บทที่ 55 การแช่แข็งที่สะสมมานาน
ทั้งสองฝ่ายร่อนลงพื้นอย่างสบายๆ สาวน้อยในชุดสีฟ้ามองด้วยสายตานิ่งสงบระมัดระวัง ดาบไม้มู่หมิงของนางได้หักไปแล้ว ตอนนี้ไม่มีแม้กระทั่งอาวุธใดๆ สำหรับป้องกันตัว…นอกจากเจ้าแมวตัวเล็กที่ยังคงหลับอยู่บนบ่านาง
“ที่เจ้ามาถึงจุดนี้ได้ ข้าต้องยอมรับว่าเจ้าโชคดีจริงๆ! แต่วันนี้คงเป็นจุดสิ้นสุดของเจ้าแล้ว!”
โจวเชียนซานมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยท่าทีดูถูก สำหรับผู้ฝึกตน ความงามนั้นเป็นสิ่งชั่วคราว
แม้ว่าจินเป่าเอ๋อจะสวยแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์ แต่อายุเพียงสิบกว่าปีก็มีพลังเทียบเท่าเขาถือว่าเป็นพรสวรรค์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว!
จินเป่าเอ๋อมองเขาด้วยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย
“พวกเจ้าผู้ฝึกอสูรนี่มั่นใจตัวเองขนาดนี้ทุกคนหรือ? ยังไม่ทันเริ่มสู้ก็มั่นใจไปแล้วว่าจะชนะ!”
บนอัฒจันทร์ของสำนักไป๋โซ่ว, โม่หลิงหลงทำหน้าเคร่งขรึม หันไปมองศิษย์ที่อยู่ข้างๆ
“นี่…ที่นางพูดคือหมายถึงข้าหรือ ข้านี่หยิ่งยโสมากหรือ ห้ะ?”
ศิษย์คนนั้นสะดุ้งตกใจกลัวจนไม่กล้านั่งต่อ โธ่…วันนี้พี่รองน่ากลัวจริงๆ!
บนเวที หลังจากถูกดูถูก โจวเชียนซานก็มองจินเป่าเอ๋อด้วยสีหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อย
“วันนี้พี่ชายจะสอนเจ้าเอง ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้ายิ่งใหญ่กว่ารออยู่!”
เขาไม่รอช้า รีบอัญเชิญเสือเหลืองออกมา เตรียมเข้าประมือทันที!
คนกับเสือวิ่งพุ่งเข้าหานางอย่างดุดัน จินเป่าเอ๋อรีบหลบการโจมตีของเสือเหลือง พลางเผชิญหน้ากับดาบในมือของโจวเชียนซาน…
การต่อสู้เริ่มต้นด้วยความรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ผู้ชมต่างเผลอลุ้นตามโดยไม่รู้ตัว ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประลองครั้งนี้
หญิงสาวใช้ปลายนิ้วจับที่คมดาบ หมุนตัวด้วยแรงส่ง หลุดออกจากวงล้อมของคู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย เอาชนะแผนที่เคยใช้กับชู่ฟานไปอย่างสบายๆ!
โจวเชียนซานอึ้งไปครู่หนึ่ง แววตาเผยความประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสามารถหลุดจากการโจมตีชุดนี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงเห็นครั้งแรกก็หาทางแก้ได้
“เจ้านี่ฉลาดจริงนะ! หาจุดอ่อนได้เร็วขนาดนี้!”
ฝูงชนใต้เวทีต่างตะลึงไม่แพ้กัน มันง่ายดายขนาดนั้นเลยหรือ ทั้งที่ชู่ฟานเองก็ติดอยู่ในวงล้อมนี้โดยไร้ทางหนี แต่จินเป่าเอ๋อแค่เห็นครั้งเดียวก็หาทางแก้ได้
เสียงปรบมือกึกก้องดังกระหึ่ม ทุกคนตื่นเต้นมองดูหญิงสาวที่ยืนอยู่บนเวทีอย่างสง่างาม
แม้แต่ยวิ๋นโม่หลิงหลงยังไม่สนใจท่าทางตนเอง ตะโกนให้กำลังใจนางจากที่นั่งผู้ชม
“จินเป่าเอ๋อ~ เยี่ยมมาก! ซัดมันเลย! รอบนี้ต้องไม่แพ้ ลุยเลย!”
