บทที่8 ชัยชนะ
แรงปะทะระหว่างการโจมตีของทั้งสองฝ่ายทำให้เกิดการระเบิดรุนแรง ทันทีที่การชนกันเกิดขึ้น ลมปะทะกระจายออกไปทุกทิศทุกทางจนเวทีประลองสั่นสะเทือนอย่างแรง คลื่นกระแสลมที่เกิดจากแรงปะทะฟาดกระทบไปทั่วบริเวณ
"ไคจู! พุ่งเข้าไปใกล้ระยะประชิด แล้วใช้หมัดคลื่นมังกร!" ริวตะโกนคำสั่งอย่างมั่นใจ
ไคจูรวบรวมพลังไปที่ขาของมัน ก่อนจะดีดตัวพุ่งเข้าใส่มังกรเพลิงเด็กด้วยความเร็วสูง ราวกับลูกธนูที่ปล่อยออกจากคันธนู
"มังกรเพลิงเด็ก! ใช้มังกรคำราม!" โอดะสั่งอย่างรวดเร็ว
"โฮกกกกกกกก!" เสียงคำรามอันดังกึกก้องของมังกรเพลิงเด็กก้องสะท้อนไปทั่วสนาม การคำรามของมันเต็มไปด้วยแรงกดดันที่สามารถทำให้ศัตรูหยุดชะงัก
ไคจูที่ได้รับผลจากท่าคำรามก็สะท้อนตัวเล็กน้อย แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ความสามารถของไคจูในฐานะสัตว์อสูรที่มีจิตวิญญาณแห่งนักสู้ ทำให้มันสามารถต้านทานเอฟเฟกต์ของการหยุดชะงักได้ดีเยี่ยม
"มังกรเพลิงเด็ก! ใช้กรงเล็บมังกร!"
เมื่อโอดะเห็นว่าไม่ได้ผล เขาก็สั่งให้มังกรเพลิงเด็กตอบโต้ทันที
กรงเล็บของมังกรเพลิงเด็กเปล่งประกายสีเงาเหมือนเคลือบเหล็ก ก่อนที่มันจะพุ่งตรงไปที่หมัดสีเงินของไคจูด้วยความเร็วที่ไม่แพ้กัน
"บึ้ม!!"
แรงปะทะระหว่างหมัดของไคจูและกรงเล็บมังกรเพลิงเด็กทำให้เกิดการสั่นสะเทือนรุนแรงไปทั่วทั้งสนาม ปะทะกันอย่างดุเดือด ไม่มีฝ่ายไหนยอมถอยแม้แต่น้อย
พลังของทั้งสองฝ่ายสูสีกันจนไม่มีใครสามารถยกขึ้นเหนือกันได้ ทั้งริวและโอดะต่างก็จดจ้องด้วยความเคร่งเครียด
พวกเขารู้ดีว่าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอยก่อน ก็จะหมายถึงการพ่ายแพ้
แต่แล้ว ในช่วงเวลานั้นเอง ไคจูเริ่มรู้สึกถึงขีดจำกัดของตัวเองที่เหมือนกับกำแพงที่ขวางกั้นอยู่ เขาพยายามผลักดันตัวเองข้ามผ่านขีดนั้น และในที่สุด...
ไคจูสามารถทำลายกำแพงนั้นได้สำเร็จ ร่างของมันเปล่งแสงสีเงินออกมาพร้อมกับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ถึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้านรูปลักษณ์แต่ตัวของมันขนาดใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน
ไคจูกลายเป็นสัตว์อสูรระดับกลางแล้ว!
ทันทีที่ไคจูพัฒนา พละกำลังของมันเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้มันสามารถผลักดันมังกรเพลิงเด็กจนกระเด็นออกไปจากสนามได้สำเร็จ
"ตู้ม!"
ร่างของมังกรเพลิงเด็กลอยออกไปนอกเวทีก่อนที่จะกระทบเข้ากับกำแพง
“มังกรเพลิงเด็ก!”โอดะร้องเสียงดัง พร้อมวิ่งไปหาร่างของมังกรเพลิงเด็กด้วยความตกใจ
เขาตรวจสอบร่างของมันอย่างรวดเร็ว โชคดีที่มังกรเพลิงเด็กไม่ได้บาดเจ็บสาหัส เพียงแค่หมดสติไป ทำให้โอดะถอนหายใจโล่งอก และรีบพามันเข้าสู่พื้นที่จิตวิญญาณเพื่อรักษา
พื้นที่จิตวิญญาณไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์อสูรในพันธะสัญญา แต่ยังสามารถช่วยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บและความเหนื่อยล้าได้ดี
แต่ถ้าหากมีอาการบาดเจ็บรุนแรงหรือจำเป็นต้องตรวจสอบอีกครั้ง จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลสัตว์อสูร ทันทีเพื่อดำเนินการรักษา
“เจ้าอ้วนดูเหมือนฉันจะชนะนายแล้ว ฮ่าๆ ฮ่าๆ”
ริวพูดและหัวเราะด้วยน้ำเสียงที่ดีใจมากเพราะนอกจากเขาจะทำภารกิจสำเร็จแล้ว ไคจูของเขายังพัฒนาไปเป็นสัตว์อสูรระดับกลางอีกด้วย
โอดะที่ได้ยินก็มีสีหน้ามืดมนทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่พ่ายแพ้ให้กับมือใหม่อย่างริว
“รอบนี้ไม่นับ! ฉันจะสู้อีกรอบด้วยสุนัขเกราะหิน”โอดะตะโกนออกมา โดยหวังว่าจะสู้อีกรอบเพื่อกู้หน้ากลับมาได้
"ไม่" ริวปฎิเสธทันที
เขาไม่ใช่คนโง่ เหตุผลที่ไคจูสามารถเอาชนะมังกรเพลิงเด็กได้เพราะพลังต่อสู้ของมันอยู่ในระดับกลาง
แต่สุนัขหินของโอดะได้รับการฝึกฝนมานานแล้วและเติบโตมาพร้อมกับโอดะตั้งแต่ยังเด็ก บางทีความแข็งแกร่งของเขาเกือบจะไปถึงระดับสูงสุดแล้ว
ถึงแม้ตามปกติเด็กทุกคนจะสามารถปลุกพรสวรรค์และเริ่มเส้นทางการเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรได้ตอนอายุ15 แต่ก็มีครอบครัวหลายคนปลูกฝังสัตว์อสูรให้เชื่อมความสัมพันธ์และเติบโตพร้อมกับลูกหลานของพวกเขาตั้งแต่ยังเด็ก
แล้วเมื่อพอถึงตอนอายุ15แล้วค่อยทำพันธะสัญญาซึ่งนี่เป็นสิ่งที่ได้เปรียบกว่าคนอื่นๆอย่างมาก
พ่อและแม่ของเขาก็อยากทำแบบนี้เช่นกัน แต่ริวปฏิเสธเพราะตอนนั้นเขาหมกมุ่นอยู่แต่กับวิจัยทำให้เขาไม่มีเวลามาสนใจการเลี้ยงดูสัตว์อสูร
“ดูเหมือนสุนัขเกราะหินของนายใกล้จะพัฒนาแล้ว นายวางแผนที่จะพัฒนามันให้เป็นรูปแบบไหน?”ริวถามออกมาเพื่อพยายามเปลี่ยนเรื่อง
"รูปแบบพลบค่ำ" โอดะพูดออกมาทันที ดูเหมือนว่าเขาจะวางแผนไว้แล้ว
“ลักษณะรูปแบบพลบค่ำของสุนัขเกราะหิน จุดเด่นของมันเลยก็คือกรงเล็บที่มีพลังโจมตีที่สูงและทรงพลังซึ่งฉันชอบจุดนี้ของมันมาก”
ริวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ถ้าเป็นเขา เขาจะเลือกพัฒนารูปแบบพลบค่ำเช่นกัน สุนัขเกราะหินมีวิวัฒนาการอยู่สองรูปแบบคือรูปแบบตะวันและรูปแบบพลบค่ำ
รูปแบบตะวันร่างกายและขนจะกลายเป็นสีน้ำตาลผสมขาวซึ่งมีจุดเด่นในด้านความเร็ว ส่วนรูปแบบพลบค่ำร่างกายและขนจะกลายเป็นสีดำแดงซึ่งมีจุดเด่นในด้านพลังโจมตี
“ริววันนี้นายจะไม่ออนไลน์จริงๆเหรอ?”
หลังจากการต่อสู้ จิตวิญญาณเกมของโอดะก็เริ่มต้นขึ้น เขาอยากให้ริวมาเล่นกับเขาจริงๆ
“ช่วงนี้ฉันไม่ว่างจริงๆ” ริวส่ายหัว
“ฉันพึ่งฝึกฝนไคจูได้ไม่นานเพราะฉะนั้นพวกเรายังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องทำ อีกอย่างที่นายอยากให้ฉันไปด้วยเพราะนายตกแรงค์ใช่ไหมล่ะ ก็ไม่แปลกเหรอฝีมือนายห่วยซะขนาดนั้นถ้าฉันไปเล่นกับนายก็เป็นการลดแรงค์ของฉันเปล่าๆ”
“ให้ตายเถอะ! ถึงไม่มีนายฉันก็ขึ้นแรงค์ได้!” โอดะพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธเกรี้ยวและไม่พอใจ
ด้วยแรงกระตุ้นจากคำพูดของริว โอดะก็รีบวิ่งไปที่อินเตอร์เน็ตคาเฟ่อย่างรวดเร็วทันที เขาต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าฝีมือเขาไม่ได้ห่วยแตก
หลังจากที่โอดะจากไปแล้ว ริวก็อยู่ในบ้านเพียงลำพัง เขาปล่อยให้ไคจูพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูพลัง หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือด
ส่วนตัวของริวนั้นกลับมานั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องทำงานของเขา ภายใต้แสงไฟที่ส่องสะท้อนจากหน้าต่างที่มีม่านปิดทึบ ริวกำลังเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
การแข่งขันนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรระดับภูมิภาค
นักวิจัยสัตว์อสูร และ นักวิวัฒนาการสัตว์อสูร อาจจะดูคล้ายคลึงกันในแง่ของการทำงานกับสัตว์อสูร แต่มันมีความแตกต่างที่ชัดเจน
ริวรู้ดีว่าผู้ที่ศึกษาสัตว์อสูรในฐานะนักวิจัยนั้น จะเน้นไปที่การวิจัยคุณสมบัติและพฤติกรรมของสัตว์อสูร รวมถึงการศึกษานิสัยและอาหารการกินของพวกมัน โดยไม่เคยทำการทดลองที่อาจทำให้สัตว์อสูรได้รับบาดเจ็บ
ในทางกลับกัน นักวิวัฒนาการสัตว์อสูรมักจะเน้นไปที่การพัฒนาสัตว์อสูรให้แข็งแกร่งขึ้น และเส้นทางวิวัฒนาการของมัน
พวกเขามักจะทดลองใส่ยาหรือสมุนไพรที่มีผลต่อร่างกายและจิตใจของสัตว์อสูร เพียงเพื่อดูผลของการทดลองและพัฒนาความสามารถของมันในทางที่อาจทำให้เกิดความอ่อนแอหรือล้มตายได้ในบางครั้ง
ริวไม่ค่อยชอบแนวทางการทำงานของนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรนัก เพราะเขารู้สึกว่าพวกเขาไม่ใส่ใจในความปลอดภัยหรือสภาพจิตใจของสัตว์อสูรเหมือนกับที่เขาทำ
ในขณะที่นักวิจัยสัตว์อสูรมีจรรยาบรรณในการทำงานที่สูงกว่า แม้จะทำการศึกษาหรือทดลอง แต่พวกเขาก็จะไม่ทำอะไรที่อาจทำให้สัตว์อสูรได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือสูญเสียชีวิต
แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สหพันธ์โลกอสูรจะประกาศกฎเกณฑ์ใหม่ที่ห้ามการทดลองกับสัตว์อสูรที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอและหากสัตว์อสูรเริ่มแสดงอาการผิดปกติให้หยุดการทดลองทันที เพื่อเป็นการลดจำนวนการสูญเสียของสัตว์อสูร
แต่ริวก็ยังคงเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเหล่านั้น
ถึงแม้จะมีนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรบางคนที่สามารถพัฒนาสัตว์อสูรได้สำเร็จและทำให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่ประสบความสำเร็จมากกว่า
ความสูญเสียจากการทดลองที่ผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นบ่อยมากและริวก็มักจะเห็นภาพนั้นอยู่เสมอในข่าวสารต่างๆ
เหตุผลที่ริวจึงต้องเข้าร่วมการแข่งขันนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรในครั้งนี้ ก็เพราะเขาได้รับภารกิจจากระบบ เมื่อเดือนที่แล้ว
[ภารกิจ]
เอาชนะการแข่งขันนักวิวัฒนาการสัตว์อสูรระดับภูมิภาค
บทลงโทษ: คุณสมบัติของสัตว์อสูรลดลงหนึ่งระดับ
รางวัล: ????
นอกจากภารกิจนี้แล้วเขายังได้รับภารกิจหีบสมบัติอีกด้วย โดยดูจากแผนที่แล้วมันตรงกับสถานที่ๆการแข่งขันจัดขึ้นพอดีซึ่งน่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกัน
นอกจากนี้มันยังเป็นกล่องสีรุ้งอีกด้วย! เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เพราะฉะนั้นเขาจะต้องเอาชนะการแข่งขันนี้ให้ได้!
“…………..”
"กระทิงเหล็กที่มีน้ำหนัก 300 กก. จะพัฒนาเป็นกระทิงเกราะเหล็ก โดยใช้โลหะปฐพีเกรด B ในปริมาณที่เหมาะสมเท่าใด"
"สมุนไพรอะไรที่เหมาะแก่การวิวัฒนาการสัตว์อสูรธาตุไฟ"
ในขณะที่ริวกำลังตั้งใจศึกษาอยู่สักพัก ริวก็จำได้ว่าเขาทำภารกิจของระบบเสร็จสิ้นแล้วแต่ยังไม่รับรางวัลภารกิจเลย
ภารกิจ
[ชัยชนะครั้งแรก]: ชนะการต่อสู้ครั้งแรก
การลงโทษเมื่อล้มเหลว: ไม่มี
รางวัล: สุ่มจับรางวัลหนึ่งครั้ง
“ระบบลอตเตอรี่เปิดใช้งานแล้ว โฮสต์จะทำการหมุนเลยไหม?”
"ใช่"
หลังจากนั้นวงล้อขนาดใหญ่มหึมาก็ปรากฏขึ้นในใจของเขาและเริ่มหมุนอย่างต่อเนื่อง
“ติ๊ง! ติ๊ง! ”
“คุณได้รับ….”