บทที่ 188 ส่งโรงพยาบาลฉุกเฉิน
บทที่ 188 ส่งโรงพยาบาลฉุกเฉิน
ฉินหว่านยืนนิ่งงันอยู่กับที่ ใช้เวลาพักหนึ่งกว่าจะย่อยคำพูดที่ทำให้เธอเหมือนโดนฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ ของ ฉินเหยาได้ “เหยาเหยา อย่าขยับนะ รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวพี่ไปหา”
เธอไม่กล้าวางสาย รีบตามทิศทางไปยังห้องน้ำ แต่เพิ่งวิ่งไปได้สองสามก้าวก็รู้สึกหน้ามืด วิงเวียนจนเกือบล้มลง โชคดีที่ใช้มือค้ำกำแพงไว้ได้ทัน
ช่วงนี้คนเริ่มทานอาหารกันแล้ว ห้องน้ำในห้างจึงไม่ค่อยมีคน ฉินเหยาหลบอยู่ในห้องน้ำล็อกเกอร์และกำลังร้องไห้ เมื่อเห็นพี่สาวมาถึงก็ดูราวกับเจอผู้ช่วยชีวิต “พี่คะ ทำยังไงดี...ถ้าแม่รู้เข้าล่ะก็...”
ฉินหว่านพยายามตั้งสติ เมื่อเห็นรอยเลือดสีแดงเข้มเปื้อนอยู่บริเวณสะโพกของน้องสาว
เมื่อทบทวนคำพูดของฉินเหยา ภาพตรงหน้าก็ชวนให้ตกใจสุดขีด
“เกิดอะไรขึ้น?”
“อาจจะตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจ... ฉันจำได้ว่าครั้งก่อน...ตอนนั้นไม่ทันระวัง คิดว่าเป็นช่วงปลอดภัยก็เลยไม่ได้คุม...” ฉินเหยาสะอึกสะอื้นพูดด้วยเสียงเบา ใบหน้าตื่นตระหนกจนไม่รู้จะทำอย่างไร
“เธอตรวจมาแล้วใช่ไหม ว่าท้องจริง?”
ฉินเหยาส่ายหน้า “ฉันแอบไปซื้อที่ตรวจครรภ์จากร้านขายยา ผลบอกว่าท้อง แต่ฉันไม่รู้จะทำยังไง เลยไม่กล้าบอกใคร...”
ฉินหว่านถอดเสื้อคลุมบางที่สวมอยู่ออก ผูกไว้ที่เอวของน้องเพื่อปิดรอยเปื้อนเลือดบนกางเกง “เรื่องหลังจากนี้ค่อยว่ากัน ตอนนี้ไปโรงพยาบาลก่อน”
“แต่...” ฉินเหยากังวลว่าถ้าเรื่องนี้บานปลายออกไป พ่อแม่รู้เข้า อาจทำให้ไป๋อี้ซิงเดือดร้อนไปด้วย
“ถึงเวลานี้แล้วยังจะมามัวแต่คิดแต่?” ฉินหว่านทำหน้าจริงจังขึ้น น้ำเสียงเข้มงวดขึ้นไม่น้อย
ถึงจุดนี้แล้ว ฉินเหยาไม่กล้าโต้เถียง ทำตามที่พี่สาวบอกอย่างว่าง่าย
เธอมีสติพอสมควร เพียงแค่ริมฝีปากซีดลงเล็กน้อย
ฉินหว่านยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างใจร้อนและเป็นห่วงอย่างยิ่ง อยากรีบให้ถึงโรงพยาบาลแล้วให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินเหยาเห็นพี่สาวของเธอดูร้อนรนขนาดนี้ พี่สาววิ่งวุ่นไปทั่วเพราะเรื่องของเธอโดยไม่ตำหนิอะไรสักคำเดียว
ยิ่งถูกดูแลเอาใจใส่ ฉินเหยาก็ยิ่งรู้สึกผิดและละอายใจ
...
“พี่...” ฉินเหยาร้องไห้อย่างเศร้าใจ พูดสะอื้นว่า “ฉันทำให้พี่ผิดหวังใช่ไหม…”
พี่สาวไม่ได้ตอบในทันที แต่รีบหันไปคุยกับหมอที่อยู่ข้าง ๆ แทน
“หมอคะ ต้องตรวจอีกสักครั้งหรือเปล่า เมื่อกี้น้องสาวฉันบอกว่าปวดท้องมากเลย”
หมอหันมาพูดด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ปัญหาใหญ่คงไม่มีหรอกครับ เด็กสมัยนี้ชอบทานของเย็น ทั้งเครื่องดื่มเย็น ทั้งของเผ็ด และนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้ช่วงมีประจำเดือนมีอาการผิดปกติบ้าง แต่นี่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล”
อะไรนะ? แบบนี้มันเป็นความเข้าใจผิดอย่างนั้นหรือ? ฉินเหยารู้สึกตกใจ พูดไม่ออก ริมฝีปากซีดกว่าเดิม
“แต่ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีความอยากอาหารเลยค่ะ… รู้สึกพะอืดพะอมอยู่บ่อย ๆ”
หมอพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เดี๋ยวผมจ่ายยาให้นะครับ แต่หลังจากนี้ต้องดูแลการกินและการพักผ่อนให้ดีขึ้น”
เมื่อออกจากโรงพยาบาล ฉินเหยารีบหันมาขอโทษพี่สาว “พี่คะ ฉันตรวจแค่ครั้งเดียวเอง… ไม่รู้เลยว่าชุดตรวจครรภ์อาจให้ผลผิดพลาดได้ด้วย”
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอโทษหรอก ยังดีที่เป็นแค่ตกใจเปล่า ๆ” ฉินหว่านพูดปลอบใจ เธอรู้ดีว่าการต่อว่าคงไม่ได้ช่วยอะไร เธอเอื้อมมือไปลูบหน้าผากน้องสาวเบา ๆ “เดี๋ยวพี่จะพาเธอกลับบ้านนะ ไปพักผ่อนเร็ว ๆ ตามที่หมอบอก”
“พี่คะ ทำไมพี่ไม่ดุฉันบ้างล่ะ?”
ตัวอย่างเช่นเรื่องเข้าใจผิดนี้ หรือเรื่องที่เธอ...ลอบแอบลิ้มลองผลไม้ต้องห้ามกับไป๋อี้ซิง…
“เหยาเหยา พี่เชื่อว่าเธอรู้ขอบเขตและผลที่จะตามมา” ฉินหว่านไม่อยากดุน้องในเวลานี้ แต่เธอก็หวังว่าน้องสาวจะได้รับบทเรียนบ้างจากเรื่องที่เกือบทำให้ตกใจในครั้งนี้
"ตลอดทั้งคืนฉินหว่านยังคงรู้สึกไม่สบายใจ ระหว่างที่เดินออกจากโรงพยาบาล เธอก็รู้สึกหน้ามืด วูบไหวจนยืนแทบไม่อยู่"
“พี่!”
..........