ตอนที่แล้วบทที่ 8 การต่อสู้เกินระดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 10 โกลเดนเดรค

บทที่ 9 เข้าสู่ตารางจัดอันดับ


บทที่ 9 เข้าสู่ตารางจัดอันดับ

2 ชั่วโมงผ่านไปลู่หยางก็มีเลเวลเพิ่มขึ้นมาถึงเลเวล 1 กับอีก 10% ทำให้ในตอนนี้เขาอยู่ในอันดับที่ 10 ของตารางจัดอันดับเลเวลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้าหากว่าเขาไม่ได้เสียเวลา 1 ชั่วโมงไปหาหัวใจแห่งเทพอสูรและอีก 1 ชั่วโมงในการจัดการปลาไหลทอดกรอบ บางทีในตอนนี้เขาก็อาจจะอยู่ที่อันดับ 1 ของตารางจัดอันดับแล้วก็ได้

9 อันดับหน้าลู่หยางต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำของกิลด์ขนาดใหญ่ทั้งหมด คนพวกนี้ได้ใช้ความได้เปรียบจากจำนวนสมาชิกในการเคลียร์พื้นที่และสังหารมอนสเตอร์ ยกตัวอย่างเช่น หัวหน้ากิลด์โอเวอร์ลอร์ดที่ใช้ชื่อว่า “ฉงป้าฟงหยุน”

ชายคนนี้ได้นำสมาชิกกิลด์กว่า 50,000 คนเข้าสู่เกมและยึดพื้นที่มอนสเตอร์เลเวล 1 ในหมู่บ้านใหม่ทั้งหมด โดยใช้ช่องโหว่ของเกมที่ว่าใครเป็นผู้สร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์ก่อนถือว่าเป็นเจ้าของมอนสเตอร์ตัวนั้น เขาจึงให้ผู้เล่นภายในกิลด์จับกลุ่มทีมละ 10 คนเพื่อช่วยกันสังหารมอนสเตอร์และทำให้เขาขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตารางจัดอันดับ

ระหว่างที่ลู่หยางกำลังเตรียมตัวจะสังหารมอนสเตอร์อยู่นั้น จู่ ๆ มันก็มีเสียงแจ้งเตือน ก่อนที่เขาจะได้พบว่ามันได้มีคนส่งข้อความเข้ามาหาเขา

ก่อนหน้านี้ชายหนุ่มได้ปิดฟังก์ชันรับเพื่อนจากคนแปลกหน้าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่น่ารำคาญ ดังนั้นคนที่สามารถส่งข้อความมาหาเขาได้จึงมีเพียงแค่หลานอวี่ที่เขาเพิ่งเพิ่มเพื่อนไปเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น

หลังจากเปิดดูหน้าจอเขาก็ได้พบว่าข้อความถูกส่งมาจากหลานอวี่จริง ๆ

“คุณเก่งจริง ๆ ถึงได้ขึ้นไปในตารางจัดอันดับได้”

“ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ว่าแต่ตอนนี้พวกเธอเป็นยังไงบ้าง ได้ไปทำภารกิจมาแล้วหรือยัง?”

“ตอนนี้พวกฉันยังเก็บเนื้อปลาไหลอยู่เลย” หลานอวี่ตอบ

“ทำไมช้าจัง?” ลู่หยางถาม

“ช้าเหรอ? ปลาไหลพวกนั้นมันจับยากมากเลยนะ” หลานอวี่ตอบอย่างท้อใจ

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็เพิ่งนึกได้ว่าตอนนี้ตัวเกมเพิ่งจะเปิดให้บริการเท่านั้น สำหรับผู้เล่นใหม่ที่มีประสบการณ์แล้วการพยายามไล่จับปลาไหลใต้น้ำมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

“ไม่ต้องรีบร้อน ค่อย ๆ ทำไป แต่ระวังให้ดีเวลาจะไปเก็บเลเวลในถ้ำอย่าให้คนอื่นตามไปอย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นตำแหน่งถ้ำที่ฉันบอกมันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป”

“พวกเราจะระวัง” หลานอวี่ตอบพร้อมกับพยักหน้า

ทันใดนั้นลู่หยางก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เขาจึงพูดว่า

“สาวน้อยสัญญากับฉันอย่างหนึ่ง อย่าบอกชื่อฉันกับใครนะ เธอยังไม่ได้บอกใครไปใช่ไหม?”

“ยังไม่ได้บอก ไม่ต้องห่วงฉันรู้ดีว่าคุณอยากซ่อนตัวเอาไว้” หลานอวี่ตอบกลับอย่างซุกซน

ลู่หยางสามารถนึกภาพเด็กสาวในตอนนี้ได้ในทันที เขาจึงหัวเราะออกมาเบา ๆ

“ดีมาก ถ้าเธอเป็นเด็กดีคราวหน้าที่พบกันฉันจะมีของฝากไปให้”

ลู่หยางปิดบทสนทนาด้วยอิโมจิหัวเราะและบทสนทนาก็จบลงเพียงเท่านั้น

แน่นอนว่าในความเป็นจริงหลานอวี่ก็ไม่ได้บอกชื่อของลู่หยางกับใครทั้งที่เธอจงใจไม่บอกและทั้งที่สหายของเธอไม่ได้ถาม

เจิ้งหยวนเกลียดชังลู่หยางมาก ขณะที่เซี่ยหยู่เว่ยหยิ่งทนงมากจนเกินไป เธอคิดว่าในอนาคตเมื่อสตูดิโอเติบโตขึ้นผู้เล่นอิสระอย่างลู่หยางก็จะเดินเข้ามาหาเธอเอง ดังนั้นเธอจึงไม่จำเป็นจะต้องขอความช่วยเหลือลู่หยางไปมากกว่านี้

“พวกที่อยู่ในตารางจัดอันดับเขาเก็บเลเวลยังไงกันนะ? ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ในการอัปเลเวลมันเยอะมาก และตอนนี้ทุกคนก็แย่งกันฆ่ามอนสเตอร์ทั่วทุกที่ ผู้เล่น 9 อันดับแรกฉันยังพอเข้าใจได้ แต่ลู่หยางที่ไม่มีใครรู้จักก็เก็บเลเวลขึ้นมาจนถึงอันดับ 10 แล้ว” จางจื่อโป๋กล่าว

เซี่ยหยู่เว่ยพยักหน้าและกล่าวว่า “ในเกมนี้มีผู้เล่นเก่ง ๆ เข้ามาเยอะมาก ถ้าหากเราพลาดอะไรไปแม้แต่ก้าวเดียว การพยายามพัฒนาสู่แนวหน้ามันก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้นกว่าเดิม”

ทันใดนั้นเจิ้งหยวนที่กำลังหงุดหงิดกับการจับปลาไหลก็พูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

“ไอ้คนที่ชื่อลู่หยางนี่หยิ่งชะมัด! ฉันพยายามติดต่อไปซื้อตัวมันแท้ ๆ แต่มันกลับปิดฟังก์ชันรับเพื่อนจากคนแปลกหน้า”

จางจื่อโป๋ถอนหายใจและกล่าวว่า “ฉันก็ลองติดต่อไปดูแล้วเหมือนกัน แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รับเพื่อนจากใครเลย ถ้าหากเราติดต่อกับเขาได้บางทีพวกเราอาจจะมีโอกาสเข้าสู่ตารางจัดอันดับเหมือนกับเขาก็ได้”

ชื่อผู้เล่นที่ติดอันดับส่วนใหญ่ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นหัวหน้ากิลด์ใหญ่ที่เคยประกาศหาสมาชิกในฟอรั่มของเกมด้วยกันทั้งนั้น มีเพียงลู่หยางคนเดียวที่เป็นผู้เล่นใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก ทุกคนจึงคิดว่าบางทีลู่หยางคนนี้อาจจะค้นพบวิธีการเก็บเลเวลอย่างรวดเร็ว

หลานอวี่ยืนฟังทุกคนพูดคุยกันอย่างเงียบ ๆ แล้วมันก็ดูเหมือนว่าทุกคนจะไม่ได้รู้ตัวเลยว่าลู่หยางคือคนที่พวกเธอเพิ่งจะพบไปเมื่อไม่นานนี่เอง

“แล้วพวกเราจะเอายังไงกันต่อ เราจะไปเก็บเลเวลกันที่ไหน?” เจิ้งหยวนพูดอย่างหงุดหงิด

เซี่ยหยูเว่ยกับจางจื่อโป๋ก็ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้ด้วยเหมือนกัน เพราะพื้นที่ด้านนอกเต็มไปด้วยผู้คน พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเซคคัลเวิลด์จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ และในระหว่างที่ทุกคนกำลังพยายามหาทางออกหลานอวี่ก็ยกมือขึ้น

“ฉันรู้ที่เก็บเลเวลที่หนึ่ง ที่นั่นไม่มีคนมาแย่งมอนสเตอร์กับพวกเราแน่นอน”

“ที่ไหน?” เซี่ยหยู่เว่ยถามอย่างเร่งรีบ

“พิกัด 7985.9867 มีชายชราอยู่คนหนึ่ง หากเราทำภารกิจที่เขามอบหมายได้สำเร็จเขาก็จะทำการส่งพวกเราไปที่ถ้ำ ภายในถ้ำนั้นมีมอนสเตอร์เลเวล 1 กับเลเวล 2 อยู่มากมาย และตอนนี้มันก็ยังไม่มีใครรู้จักที่นั่นอย่างแน่นอน” หลานอวี่กล่าว

ตอนแรกทุกคนภายในกลุ่มคิดว่าหลานอวี่ล้อเล่น แต่เมื่อเธอบอกพิกัดและวิธีการมาอย่างละเอียด มันจึงทำให้ทุกคนเต็มไปด้วยความตกใจ

“เธอรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง?” เซี่ยหยู่เว่ยถาม

“ฉันก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่คนที่บอกวิธีจับปลาไหลในก่อนหน้านี้บอกข้อมูลกับฉันก่อนที่พวกเราจะจากกัน” หลานอวี่ตอบพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาแห้ง ๆ

เมื่อนึกหน้าลู่หยางขึ้นมาอีกครั้ง เจิ้งหยวนจึงพูดเสียงดังด้วยความอิจฉา

“ปัญญาอ่อน! ถ้ามันรู้สถานที่แบบนั้นจริง ๆ ทำไมมันถึงไม่ไปเอง เรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องโกหกแน่ ๆ ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่เชื่อ!”

หลานอวี่อยากจะบอกว่าความจริงลู่หยางมีสถานที่ที่เก็บเลเวลที่ดีกว่าที่ที่เขาบอกเธอมา เพราะในตอนนี้เขาก็ได้เก็บเลเวลจนติดอันดับ 10 ของตารางจัดอันดับแล้ว

เซี่ยหยู่เว่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ในอนาคตเซคคัลเวิลด์น่าจะกลายเป็นโลกใบที่ 2 ของมนุษย์จริง ๆ พวกเราหลายคนตัดสินใจจะพัฒนาภายในเกมนี้อย่างจริงจัง ดังนั้นหากเป็นไปได้เราก็ไม่ควรมีศัตรูภายในเกม”

“ถ้าคนคนนี้รู้วิธีการจับปลาไหลและยังรู้สถานที่เก็บเลเวลลับ บางทีเขาอาจจะเป็นผู้เล่นที่เข้าร่วมการทดสอบเบต้ามาก่อน อย่างน้อยพวกเราก็ควรลองไปดู ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงเราก็ไม่ได้เสียหายอะไรเท่าไหร่ แต่ถ้าทุกสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริงขึ้นมา ในเวลานั้นสตูดิโอของเราก็จะพัฒนาได้เร็วกว่าสตูดิโออื่น”

จางจื่อโป๋พยักหน้าเห็นด้วยและกล่าวว่า “ฉันเห็นด้วย ฉันว่าพวกเราควรลองไปดู”

ในกลุ่มมีผู้นำทั้งหมด 7 คน ซึ่งเสียง 5 ใน 7 ก็โหวตว่าพวกเขาควรลองไปดูสถานที่ที่ลู่หยางแนะนำมาก่อน มีเพียงเจิ้งหยวนและเพื่อนสนิทของเขาเท่านั้นที่คัดค้าน

ในตอนก่อตั้งสตูดิโอพวกเขาตกลงกันเอาไว้แล้วว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่ความเห็นไม่ตรงกันให้ใช้วิธีการโหวตตามเสียงข้างมาก ดังนั้นเซี่ยหยู่เว่ยจึงพาทุกคนไปยังพิกัดที่ลู่หยางได้ให้มา

ความจริงแล้วเจิ้งหยวนก็ไม่ใช่คนโง่และเขาก็พอจะคาดเดาถึงความเป็นไปได้ เพียงแต่เขาไม่อยากให้หลานอวี่มีความสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพราะอีก 15 วันจะเป็นวันที่เปิดระบบแลกเงินตรา และในเวลานั้นพวกเขาก็สามารถใช้เงินเพื่อเร่งเก็บเลเวลได้ด้วยเช่นเดียวกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด