ตอนที่ 285 ก่อนออกเดินทางไปยังโลกต้นกำเนิด (ฟรี)
ตอนที่ 285 ก่อนออกเดินทางไปยังโลกต้นกำเนิด
“ท่านปู่กลับมาแล้วเหรอ? เข้าใจแล้ว”
ไป๋จื่ออันพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงของพ่อบ้าน
จากนั้นไป๋จื่ออันก็เก็บของ เขาก็ตรงไปที่ห้องโถง
ตอนนี้ไป๋จิ้งฉงกำลังรอไป๋จื่ออันอยู่ในห้องโถง
“เสี่ยวอัน หลานกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เดี๋ยวก่อน เสี่ยวอัน หลานเลื่อนขั้นเป็นระดับทองคำแล้ว? แถมยังเป็นระดับทองคำขั้นสูงสุดอีกต่างหาก?”
ไป๋จิ้งฉงดีใจมากที่เห็นไป๋จื่ออัน
แต่วินาทีต่อมา บนใบหน้าของไป๋จิ้งฉงก็ปรากฏรอยยิ้มแห่งความประหลาดใจออกมา
เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกได้ถึงสถานการณ์ของไป๋จื่ออัน เขารู้ว่าไป๋จื่ออันเลื่อนขั้นเป็นระดับทองคำแล้ว แถมยังเป็นถึงระดับทองคำขั้นสูงสุด ห่างจากระดับเพชรแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
เรื่องนี้ทำให้ไป๋จิ้งฉงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
การฝึกฝนในครั้งนี้ของไป๋จื่ออันใช้เวลาแค่เดือนกว่าๆ เท่านั้น
ในช่วงเวลาสั้นๆ ไป๋จื่ออันกลับข้ามระดับใหญ่ จากระดับเงินขั้นสูงสุดไปเป็นระดับทองคำขั้นสูงสุด
ความเร็วในการพัฒนาแบบนี้น่าทึ่งมาก
ยังไงซะการฝึกฝนในระดับทองคำก็ไม่ใช่ระดับเล็กๆ
ตามปกติแล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ต้องใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝนพลังในระดับทองคำ
นี่เป็นเพียงแค่เวลาที่อัจฉริยะผู้ใช้สัตว์วิญญาณต้องการ ส่วนผู้ใช้สัตว์วิญญาณทั่วไปอาจจะต้องใช้เวลาหลายสิบปี หรือทั้งชีวิต
ดังนั้นความเร็วในการบ่มเพาะพลังของไป๋จื่ออันจึงน่าทึ่งมาก
“ตอนที่ผมฝึกฝนเมื่อไม่นานมานี้ ผมได้รับโอกาสอะไรบางอย่างมา มันเลยทำให้ผมเลื่อนขั้นเป็นระดับทองคำได้สำเร็จ”
“ว่าแต่ท่านปู่ เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งเดือนมหาวิทยาลัยก็จะเปิดเทอมแล้ว ผมเตรียมที่จะไปที่โลกต้นกำเนิดแล้วครับ”
ไป๋จื่ออันยิ้ม
เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องการฝึกฝนพลังมากนัก เขาแค่พูดปัดๆ ไป
จากนั้นไป๋จื่ออันก็บอกว่าเขากำลังจะไปที่โลกต้นกำเนิด
“ถึงเวลานั้นแล้วสินะ มหาวิทยาภูตเร้นลับกำลังจะเปิดเทอม”
“ภายในเวลาแค่หนึ่งปี ไม่คิดเลยว่าหลานจะเติบโตได้ขนาดนี้”
“เสี่ยวอัน ปู่ภูมิใจในตัวหลานมาก”
ไป๋จิ้งฉงรู้สึกทึ่งเล็กน้อยเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
ถ้าพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีนี้ มันก็น่าทึ่งมาก
หนึ่งปีก่อน เขายังไม่เห็นความหวังที่จะกลับไปที่โลกต้นกำเนิด
แต่ตอนนี้ เขาได้เลื่อนขั้นเป็นระดับอเมทิสต์ ครอบครัวของเขาก็ถูกส่งไปที่โลกต้นกำเนิด แถมเสี่ยวอันยังกลายเป็นผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับทองคำ
การเปลี่ยนแปลงพวกนี้ทำให้ไป๋จิ้งฉงรู้สึกทึ่ง
การที่มีหลานชายอย่างไป๋จื่ออันถือว่าเป็นโชคดีของเขา
ไม่นานไป๋จิ้งฉงก็สงบสติอารมณ์ลง เขาก็อธิบายเรื่องบางอย่างออกมา
“ในโลกต้นกำเนิด ถึงแม้ว่าทรัพยากรจะมีมากมายก็จริง แต่มันก็มีราคาสูง ปู่จะเตรียมเหรียญจิ่วโจวให้กับหลานเอง”
“ปู่จะเตรียมทรัพยากรพิเศษของมิติลับหมื่นรังไหมและโลกแห่งเงามืดให้กับหลาน”
“ให้ราชสีห์เฒ่าติดตามหลานไปที่โลกต้นกำเนิด เขาก็เคยไปที่โลกต้นกำเนิดกับปู่ เขารู้จักโลกต้นกำเนิดดี...”
“ว่าแต่ตระกูลไป๋ก็มีศัตรูในโลกต้นกำเนิด หลานต้องรู้เรื่องพวกนี้เอาไว้ ป้องกันไม่ให้พวกนั้นแอบเล่นงานหลาน...”
ไป๋จิ้งฉงใช้เวลาพูดไปอีกสักพัก เขาคอยกำชับไป๋จื่ออัน
ภาพแบบนี้ทำให้นึกถึงแม่ของไป๋จื่ออัน
ตอนที่ไป๋จื่ออันออกไปฝึกฝนครั้งแรก แม่ของเขาก็กำชับแบบนี้เหมือนกัน
ตอนนี้ไป๋จิ้งฉงก็เป็นแบบนั้น
แต่ไป๋จื่ออันก็ยิ้มให้ เขาก็รับฟังคำพูดของท่านปู่เงียบๆ
ยังไงซะนี่ก็เป็นความห่วงใยจากครอบครัว
ไม่นานไป๋จิ้งฉงก็หยุดพูด
“คุณปู่ ไม่ต้องให้ท่านราชสีห์เฒ่าติดตามผมไปหรอกครับ ด้วยพลังที่ผมมี คุณปู่ก็น่าจะรู้นะครับ”
“แล้วก็ผมอยากจะพาเฉียวกู่ไป๋ไปด้วย ให้เธอติดตามผมไป”
ไป๋จื่ออันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดความคิดของตัวเองออกมา
พูดตามตรง ไม่จำเป็นต้องให้ราชสีห์เฒ่าติดตามเขาไป เพราะตอนนี้พลังของไป๋จื่ออันแข็งแกร่งขึ้นมาก
ยังไงซะตอนที่เขายังเป็นระดับเงิน เขาก็สามารถต่อกรกับผู้มีพลังระดับอเมทิสต์ได้
ตอนนี้ไป๋จื่ออันเลื่อนขั้นเป็นระดับทองคำขั้นสูงสุดแล้ว
พูดตามตรง ต่อให้เป็นศัตรูระดับราชันย์ ไป๋จื่ออันก็ไม่กลัว
แบบนี้การที่ราชสีห์เฒ่าระดับเพชรติดตามไป๋จื่ออันไป ก็คงจะช่วยอะไรไป๋จื่ออันไม่ได้
แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าไป๋จื่ออันรังเกียจราชสีห์เฒ่า
ราชสีห์เฒ่าติดตามตระกูลไป๋มาเกือบทั้งชีวิต เขาก็คือคนของตระกูลไป๋
เขาอายุมากแล้ว ไป๋จื่ออันไม่อยากให้เขามาเสี่ยงอันตรายกับเขา
ยังไงซะไป๋จื่ออันก็มักจะไปสถานที่อันตรายบ่อยๆ ดังนั้นการที่ไม่พาราชสีห์เฒ่าไปด้วยจึงเป็นเรื่องดี
ส่วนเฉียวกู่ไป๋นั้น ไป๋จื่ออันมีความคิดที่ตรงกันข้าม เขาเตรียมที่จะพาเธอไปที่โลกต้นกำเนิด
สาเหตุก็คือพรสวรรค์พิเศษของเฉียวกู่ไป๋
ไป๋จื่ออันอยากรู้ว่าเฉียวกู่ไป๋จะเติบโตได้ไกลแค่ไหน
ในมิติลับระดับกลางอย่างเช่นมิติลับหมื่นรังไหมกับโลกแห่งเงามืด เธอยังได้รับผลประโยชน์มามากมาย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังสามารถได้สัตว์วิญญาณหายากที่มีคุณสมบัติระดับตำนาน รวมไปถึงสัตว์วิญญาณพิเศษมาอย่างง่ายดาย
ถ้าหากพาเธอไปที่โลกต้นกำเนิด พรสวรรค์ของเธอจะต้องแสดงผลลัพธ์ที่น่าทึ่งออกมาแน่
ที่สำคัญที่สุดก็คือสมบัติและสัตว์วิญญาณที่เกี่ยวข้องกับโชคลาภที่สามารถพัฒนาพรสวรรค์ของเธอได้นั้น คงจะมีแค่ในโลกต้นกำเนิดเท่านั้น
ถ้าหากเธอไปที่โลกต้นกำเนิด บางทีด้วยโชคของเธอ เธออาจจะสามารถหาสมบัติและสัตว์วิญญาณที่เกี่ยวข้องกับโชคลาภเจอ
ทำให้พรสวรรค์ของเฉียวกู่ไป๋เลื่อนขั้นเป็นระดับ SS กลายเป็นผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับท็อป
ตอนนั้นไป๋จื่ออันก็จะได้พรสวรรค์ระดับ SS กับผู้ใช้สัตว์วิญญาณระดับท็อปมาฟรีๆ
นี่คือความคิดของไป๋จื่ออัน
พูดได้เลยว่าถ้าหากโชคดี ไป๋จื่ออันก็จะได้รับผลประโยชน์มากมาย
ดังนั้นเขาจึงอยากจะลองดู พาเฉียวกู่ไป๋ไปที่โลกต้นกำเนิด ดูว่าเธอจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้รึเปล่า
“เอาล่ะ ในเมื่อหลานคิดได้แล้ว ปู่ก็จะไม่พูดอะไรมาก”
ไป๋จิ้งฉงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พยักหน้า ตอบตกลงตามความคิดของไป๋จื่ออัน
ไป๋จิ้งฉงตอบตกลงเรื่องที่ไม่ให้ราชสีห์เฒ่าติดตามไป๋จื่ออันไปที่โลกต้นกำเนิด และพาเฉียวกู่ไป๋ไปด้วย
ไป๋จื่ออันดีใจมาก เขาก็ขอบคุณไป๋จิ้งฉงที่เข้าใจความคิดของเขา
ช่วงเวลาต่อจากนี้ ไป๋จื่ออันกับไป๋จิ้งฉงก็พูดคุยกันเป็นเวลานาน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโลกต้นกำเนิดหรือมิติลับหมื่นรังไหม พวกเขาก็พูดคุยกันเป็นเวลานาน
พอรอให้ถึงกลางคืน ไป๋จื่ออันก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง
ตอนนี้เวลาที่ไป๋จื่ออันจะเดินทางไปที่โลกต้นกำเนิดก็ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว
ตอนเที่ยงของวันพรุ่งนี้ ไป๋จื่ออันจะออกเดินทาง ผ่านทางเชื่อมมิติ ไปยังโลกต้นกำเนิด