ตอนที่แล้วตอนที่ 8 : ในที่สุดก็เกาะติดสาวรวยได้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 10 : วิธีสร้างเพื่อนสนิทอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ตอนที่ 9 : อย่าใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย


แสงแดดอันอบอุ่นลอดผ่านหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานขนาดใหญ่ของห้องสมุด ตกกระทบลงมาบนร่างของเฟิงหนานซู ทำให้ผมยาวสลวยและแพขนตาหนาของเธอดูเหมือนถูกเคลือบด้วยชั้นทองคำอ่อนๆ

เธอนั่งตัวตรง เรียบร้อย เงียบสงบ น่ารักและเชื่อฟัง

เธอใช้นิ้วเรียวยาวคีบมุมของหน้ากระดาษ และพลิกหน้ากระดาษอย่างอ่อนโยน ดวงตาฉลาดเฉลียวของเธอเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์

หลังจากอ่านหน้านี้แล้ว เธอก็หยิบแคร็กเกอร์กุ้งใส่ปากด้วยเสียงดังคลิกแล้วเปิดหน้าต่อไป

หลังจากทำซ้ำอยู่หลายรอบถุงใส่แคร็กเกอร์กุ้งก็ค่อยๆ ว่างเปล่า

จนกระทั่งเฟิงหนานซูลงมืออีกครั้ง เธอจึงตระหนักว่านี่เป็นชิ้นสุดท้ายแล้ว ดังนั้นเธอจึงเงยหน้าขึ้นมองเจียงฉิน

“ฉันไม่กินหรอก เธอกินให้หมดเลย”

ดวงตาของเฟิงหนานซูเป็นประกายด้วยความดีใจ เธอหยิบชิ้นสุดท้ายแล้วใส่มันเข้าปาก จากนั้นจึงเปิดไปที่หน้าถัดไป

เจียงฉินจ้องมองเธอเป็นเวลานาน รู้สึกว่าเฟิงหนานซูไม่ได้ล้อเล่นกับเขาจริงๆ

เธอยอมให้ยืมเงินจริงๆ

แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามันไร้สาระขนาดนี้?

เราไม่จำเป็นต้องทำ IOU หรอกเหรอ?

ถึงจะไม่ทำแต่อย่างน้อยก็ควรถามหน่อยไหมว่าฉันจะเอาเงินไปทำอะไรและจะคืนเงินเมื่อไหร่?

ในร่างเจียงฉินมีวิญญาณของลุงวัยสามสิบแปดปี สิ่งมีชีวิตบริสุทธิ์เช่นนักเรียนมัธยมปลายเขาควรจะสามารถมองผ่านมันได้อย่างรวดเร็ว แต่เขากลับไม่เข้าใจการกระทำของเฟิงหนานซูเลย

แต่นี่เป็นเรื่องปกติ ก่อนเกิดใหม่เขาไม่เคยติดต่อกับสาวรวยเลย จึงไม่น่าแปลกใจที่เขาจะไม่เข้าใจ

บางทีสาวรวยคนอื่นๆ ก็คงเป็นแบบนี้

เมื่อเวลา 16:30 น. จู่ๆ เฟิงหนานซูก็วางที่คั่นหนังสือลงในหนังสือ ลุกขึ้นยืน รีดกระโปรงของเธอให้เรียบ จากนั้นก็วางหนังสือกลับบนชั้นวาง

เธอออกจากที่นี่ตรงเวลาทุกวัน และดูเหมือนว่าการควบคุมเรื่องเวลาจะเข้มงวดมาก

แต่คราวนี้ ก่อนที่จะออกไป เฟิงหนานซูหยุดครู่หนึ่ง จากนั้นหันกลับมาและโบกมือลาเจียงฉิน

