ตอนที่แล้วบทที่ 790 เริ่มปฏิบัติการ 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 792 ยุ่งเหยิงที่หอหลอมยา  

บทที่ 791 ผลต้าโจว


“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าไม่สามารถติดต่อแม่ทัพสาม ซือกวงหยวนได้”

ฉือหลินหนึ่งในคนสนิทของแม่ทัพใหญ่ ไม่เพียงมีพลังแข็งแกร่งอยู่ในระดับปรมาจารย์ปฐมภูมิขั้นเจ็ดยังทำงานรอบคอบไร้ที่ติอีกด้วย แต่คราวนี้แม้ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการไปพบซือกวงหยวนแล้วเขายังเลือกมารายงานแม่ทัพใหญ่ก่อน

แม่ทัพใหญ่ซึ่งกำลังหัวเสียจากการกระทำของจางเจี๋ยอยู่แล้วก็แสดงความไม่พอใจเล็กน้อย นางเพียงบอกว่า

“ไปหาเขาโดยตรง” พร้อมโบกมือส่งสัญญาณให้ฉือหลินออกไป

คำสั่งนี้เองที่ฉือหลินต้องการ เพราะนอกจากจะเป็นคนสนิทของแม่ทัพใหญ่แล้ว เขายังมีอีกหนึ่งสถานะ...เป็นคนของซือกวงหยวน!

เขาและหลิงซุ่นต่างมีสองสถานะเหมือนกัน หรือจะกล่าวได้ว่าแม้แต่คนใกล้ชิดของจางเจี๋ยก็มีสายลับของซือกวงหยวนแฝงตัวอยู่เพื่อเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหว

ฉือหลินได้ใช้เวลาเติบโตจากศิษย์ธรรมดาจนขึ้นมาเป็นคนสนิทของแม่ทัพใหญ่และมีอำนาจสำคัญ สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า แม้ซือกวงหยวนจะดูเหมือนไม่สนใจการเมือง แต่แท้จริงแล้วอิทธิพลของเขาได้แผ่ขยายไปทั่วผิงตูโจว

เมื่อได้รับคำสั่ง ฉือหลินก็รีบตรงไปยังภูเขาหยานอวิ๋นทันที โดยคิดว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสในการเข้าพบซือกวงหยวนอย่างเปิดเผยและพร้อมจะรายงานให้เขาทราบถึงการที่แม่ทัพใหญ่กำลังจะทะลุระดับการฝึกตน

ด้วยความเร็วของเขา เพียงวันเดียวก็ถึงภูเขาหยานอวิ๋น

ทว่าทันทีที่เหยียบเข้ามา ความรู้สึกไม่ดีเกิดขึ้นภายในใจของเขา ภูเขาเซียนนี้เงียบสงัดจนผิดปกติ ไม่เหมือนที่พำนักของแม่ทัพใหญ่เลย

“ข้าฉือหลิน ผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพใหญ่มาขอพบท่านแม่ทัพซือ!”

แม้เขาจะเป็นคนของซือกวงหยวน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่ล่วงรู้เรื่องนี้เขาจึงต้องรักษามารยาท

ฉือหลินรออยู่ครู่หนึ่งแต่ไม่มีใครมาต้อนรับ ซึ่งไม่เหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เขามาเยือน แม่ทัพซือจะส่งคนมาต้อนรับทันที แต่ครั้งนี้รอนานเท่าไรกลับไม่มีเสียงตอบรับ

ขณะที่กำลังลังเล เงาหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้าเขา

ชายหนุ่มที่ปรากฏตัวนั้นเปิดเสื้อให้เห็นแผงอก มีกล้ามเนื้อดุจดั่งพยัคฆ์ ปกคลุมด้วยขนละเอียดให้ความรู้สึกดั่งเสือลงจากภูเขา แม้จะมีพลังเพียงระดับปรมาจารย์ปฐมภูมิขั้นห้า แต่ฉือหลินก็ยังคงระมัดระวังตัว

“เจ้าเป็นใคร?” เฉินหู่ถามด้วยท่าทีเรียบง่าย

“ข้าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของแม่ทัพใหญ่...”

ยังไม่ทันพูดจบ สายฟ้าสีแดงก็แวบผ่านเหนือศีรษะของฉือหลิน ก่อนที่เขาจะทันตั้งตัว ยันต์สร้างสัตว์ก็ถูกประทับลงบนร่างของเขา เทคนิคสังหารที่เคยใช้กับกู่เซียนจือคราวนี้ถูกนำมาใช้ที่นี่และจัดการผู้ฝึกตนระดับปรมาจารย์ปฐมภูมิขั้นเจ็ดผู้นี้ได้อย่างรวดเร็ว

ฉือหลินคาดไม่ถึงว่าตนเองจะต้องมาตายในสถานที่แห่งนี้ ด้วยวิธีเช่นนี้…

ทั้งที่เดินทางมาถึงภูเขาหยานอวิ๋นแล้ว

ทั้งที่ใกล้จะได้พบกับซือกวงหยวนแล้ว…

ฉือหลินมาถึงไว แต่ก็ตายเร็วเช่นกัน บรรดาสัตว์อสูรในสระวิญญาณฉางเกอได้ร่วมมือกันได้อย่างดีขึ้นเรื่อยๆอีกทั้งยังมีพลังเฉลี่ยในระดับกลางของปรมาจารย์ปฐมภูมิ ทำให้การต่อกรกับพวกปรมาจารย์ปฐมภูมิขั้นกลางหรือขั้นสูงเป็นเรื่องง่ายดาย

“อีกคนแล้ว ทำไมถึงมีคนมาหาเรื่องเรื่อยๆเลยนะ” เฉินหู่เกาศีรษะด้วยท่าทางงุนงง

เฉินซือและเฉินซีเดินเข้ามาดูร่างของฉือหลินที่กลายร่างกลับมาเป็นมนุษย์ พวกเขาทั้งสามต่างพากันเกาศีรษะ

“นี่เหมือนโยนเกี๊ยวลงหม้อเลย”

“ไม่ใช่แล้ว น่าจะเป็นเกี๊ยวหู่นโถวมากกว่า เจ้าดูนี่สิ ร่างเขาไม่มีเนื้อเลย”

“เรียกฉีเฉินมาดูไหม? เขาชอบสนใจศพพวกนี้”

“รีบไปสิ เดี๋ยวศพจะเย็นหมด”

เมื่อพูดจบเฉินซีลากศพของฉือหลินและดิ่งลงพื้นดินตรงไปยังภูเขาหยินเยว่เพื่อส่งให้ฉีเฉิน

“รายงานนายท่านดีไหม?” เฉินหู่หันไปถามเฉินสือ

“เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ข้าคิดว่าไม่จำเป็น”

“ข้าก็คิดอย่างนั้น นายท่านคงไม่สนใจเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้หรอก”

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนอกภูเขาหยานอวิ๋นนั้นเฉินโม่เห็นอยู่แล้ว แต่เช่นเดียวกับที่เฉินหู่กล่าว เขาไม่มีเวลาสนใจเรื่องจิปาถะเช่นนี้ คนของแม่ทัพใหญ่ที่ถูกส่งมาตายแล้วก็ตายไป

ในเมื่อจางเจี๋ยได้เริ่มการเคลื่อนไหวแล้ว อีกไม่นานผิงตูโจวก็คงจะกลายเป็นเกาะโดดเดี่ยว

เมื่อถึงเวลานั้น ผู้คนจากเป่ยโจวและจงโจวจะไม่สามารถเข้ามาได้และผู้คนจากผิงตูโจวก็ไม่สามารถออกไปได้

การเดินทางไปยังเมืองอื่นๆจะต้องข้ามผ่านผาหลิงศพแปดร้อย ซึ่งมีอันตรายไม่แพ้การเดินทางทางทะเล

สิ่งที่เฉินโม่ต้องทำตอนนี้ชัดเจนมาก

เริ่มต้นจากการทำไร่ เมื่อจางเจี๋ยทำลายค่ายกลส่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาจะขอให้หวงอวี้จัดการปัญหาที่เหลือทั้งหมด

เหล่าแม่ทัพยังเหลืออยู่สามคน เฉินโม่จึงไม่ได้รู้สึกรีบร้อน

หลังจากที่ฉือหลินเสียชีวิตผ่านไปสามวัน ภูเขาหยานอวิ๋นและภูเขาหยินเยว่ยังคงสงบ ไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใดๆราวกับว่าข่าวยังไม่แพร่กระจายไปถึงแม่ทัพคนอื่น เมือง หรือสำนักเซียนต่างๆ

แน่นอนว่าไม่มีใครล่วงรู้เรื่องนี้จริง ๆ

ในวันที่สี่ข้าววิญญาณที่ปลูกในไร่วิญญาณลับออกผลในที่สุด!

ต้นต้าโจวจำนวน 16 ต้น ให้ผลผลิตทั้งหมด 1,439 ผล!

เฉินโม่เก็บเกี่ยว 400 ผลและเก็บรักษาอย่างดี หากภายในสองปีปีศาจงูหรือหวงอวี้สามารถทะลุขั้นเปลี่ยนจิตได้ เขาจะมอบ 150 ผลให้พวกเขาเพื่อเพิ่มพลัง

หากทะลุขั้นไม่ได้ เขาก็จะพยายามหาทางขายผลเหล่านี้ หรือหากขายไม่ออกก็จะให้ผู้ฝึกตนที่ยังไม่บรรลุขั้นเปลี่ยนจิตใช้แทน

ส่วนผลอีกพันกว่าผล เฉินโม่ได้ใช้คาถาเพิ่มพลังชีวิตเปลี่ยนพวกมันเป็นเมล็ดวิญญาณและปลูกใหม่อีกครั้ง

จำนวนต้นที่ปลูกใหม่มี 100 ต้น

เพียงหนึ่งปีหลังจากนี้ เขาจะเก็บเกี่ยวผลต้าโจวได้ใกล้เคียงหมื่นผล!

ผลผลิตและประสิทธิภาพอันน่าทึ่งนี้คงใช้เวลาไม่นานนักในการเสริมพลังให้ทุกคนในภูเขามั่วไถได้เพิ่มพลังมากกว่าพันปี

ถึงตอนนั้นเพียงแค่เฉินหู่คนเดียวก็สามารถจัดการกับผู้ฝึกตนระดับปรมาจารย์ปฐมภูมิขั้นเจ็ดอย่างฉือหลินได้แล้ว

ในขณะที่เฉินโม่กำลังเพลิดเพลินกับการเก็บเกี่ยว แม่ทัพใหญ่เองก็กำลังรู้สึกถึงบรรยากาศเยือกเย็นเหมือนลมหนาว

ฉือหลินจากไปโดยไม่หวนกลับ นางหวั่นใจว่าคงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

และหากยังไม่มีใครหยุดจางเจี๋ย ค่ายกลส่งตัวในผิงตูโจวก็คงจะถูกทำลายจนหมดสิ้น!

เช่นนี้เขาจะต้องทำสำเร็จเป็นแน่แท้

“ให้ข้าไปคุยกับแม่ทัพที่ห้าดูไหม?”

เสียงแม่ทัพใหญ่ดังขึ้นจากด้านหลังโถง

“คุย? เขาจะยอมคุยกับเจ้าหรือ?”

“ข้าเป็นบุตรแห่งตระกูลจั่วชิว อย่างน้อยเขาก็ต้องให้ข้าสักหน่อยใช่หรือไม่?” จั่วชิวหรงลู่มองไปยังหลังโถงด้วยสายตาซับซ้อน

“แต่…”

“ไม่ต้องแต่แล้ว ขณะนี้ผิงตูโจวถูกปิดข่าว การตายของซือกวงหยวนยังไม่แพร่ไปถึงจงโจว เห็นชัดว่า จางเจี๋ยเตรียมพร้อมอย่างดี ขณะนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือท่านต้องทะลุขั้นโดยเร็ว!”

(จบบท)

1 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด