บทที่3 เปิดใช้งานระบบ
หลังจากที่อากิจากไป ริวก็เหลือบมองไข่สีน้ำเงินที่อยู่ในอ้อมแขน ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความหวังและตื่นเต้น
"ในที่สุด... ฉันก็ได้ครอบครองไข่สัตว์อสูรระดับราชา ภารกิจของฉันสำเร็จแล้ว!" ความคิดนี้ดังขึ้นในใจเขาอย่างหนักแน่น
ทันใดนั้นเอง เสียงลึกลับดังขึ้นในจิตใจ พร้อมหน้าต่างเรืองแสงที่ปรากฏราวกับจอภาพในความคิด
“โฮสต์ทำภารกิจการทดสอบเสร็จสมบูรณ์!”
“เปิดใช้งานระบบผู้ฝึกสัตว์อสูร!”
เสียงนั้นทำให้ริวถึงกับตื้นตันจนแทบน้ำตาไหล ในที่สุดระบบก็ถูกเปิดใช้งานอย่างแท้จริงเสียที
ความจริงแล้ว ริวไม่ได้มาจากโลกแห่งนี้ตั้งแต่แรก เขาเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดใหม่
ในอดีตเขาเป็น นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ผู้เป็นที่ยอมรับในโลกเก่าของเขาและได้ค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ครั้งหนึ่ง ริวได้พบหยกสีเขียวเข้มที่แฝงพลังลึกลับอยู่ในอุกกาบาตที่ตกลงมาบนโลก พลังงานที่แผ่ออกมาจากหยกนั้นไม่เหมือนกับพลังงานใดๆ ที่มนุษย์เคยพบเจอ ราวกับไม่ได้มาจากโลกนี้
หลังจากการทดลองและศึกษาอย่างยาวนาน ริวก็พบว่าพลังงานในหยกชิ้นนี้สามารถเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกได้ทั้งใบ
เป้าหมายของริวในเวลานั้นคือการใช้พลังงานจากหยกในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก
เมื่อองค์กรก่อการร้ายบุกยึดศูนย์วิจัยของเขา จุดประสงค์ของพวกมันชัดเจน คือขโมยหยกและผลงานวิจัยเพื่อสร้างอาวุธทำลายล้าง
ริวรู้ดีว่าหากพลังงานในหยกตกอยู่ในมือของพวกมัน โลกทั้งใบอาจเผชิญวิกฤติครั้งใหญ่ เช่น การสร้างขีปนาวุธที่ไม่อาจต้านทานได้
ด้วยเหตุนี้ ริวจึงตัดสินใจระเบิดศูนย์วิจัยของเขา ทำลายทุกอย่าง รวมถึงตัวเขาเอง หยก และผลงานวิจัยทั้งหมด
แต่ริวไม่คาดคิดเลยว่า หลังความตาย เขาจะกลับมาเกิดใหม่ในโลกที่แปลกประหลาดแห่งนี้
ที่สำคัญที่สุดคือ หยกสีเขียวนั้นกลับมาพร้อมกับเขา มันไม่ได้สูญสลายไป แต่ฝังอยู่ในร่างกายของเขาตั้งแต่วันที่เขาเกิดใหม่
ริวค้นพบเรื่องนี้เมื่อเขาสำรวจ พื้นที่จิตวิญญาณ ของตัวเอง
ในโลกนี้ มนุษย์ทุกคนมีพื้นที่จิตวิญญาณภายในร่างกายของตน มันคือสถานที่พิเศษที่สัตว์อสูรจะพักอาศัยหลังจากทำพันธะสัญญากับผู้ฝึก ความกว้างใหญ่ของพื้นที่จิตวิญญาณขึ้นอยู่กับพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของผู้ครอบครอง
เมื่อริวสำรวจพื้นที่จิตวิญญาณของตัวเองเป็นครั้งแรก เขาพบว่าหยกสีเขียวชิ้นนั้นยังคงอยู่ในร่างกายของเขา แม้เขาจะตั้งข้อสงสัยและพยายามหาคำตอบว่าเหตุใดหยกจึงตามเขามา แต่ก็ไม่อาจไขปริศนานี้ได้
ในท้ายที่สุด ริวจึงตัดสินใจเลิกสนใจเกี่ยวกับเรื่องหยก และหันไปใช้ชีวิตในโลกใหม่นี้แทน
จากการสำรวจริวพบว่าโลกนี้มีอะไรที่น่าตื่นเต้นกว่าโลกก่อนอย่างมาก เพราะที่นี่มีสัตว์อสูรและสิ่งมีชีวิตที่น่าค้นหามากมายซึ่งปลุกหัวใจอันลุกโชนของเขา
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ตั้งเป้าหมายที่จะเป็นผู้ฝึกสัตว์อสูรและนักวิจัยสัตว์อสูร
ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ริวได้ใช้ชีวิตในโลกใหม่ใบนี้อย่างเต็มที่ เขารู้สึกพอใจกับชีวิตที่เปลี่ยนไปจากอดีตอย่างมาก
โลกก่อนเขาเป็นเพียงเด็กกำพร้าที่โดดเดี่ยว ไม่มีครอบครัวหรือญาติสนิท รู้จักเพียงเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ไม่กี่คน
แต่ในชีวิตใหม่นี้ เขาเกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีทั้งพ่อแม่ พี่น้อง และเพื่อนฝูงมากมาย
ด้วยประสบการณ์จากชาติที่แล้ว ริวสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้รวดเร็วอย่างน่าทึ่ง เขาสอบเข้าโรงเรียนที่ดีที่สุดในเมืองได้สำเร็จ และครองอันดับหนึ่งในทุกการสอบ ไม่เว้นแม้แต่การวิจัยเกี่ยวกับสัตว์อสูร
แม้จะอายุยังน้อย แต่ด้วยความสามารถและความรู้ที่สั่งสมจากชาติก่อน ริวได้รับการยอมรับจากนักวิจัยสัตว์อสูรชั้นนำหลายคน
ศาสตราจารย์ชื่อดังหลายท่านต่างชื่นชมในพรสวรรค์ของเขา และเชื่อมั่นว่าเขาจะกลายเป็นนักวิจัยสัตว์อสูรที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
ด้วยชื่อเสียงและความสำเร็จที่สะสมมา ครอบครัวของริวจึงคาดหวังในตัวเขาอย่างมาก แต่คนที่คาดหวังที่สุดกลับเป็นตัวของเขาเอง
เพราะเขามีเป้าหมายอันแรงกล้าที่จะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรและนักวิจัยสัตว์อสูรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
แล้วในที่สุดวันที่ริวปลุกพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรมาถึง เขาตื่นเต้นอย่างมากและหวังว่าจะได้รับพรสวรรค์อันทรงพลังที่จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของเขาในอนาคต
แต่ผลลัพธ์กลับทำให้เขาผิดหวังอย่างแรง
ริวไม่มีพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูรเลย
ถึงแม้จะเป็นเรื่องปกติ เพราะในโรงเรียนที่เขาเรียนอยู่ซึ่งมีนักเรียนกว่าหมื่นคน มีเพียง 5 คนเท่านั้นที่สามารถปลุกพรสวรรค์ได้ จินตนาการดูสิว่ามันยากขนาดไหน!?
แต่มันยังคงเป็นความผิดหวังที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขา การที่เขาประสบความสำเร็จในทุกด้านมาตลอด ทำให้ความล้มเหลวครั้งนี้เจ็บปวดกว่าที่เขาคาดคิด
แน่นอนว่าไม่มีใครต่อว่าหรือผิดหวังในตัวเขาเพราะที่ผ่านมาก็ประสบความสำเร็จกว่าคนอื่นมากแล้ว
แต่ริวก็รู้ว่าเขามีเป้าหมายของตัวเอง นั้นก็คือการเป็นนักวิจัยและนักฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก จากนั้นก็สำรวจสัตว์อสูรทุกมุมโลกที่ไม่เคยมีใครค้นพบ!
แน่นอนว่ามันเป็นเส้นที่ยากลำบากมากแต่เขาก็ไม่กลัวเลยแต่กลับตื่นเต้นซะมากกว่าอีก
แต่เส้นทางในการเป็นนักฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดจะลำบากมากหากไม่มีพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูร
ยิ่งระยะเวลาผ่านไปเท่าไหร่ความต่างชั้นก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน อย่างน้อยเขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครสามารถไปถึงผู้ฝึกสัตว์อสูรระดับผู้นำได้โดยไม่มีพรสวรรค์
หลังจากที่เศร้าอยู่สักพักริวก็ลุกขึ้นสู้มาใหม่ ถึงแม้จะไม่มีพรสวรรค์ แต่เป้าหมายของริวยังคงเด่นชัดเหมือนเดิม
เขาอยากเป็นนักวิจัยสัตว์อสูรที่สำรวจสิ่งมีชีวิตลึกลับทุกมุมโลก และเป็นนักฝึกสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุด แม้ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบากโดยปราศจากพรสวรรค์ก็ตาม
แต่ในขณะนั้นหยกสีเขียวที่อยู่ในร่างกายของเขาราวกับจะตอบสนองความปรารถนาของริว มันปล่อยพลังงานสีขาวลึกลับที่แผ่ออกมาทั่วพื้นที่จิตวิญญาณของเขา จากนั้นเสียงลึกลับดังขึ้นในจิตใจของริว
"ระบบผู้ฝึกสัตว์อสูร กำลังเปิดใช้งาน..."
หัวใจของริวเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นทันทีเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เขารู้ว่าระบบคืออะไร มันเกิดขึ้นในนิยายที่เขาเคยอ่านเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกำลังเกิดขึ้นจริงในชีวิตของเขาแล้ว!
แต่ทว่า เมื่อเขาเห็นเงื่อนไขในการเปิดใช้งานระบบอย่างสมบูรณ์ คิ้วของเขาก็กระตุกทันที
"เพื่อเปิดระบบอย่างเต็มรูปแบบ โฮสต์ต้องทำพันธะสัญญากับสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติระดับราชาเป็นตัวแรก"
ริวแทบตะโกนลั่นในใจ
"ป้าคุณเถอะ! สัตว์อสูรระดับราชาหาได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือไง!? ครอบครัวฉันยังไม่มีสัตว์อสูรระดับอีลิทด้วยซ้ำ!"
แต่โชคดีที่ระบบยังมีฟังก์ชันพื้นฐานที่ช่วยให้ริวตรวจสอบคุณสมบัติของสัตว์อสูรได้
นับจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังป่าลึก ตลาดมืด และสถานที่ต่างๆ ทุกวัน เพื่อค้นหาสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติระดับราชา
เวลาผ่านไปสองเดือนอย่างรวดเร็ว ริวพยายามหาสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติระดับราชาอยู่วันแล้ววันเล่า แต่ความพยายามของริวกลับไร้ผล เขาไม่พบสัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติระดับราชาเลย
ถึงแม้จะมีฟังก์ชันตรวจสอบคุณสมบัติของสัตว์อสูรได้ก็ตาม จินตนาการดูสิว่ามันหายากแค่ไหน!?
ความหวังของริวเริ่มริบหรี่ แต่เขายังคงปฏิเสธที่จะทำพันธะสัญญากับสัตว์อสูรธรรมดา เพราะนั่นจะทำให้ระบบหายไปตลอดกาล
ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่เขาไม่สามารถนำมังกรเพลิงเด็กมาเป็นสัตว์อสูรของเขาได้!เพราะมันไม่ใช่สัตว์อสูรที่มีคุณสมบัติระดับราชา
ราวกับฟ้าเห็นใจ… ระบบเหมือนจะเห็นความสิ้นหวังของริวทำให้ระบบออกภารกิจย่อยให้ ซึ่งรางวัลของมันคือเครื่องตรวจจับที่อยู่อาศัยของสัตว์อสูรคุณสมบัติระดับราชา
เมื่อริวรู้ครั้งแรกเขาถึงกับยิ้มแฉ่มด้วยความเบ่งบานแต่เมื่อมองดูภารกิจแล้วทำให้เขาหุบยิ้มทันที
ภารกิจนั้นคือการที่ให้เขาต่อสู้กับสัตว์อสูรของคนอื่นโดยไม่ใช้สัตว์อสูรจำนวน 100 คน แม่คุณเถอะ! เขาจะสามารถสู้กับคนอื่นได้ไงหากไม่มีสัตว์อสูรเห็นได้ชัดว่านี่เป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้!
หลังจากที่คิดอยู่นานในที่สุดเขาก็พบวิธีดังกล่าวแม้จะน่าขายหน้าสักหน่อย แต่ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ
เขาเริ่มไปยั่วโมโหอายุ 7-8 ขวบ ให้นำสัตว์อสูรของพ่อแม่มาสู้กับเขา จากนั้นใช้ทักษะการข่มขู่และอวดสรรพคุณของตัวเองจนเด็กตกใจร้องไห้กลับบ้าน
แน่นอนว่าเขาทำแบบนี้อยู่หลายครั้งจนสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ แต่ก็ต้องแลกมากับความอับอาย
เพราะชื่อเสียงของเขาในฐานะจอมขี้โม้และจอมรังแกเด็กเริ่มดังฉ่อนไปทั่วในหลายบริเวณจนทำให้อากิที่รู้เข้าโดยบังเอิญถึงกลับต้องมาห้ามเขาทันที
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ทีไรเขาก็รู้สึกอายตลอด
แต่ในที่สุดริวก็ได้รับเครื่องตรวจจับสัตว์อสูรคุณสมบัติระดับราชาและได้รับสัตว์อสูรคุณสมบัติระดับราชามาสักทีทำให้ระบบเปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์
"ในที่สุด การเดินทางของฉันก็เริ่มต้นขึ้นจริงๆสักที!"
“ติ๊ง! ติ๊ง! ”
“คุณได้รับแพ็คเกจเริ่มต้นมือใหม่ !”
“ ……….”