บทที่ 47 แพลตฟอร์มนวนิยายฟรี
หลินเย่มองไอคอนที่คุ้นเคยตรงหน้าด้วยแววตาประหลาดใจ
เขาคุ้นเคยกับนวนิยายฟรีของมะเขือเทศ (Tomato Free Novel หลังจากนี้ผมขอแทนว่าแพลตฟอร์มนวนิยายมะเขือเทศนะครับ) เป็นอย่างดี ในชาติที่แล้ว เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านนิยายบนแพลตฟอร์มนี้
ไม่ใช่ว่าแอปนี้ดีเลิศอะไร แต่เป็นเพราะนิยายทั้งหมดในแอปนี้ล้วนฟรี อ่านเรื่องไหนก็ได้ตามใจชอบ
แม้ว่าคุณภาพจะแย่มาก และถูกเพื่อนนักอ่านมากมายล้อเลียนว่าเป็นการขุดทองจากกองมูล แต่ก็นั่นแหละ อย่างน้อยมันก็ฟรีจริงๆ
ไม่เพียงเท่านั้น บางทียังสามารถหาเงินจากการอ่านนิยายได้ด้วยซ้ำ
บางครั้งก็ได้รับคูปองส่วนลดสำหรับซื้อหนังสือเล่มอื่นๆ จนสามารถซื้อได้ในราคาเพียงหนึ่งสตางค์
เขาเองก็เคยติดกับดักนี้มาแล้ว
ด้วยเหตุนี้ ภายในเวลาไม่กี่ปี จำนวนผู้ใช้งานประจำวันของนวนิยายฟรีมะเขือเทศ จึงแซงหน้าเตี้ยนเหนี่ยง (Dianniang) แพลตฟอร์มรุ่นพี่ไปได้
แม้ว่าอิทธิพลของนิยายจะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับวิดีโอสั้น แต่ถ้าพูดถึงระดับความเสียหายแล้ว ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย
เขายังจำได้ลางๆ ว่า ในชาติที่แล้ว เขาเริ่มอ่านนิยายตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมต้น ตอนนั้นยังอ่านนิยายแบบรูปเล่มอยู่เลย ต่อมาก็พัฒนาเป็นอีบุ๊ก
ตอนแรกผลการเรียนของเขาก็จัดอยู่ในระดับต้นๆ แต่หลังจากอ่านนิยายไปสองปี ผลการเรียนของเขาก็ตกต่ำ จนเกือบสอบเข้ามัธยมปลายไม่ติด
โชคดีที่ตอนเรียนมัธยมปลาย เขาได้สติกลับมาทันเวลา และพยายามอ่านให้น้อยลง มิฉะนั้นเขาคงต้องไปทำงานขันน็อตในโรงงานอิเล็กทรอนิกส์แน่ๆ
สาเหตุหนึ่งที่มันส่งผลกระทบต่อชีวิตเขามากขนาดนี้ ก็เป็นเพราะมันทำให้ติดงอมแงม บางครั้งก็เผลออ่านจนลืมเวลา รู้ตัวอีกทีก็เช้าแล้ว
อีกสาเหตุหนึ่งก็คือ นิยายส่วนใหญ่ไม่มีแก่นสาร และบ่อนทำลายสติปัญญา การอ่านนิยายมากเกินไปสามารถทำลายสมองได้อย่างง่ายดาย สมองของเขาก็เลยกลายเป็นแบบนี้
แต่ข้อเสียเหล่านี้ ในตอนนี้ได้กลายเป็นข้อดีไปเสียแล้ว
ในตอนนี้ ติ๊กต๊อกมียอดผู้ใช้หลายสิบล้านคน แต่เวลาเฉลี่ยที่ใช้งานต่อวันกลับมีเพียง 12 ชั่วโมงเท่านั้น
นั่นหมายความว่า ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีวินัยในตัวเองสูงมาก และใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของวันไปกับการฝึกฝน แบบนี้มันได้เหรอ?
"ต้องทำให้พวกเขาใช้เวลาทั้งหมดไปกับโทรศัพท์มือถือ ต้องทำให้พวกเขาเข้าใจว่า การฝึกฝนนั้นไม่สนุกเท่ากับการเล่นโทรศัพท์"
"แต่ไม่รู้ว่าในนวนิยายฟรีมะเขือเทส จะมีนิยายอยู่บ้างไหมนะ หรือว่าจะเป็นเหมือนกันกับติ๊กต๊อก"
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หลินเย่ก็รู้สึกใจคอไม่ดี เขารีบเปิดแอปพลิเคชันนวนิยายฟรีมะเขือเทศในโทรศัพท์
ทันทีที่เห็น เขาก็รู้สึกใจหายวาบ อินเทอร์เฟซหลักที่ควรจะเต็มไปด้วยนิยายมากมาย กลับว่างเปล่า
"อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด แอปพลิเคชันนิยายที่ไม่มีนิยาย มันจะไปมีประโยชน์อะไร"
"ให้ข้าเขียนเองก็ไม่ได้ ให้คนในโลกนี้เขียนก็ไม่น่าจะได้ เพราะการแต่งนิยายมันยากกว่าการทำวิดีโอสั้นตั้งเยอะ"
"ช่างเถอะ ลองดูก่อนก็แล้วกัน เผื่อว่าในโลกนี้จะมีคนที่เก่งเรื่องแต่งนิยายอยู่บ้าง"
หลังจากนั้น เขาก็เริ่มค้นหาในแอปพลิเคชัน และในที่สุดก็พบกับศูนย์กลางการสร้างสรรค์ผลงานส่วนบุคคลบนหน้าแรก
หลังจากลงทะเบียนนามปากกาให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว อินเทอร์เฟซก็เปลี่ยนไปทันที
"หืม? นี่มันไม่ใช่โปรแกรมช่วยเขียนของแพลตฟอร์มเหรอ? ทำไมถึงรวมเข้ามาอยู่ในนี้ด้วย สะดวกดีนี่"
ในชาติที่แล้ว เขาก็เคยลองแต่งนิยายลงในนวนิยายฟรีมะเขือเทศเหมือนกัน แต่เพราะไม่เข้าใจกฎเกณฑ์และเทคนิคต่างๆ สุดท้ายก็ทำงานหนักอยู่หลายเดือน แต่ก็ยังไม่สามารถถอนเงินสดได้
แต่ในชาตินี้แตกต่างออกไป เพราะเขาไม่จำเป็นต้องเขียนเอง แค่ก็อปนิยายออนไลน์สุดคลาสสิกจากชาติที่แล้วมาลงก็พอแล้ว
สัประยุทธ์ทะลุฟ้า, ก้าวข้ามลิขิตสวรรค์, ปกครองฟ้าดิน, ดินแดนศักดิ์สิทธิ์, กระบี่พิโรธกลางหิมะ
(Fight to break the sphere, swallow the stars, cover the sky, the holy ruins, and move with fierce swords in the snow.)
ไม่มีใครในโลกนี้รู้หรอกว่านิยายเหล่านี้เป็นของที่เขาลอกเลียนแบบมา และจะไม่มีใครฟ้องร้องเขาเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ด้วย
ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังครุ่นคิดอย่างหนัก ขณะมองไปที่อินเทอร์เฟซการสร้างสรรค์ที่ว่างเปล่าตรงหน้า
"ให้ตายเถอะ จำได้แค่พล็อตคร่าวๆ ของนิยายส่วนใหญ่เท่านั้น ไม่ได้จำรายละเอียดทั้งหมดเอาไว้เลย"
"ไม่ได้ คนที่ทะลุมิติมาในชาติที่แล้ว พวกนั้นก็แค่ก็อปนิยายของคนอื่นมาลงแบบชิลๆ ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงจำเนื้อเรื่องได้ทั้งหมดนะ คิดสิ คิดสิ ต้องมีวิธีสิ"
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็มีแสงสว่างวาบขึ้นมาในหัว
"จริงสิ! ถ้าจำไม่ผิด สำนักมารมีวิชาลับอยู่วิชาหนึ่ง ชื่อว่า เทคนิคค้นวิญญาณ สามารถปลุกความทรงจำทั้งหมดที่ฝังอยู่ในสมองของคนๆ หนึ่งได้ รวมถึงความทรงจำที่ถูกลืมเลือนไปนานแล้วด้วย"
"ความทรงจำของข้าน่าจะยังคงถูกเก็บไว้ในสมอง เพียงแต่ถูกบีบอัด และปิดผนึกเอาไว้ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้งานแล้ว ตราบใดที่ใช้เทคนิคค้นวิญญาณกับตัวเอง ก็สามารถขุดคุ้ยความทรงจำทั้งหมดจากชาติที่แล้วออกมาได้"
ว่าแล้วเขาก็ลงมือทำทันที เขานั่งไขว่ห้างบนเตียง ยื่นมือขวาออกไปปิดหน้าผาก
เทคนิคค้นวิญญาณทำงานทันที และภายใต้อิทธิพลของพลังพิเศษ ภาพชีวิตทั้งหมดก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาหลินเย่
ไม่ว่าจะเป็นชาติที่แล้วหรือชาตินี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเคยพบเจอ ล้วนปรากฏขึ้นมาโดยไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่เรื่องบางเรื่องที่ถูกลืมเลือนไปนานแล้ว หรือแม้แต่ภาพบางภาพที่เขาแค่เหลือบมองผ่านๆ ก็ยังคงปรากฏขึ้นมา
ในตอนนี้ เขาเห็นภาพในชาติที่แล้วตอนที่เขาเพิ่งเกิด เห็นภาพในชาติที่แล้วตอนที่เขาเรียนอยู่ชั้นประถม เห็นภาพในชาติที่แล้วตอนที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัย แม้แต่คำตอบของข้อสอบแต่ละข้อเขาก็ยังจำได้
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงนิยาย และละครโทรทัศน์บางเรื่องจากชาติที่แล้ว
เมื่อเทคนิคค้นวิญญาณสิ้นสุดลง หลินเย่ก็รู้สึกได้ทันทีว่ามีข้อมูลมากมายถูกบรรจุเข้ามาในสมอง โชคดีที่สมองของเขาวิวัฒนาการไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถจุข้อมูลมากมายขนาดนี้ได้แน่ๆ
เมื่อสัมผัสได้ถึงความทรงจำที่เพิ่มขึ้นมา เขาก็ดีใจอย่างมาก
"เยี่ยมไปเลย! จำนิยายทั้งหมดที่เคยอ่านในชาติที่แล้วได้หมดเลย ไม่ตกหล่นแม้แต่คำเดียว ขอแค่มีเวลาให้ข้า ข้าย้ายนิยายทั้งหมดมาลงได้แน่"
"แล้วนิยายเรื่องแรก ควรจะลงเรื่องไหนดี"
"สัประยุทธ์ทะลุฟ้าหรือ? ไม่ ไม่ ไม่ การอ่านนิยายออนไลน์ต้องค่อยเป็นค่อยไปสิ จะไปเพิ่มระดับความสนุกให้มากเกินไปในคราวเดียวไม่ได้"
"เอาล่ะ เริ่มจากเรื่องนี้ก็แล้วกัน"
เมื่อตัดสินใจได้แล้ว เขาก็เปลี่ยนโหมดแป้นพิมพ์ของโทรศัพท์มือถือเป็นโหมดป้อนข้อมูลทางจิตวิญญาณทันที โดยใช้จิตสำนึกของตัวเองเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถป้อนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่คิดในใจ
ภายใต้การควบคุมของจิตสำนึก บรรทัดข้อความก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจออย่างรวดเร็ว
ในอดีตกาล สวรรค์ยังมืดมัว แผ่นดินไร้ซึ่งแสงสว่าง บรรยากาศเต็มไปด้วยความมืดมน ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตใดอาศัย
จวบจนพระเจ้า "ผานกู่" ทรงเล็งเห็นความทุกข์ยากของมวลมนุษย์ จึงทรงใช้ขวานคู่กาย ผ่าท้องฟ้าแยกออกจากพื้นดิน
...
ถูกต้องแล้ว สำหรับนิยายเรื่องแรก เขาเลือกผลงานชิ้นเอกสุดคลาสสิกจากชาติที่แล้ว นั่นก็คือ ไซอิ๋ว
เหตุผลที่เลือกนิยายเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเนื้อหาในนิยายน่าสนใจมากพอ และอีกส่วนหนึ่งก็เพราะนิยายเรื่องนี้ค่อนข้างสอดคล้องกับสถานการณ์ในทวีปเทียนหยวน
ในไซอิ๋วมีเซียน ในทวีปเทียนหยวนก็มีเซียนเช่นกัน ในไซอิ๋วมีปีศาจ ในทวีปเทียนหยวนก็มีปีศาจเช่นกัน
เขาแค่ต้องเพิ่มเนื้อหาที่เข้ากับท้องถิ่นเข้าไปเล็กน้อยก็พอ
ด้วยความช่วยเหลือของโหมดป้อนข้อมูลทางจิตวิญญาณอันทรงพลัง เขาสามารถป้อนข้อมูลได้ถึง 200,000 คำ ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ด้วยความเร็วนี้ ไซอิ๋วทั้งเรื่องคงใช้เวลาเขียนไม่เกินสองถึงสามชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม เขาหยุดพิมพ์หลังจากอัปโหลดไปได้ 300,000 คำ
"อัปโหลดทีเดียวหมดไม่ได้ ต้องให้พวกนี้ได้สัมผัสกับความรู้สึกของการรอคอยบทต่อไป"
หลังจากพูดจบ เขาก็หยุดพิมพ์ และหลังจากใช้ฟังก์ชันสร้างหน้าปกของโปรแกรมช่วยเขียน ในการสร้างหน้าปกสำหรับไซอิ๋วเรียบร้อยแล้ว เขาก็อัปโหลดนิยายทั้งเรื่องทันที