บทที่10 คลาสพิเศษ
“ห๊ะ จริงเหรอ!?” ริวถามออกมาด้วยความสงสัย
“ใช่นะสิ! นอกจากโรงเรียนเราแล้ว ฉันได้ข่าวว่าโรงเรียนชั้นนำทั่วทวีปต่างก็จะมีคลาสพิเศษนี่เหมือนกัน! ดูเหมือนว่ามันจะเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการกับทางกองทัพในการจัดตั้งหลักสูตรนี่ขึ้น”
“ว่าไงนายจะเข้าคลาสนี้ด้วยไหม!?” โอดะพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น คนจากกองทัพมาอบรมด้วยตัวเองไม่ใช่เรื่องง่าย
“เอ่อ.. เดี๋ยวฉันดูอีกที”
ผิดกับอารมณ์ที่ตื่นเต้นของโอดะ ริวรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหรเกี่ยวกับคลาสพิเศษนี้
เขาสงสัยว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำให้ทางกองทัพถึงกับต้องจัดคลาสพิเศษอบรมกับเด็กที่พึ่งเป็นผู้ฝึกฝนสัตว์อสูรได้ไม่นาน
ดูจากที่ไม่มีข่าวมาหรือการแจ้งเตือนมาก่อน เป็นไปได้สูงว่าจะเป็นการตัดสินใจอย่างเร่งด่วน
เป็นไปได้ไหมว่าจะเกิดวิกฤตบางอย่างขึ้น! ริวเก็บข้อสงสัยนั้นไว้ในใจ
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน
“ฉันไม่เห็นด้วย!!”
“เด็กๆพึ่งจะกลายเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรได้ไม่นาน บางคนยังควบคุมสัตว์อสูรไม่ได้ด้วยซ้ำ”
" เบื้องบนคิดอะไรอยู่กันถึงต้องทำหลักสูตรอบรมพิเศษที่เสี่ยงขนาดนี้ให้แก่เด็กๆ ”
ชายวัยกลางคนอายุ40กว่าปีสวมชุดสูทสีดำเรียบร้อย ดูมีภูมิฐาน รอบๆตัวมีออร่าราวกับบัณฑิตที่น่านับถือ ปกติเขาจะมีสีหน้าที่อ่อนโยนและรอยยิ้มที่ให้ความสงบเสมอ
แต่ตอนนี้สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เขาคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของทวีปดาวประกายฟ้า
ด้านหน้าของเขาเป็นชายหนุ่มกำยำที่มีออร่าแข็งแกร่งมากราวกับสัตว์อสูรไม่มีผิด ดวงตาของเขาเฉียบคมและใจเย็นราวกับผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน สวมชุดเครื่องแบบทหารสีเขียวที่กล้าหาญ
เขาคือพันเอกของทางกองทัพ
“เฮ้อ.. ทางผมก็หนักใจเช่นกัน แต่เบื้องบนได้สั่งการมาแล้วและผมก็ทำอะไรไม่ได้” พันเอกถอนหายใจด้วยความลำบากใจ
“สถานการณ์ในตอนนี้เกิดเหตุการณ์วิกฤติไปทั่วทวีป ถึงแม้ประชาชนส่วนใหญ่จะยังไม่ทราบเพราะเราไม่ต้องการให้เกิดการตื่นตระหนก แต่สถานการณ์ก็เริ่มแย่ลงทุกทีหากแบบนี้ต่อไปทวีปของเราจะเต็มไปด้วยเหตุการณ์นองเลือด”
“ดังนั้นเบื้องบนจึงตัดสินใจที่จะพัฒนาบุคคลาการที่มีความสามารถทั่วทวีปให้เร็วที่สุดเพื่อรับมือกับวิกฤติที่กำลังจะเกิดขึ้น ดังนั้นหลักสูตรอบรมนี่จึงถูกจัดตั้งขึ้นมา”
พันเอกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหนื่อยล้า เพราะเหตุการณ์นี้เองทำให้เขาแทบไม่ได้นอนเลย
“สถานการณ์ตอนนี้มันร้ายแรงแรงขนาดนั้นเลยเหรอ!?” รัฐมนตรีถามด้วยสีหน้าที่สู้ไม่ดี เขาพอรู้กับเรื่องที่เกิดขึ้นบ้างเล็กน้อย
“เฮ้อ… ในขณะนี้หลายบริเวณบนทวีปเกิดเหตุการณ์สัตว์อสูรจลาจลขึ้น พวกสัตว์อสูรต่างดุร้ายมากและเต็มไปด้วยความกระหายเลือด มันเริ่มสังหารคนไปจำนวนมาก
นอกจากนี้ความแข็งแกร่งของพวกมันเติบโตขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แม้พวกเราจะพยายามพูดคุยด้วยแล้วแต่พวกมันก็ไม่ฟังเลย ในสายตาของพวกมันมีแต่การเข่นฆ่าเท่านั้น "
“เหตุการณ์ล่าสุดมีตั๊กแตนตำข้าวจำนวนหลายพันตัวบุกถลุ่มชายแดนในภูมิภาคเหนือ หนูป่าปฐพีนับหมื่นตัวโจมตีเมืองไม้มายาก่อความโกลาหลไปทั่วเมือง”
" ฝูงแมลงเคราลายเขียวเกือบแสนตัวฆ่าล้างสัตว์อสูรที่อยู่ในป่าเป็นจำนวนมากและกำลังมุ่งหน้ามาทางเมืองในภูมิภาคใต้
"ถึงแม้เราจะส่งคนของกองทัพไปเป็นจำนวนมากแล้วก็ตามแต่มีจุดเกิดเหตุหลายจุดมาก เกรงว่าหากเป็นแบบนี้ต่อไปคนของเราจะไม่พอจริงๆ "
“โชคดีหน่อยที่ตอนนี้เราได้ขอความช่วยเหลือจาก4ราชาสวรรค์และแชมเปี้ยน รวมถึงคนที่เก่งกาจจำนวนมากในภูมิภาคที่เกิดเหตุไปจัดการกับวิกฤติที่เกิดขึ้นแล้ว ”
"รวมถึงขอให้4ราชาสวรรค์และแชมเปี้ยนของภูมิภาคอื่นๆคอยประจำการและเตรียมรับมือตามจุดที่เราคาดการณ์ไว้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าตอนแรกมาก”
“แต่แนวโน้มที่จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างที่บอกหากเป็นแบบนี้ต่อไปพวกเราอาจจะไม่สามารถส่งกองกำลังไปตั้งรับได้อย่างทันท่วนที แล้วอาจจะทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก”
“ขณะนี้เองก็มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เหล่านี้จำนวนไม่ใช่น้อยแล้ว เพราะฉะนั้นทางเบื้องบนจึงหวังว่าจะพัฒนาความแข็งแกร่งของผู้ฝึกสัตว์อสูรทุกคนอย่างเร่งด่วนที่สุดเพื่อปกป้องบ้านเมืองของพวกเขาเอง”
ยิ่งรัฐมนตรีได้ฟังมากเท่าไหรเขาก็ยิ่งมีสีหน้าย่ำแย่ลงเท่านั้น เขาไม่คิดเลยว่าสถานการณ์จะแย่ขนาดนี้
“แต่สัตว์อสูรอย่างพวกตั๊กแตนตำข้าวหรือหนูป่าปฐพีเป็นพวกรักสงบและเป็นมิตรกับมนุษย์ไม่ใช่เหรอ ทำไมพวกมันถึงทำแบบนี้” รัฐมนตรีถามออกมาอย่างสงสัย
สัตว์อสูรที่ก่อเหตุนั้นล้วนเป็นสัตว์อสูรที่รักสงบและเป็นมิตร โดยปกติแล้วมันจะไม่ทำร้ายผู้คนเลย แต่ทำไมตอนนี้พวกเขาถึงกลายเป็นแบบนั้นไปได้
“ถึงตอนนี้เราจะยังไม่มั่นใจเท่าไหรแต่จากที่ตรวจสอบ สัตว์อสูรที่จู่โจมมีออร่าสีดำที่แปลกประหลาดครอบคลุมไปทั่วตัวและดวงตาของพวกมันต่างกลายเป็นสีเลือด ความแข็งแกร่งของพวกมันเพิ่มขึ้นกว่าปกติหลายเท่า”
“เราสันนิษฐานว่าบางทีสัตว์อสูรพวกนั้นต่างถูกอะไรบางอย่างควบคุมอยู่และมันอาจเกี่ยวกับกับสัตว์เทพ!”
“สัตว์เทพ!” รัฐมนตรีอุทานออกมาอย่างตกใจทันที
สัตว์เทพมีความแกร่งไร้เทียมทามมาก พลังของพวกมันนั้นสามารถก่อให้เกิดพายุและภัยพิบัติต่างๆหรือแม้กระทั้งจมเกาะให้หายไปชั่วพริบตาได้ก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลย
สัตว์เทพต่างถือกำเนิดขึ้นพร้อมโลก พวกมันสามารถควบคุมพลังแห่งกฎเกณฑ์ของโลกได้ อย่างเช่น กฎเกณฑ์แห่งเวลา! กฎเกณฑ์แห่งมิติ!
พวกสัตว์เทพไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถต้านทานได้ในขณะนี้ หากเรื่องนี้เกี่ยวกับสัตว์เทพจริงๆความร้ายแรงของเรื่องนี้คงเพิ่มขึ้นมาก ไม่แปลกใจเลยที่เบื้องบนจะมีคำสั่งลงมาอย่างเร่งด่วน
“รัฐมนตรี… ผมเข้าใจว่าเด็กๆพึ่งเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรได้ไม่นาน ”
“แต่เวลาไม่เคยรอใคร! พวกเขาจำเป็นต้องพร้อมให้เร็วที่สุด”
….
ผ่านไป1สัปดาห์
ณ โรงเรียนหมายเลขหนึ่งของเมืองเพลิงตะวัน
ริวและโอดะกำลังเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องเรียนของพวกเขา โดยหลังจากที่ผ่านไป1สัปดาห์ก็ถึงเวลาที่โรงเรียนจะเปิดเทอมแล้ว โดยระหว่างที่พวกเขาเดินก็มีหลายคนจับจ้องมาที่ริว
แน่นอนว่าเขาเป็นคนดังทำให้แทบไม่มีใครในโรงเรียนนี้ไม่รู้จักเขา
ไม่นานพวกเขาก็ได้มาถึงห้องเรียน ริวมองไปรอบๆห้องแล้วพบว่าเพื่อนร่วมชั้นแสดงท่าทีตื่นเต้นมากกว่าปกติ ดูเหมือนว่าทุกคนจะรู้เกี่ยวกับคลาสพิเศษกันหมดแล้ว
“เฮ้! ริว โอดะ ปิดเทอมไปเป็นยังไงบ้าง”
ริวและโอดะที่ได้ยินเสียงเรียกพวกเขาก็หันไปพบกับชายหนุ่มผมสีแดงหน้าตาดีคนหนึ่งที่กำลังโบกมือให้พวกเขาอยู่ เขาชื่อ ชิน เพื่อนสนิทคนหนึ่งของริวและโอดะ นอกจากนี้เขายังเป็น1ใน5คนที่ปลุกพรสวรรค์ได้อีกด้วย
ข้างๆเขามีเด็กสาวที่หน้าตาน่ารักและบอบบางนั่งอยู่ เธอคือ แอมม่า แฟนสาวของชินและเป็นเพื่อนของพวกเขาเช่นกัน
“ไม่เจอกันนานชิน! แน่นอนว่าหลังปิดเทอมไปฉันก็กำลังลดน้ำหนักอยู่” โอดะตอบกลับไป
“ห่ะ! ฉันไม่เชื่อหรอก ถ้ามีคนมาบอกว่าพระอาทิตย์กลายเป็นสีขาวฉันยังเชื่อมากกว่าอีก” ชินพูดด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อ
“นายพูดแบบนี้หมายความว่าไง ฉันนี่แหละจะเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหล่าที่สุดในอนาคต”
“ถุ้ย! ผีแหละถึงจะเชื่อนาย….”
หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มถกเถียงกันอย่างดุเดือด ริวที่เห็นก็แสดงท่าทีเฉยเมยเห็นได้ชัดว่าเขาชินแล้ว
“อ่ะแฮ่ม! เด็กๆเงียบหน่อย ครูมีเรื่องจะประกาศ!” เสียงและร่างของผู้หญิงอายุ30กว่าๆคนหนึ่งเดินเข้ามาทำให้ทั้งห้องต่างเงียบทันควันทันที เพราะนี่คือครูประจำชั้นของพวกเขา
“ผู้อำนวยการประกาศว่าพวกเราจะมีคลาสใหม่ขึ้นชื่อว่าคลาสต่อสู้พิเศษ หลายๆคนน่าจะได้ยินกันมาบ้างแล้ว โดยคลาสนี่จะมุ่งเน้นไปที่การสอนเกี่ยวกับประสบการณ์การต่อสู้ของผู้ฝึกสัตว์อสูรโดยจะมีคนจากกองทัพมาอบรม”
“นักเรียนที่แสดงผลงานโดดเด่นจะได้รับพิจารณาในการเข้าสู่สถาบันทหารชั้นนำรุ่นเยาว์ของทางกองทัพได้โดยตรง พวกเธอพยายามคิดกันให้ดี ใครที่ตัดสินใจจะเข้าร่วมหลังเลิกเรียนให้มาลงชื่อกับครูที่นี่”
หลังจากได้ยินคำพูดของครู ทำให้นักเรียนที่มีผลการเรียนไม่ดีรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก รวมถึงคนที่ขี้เกียจเรียนด้วยเช่นเดียวกันทำให้นักเรียนทุกคนส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความยินดี
“เงียบๆหน่อย!”
“พวกเธอคิดว่าการเข้าร่วมคลาสพิเศษจะไม่ต้องทำให้พวกเธอต้องเรียนวิชาอื่นๆหรือยังไง หลังจากคลาสอบรมเสร็จ พวกเธอก็ต้องกลับมาเรียนย้อนหลังเหมือนเดิมอย่างหนักเพื่อตามคนอื่นให้ทัน”
คำพูดของครูทำให้เด็กๆขี้เกียจเรียนหลายคนที่วาดฝันไว้ดับสลายลงทันทีเสมือนเอาน้ำมาราดบนกองเพลิง
“พวกเธออยู่ในห้องอย่างเงียบๆ อย่าไปส่งเสียงรบกวนคนอื่นๆล่ะ”
“นักเรียนริว! มาหาครูที่ห้องพักครูหน่อย”
หลังจากพูดจบคุณครูก็เดินออกไปทันที
“ริว เป็นไปได้ไหมว่านายทำผิดกฎบางอย่างเช่นการลักพาตัวหัวใจของหญิงสาวหลายคน ทำให้ครูเรียกนายไปพบ” โอดะพูดด้วยน้ำเสียงล้อเลียนทำให้ริวคิ้วกระตุกและเตะไปที่ก้นใหญ่ๆของโอดะเบาๆ
“โอ๊ย! นายจะเตะก้นฉันทำไม” โอดะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจและลูบก้นเขา
“หึ!สาสมแล้ว! ใครเขาจะมีความคิดวิปลิตแบบนาย” ชินพูดแทรกขึ้นมา
“ว่าไงนะ! นายนะสิวิปริต!”
“นายนั่นแหละ!”
“…..”
ทั้งคู่เริ่มถกเถียงก็เหมือนเดิม ริวไม่ได้สนใจทั้งสองคนอีกและเดินไปที่ห้องพักครูทันที