางทั้งหมด ถือสัญญาแต่งงานหนึ่งฉบับ เดินเข้ามา
เหมือนกับว่า ไม่ว่าพวกนางจะรับหรือไม่รับ ก็ต้องรับ
“ฮึ่ม!”
เวลานี้ เสียง “ฮึ่ม” เบา ๆ ก็ดังขึ้น
ต่อมา ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้น หลี่ซูมาถึงด้านหน้าของเซียนทองคนนั้น เซียนทองยังไม่ทันได้ตอบสนอง สัญญาแต่งงานฉบับนั้นก็ปรากฏขึ้นในมือของหลี่ซู
หลี่ซูกระดิกนิ้ว สัญญาแต่งงานที่แม้แต่เซียนสวรรค์ก็ทำลายไม่ได้ ก็กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“เจ้าเป็นใคร…”
เซียนทองคนนั้นยังพูดไม่จบ ก็ตกใจมาก
หลี่ซูตบฝ่ามือเข้ามา ฝ่ามือนี้ดูธรรมดา แต่เขากลับไม่สามารถหลบหนีได้
รอบ ๆ ตัวเขา ถูกปิดล้อม ไม่ว่าจะหลบ หรือหนี ก็ทำไม่ได้!
“ต้าหลัว!”
เซียนทองผู้นี้ตกใจอย่างยิ่ง
ถึงแม้ว่ากลิ่นอายของหลี่ซูจะไม่ได้ปลดปล่อยออกมาทั้งหมด แต่เขาก็ยังคงสัมผัสได้ถึงขอบเขตของหลี่ซู
กลับเป็น… ต้าหลัว!
มีเพียงต้าหลัวเท่านั้นที่สามารถปิดล้อมเขาแบบนี้ได้
มีเพียงต้าหลัวเท่านั้น ที่กล้าลงมือในเมืองเซียนขนาดใหญ่สิบแห่ง
เซียนทองคนนี้สัมผัสได้ถึงอันตรายถึงชีวิต จึงไม่ได้ลังเลที่จะใช้ไพ่ตายที่จอมเซียนเฉียนจี๋มอบให้
จากนั้น ก็ถูกหลี่ซูตบฝ่ามือเข้ามา
ไม่มีเสียงใด ๆ เพราะฝ่ามือนั้นลงมา มิติรอบ ๆ ตัวก็สลายหายไป
ผู้บำเพ็ญทุกคนเห็นเพียงว่า ด้านหน้าของเซียนทองคนนั้นมีแสงสีทองเปล่งประกายออกมา จากนั้นก็เหมือนว่าวขาดสาย บินออกไป ทำลายม่านพลังที่เมืองเซียนเสวียนหยวนมากมายไม่รู้กี่ชั้น
สุดท้ายบินออกไปไกลไม่รู้กี่หมื่นลี้ จึงชนเข้ากับค่ายกลพิทักษ์เมือง ทำให้มหาค่ายกลสั่นสะเทือน
จากนั้น ก็พังทลาย
“ค่ายกลพิทักษ์เมืองพังทลายหรือ”
ผู้บำเพ็ญรอบ ๆ ต่างก็ตกตะลึง
การโจมตีเพียงครั้งเดียว กลับทำลายค่ายกลของทั้งเมืองเซียนหรือ
พลังเช่นนี้ จะน่ากลัวขนาดไหน
เมืองเซียนเสวียนหยวน ใหญ่กว่าอาณาจักรวิญญาณหนึ่งแห่งเสียอีก
“อั่ก!”
มองดูเซียนทองคนนั้น ถึงแม้ว่าคนผู้นี้จะใช้ไพ่ตายที่จอมเซียนเฉียนจี๋มอบให้แล้ว ร่างกายก็ยังคงดูน่าเวทนา เลือดพุ่งออกมาไม่หยุด