บทที่ 32 ดูวิธีการฝึกสุนัขของครูเอาไว้ให้ดี
บทที่ 32 ดูวิธีการฝึกสุนัขของครูเอาไว้ให้ดี
ไม่เพียงแต่ฮั่นฉุนเท่านั้นที่ตกตะลึง
คนอื่นๆ ที่อยู่ที่นั่นก็ตกตะลึงเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? ฉันมองไม่ผิดใช่รึเปล่า? ครูเย่ตบหน้าไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอกนั่น? แถมยังตบดังอีกต่างหาก”
“ไม่นะ...นี่มันเป็นไปได้ยังไง? นิสัยของเขาแย่ก็จริง แต่พลังของเขาก็เป็นถึงระดับแพลทินัมเลยนะ?”
“เมื่อกี้ครูเย่ยังจัดการกับผู้มีพลังระดับทองได้สี่คน นั่นก็โคตรน่ากลัวแล้ว แต่ตอนนี้...ตอนนี้เขากลับตบหน้าผู้มีพลังระดับแพลทินัม?”
“นี่ฉันฝันไปรึเปล่า?”
“สะใจจริงๆ!!!”
“ทำได้ดีมาก ฉันไม่ชอบขี้หน้าไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอกนั่นมานานแล้ว!!!”
“ฉันว่า ในระดับชั้นนี้ ไม่มีใครทำได้ดีไปกว่าครูเย่แล้วล่ะ”
“ครูเย่ไปฝึกฝนมาจากไหนกัน? ทำไมเขาถึงได้แข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้? ก่อนหน้านี้เขาเป็นแค่ผู้มีพลังระดับเงินไม่ใช่เหรอ?”
“นี่แหละที่เขาเรียกว่าแกล้งโง่ นายไม่เข้าใจหรอก!!!”
“ครูเย่สุดยอด!!!”
“ใครก็ตามที่บอกว่าครูเย่คือคนไร้ประโยชน์ ฉันจะต่อยมันให้ฟันร่วงเอง!!”
นักเรียนห้อง 2 ต่างก็ตกตะลึง พวกเขารู้สึกดีใจมาก
ใครบ้างล่ะที่ไม่อยากให้อาจารย์ของตัวเองเก่งกาจที่สุดในโลก?
ไม่สิ จริงๆ แล้วไม่แปลกหรอกที่ทุกคนจะตกใจขนาดนี้
ความแข็งแกร่งของผู้มีพลังระดับแพลทินัมนั้นแตกต่างจากระดับอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง
ผู้มีพลังระดับแพลทินัม ถือว่าเป็นผู้มีพลังระดับปรมาจารย์ไปแล้วครึ่งก้าว
ถ้าหากคนระดับต่ำกว่าแพลทินัมยังคงเดินตามรอยเท้าของรุ่นก่อนอยู่
ผู้มีพลังระดับแพลทินัมจะเริ่มเข้าใจกฎเกณฑ์ และพยายามที่จะเดินในเส้นทางของตัวเอง พวกเขาสามารถสอนคนอื่นได้
นี่คือเหตุผลที่สถาบันเกาอู่แห่งมหานครเวทมนตร์อนุญาตให้ผู้มีพลังระดับแพลทินัมขึ้นไป สามารถรับศิษย์สายตรงได้
กล่าวโดยสรุปก็คือผู้มีพลังระดับแพลทินัมสามารถเอาชนะผู้มีพลังระดับต่ำกว่าแพลทินัมได้อย่างง่ายดาย
แม้แต่จางเหอตง อสูรกายระดับ S
เขายังเคยพ่ายแพ้ให้กับผู้มีพลังระดับแพลทินัมมาแล้ว
พรสวรรค์ระดับ S ก็ยังไม่สามารถทดแทนความแข็งแกร่งได้
แต่ตอนนี้
เย่เหรินยังไม่ได้เดินในเส้นทางของตัวเอง เขายังไม่ใช่ผู้มีพลังระดับแพลทินัมอย่างแน่นอน
แต่เขากลับสามารถตบหน้าผู้มีพลังระดับแพลทินัมที่กำลังตั้งท่าได้
เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันช่างเหลือเชื่อ...
“แก...นี่มันเป็นไปได้ยังไง?!” ฮั่นฉุนเอามือปิดหน้า เขาพยายามลดอาการบวม เขามองเย่เหรินอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ฮั่นฉุนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
“เย่เหริน นี่นายรู้รึเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?!” หวังเฉิงไห่ที่ยืนอยู่ด้านข้างชี้ไปที่เย่เหรินอย่างโกรธๆ
เย่เหรินไม่สนใจหวังเฉิงไห่ เขาพูดเบาๆ
“หากพูดอีกคำ ฉันจะตบนายด้วย”
“นี่แก...” หวังเฉิงไห่ชี้ไปที่เย่เหรินด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่จะเงียบ
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการก็ตาม แต่เขาก็เป็นได้แค่คนที่อายุเยอะ เขาไม่เก่งเรื่องการต่อสู้
ในเมื่อผู้มีพลังระดับแพลทินัมยังแพ้ แล้วเขาจะไปสู้ได้ยังไง?
จากนั้นเย่เหรินก็เดินไปหาหวังดาชุนที่ถูกฮั่นฉุนทำร้าย
เขาพยุงหวังดาชุนขึ้น ก่อนจะปัดเศษหินที่อยู่บนตัวของหวังดาชุน
“ดาชุน ฉันสอนนายเสมอว่าให้เป็นคนที่ใจดี ฉันดีใจมากนะที่นายเชื่อฟังฉัน แต่ฉันไม่ชอบการกระทำของนายในวันนี้จริงๆ”
หวังดาชุนมองเย่เหริน เขาเกาหัวอย่างซื่อสัตย์ “ผมขอโทษครับครูเย่ ผมทำให้ครูเดือดร้อน”
เย่เหรินโบกมือ “การปกป้องลูกศิษย์คือหน้าที่ของครู ไม่ต้องพูดถึงเรื่องเดือดร้อนหรอก”
จากนั้นเย่เหรินก็ชี้ไปที่ฮั่นฉุน “ฉันผิดเองแหละ ฉันสอนนายให้รู้จักปฏิบัติกับคน แต่ไม่ได้สอนให้รู้จักปฏิบัติกับหมา”
ฮั่นฉุนที่ได้ยินเย่เหรินเรียกเขาว่าหมา
ฮั่นฉุนเริ่มตั้งสติได้ ดวงตาของเขาเปลี่ยนไปเป็นสีแดง
คนอย่างฮั่นฉุน ไม่เคยโดนใครรังแกมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังโดนครูห้องเรียนห่วยๆ รังแกต่อหน้าคนมากมายแบบนี้???
ตอนนี้ฮั่นฉุนโกรธมาก “เย่เหริน นี่แกอยากตายรึไง!!!”
