บทที่ 46 ปรมาจารย์ขั้นสูงสุด
“นี่มันอะไรกัน!?” เย่สิงโจวเปลี่ยนสีหน้าอย่างตกใจ
เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบ เหมือนจะได้เห็นบางสิ่งที่เกินเข้าใจ
“พวกเราก็อยากจะรู้เหมือนกัน”
เซี่ยอู่เยวียนเดินมายังศพปีศาจนี้ ใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กที่พกติดตัวเพื่อบันทึกข้อมูลอย่างใกล้ชิด
โยวกวงเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขา เหตุการณ์แบบนี้ถ้าไม่เกิดความวุ่นวายใหญ่โต คนทั่วไปก็มักจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องล้อเล่น หรือคลิปปลอม
แต่ประเด็นสำคัญคือ...
ปีศาจที่แฝงตัวอยู่ในระดับสูงของสังคมมนุษย์ไม่มีทางปล่อยให้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ เว้นแต่ว่าคุณเตรียมใจที่จะลุยเดี่ยวเพื่อต่อต้านและกำจัดปีศาจทั้งหมด
ต่อไปก็ต้องมาดูกันว่า วิดีโอที่บันทึกไว้ของผู้ตรวจการระดับสูงนี้จะมีประโยชน์หรือไม่
หากยังไม่มี...
เขาก็จะไม่พึ่งพาความช่วยเหลือจากภายนอกอีก
เขาจะสะสมพลังไว้ เพื่อคว่ำกระดานทั้งหมดเอง
“พวกคุณ...” เย่สิงโจวเหลือบมองเซี่ยอู่เยวียนที่ตอบคำถามและหันมองโยวกวงซึ่งกำลังนั่งยองๆ ถืออัญมณีบางอย่างในมือเพื่อทำบางสิ่งอยู่ กว่าจะควบคุมอารมณ์ให้สงบลงได้
เขามองศพที่ดูไม่ต่างจากมนุษย์คนหนึ่งแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
“คนคนนี้...ไม่สิพลังของปีศาจตัวนี้...มันไม่ปกติเลย”
“ปีศาจพวกนี้มีสองร่าง ร่างแรกจะเหมือนมนุษย์ และพลังระดับปรมาจารย์หรือปรมาจารย์ขั้นสูงสุด ซึ่งสามารถใช้ขนาดร่างกายเป็นตัวบ่งชี้ได้ ถ้าไม่เกินสองเมตร พลังของมันน่าจะอยู่ในระดับปรมาจารย์ แต่หากสูงกว่าสองเมตร พลังน่าจะอยู่ที่ปรมาจารย์ขั้นสูงสุดอย่างไรก็ตาม พวกมันสามารถแปลงร่างได้ เมื่อแปลงร่างเสร็จสมบูรณ์ พลังของมันจะเพิ่มขึ้นมหาศาล”
โยวกวงอธิบายไปขณะเปิดใช้งานอัญมณีที่พกติดตัว
ขณะที่เขานั่งพักจิต แม้จะเป็นการใช้พลังจากภาพตรึงจิตแห่งสุริยันเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อพลังบางส่วนของเขาไหลซึมเข้าสู่อัญมณี ก็สามารถสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ดูเหมือนจะถูกดึงออกจากร่างปีศาจและถูกดูดเข้าไปในอัญมณีนี้
“แปลงร่างจนสมบูรณ์? พลังเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล?”
เย่สิงโจวจ้องไปยังร่างปีศาจนั้น
“เมื่อกี้นี้ นับว่ามันแปลงร่างเสร็จแล้วหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่” เซี่ยอู่เยวียนตอบ
“ไม่ใช่งั้นเหรอ?” เย่สิงโจวนึกถึงความหวาดกลัวที่เหมือนเฉียดตายเมื่อครู่ จนรู้สึกหนาวสะท้านไปทั้งตัว
“แล้วถ้าแปลงร่างจนสมบูรณ์จะเป็นยังไงและพลังของมันจะเพิ่มมากแค่ไหน?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน นี่เป็นเพียงครั้งที่สองที่ผมได้เจอปีศาจแบบนี้...”
เซี่ยอู่เยวียนกล่าวพลางหันไปทางโยวกวง
“ส่วนเขาเจอปีศาจแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว”
“ก็ตามที่บอกไป” โยวกวงกล่าว
“ดังนั้นเพื่อไม่ให้พวกปีศาจแปลงร่างจนแข็งแกร่งเกินกว่าจะต่อกรได้ เราควรฆ่าพวกมันให้ได้ก่อนที่ร่างจะสมบูรณ์ โดยจากจุดเริ่มจนถึงแปลงร่างเสร็จ ใช้เวลาราวสิบวินาที ซึ่งเป็นเวลาที่มากพอจะจบการต่อสู้ได้”
โยวกวงไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลในอัญมณีทันที เพราะการเคลื่อนไหวของพวกเขาทำให้คนอื่นๆ สังเกตเห็นเข้าแล้ว เขาเก็บอัญมณีไว้ก่อน
เสียงโหวกเหวกดังออกมาจากตัวอาคาร
มีคนจำนวนมากเร่งเข้ามาทางนี้ด้วยความเร็วสูง
เย่สิงโจวเงียบไปครู่หนึ่ง เขามองโยวกวง...
“ไม่ว่าจะอย่างไร...นายช่วยชีวิตฉันไว้”
เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น
“จากนี้ไป…”
“ระวัง!”
โยวกวงเตือนทันที ก่อนจะพุ่งไปที่กำแพงอย่างรวดเร็ว
“ปัง ปัง ปัง!”
เสียงปืนดังสนั่น
จุดที่โยวกวง เย่สิงโจวและเซี่ยอู่เยวียนยืนอยู่ในก่อนหน้านี้มีประกายไฟและเศษหินกระจายไปทั่ว
ในชั่วขณะนั้นเอง ทั้งสามคนก็แสดงปฏิกิริยาที่รวดเร็วยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไป
ไม่ต้องพูดถึงโยวกวง เขาสามารถหลบหลีกได้ทันทีที่สัมผัสถึงลางสังหรณ์ว่าจะถูกเล็งยิง
เซี่ยอู่เยวียนเองก็ผ่านการฝึกหลบหลีกจากอาวุธปืนมาเป็นอย่างดี จึงหาที่กำบังได้อย่างรวดเร็ว
เย่สิงโจวแม้จะช้ากว่าเล็กน้อยแต่ก็มีความเร็วมากพอ
การปะทุของพลังในระดับปรมาจารย์ทำให้เขาสามารถพุ่งออกไปไกลถึงแปดเก้าเมตรในทันที
กระสุนรอบแรกจึงพุ่งเข้าใส่ที่ว่างไปหมด
ขณะที่โยวกวงกำลังพุ่งตัวหลบ เขาก็หยิบปืนพกขนาดใหญ่ขึ้นมาในมือ
ปฏิกิริยาของปรมาจารย์ที่แม่นยำประกอบกับสายตาที่เฉียบคมไม่ต่างจากนักบิน ทำให้เขาสามารถเล็งตำแหน่งของมือปืนได้ทันที
เขายิงทันทีที่กระโดดตัวออกไป โดยยังไม่ทันลงพื้น
“ปัง ปัง ปัง!”
ในจังหวะที่เขาหมุนตัวและหลบอยู่หลังผนัง มือปืนสองคนที่ประจำอยู่ในตำแหน่งสูงถูกยิงเสียชีวิตในทันที
หลังจากที่โยวกวงยิงเสร็จ เซี่ยอู่เยวียนก็เปิดฉากด้วยปืนไรเฟิลอัตโนมัติของเขาเช่นกัน
พร้อมแสงไฟสว่างวาบ ผู้คุมที่พุ่งลงมาถูกจัดการไปหลายคน
แม้คนที่เหลือจะพยายามหลบและหาที่กำบัง แต่...
ไม่เป็นผล
ด้วยความแม่นยำและการตอบสนองอันรวดเร็ว ปืนของเซี่ยอู่เยวียนแม่นยำเกินคน
เขาสามารถกดดันทหารติดอาวุธเกือบสามสิบคนจนไม่อาจเงยหัวขึ้นมาได้
ไม่สิ!
ไม่ใช่แค่ไม่อาจเงยหัวขึ้นมาเท่านั้น!
ในขณะที่เซี่ยอู่เยวียนกดดันด้วยอำนาจปืน เขาก็ขยับตำแหน่งได้รวดเร็วมาก
ร่างกายของเขาเคลื่อนที่ราวกับเสือชีตาห์ พุ่งเข้าหากลุ่มทหารเหล่านี้
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามคิดว่าจะหลบหลีกเพื่อพักหายใจเพียงไม่กี่วินาที เซี่ยอู่เยวียนซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ทหารที่ซ่อนอยู่ในมุมเหล่านั้นเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือปลายกระบอกปืนที่จ่อเข้ามาใกล้หน้าพวกเขา...
“ไม่นะ!”
“แตร่ดๆๆ!”
