บทที่ 524 เส้นทางแห่งความสับสน
บทที่ 524 เส้นทางแห่งความสับสน
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้? มีคนเข้าไปในเส้นทางแห่งความสับสนแล้ว ที่นั่นใกล้กับจุดศูนย์กลางมากเลยนะ!”
พ่อมดชราผู้สวมใส่ชุดคลุมโบราณเหลือบมองสมุดบันทึกสีเหลืองซีดในมือพร้อมส่งเสียงคำรามต่ำ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
บนหน้าหนึ่งของสมุดบันทึกนั้น มีภาพร่างโดยใช้เส้นสีดำจาง ๆ แสดงแผนผังคร่าว ๆ ของสถานที่ ในเส้นทางที่มีชื่อว่า "เส้นทางแห่งความสับสน" ปรากฏจุดสีดำเล็ก ๆ กำลังเคลื่อนตัวไปอย่างช้า ๆ
บนแผนที่นี้ นอกจากจุดดำเล็ก ๆ นั้นแล้วยังมีจุดอื่น ๆ ที่ยังวนเวียนอยู่ในสิ่งก่อสร้างด้านนอก
ส่วนตำแหน่งของชายชราแสดงด้วยจุดแสงสีขาว แม้จะก้าวหน้าไปมากกว่าเหล่าดวงดาวรุ่งอรุณที่ติดอยู่ในเขาวงกตลับด้านนอก แต่ก็ยังคงอยู่ในชั้นกลาง ซึ่งยังห่างจากจุดศูนย์กลางอยู่พอสมควร
แต่จุดสีดำที่แสดงถึงเรย์ลินกลับอยู่ห่างจากจุดแดงกลางแผนที่เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น!
“บ้าชะมัด! บ้าชะมัด!
ทำไมถึงมีพ่อมดที่รุดหน้าได้เร็วขนาดนี้…”
ชายชราบ่นพึมพำด้วยสีหน้าหงุดหงิด และ ไม่พอใจ “น่าเสียดายที่ข้ามีเพียงคาถาเข้าไปยังซากโบราณ แต่ยังไม่สามารถควบคุมกลไกเวทลับทั้งหมด ไม่เช่นนั้นล่ะก็…”
แม้บรรพบุรุษของพ่อมดชราจะเคยเป็นสมาชิกของจันทร์สีชาดโบราณ แต่เป็นเพียงสมาชิกทั่วไป เขาได้เข้าร่วมการสร้างซากโบราณนี้ แต่ไม่อาจเข้าถึงความลับส่วนกลางได้ ดังนั้นการได้มาเพียงแผนที่ และ รหัสคำสั่งสำหรับเข้าไป พร้อมข้อมูลบางส่วน ถือเป็นขีดสุดแล้ว
เรย์ลินเปิดใช้งานซากโบราณล่วงหน้า ทำให้พ่อมดชราพลาดโอกาส และ ต้องเร่งเดินทางอย่างมืดหน้าตามัว แม้จะระวังตัวไม่ให้กระตุ้นกับดักใด ๆ แต่ก็ยังคงตามหลังเรย์ลินอยู่ดี
“ช่างมันเถอะ!
ขอเพียงถึงห้องควบคุมกลางได้ ข้ายังมีโอกาสพลิกสถานการณ์!”
ชายชรากดนิ้วลงบนแผนที่หาช่องทางอื่นอย่างใจร้อน แต่ในขณะที่เตรียมตัวเดินทางนั้นเอง เขาก็เบิกตาโพลงทันที
บริเวณขอบแผนที่ จุดสีดำขนาดใหญ่ที่โตกว่าจุดอื่นหลายเท่า และ ยังมีแสงสีแดงเรืองรองล้อมรอบ บุกเข้ามาโดยตรง
กับดัก และ เวทลับชั้นนอกสุดถูกทำลายล้างทันทีเมื่อเผชิญกับจุดสีดำขนาดใหญ่นั้น ชื่อกับดักเหล่านั้นค่อย ๆ หายไปจากแผนที่ ชายชราได้แต่ส่งเสียงคร่ำครวญ “มีพ่อมดระดับห้ามาเร็วขนาดนี้ จะอยู่กันยังไง…”
แม้จะโอดครวญ แต่ฝีเท้าของชายชราก็ไม่ชะลอลงแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขากลับเร่งรีบมากขึ้น
ถ้าช้ากว่านี้สักก้าว และ พ่อมดระดับห้ายึดที่นี่ไว้ได้ เขาคงหมดสิทธิ์ครอบครองสิ่งใด โดยเฉพาะสิ่งของสำคัญบางอย่างในเขตศูนย์กลางที่เขาปรารถนาอย่างแรงกล้า และ ถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของเขาครั้งนี้
“รอข้าก่อนเถอะ! ขอแค่ให้ข้าควบคุมห้องควบคุมกลางได้ก่อนเท่านั้น!”
ชายชราจ้องมองไปยังจุดสีดำเล็ก ๆ บนเส้นทางแห่งความสับสนด้วยแววตาเคียดแค้น
...
เรย์ลินไม่ทราบเลยว่ามีบางคนกำลังจดจ้องเขาอยู่ ขณะนี้เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางหินสีเทาขาวเล็ก ๆ
หมอกสีขาวเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ปกคลุมทุกสิ่งรอบด้านจนไม่เหลือภาพใดให้เห็น
ตึก ตึก!
บนเส้นทางที่เงียบสงัด และ เวิ้งว้าง มีเพียงเสียงฝีเท้าของเขาที่ก้องสะท้อนไปมา สภาพแวดล้อมสองข้างทางที่ซ้ำซากนั้นง่ายดายต่อการทำให้ผู้คนลืมเลือนเวลา และ สุดท้ายกลับสร้างความหวาดกลัวที่รุนแรงขึ้นมา
โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับพลังลึกลับในหมอกนี้ แม้แต่จิตใจที่แข็งแกร่งของพ่อมดก็ยากจะหลีกเลี่ยง
หากเป็นพ่อมดชั้นต่ำคนอื่น ๆ คงถึงขั้นจิตแตกสลาย และ ร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังแล้ว
แต่ใบหน้าของเรย์ลินยังคงแกร่งกล้าไม่เปลี่ยน ฝีเท้าเดินอย่างมั่นคง ราวกับว่านี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สุด สิ่งทดสอบเจตจำนงที่พ่อมดโบราณวางไว้เช่นนี้ ไม่อาจสั่นคลอนจิตใจที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าหมื่นเท่าของเหล็กกล้าได้
ยิ่งเรย์ลินเดินลึกเข้าไป หมอกโดยรอบก็ยิ่งหนาขึ้นจนแทบมองไม่เห็นพื้นถนนใต้เท้า ราวกับทุกย่างก้าวเดินอยู่บนเมฆ
ตึก! ตึก! ตึก!
ในก้าวต่อไป ภาพรอบตัวของเรย์ลินเปลี่ยนไปทันที
พื้นไม้สีเหลืองอมน้ำตาล ฝ้าเพดานที่เต็มไปด้วยคราบรา และเสียงหนูวิ่งอยู่ที่มุมห้อง บรรยากาศเหมือนสลัมที่พบได้ทั่วไปในแผ่นดิน สิ่งปลูกสร้างไม้หลังเล็ก ๆ นี้ไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้น แต่สิ่งที่แปลกประหลาดคือตรงกลางห้องแขวนกรงนกแก้วสีทองไว้ ในกรงมีคางคกตัวหนึ่งคาบไปป์อยู่
“เฮ้! พี่ชาย เจ้ามาส่งจดหมายรักจากมิเกะให้ข้าหรือเปล่า? ช่วยบอกนางด้วยนะว่าข้าไม่ว่างไปนัดพรุ่งนี้!”
คางคกตัวนั้นสวมหมวกทรงสูงสีดำ มีท่าทางสบาย ๆ พร้อมพ่นควันเป็นวงกลมสีขาวลอยออกมาจากไปป์ของมัน
เรย์ลินมองคางคกด้วยความงุนงง สถานการณ์นี้ทำให้เขาสับสน
“หรือว่าเจ้าไม่ได้เป็นคนส่งสารของมิเกะ! โอ้! เช่นนั้นต้องเป็นของเอลิซาเบธสินะ นางช่างเป็นสาวงามที่สุดที่ข้าเคยเห็น ผิวที่เต็มไปด้วยรอยย่น และ ตุ่มหนอง ดวงตาที่ปูดโปนสุด ๆ… โอ้ นางช่างเป็นนางฟ้าของข้า…”
คางคกพร่ำพรรณนาต่อไปไม่หยุดยั้ง คำพูดที่เอ่ยออกมายิ่งทำให้เรย์ลินสับสนหนักขึ้น
สุดท้ายเขาทนไม่ไหวจึงถามออกมา: “ที่นี่ที่ไหน?”
“บ้านเล็ก ๆ ของควาก เลขที่ 232 โลกสุดขอบฟ้า! มีอะไรหรือ?”
คางคกวางไปป์ลง และ เหลือบมองเรย์ลินด้วยนัยน์ตาโตเหมือนหลอดไฟ
“หรือว่าเส้นทางแห่งความสับสนคืออุปกรณ์คล้ายประตูมิติสตาร์รีลม์? ข้าถูกเวทป้องกันของจันทร์สีชาดโบราณส่งมายังโลกต่างมิติแล้วงั้นหรือ?”
ความคิดขบขันผุดขึ้นมาในใจเรย์ลิน
ในระบบป้องกันของพ่อมดโบราณมากมาย เมื่อเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งเกินไปจนไม่มีเวทมนตร์ใดต้านทานได้ พวกเขามักใช้วิธีสุดท้าย—การเนรเทศสู่โลกต่างมิติ! คล้ายกับประตูมิติสตาร์รีลม์ที่ส่งพ่อมดออกจากโลกพ่อมดโดยตรง
ด้วยความที่เป็นการส่งครั้งเดียว และ ไม่มีพิกัดแน่นอน พ่อมดที่โชคร้ายจะถูกส่งไปยังพื้นที่ว่างเปล่าห่างไกล บางทีก็ไปโผล่กลางพายุรุนแรง หากเจอโลกที่มีสิ่งมีชีวิตก็นับว่าโชคดี ส่วนจะกลับมายังโลกพ่อมดอีกครั้งหรือไม่? อย่าหวังเลย
สภาพที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เรย์ลินเริ่มตั้งคำถามกับตนเอง
โครม! โครม! โครม!
ทันใดนั้น พื้นสั่นสะเทือนรุนแรง เกิดคลื่นแผ่นดินไหวขึ้นอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ไม่กี่วินาที
“นี่มันเรื่องอะไร?”
เรย์ลินปล่อยพลังวิญญาณกวาดดู แต่พบว่าพลังวิญญาณของเขาถูกกดทับจนไม่สามารถทะลุออกจากบ้านไม้ได้เลย
“ไม่มีอะไรหรอก แค่เพื่อนบ้านใหม่ของข้าเตรียมตัวย้ายเข้าเท่านั้นเอง…”
คางคกกระโดดลงจากกรงนกแก้วอย่างสบายใจ และ กระโดดโลดเต้นออกไปข้างนอก เรย์ลินหันมองด้วยความครุ่นคิดสักพักก่อนจะเดินตามออกไป
เมื่อเขาเปิดประตูบ้านไม้ออกมา ทั่วร่างพลันหยุดนิ่ง นัยน์ตาแฝงด้วยความไม่เชื่อ
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าเขาคือพื้นที่รกร้างสีน้ำตาลอันกว้างใหญ่ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหลุมดำ และ หมู่เมฆดวงดาวบิดเบี้ยว อีกทั้งยังมีเงาสีเขียวขนาดมหึมาที่ราวกับปักรากลงในจักรวาล กำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อย ๆ
มันคือมหาพฤกษาโบราณ ต้นไม้สีเขียวเปล่งแสงเขียวชอุ่มลงมา เรย์ลินเคยเห็นต้นไม้โบราณมาไม่น้อย รวมถึงต้นไม้ขนาดใหญ่ในเมืองคริเวที่สามารถสร้างบ้านบนใบได้ แต่กระทั่งเมืองคริเวทั้งเมืองยังเทียบมหาพฤกษาต้นนี้ไม่ได้ มันใหญ่เสียจนแม้แต่ใบไม้ใบเดียวก็ดูยิ่งใหญ่เกินเอื้อม
“เฮ้! เพื่อนใหม่ ต้องการความช่วยเหลือไหม?”
คางคกกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริงไปยังรากใหญ่ของต้นไม้ที่ดูเหมือนภูเขา
เมื่อเทียบกับมหาพฤกษา คางคกดูเล็กจิ๋วยิ่งกว่าฝุ่นผง ไม่สิ! เล็กกว่าฝุ่นผงเป็นหมื่นเท่า! เรย์ลินได้แต่นิ่งเงียบ ก่อนจะพบว่าเขาเดินออกจากบ้านไม้หลังเล็กซึ่งลอยอยู่กลางอวกาศอันมืดมิด ประตูบ้านมีป้ายทองเหลืองจารึกตัวอักษรเอียง ๆ ว่า “โลกสุดขอบฟ้า เลขที่ 232! บ้านนี้เป็นสมบัติของคางคกควาก…”
บนรากไม้ขนาดยักษ์ที่คางคกควากพักอยู่ก็มีบ้านไม้เล็ก ๆ หลังหนึ่งเอียง ๆ ห้อยอยู่ มีหมายเลข 233 และชื่อเจ้าของบ้านคือ "มหาพฤกษาแห่งปัญญา" เรย์ลินมองบ้านไม้ที่ห้อยอยู่บนรากไม้อันมหึมาและคางคกด้วยความรู้สึกพูดไม่ออก
ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็แปรเปลี่ยน “มหาพฤกษาแห่งปัญญา? สัญลักษณ์แห่งปัญญาทั้งปวงที่เคยชี้นำพ่อมดโบราณ และหลอมรวมสรรพปัญญาไว้ทั้งหมด?”
โครมคราม!
บนลำต้นของมหาพฤกษาที่ทอดตัวอยู่กลางจักรวาลปรากฏรอยแยกขนาดใหญ่หลายแห่ง พายุอวกาศถูกดูดกลืนเข้าไปในช่องเหล่านั้น พร้อมเสียงคร่ำครวญไร้เสียงที่สะท้อนออกมา
ดวงตาขนาดมหึมาสองข้างค่อย ๆ ลืมขึ้น ตามด้วยริมฝีปากที่เต็มไปด้วยลายไม้
“ยินดีต้อนรับเพื่อนเก่า…”
เสียงทุ้มลึกของมหาพฤกษากระหึ่มออกมา แค่เสียงก็แทบจะทำลายทุกสิ่งรอบข้าง คางคกควากกอดรากไม้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้ถูกพัดกระเด็นไปกับลมพายุ
เสียงของมหาพฤกษาเชื่องช้าอย่างยิ่ง ราวกับแต่ละคำที่พูดออกมานั้นต้องใช้เวลาคิดยาวนาน
“ยังมีเพื่อนใหม่…”
ตูม! ตูม!
พื้นดินระเบิดออก รากขนาดใหญ่ราวภูเขาพุ่งขึ้นมารองรับตัวเรย์ลินให้สูงขึ้นไปจนถึงดวงตาใหญ่โตของมหาพฤกษา
“ข้าได้กลิ่นของข้า…จากตัวเจ้า…”
คำพูดของมหาพฤกษานั้นพูดยาก และ ลึกลับ แต่เรย์ลินเข้าใจความหมายในทันที
“เป็นแก่นสารของมหาพฤกษาแห่งปัญญาหรือ? และยังมีสิ่งนี้ด้วย!” เรย์ลินล้วงจากอกเสื้อออกมาถ้วยไม้ที่ว่างเปล่า
ถ้วยนี้เคยบรรจุแก่นสารสกัดจากมหาพฤกษาแห่งปัญญาซึ่งช่วยเพิ่มพลังอย่างมหาศาลเมื่อเรย์ลินขึ้นสู่ระดับที่สาม และถ้วยไม้นี้มีตำนานว่าทำจากต้นมหาพฤกษาแห่งปัญญาเอง
..........