ออร่าของฮั่นฉุนแผ่กระจายออกไป
ออร่าอันทรงพลังนั้นทำให้นักเรียนทั้งหลายต้องถอยห่าง
สิงโตสีขาวราวกับหิมะปรากฏขึ้นด้านหลังฮั่นฉุน ดวงตาของมันเบิกกว้างด้วยความโกรธ จิตสังหารอันรุนแรงทิ้งร่องรอยเอาไว้บนพื้นดิน
พลังแปลงร่างระดับ A สิงโตหยกขาว
หนึ่งในสัตว์อสูรระดับ A ที่แข็งแกร่งที่สุด พละกำลังของมันไม่ด้อยไปกว่าหมูจอมเขมือบ
พรสวรรค์ติดตัวคือสัมผัสแห่งหยก มันสามารถเปลี่ยนวัตถุที่สัมผัสให้กลายเป็นหยกได้
เมื่อพรสวรรค์ติดตัวถูกเปิดใช้งาน
แขนและขาของศัตรูจะกลายเป็นหยก
พลังแปลกประหลาดนี้ควบคู่ไปกับพละกำลังอันมหาศาลของสัตว์อสูรระดับ A
การต่อสู้ระยะประชิดกับสิงโตหยกขาวคือฝันร้ายของศัตรู
ฮั่นฉุนควบคุมสิงโตหยกขาวให้กลายร่างเป็นเขา
ร่างกายของฮั่นฉุนใหญ่โตขึ้น
กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งของเขามีพลังระเบิดอันมหาศาลซ่อนอยู่ ดวงตาสีแดงของเขาเปล่งประกายจิตสังหารออกมา
“แกจะต้องเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแน่” ฮั่นฉุนพูดจบ เขาก็เดินเข้าหาเย่เหริน ราวกับนักล่าที่กำลังจ้องมองเหยื่อ
ฮั่นฉุนพุ่งเข้าหาเย่เหรินด้วยความโกรธ แต่เย่เหรินที่ตกเป็นเป้าโจมตีกลับดูสงบนิ่ง
เขาชี้ไปที่ฮั่นฉุนที่กำลังโกรธ เขาพูดกับหวังดาชุน “จำที่ฉันเคยสอนนายเอาไว้สิ เวลาเจอหมาที่กำลังเห่า มีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่นายต้องทำ...”
เย่เหรินมองฮั่นฉุน ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“ตีมัน จนกว่ามันจะยอม”
ในตอนนั้นเอง
ออร่าของเย่เหรินก็แผ่กระจายออกไป มังกรดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นรอบๆ ตัวเขา
“โฮรก!!!” มังกรดำคำรามใส่สิงโตหยกขาว
ออร่าของทั้งสองปะทะกัน
ไม่แพ้กัน!!!
สงครามกำลังจะเริ่มต้นขึ้น!!!
“โอ้ พระเจ้า ครูเย่บ้าไปแล้วรึไง? เขากล้าต่อกรกับฮั่นฉุน?”
“แพลทินัมสู้กับทอง...ครูเย่ไม่รอดแน่!!”
“แย่แล้ว รีบไปตามคนมาช่วยเร็วเข้า!”
“ไปตามครูใหญ่เลอมาเร็ว!!!”
“ใช่ๆ ไปตามครูใหญ่เลอมาเร็ว”
หลี่มู่หรันรีบวิ่งไปที่สำนักงานวิชาการ
นักเรียนห้อง 2 ต่างก็เป็นห่วงเย่เหริน
“เย่เหริน แกมันหาเรื่องใส่ตัวเอง!!!”
ฮั่นฉุนไม่เข้าใจ ทำไมเย่เหรินที่เป็นถึงผู้มีพลังระดับทอง
ถึงได้กล้าท้าทายเขา?
แต่ไม่เป็นไร มันก็แค่เรื่องบังเอิญ
ครั้งนี้เขาจะต้องทำให้เย่เหรินกลายเป็นขยะต่อหน้าลูกศิษย์ของเย่เหรินให้ได้!!!
ดวงตาของฮั่นฉุนเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขากำลังคิดที่จะฉีกเย่เหรินเป็นชิ้นๆ
“ฉันไม่ชอบรังแกเด็กๆ ก็จริง”
เย่เหรินมองฮั่นฉุน เขายังคงสงบนิ่ง
เขาเดินไปข้างหน้า มองสิงโตหยกขาว
“ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะจัดการกับนักเรียนพวกนั้นยังไง เพราะคนที่ยอมรับความจริง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนไม่ดี”
“ฉันคิดอยู่นาน สุดท้ายแล้วก็พบว่ามีเพียงแค่สัตว์ร้ายอย่างแกเท่านั้นแหละ ที่สามารถบังคับให้นักเรียนใช้วิธีสกปรกแบบนั้นได้”
เย่เหรินโบกมือให้หวังดาชุน
“ถอยไป มองดูวิธีการฝึกสุนัขของครูเอาไว้ให้ดี”