สีหน้าของเจ้าสำนักไป๋โซ่วซีดเผือดด้วยความโมโหจนแทบจะเตะยวิ๋นโม่หลิงหลงลงจากอัฒจันทร์ได้! ลูกศิษย์หลายคนของสำนักเองก็ต่างหน้าแดงด้วยความอับอาย พี่อง! ปกติท่านไม่เป็นเช่นนี้นี่นา!!
เสียงโวยวายนี้กระทบหูโจวเชียนซานจนรู้สึกเหมือนถูกท้าทาย สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปในทันที
“เจ้าเสือเหลือง! พลังเต็มที่! ข้าจะทรมานนางทีละนิด!”
“โฮก!!”
คำตอบจากเสือนั้น คือคำรามอย่างทรงพลัง กลิ่นอายของอสูรระดับจินตันขั้นปลายพุ่งกระจายไปทั่วสนาม…
ลูกศิษย์หลายคนแทบจะถูกพลังนั้นผลักกระเด็น โชคดีที่เจ้าสำนักของพวกเขาช่วยปัดพลังให้!
ส่วนจินเป่าเอ๋อเองก็จำต้องตั้งสมาธิใช้พลังปกป้องร่างกาย สีหน้าของนางเข้มข้นด้วยความระแวดระวัง ขณะนี้พลังจินตันขั้นปลายและขั้นกลางยากเกินจะต่อกรด้วยได้หากใช้กำลังปะทะกันตรงๆ
ในชั่วพริบตา เสือเหลืองพุ่งเข้ามาพร้อมกับพลังมหาศาลที่ปกคลุมทุกทิศทุกทาง พลังอันทรงพลังของระดับจินตันขั้นปลายทำให้นางแทบจะขยับไม่ได้ ในขณะที่โจวเชียนซานก็เรียกฟีนิกซ์เพลิงสีแดงเข้มออกมา พลังอันศักดิ์สิทธิ์นั้นทำให้สัตว์พันธสัญญาทุกตัวที่อยู่รอบข้างสั่นสะท้าน
พร้อมๆ กับการปรากฏตัวของฟีนิกซ์เพลิง แสงสว่างจ้าแผ่ไปทั่วสนาม พร้อมพลังร้อนแรงที่แผดเผาเข้ามา
จินเป่าเอ๋อถึงกับหน้าตาเปลี่ยนแทบจะไม่มีพื้นที่ให้ลงเท้า เสือพุ่งเข้าหาพร้อมยกอุ้งเล็บอันแหลมคมฟาดลงมาทางนาง!
“ฉัวะ!”
เสื้อคลุมสีน้ำเงินของนางถูกฉีกเป็นรอยขาดสามรอย เลือดซึมออกมาอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
ยันต์ลอยตัวเกือบหลุดจากการควบคุม โชคดีที่นางตั้งสติได้ทันเวลา ทำให้ไม่ล้มลง!
พลังการประสานกันระหว่างอสูรระดับจินตันขั้นปลายกับผู้ใช้พลังขั้นกลางนั้นไม่ได้แค่เพิ่มพลังเป็นเท่าตัวจริงๆ!
ใบหน้าของจินเป่าเอ๋อซีดเผือด แต่แววตากลับฉายประกายที่มุ่งมั่นอย่างน่ากลัว…
ก่อนที่คนและอสูรจะทันได้ลงมือซ้ำ หญิงสาวที่ลอยตัวกลางอากาศจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความหนาวเย็น ริมฝีปากบางขยับเบาๆ “แช่แข็งสามชั้น!”
เพียงพริบตา ความเย็นยะเยือกกระจายออกมาจากร่างนาง แผ่ขยายไปทั่วทั้งเวทีอย่างรวดเร็ว ด้วยพลังแห่งการปะทะที่ต้านทานความร้อนแรงได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ทั้งสนามแข่งตกอยู่ในความเย็นจัด!
แม้กระทั่งอัฒจันทร์ของผู้ชมและที่นั่งของสำนักอื่นๆ ก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกจนแปลกใจ เหล่าผู้ฝึกตนระดับรวมร่างต่างมองกันด้วยความตกตะลึง!
จินเป่าเอ๋อ…นางเป็นเพียงระดับจินตันจริงหรือ?
เสือเหลืองที่พุ่งลงมาจากฟ้าถูกแช่แข็งจนเท้าทั้งสี่ฝังอยู่ในน้ำแข็ง และกำลังถูกแช่ต่อขึ้นเรื่อยๆ แม้จะพยายามดิ้นรนคำราม แต่ขยับไม่ได้แม้แต่น้อย…
โจวเชียนซานกลับได้สติรีบเรียกลูกไฟเพื่อพยายามเจาะน้ำแข็งออก แต่ว่า!
“ปึ้ง…”
ทุกคนต่างเห็นกับตาว่าลูกไฟพุ่งชนกับผิวน้ำแข็งพร้อมกับเสียงเบาๆ ก่อนจะกระเด็นออกไป ขณะที่ผิวน้ำแข็งไม่มีร่องรอยใดๆ!
จินเป่าเอ๋อใช้จังหวะนั้นเรียกดาบน้ำแข็งเล่มหนึ่งออกมาและพุ่งตรงไปยังโจวเชียนซาน
ทันทีที่เสือถูกแช่แข็ง โจวเชียนซานจึงไม่มีทางเลือกนอกจากใช้พลังเพื่อต่อสู้
แต่จินเป่าเอ๋อเป็นทั้งผู้ฝึกพลังและร่างกาย พลังอันมหาศาลของนางทำให้เขาถอยหลังไปหลายก้าว แขนเจ็บจนแทบจะจับดาบไม่อยู่
“เจ้าเสือเหลือง!”
พร้อมกับเสียงคำรามก้อง เสือเหลืองที่สี่เท้าถูกตรึงแน่นรู้สึกถึงอันตรายที่เจ้านายของมันกำลังเผชิญ มันอ้าปากคำรามขึ้นฟ้าด้วยความเกรี้ยวกราด ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างมหาศาลจนสามารถสลัดพันธนาการออกได้ในที่สุด…
จินเป่าเอ๋อรู้สึกถึงคลื่นพลังอันตรายจากทางด้านหลังทันทีที่ได้ยินเสียง นางถอยกรูดไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันอุ้งเล็บแหลมคมของมันก็ฟาดลงมาข้างๆร่างของนางอย่างเฉียดฉิว!
“อั่ก!”
เสียงอู้อี้ดังขึ้นเบาๆ จินเป่าเอ๋อถอยหลังไปหลายก้าวจนแทบจะยืนไม่อยู่
นางมองคู่ต่อสู้อย่างระแวดระวัง สีหน้าซีดขาวปนด้วยรอยเลือดที่มุมปาก บาดแผลบนบ่ามีเลือดไหลซึมลงมาตามแขนและหยดลงบนพื้นน้ำแข็งจนแข็งตัวไปทันที…
ในใจของนางนั้นเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
แม้อุ้งเล็บของเสือจะยังไม่แตะต้องตัวนาง แต่เพียงแค่พลังอันแหลมคมจากอุ้งเล็บก็สามารถทำให้นางบาดเจ็บได้แล้ว แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกกังวลและปกป้องที่มันมีต่อเจ้าของมัน…
นางแทบไม่อยากเชื่อว่า ผู้ฝึกตนกับสัตว์อสูรจะมีความรู้สึกใส่ใจต่อกันถึงขนาดนี้
แต่น่าเสียดายที่จินหวงของนางยังไม่ตื่นจากการหลับใหล และเจ้าแมวขาวที่อยู่บนบ่าก็ดูเหมือนไม่มีท่าทีอะไรเพิ่มเติม!
ถ้านางยังสู้ต่อไปเช่นนี้ พลังวิญญาณและกำลังจะหมดลง จึงมีแนวโน้มสูงที่นางจะแพ้
ในขณะเดียวกัน คู่ต่อสู้ของนางทั้งคนและเสือก็กำลังปรับแผนการต่อสู้…
เสือเหลืองเดินเข้าประชิดตัวจินเป่าเอ๋ออย่างไม่หยุดยั้งด้วยพลังอันมหาศาลของร่างกาย
ส่วนโจวเชียนซานก็โจมตีด้วยลูกไฟเป็นครั้งคราว ทำให้นางยากที่จะรับมือได้ทัน!