ก็ไม่ได้เย็นชาขนาดนั้นนี่นา…

เจียงฉินเฝ้าดูเธอเดินออกไป จากนั้นจึงหันไปมองนอกหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานขนาดใหญ่ ผ่านกระจก เขาสามารถมองเห็นรถเบนท์ลีย์สีดำที่จอดอยู่ชั้นล่างได้อย่างชัดเจน

คนขับสวมถุงมือสีขาวเปิดประตูรออย่างสุภาพแล้ว ส่วนบอดี้การ์ดยืนอยู่ข้างประตูด้วยสีหน้าจริงจังและตื่นตัวตลอดเวลา

เฟิงหนานซูเดินออกจากห้องสมุดอย่างเงียบๆ ขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรสักคำ จากนั้นหายลับไปบนถนนก่อนพลบค่ำพร้อมกับเสียงเครื่องยนต์คำราม

“บ้านทองคำกับหยกงามเป็นคนคนเดียวกันจริงๆ”

“...”

“จู่ๆ ก็รู้สึกหิวนิดหน่อย กลับบ้านก่อนดีกว่า”

เจียงฉินหยิบ [คู่มือการใช้ชีวิตแบบพึ่งพาคนอื่น] ขึ้นมาแล้ววางกลับบนชั้นหนังสือ จากนั้นขี่จักรยานกลับไปที่บ้านหงหรงบนถนนหมายเลขสองทางทิศเหนือ และแวะซื้อเสี่ยวหลงเปาที่หน้าทางเข้าชุมชนมาหนึ่งถาด

วันนี้เป็นวันพุธ ซึ่งเป็นวันทำงาน

คุณหยวนโหย่วฉินเป็นพนักงานของโรงแรมรับรองของหน่วยงานรัฐ และคุณเจียงเจิ้งหงทำงานในสำนักงานสาธารณสุข เพราะงั้นตอนนี้จึงไม่น่าจะไม่มีใครอยู่บ้าน ดังนั้นเขาทำได้แค่ซื้อเสี่ยวหลงเปามากินรองท้องเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากกินอาหารเดลิเวอรี่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมามากมายในชีวิตก่อนหน้านี้ เขาจึงไม่ใช่พวกเลือกกินอีกต่อไป และไม่มีข้อกำหนดด้านคุณภาพของอาหารสักเท่าไหร่

ยิ่งไปกว่านั้น รสชาติของซาลาเปาร้านนี้ก็ยังดีมาก แป้งบางไส้เยอะ สิบปีให้หลังถึงขั้นเปิดสาขาใหม่ด้วยซ้ำ

เจียงฉินหยิบซาลาเปาออกมาจากถุงพลาสติกแล้วกัด มันอุ่นและชุ่มฉ่ำ ยังคงเป็นสูตรดั้งเดิมและมีรสชาติที่คุ้นเคย

ติดแค่ว่าตอนนี้อากาศร้อนมาก กินไปสองลูกก็เหงื่อแตกซ่กๆ แล้ว

เจียงฉินมัดปากถุงพลาสติกและวางแผนว่าจะกลับไปกินต่อที่บ้าน

เวลาหนึ่งทุ่ม ค่ำคืนมาถึงอย่างเงียบสงบ

คุณเจียงเจิ้งหงกลับถึงบ้านโดยถือถุงพลาสติกสองใบ หลังจากเปลี่ยนรองเท้าแตะแล้วก็นั่งลงบนโซฟา

บนหน้าผากเขาชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อ หอบหายใจแทบไม่ทัน หันไปร้องเรียกให้เจียงฉินเอาน้ำมาให้

“พ่อไปไหนมาน่ะ ทำไมถึงดูเหนื่อยขนาดนี้?”

“แม่แกบอกว่าของในตลาดหนานชุนลดราคา พ่อก็เลยปั่นจักรยานไปตั้งสี่สิบนาที พวกนี้เป็นของโปรดแกทั้งนั้น”

เจียงฉินวางแก้วน้ำไว้ตรงหน้าเขา: “ถูกกว่าแค่ไม่กี่หยวนเองไม่ใช่เหรอ มันคุ้มขนาดนั้นเลย? นี่บ้านเรายากจนมากเลยเหรอ?”

เจียงเจิ้งหงจิบน้ำแล้วพูดด้วยความพึงพอใจ: “นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับความยากจน แกกำลังจะไปเรียนมหาวิทยาลัย เรียนจบก็ต้องแต่งงาน ในอนาคตมีที่ให้ใช้เงินมากมาย ในเมื่อเรามีที่ให้ประหยัดเราก็ต้องประหยัดให้มากขึ้น เราไม่สามารถใช้จ่ายฟุ่มเฟือยได้!”

ทันทีที่เขาพูดจบ เพลาประตูก็ส่งเสียงดังเอี๊ยด และประตูก็ถูกผลักให้เปิดออกอีกครั้ง

คุณหยวนโหย่วฉินเดินเข้ามาพร้อมกับถุงช้อปปิ้งจากห้างสรรพสินค้า สีหน้าของเธอดูตื่นเต้นมาก และเธอก็ฮัมเพลงมาตลอดทาง

เมื่อเห็นฉากนี้ชายทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน

“คุณซื้ออะไรมาน่ะ?”

“พี่สวีจากที่ทำงานของฉันบอกว่าเสื้อคลุมขนสัตว์ในห้างสรรพสินค้าลดครึ่งราคา ฉันเลยได้ของดีมาในราคาที่ถูกมาก!”

ดวงตาของเจียงเจิ้งหงเบิกกว้าง: “เสื้อคลุมขนสัตว์? แล้วคุณซื้อมันมาเท่าไหร่?”

คุณหยวนโหย่วฉินเผยสีหน้าภาคภูมิใจ: “ราคาเดิมคือ 888 แต่ตอนนี้ลดเหลือแค่ 488”

“พ่อ นี่คือสิ่งที่พ่อพูดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยใช่ไหม?” เจียงฉินตกตะลึง

“ผู้หญิงนี่ชอบใช้เงินฟุ่มเฟือยจริงๆ ฤดูหมาร้อนตับแตกแบบนี้คุณซื้อเสื้อคลุมขนสัตว์มาเพื่ออะไร!”

“แล้วคุณรู้อะไรไหม ถ้าไม่ใช่ฤดูหมาร้อนตับแตกแบบนี้มันก็คงไม่ลดราคาหรอก!”

เจียงเจิ้งหงแสดงท่าทางเคร่งขรึมเหมือนเป็นหัวหน้าครอบครัว: “เจียงฉินสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จแล้ว หลังจากผลสอบออกมาก็ต้องจัดงานเลี้ยงฉลองอีก ไหนจะค่าเทอมที่ต้องเสีย มีที่ให้ใช้เงินเยอะแยะไปหมด”

หยวนโหย่วฉินเปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินไปที่ห้องนั่งเล่น: “นี่ไม่ใช่คำพูดของฉันเองเหรอ? แล้วก็ ฉันบอกให้คุณไปตลาดหนานชุนคุณไปมาหรือยัง?”

“แน่นอน ผมไปมาแล้ว ผมคำนวณแล้วพบว่าของที่ตลาดหนานชุนราคาถูกกว่าร้านขายเกลือชั้นล่างของเราซะอีก ครั้งนี้ผมประหยัดไปยี่สิบกว่าหยวนเลย”

“งั้นวันนี้เราช่วยกันประหยัดได้สี่ร้อยยี่สิบเลยใช่ไหม?”

จิตใจของเจียงเจิ้งหงตามไม่ทันอยู่สักพัก: “สี่ร้อยมาจากไหน?”

คุณหยวนโหย่วฉินหยิบถุงช้อปปิ้งในมือขึ้นมา: “ฉันใช้ 488 ซื้อเสื้อคลุมที่ราคาเต็มอยู่ที่ 888 นี่แสดงว่าฉันประหยัดได้ตั้งสี่ร้อยหยวนเลยไม่ใช่หรือไง?”

“โหย่วฉิน ผมต้องพูดอะไรบางอย่างกับคุณหน่อย แนวคิดเรื่องการบริโภคของคุณผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด”

“เจียงเจิ้งหง ฉันแต่งงานกับคุณมาหลายปีแล้วและฉันไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่เลย มันก็แค่เสื้อคลุมขนสัตว์แต่คุณต้องตำหนิฉันขนาดนี้เลยเหรอ”

เจียงฉินเฝ้ามองจากด้านข้างอย่างมีความสุข รู้สึกว่าความขัดแย้งในครอบครัวที่หายไปนานนี้ทำให้อบอุ่นใจเป็นพิเศษ

พ่อยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง ไม่ได้ผมหงอกตั้งแต่อายุห้าสิบสาม และไม่ได้แอบไปขับ Didi จนหมดสติอยู่ในรถเพียงเพื่อหาเงินดาวน์บ้านให้กับตัวเอง

แม่ยังดูอ่อนวัยและรักความงาม มีเงินเก็บนิดหน่อยก็ถึงขั้นไปเดินห้างด้วยซ้ำ ไม่ได้ถึงกับต้องประหยัดจนขนาดไม่กล้าซื้อเนื้อสัตว์กินเลย

นี่เป็นสิ่งที่มีความสุขที่สุดสำหรับเขาอย่างแน่นอนหลังจากที่เกิดใหม่

อย่างไรก็ตาม มันค่อนข้างโหดร้ายที่ไปหัวเราะเยาะคนอื่นขณะที่มองดูเรื่องตลกแบบนี้ ในไม่ช้าเขาจึงสร้างปัญหาให้ตัวเอง ถูกคู่สามีภรรยาเขม่นใส่พร้อมๆ กัน

“เจียงฉิน ลูกหัวเราะทำไม? ลูกก็คิดว่าแม่ไม่ควรซื้อเสื้อคลุมขนสัตว์ตัวนี้ด้วยเหรอ?”

เจียงฉินกลั้นรอยยิ้มบนใบหน้าไว้: “แม่ ต่อไปผมจะหาเงินให้ได้เยอะๆ จะไม่ให้แม่ต้องซื้อเสื้อผ้าเก่าๆ ราคาถูกอีกแล้ว และจะไม่ให้พ่อต้องไปซื้อของที่ตลาดไกลๆ ด้วย”

สีหน้าของหยวนโหย่วฉินตกตะลึงเล็กน้อย ดวงตาของเธอพลันอ่อนโยนลง: “โถ่ลูกแม่ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูกนะ เอาแต่ขี้เหนียวอยู่ตลอดเวลา”

“ฉันไม่ได้ขี้เหนียวขนาดนั้นสักหน่อย…”

เสียงของเจียงเจิ้งหงอ่อนลงเล็กน้อย ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขากำลังขาดความมั่นใจ เมื่อหันกลับมาเขาก็พบว่าภรรยาของเขาเปิดถุงช้อปปิ้งออก และในถุงใบนั้นก็มีแต่ม้วนกระดาษชำระ

“นั่นอะไรน่ะ?”

“หัวหน้าบอกว่าต้องเปลี่ยนของใช้ในโรงแรมรับรองทั้งหมด ฉันก็เลยเอาของพวกนี้กลับมา คิดว่าคุณเป็นคนเดียวที่รู้จักประหยัดหรือไง?”

หยวนโหย่วฉินเอ่ยด้วยความโกรธ หันหลังกลับแล้วเข้าไปในครัว

เจียงเจิ้งหงตกตะลึง คิดกับตัวเองว่านี่มันใช้วิธีล่อให้คนทำผิดกฎหมายแล้วค่อยจับนี่นา!

(จบตอน)

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด