บทที่ 34 ขจัดความอยุติธรรม
บทที่ 34 ขจัดความอยุติธรรม
ในตอนนั้นเอง ทุกอย่างก็เงียบสงบลง
ทุกคนมองไปที่รูปปั้นหยกสีขาว พวกเขาพูดไม่ออก
หวังเฉิงไห่ลูบท้องของตัวเอง
เขารีบวิ่งเข้ามาตรวจสอบรูปปั้นของเย่เหริน
เขาตบต้นขาอย่างโมโห
“ฮั่นฉุน นี่นายรู้รึเปล่าว่านายทำอะไรลงไป? นี่นายกำลังฆ่าคน นายกำลังฆ่าคน!!”
หวังเฉิงไห่ไม่คิดเลยว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะเป็นแบบนี้
ตอนนี้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากเขารู้ล่วงหน้า เขาก็คงจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องยุ่งยากแบบนี้
หวังเฉิงไห่ได้แต่สบถด่าฮั่นฉุนในใจ
คำพูดของหวังเฉิงไห่ ‘นายกำลังฆ่าคน’
มันทำให้ทุกคนในที่นั้นตกใจ
นักเรียนมองดูทั้งหมดนี้ด้วยความหวาดกลัว
ถ้าหากเป็นแค่การทะเลาะวิวาทก็คงจะไม่เป็นไร แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นการฆาตกรรม
ยิ่งไปกว่านั้นครูในโรงเรียนยังฆ่าครูอีกคน
เรื่องนี้คงจะใหญ่โตมากแน่
ฮั่นฉุนเก็บงำพลังของตัวเองกลับไป เขากลับสู่ร่างเดิม
ตอนนี้เขารู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็สงบสติอารมณ์ลง
เขาพูดออกมาอย่างเย็นชา
“ฆาตกรรมงั้นเหรอ? รองผู้อำนวยการหวัง ท่านไม่ควรจะพูดแบบนั้นออกมานะ”
“นี่นาย...” หวังเฉิงไห่ได้ยินคำพูดของฮั่นฉุน ดวงตาของเขาก็แทบจะถลนออกมา
เขาไม่คิดเลยว่าฮั่นฉุนจะหน้าด้านขนาดนี้
ฮั่นฉุนเดินไปหาเย่เหรินอย่างใจเย็น
เขาพูดกับหวังเฉิงไห่ “เห็นได้ชัดว่าตอนที่ผมกำลังแลกเปลี่ยนทักษะกับครูเย่ ครูเย่จงใจยั่วยุผม มันทำให้ผมควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ มันเป็นอุบัติเหตุก็เท่านั้น ผมไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขาซะหน่อย”
“อาจารย์หวัง ท่านต้องเป็นพยานให้ผมนะ!!!”
“ควบคุมพลังไม่ได้...” หวังเฉิงไห่พูดตามฮั่นฉุน
การสูญเสียการควบคุมพลังวิเศษ เป็นอาการป่วยทางจิตที่เกิดขึ้นหลังจากที่พลังวิเศษตื่นขึ้น เมื่อผู้ป่วยประเภทนี้ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง พวกเขาก็จะควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ มันจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้
โดยทั่วไปแล้ว ฝ่ายกำกับดูแลจะไม่เอาผิดกับผู้ป่วยทางจิตประเภทนี้ นี่คือการปกป้องผู้ป่วยทางจิต
ตอนนี้ฮั่นฉุนกำลังโทษทุกอย่างไปที่อาการป่วย
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังหาข้ออ้างให้กับตัวเอง
“าจารย์หวัง ท่านก็รู้นี่ครับว่าตอนที่ผมเลื่อนขั้นเป็นแพลทินัม มีปัญหาเกิดขึ้น”
“ถึงแม้ว่าตอนนั้นผมจะบอกว่าผมไม่เป็นไร แต่จริงๆ แล้วผมแอบไปหาหมอ นี่คือสัญญาณของการสูญเสียการควบคุมพลังวิเศษ ถ้าหากท่านไม่เชื่อ ผมจะกลับไปเอาใบรับรองแพทย์มาให้ดูเอง”
ฮั่นฉุนพูดจบก็แกล้งทำเป็นร้องไห้
“จริงๆ แล้วผมไม่อยากจะปิดบังทุกคนเลย แต่ผมกลัวว่าทางโรงเรียนจะไล่ผมออก เพราะผมควบคุมพลังไม่ได้ อาจารย์หวัง ท่านก็รู้นี่ครับว่าผมชอบนักเรียน ผมอยากจะทำอะไรบางอย่างเพื่อโรงเรียน”
ฮั่นฉุนพูดไปก็เริ่มสะอื้น
ทุกคนในที่นั้นต่างก็ตกตะลึง แม้แต่หวังเฉิงไห่ที่เจ้าเล่ห์ก็ยังตกตะลึง
แต่หลังจากที่วิเคราะห์ข้อดีข้อเสียแล้ว หวังเฉิงไห่ก็เลือกที่จะเข้าข้างฮั่นฉุน
ถ้าหากฮั่นฉุนฆ่าเย่เหรินด้วยความโกรธ เขาก็คงจะต้องถูกมองว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด และจะต้องถูกลงโทษสถานหนัก
แต่ตอนนี้ฮั่นฉุนบอกว่าเขาฆ่าคนตายโดยไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นเพราะอาการป่วยทางจิต
เขายังยอมรับว่าทำไมเขาถึงปิดบังอาการป่วย
ถ้าหากเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง
อย่างมากเขาก็แค่โดนตำหนิที่ไม่สนใจสุขภาพจิตของครูผู้สอน
บทลงโทษไหนร้ายแรงกว่ากัน? หวังเฉิงไห่รู้ดี
หวังเฉิงไห่มองฮั่นฉุน
ฮั่นฉุนสามารถหาข้ออ้างได้ในเวลาคับขันแบบนี้ แถมยังแสดงละครเก่งอีก
ถึงแม้ว่านิสัยของเขาจะแย่ก็ตาม
แต่ความสามารถในการแก้ปัญหาแบบนี้ ถือว่าเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่ง
หวังเฉิงไห่เดินเข้าไปหาฮั่นฉุนที่กำลังสะอื้นไห้ เขาตบไหล่ของฮั่นฉุน
ฮั่นฉุนเช็ดน้ำตา เขาพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น
“ผมขอโทษครับ อาจารย์หวัง ผม...ผม...ผมไม่คิดเลยว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ ผมสมควรตาย ผมคือฆาตกร”
ยิ่งฮั่นฉุนพูด เขาก็ยิ่งดูตื่นเต้น สุดท้ายแล้วเขาก็ยกมือขึ้น ร้องขอหวังเฉิงไห่
“อาจารย์หวัง จับกุมผมเถอะครับ ให้อาจารย์หวังและฝ่ายกำกับดูแลลงโทษผมเถอะ ผม...ผมยอมตายแทนครูเย่”
หวังเฉิงไห่เห็นฮั่นฉุนแสดงละครเก่งขนาดนี้ เขาจะไม่เข้าใจความคิดของฮั่นฉุนได้ยังไง?
หวังเฉิงไห่มองฮั่นฉุนอย่างเศร้าใจ เขาถอนหายใจเบาๆ
“เฮ้อ ลุกขึ้นเถอะ ครูฮั่น นายไม่ได้ทำผิด มันเป็นความผิดของพวกเราเอง ที่ไม่ได้ตรวจสอบพลังวิเศษให้ดี”
สุดท้ายแล้วเขาก็มองไปที่รูปปั้นหยกของเย่เหริน เขาส่ายหัวอย่างเศร้าใจ
“น่าเสียดายจริงๆ ครูเย่ ใครจะไปคิดล่ะว่า ครูที่แสนธรรมดาอย่างเขา จะทำผลงานได้ดีขนาดนี้ น่าเสียดายที่เขาอยากจะพิสูจน์ตัวเองมากเกินไป มันเลยทำให้เขาเจอกับเรื่องแบบนี้ ทุกอย่างมันคือโชคชะตา”
พวกเขาทั้งสองคนร่วมมือกัน
พวกเขาพยายามบิดเบือนความจริง
แต่ความยุติธรรมนั้นอยู่ในใจของทุกคน
นักเรียนห้อง 2 มองดูคนทั้งสองคน ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
โดยเฉพาะหวังดาชุน
เขาไม่สนใจบาดแผลบนร่างกาย เขาวิ่งไปหาเย่เหริน เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
หวังดาชุนผู้ซึ่งมีนิสัยซื่อตรง
ตอนนี้เขากำลังชี้ไปที่หวังเฉิงไห่และฮั่นฉุน
“พวกแกยังมีหน้ามาพูดเรื่องเหตุผลอีกเหรอ? ไอ้สารเลวนั่นต่างหากที่ฆ่าครูเย่ เขาคือฆาตกร!!! ฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!!”
คำพูดของหวังดาชุนทำให้เกิดความโกลาหล
นักเรียนห้อง 2 ต่างก็ตะโกนตามหวังดาชุน
“ฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!”
“ฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!”
“ฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!”
.......
เสียงตะโกนกึกก้องไปทั่วทั้งโรงอาหาร
นักเรียนห้อง 2 รวมพลังกัน
หวังเฉิงไห่เห็นแบบนั้น เขาก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“หุบปาก!!!!”
เสียงคำรามของหวังเฉิงไห่ผสานกับออร่าระดับทองขั้นปลาย
นักเรียนทุกคนต่างก็ตกตะลึง
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกแก”
หวังเฉิงไห่มองนักเรียนด้วยความรังเกียจ
“พวกแกมันก็แค่ขยะที่กำลังจะถูกกำจัด ทำไมไม่คิดที่จะพัฒนาตัวเองกันล่ะ? ยังมีเวลามายุ่งเรื่องของคนอื่นอีกเหรอ?”
“ฉันจะนับถึงสาม ใครก็ตามที่ยังไม่ออกไปจากที่นี่ ฉันจะหักคะแนนการประเมินผลปลายภาคสามคะแนน!!!”
ห้อง 1/2 คือห้องเรียนที่แย่ที่สุด นักเรียนทุกคนมีคะแนนต่ำ
ถ้าหากถูกหักคะแนนอีกสามคะแนน พวกเขาก็อาจจะถูกไล่ออก
หวังเฉิงไห่คิดว่าเขาเข้าใจจุดอ่อนของนักเรียนพวกนี้ เขากำลังข่มขู่ทุกคน
“สาม!!!”
“สอง!!!”
“หนึ่ง!!!”
หวังเฉิงไห่นับเลขเสร็จ
แต่นักเรียนเหล่านั้นก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิม
ไม่มีใครยอมจากไป
ตอนนี้นักเรียนทุกคนต่างก็จ้องมองหวังเฉิงไห่
“โรงเรียนบ้าๆ!!! คืนชีวิตครูเย่มา!!!”
“คืนชีวิตครูเย่มา!!!”
“ฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!!”
“ฆ่าคนตายต้องชดใช้ด้วยชีวิต!!!”
ความโกรธแค้นของนักเรียนระเบิดออกมาอีกครั้ง
พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าเย่เหริน
พวกเขาใช้ร่างกายที่อ่อนแอของตัวเองปกป้องเย่เหรินเอาไว้