เสียงปืนดังขึ้น เลือดสาดกระเซ็น
ทหารเหล่านี้ถูกยิงจนร่างพรุนเป็นตะแกรง
ด้านอีกฝั่ง โยวกวงเองก็ไม่ช้ากว่า
ปืนพกขนาดใหญ่ที่เขาใช้เป็นปืนชั้นเยี่ยม มีเส้นทางกระสุนที่เสถียร
เมื่อรวมเข้ากับความเร็วในการตอบสนองและการควบคุมอันยอดเยี่ยมของโยวกวง ทำให้การยิงของเขาแม่นยำราวกับจับวาง
ไม่ว่าเขาจะเล็งไปที่ใด กระสุนก็พุ่งตรงไปยังเป้าหมายอย่างไม่มีพลาด
ในการเก็บกวาดเหล่าทหารที่หลงเหลือ ไม่ว่าทหารคนไหนที่กล้าจะลุกขึ้นตอบโต้ด้วยการยิงสุ่ม กระสุนจะถูกส่งไปยังแขนของพวกเขาทันที จนทำให้พวกเขาเสียการควบคุม
หากใครกล้าลุกออกจากที่กำบัง ก็จะถูกยิงเข้าที่ศีรษะและเสียชีวิตในทันที
ในขณะนั้นเอง โยวกวงรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง เขาหันมองไปทางทิศหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“เป้าหมายกำลังจะหนี”
“ปรมาจารย์เย่ ที่นี่ฝากด้วย”
เซี่ยอู่เยวียนตัดสินสถานการณ์และกล่าวอย่างเร่งรีบว่า
“พวกเราจะตามไปเอง”
“เข้าใจแล้ว” เย่สิงโจวตอบโดยไม่ปฏิเสธ
ไม่นานเซี่ยอู่เยวียนและโยวกวงก็รีบไล่ตามปีศาจตนที่สองไป
เมื่อทั้งสองจากไป เหล่าทหารที่รอดชีวิตเริ่มลุกขึ้นมาอีกครั้ง เสียงปืนที่ดังขึ้นเป็นระลอกๆบ่งบอกถึงการตอบโต้ที่เริ่มขึ้นอีกครั้ง
ฉากนี้ทำให้เย่สิงโจวถอนหายใจเบาๆ
“นักสู้ที่แท้จริงคนไหนจะไม่ได้รับการฝึกฝนการใช้อาวุธปืนไว้บ้าง?”
เขาเหน็บดาบสงครามไว้ในช่องใกล้ตัว แล้วพุ่งตัวเข้าหาศพของทหารคนหนึ่ง กลิ้งไปที่พื้นพร้อมกับหยิบปืนกลอัตโนมัติและกระสุนสองแม็กกาซีนขึ้นมาในมือ
“แตร่ดๆๆ!”
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง
……
ในอีกด้านหนึ่ง
โยวกวงและเซี่ยอู่เยวียนไล่ตามปีศาจไปอย่างรวดเร็ว
โรงงานเคมีไป่เซิงตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ไม่ไกลจากเนินเขาขนาดเล็กที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้หนาแน่น
เมื่อระยะห่างระหว่างทั้งสองกับปีศาจเริ่มลดลง เซี่ยอู่เยวียนยกปืนขึ้นยิงในทันที
แม้ปีศาจจะพยายามหลบหลีกอย่างรวดเร็ว แต่ด้วยความแม่นยำของปืนทำให้ร่างที่กำลังวิ่งนั้นสั่นไหวไปครู่หนึ่ง แสดงให้เห็นว่ามันโดนยิงเข้าแล้ว
แม้จะบาดเจ็บ แต่ความเร็วของมันไม่ลดลงเลย ร่างกายของมันกลับขยายตัวอย่างรวดเร็วจากไม่ถึงสองเมตรกลายเป็นยักษ์ใหญ่สูงเกือบสามเมตร
เซี่ยอู่เยวียนถึงกับสะดุ้งตกใจ เสียงปืนของเขาดังขึ้นถี่ขึ้นไปอีก
โยวกวงก็เปิดฉากยิงอย่างรวดเร็วเช่นกันเมื่อเข้าใกล้มากขึ้น
แต่ในตอนนั้นเอง ปีศาจที่มีร่างขยายตัวถึงสามเมตรหันกลับมาอย่างฉับพลัน ก่อนจะหยิบกิ่งไม้ที่พาดอยู่ใกล้มือเขวี้ยงออกไปอย่างแรง
กิ่งไม้เหล่านั้นถูกขว้างออกมาด้วยพลังอันบ้าคลั่งราวกับเป็นลูกธนูที่พุ่งออกจากคันยิงทะยานออกมารวดเร็วราวกับสายฟ้า
โยวกวงใช้ดาบเฉิงอิ่งแทงทะลวงออกไปทันที ปลายดาบสั่นสะเทือนเล็กน้อย กิ่งไม้สามกิ่งที่พุ่งเข้ามาถูกฟันขาดกระเด็นออกไปหมด
ส่วนเซี่ยอู่เยวียนเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้าง
ข้างหน้า...
ปีศาจร่างยักษ์เหมือนจะรู้ว่าไม่มีทางหนีไปได้จึงหันกลับมาโจมตีแทน
ร่างขนาดสามเมตรที่โถมเข้ามาในครานั้นสร้างแรงกดดันมหาศาล พลังจากร่างใหญ่ที่เต็มไปด้วยบาดแผลและเลือดสาดกระจายเพราะกระสุนที่ฝังอยู่ตามร่างกาย ทำให้มันดูน่ากลัวและดุร้ายยิ่งขึ้น
ถึงแม้จะมีบาดแผลที่แขนและขา แต่กระสุนกลับไม่สามารถทะลุเนื้อของมันได้เลยแม้แต่นัดเดียว
ความหมายของสิ่งนี้คือ...
“ขั้นสูงสุด!?”
เซี่ยอู่เยวียนอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง
“ปัง ปัง ปัง!”
เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง
เสียงดังนั้นปลุกเซี่ยอู่เยวียนให้ตื่นจากความตะลึง เขาเห็นโยวกวงยังคงยิงด้วยสีหน้าที่เยือกเย็นไม่มีเปลี่ยน
แต่ถึงแม้จะใช้ปืนพกขนาดใหญ่ ความบ้าคลั่งและพลังที่แทบจะไร้ขีดจำกัดของปีศาจร่างยักษ์ทำให้มันยังไม่เสียพลังการต่อสู้อย่างสิ้นเชิง
“ตรึงมันไว้!”
โยวกวงสั่ง
“ได้!”
แม้เซี่ยอู่เยวียนจะไม่รู้ว่าโยวกวงมีแผนอะไร แต่ก็ไม่ลังเลที่จะทิ้งปืนและหยิบมีดสามเหลี่ยมที่พกติดตัวขึ้นมา
เขาพุ่งเข้าเผชิญหน้าปีศาจอย่างกล้าหาญ
แม้ปีศาจที่ปรากฏร่างเต็มนี้จะมีพลังเทียบเท่ากับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดในระดับที่เกือบจะเหนือมนุษย์ แต่บาดแผลจากกระสุนที่แขนและขาก็ยังจำกัดพลังของมันอยู่บ้าง เซี่ยอู่เยวียนซึ่งเป็นปรมาจารย์ขั้นสูงจึงมีโอกาสสู้ได้บ้าง...
“ตู้ม!”
เสียงเหมือนฟ้าผ่าดังขึ้นในเสี้ยววินาทีที่ทั้งสองกำลังเผชิญหน้ากัน
ในแววตาตื่นตระหนกของเซี่ยอู่เยวียน เขาเห็นหมัดของปีศาจที่พุ่งมา แรงระเบิดทำให้อากาศรอบๆกำปั้นมันระเบิดออก เกิดแรงอัดอากาศราวกับคลื่นสีขาวที่ปกคลุมกำปั้นนั้นไว้ราวกับ...
พลังปราณที่ไร้เทียมทานในตำนาน!?
แต่พลังปราณไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด!
สิ่งที่สำคัญคือหมัดที่สามารถระเบิดอากาศออกมาได้ขนาดนี้ มันมีพลังมากมายขนาดไหนกัน!?
เซี่ยอู่เยวียนรู้สึกถึงความหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูกแผ่ซ่านขึ้นมาจากภายใน ความรู้สึกช็อกนี้ทำให้ร่างกายและจิตใจของเขาทำงานอย่างเข้มข้นเกินขีดจำกัด
ภาวะเฉียดตายนำมาซึ่งความหวาดกลัวขั้นสูงสุด!
นี่เป็นความรู้สึกพิเศษที่เกิดจากการหลั่งอะดรีนาลีนอย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ระหว่างความเป็นและความตาย
ภายใต้สภาวะนี้ ความคิดของเซี่ยอู่เยวียนกระจ่างชัดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สิ่งที่เขามองเห็นคือทุกการเคลื่อนไหวของหมัดปีศาจนี้ที่แสดงออกมาจากทุกทิศทางอย่างสมบูรณ์แบบ
ทว่าเมื่อเขาเห็นถึงความสมบูรณ์ของมัน ความสิ้นหวังบางอย่างก็เกิดขึ้นภายในใจ
สมบูรณ์แบบ!
หมัดนี้ของปีศาจนั้นแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ
แรงจากหมัดอัดรวมพื้นที่ทุกช่องทางในการหลบหลีกปิดกั้นทุกการเคลื่อนไหวของเขา
ดูเหมือนว่า...
นอกจากการรับหมัดนี้เต็มๆแล้วเขาไม่มีทางที่จะหลีกหนีได้เลย
แต่หากจะต้องรับหมัดนี้เข้าไป...
สิ่งที่รอเขาอยู่มีเพียงสิ่งเดียว
ความตาย!
(จบบท)