ตอนที่แล้วบทที่ 137 เชิญคนฉายหนัง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 139 แบ่งเนื้อไปที่โรงเรียน

บทที่ 138 กระดูกหมู


วันศุกร์มาถึงอย่างรวดเร็ว โจวอี้หมินจึงให้โจวต้าจงช่วยขนของกลับไปที่หมู่บ้านโจว มีหมูครึ่งตัว เนื้อวัว 60 ชั่ง ปลาสามถัง กุ้ง 100 ชั่ง และกระดูกหมูสองถุงใหญ่

หมูครึ่งตัวนี้เป็นหมูที่ตัวใหญ่แข็งแรง น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 ชั่ง

โจวต้าจงช่วยยกขึ้นมาก็รู้ทันทีว่าน้ำหนักราว 120 ชั่ง

“ไป่ต้าว นายก็ช่วยขนด้วยนะ เอากระดูกหมูสองถุงไปส่งที่โรงอาหารหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านได้ดื่มน้ำซุปกัน

ส่วนหมูครึ่งตัวนี้ แบ่งครึ่งให้โรงเรียน ให้ทางโรงเรียนทำอาหารเพิ่มหน่อย ให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปีสามารถไปกินข้าวได้สักชามสองชาม” โจวอี้หมินสั่ง

“ได้เลย!” หลัวไป่ต้าวตอบพร้อมพยักหน้า แล้วก็ออกไปเช่ารถสามล้อกลับมา

“แล้วฉันล่ะ?” หลี่โหยวเต๋อถาม

โจวอี้หมินไม่เกรงใจ ตอบทันทีว่า “นายไปยืมจักรยานมาสักคัน แล้วช่วยขนเครื่องปั่นไฟไปที่หมู่บ้านโจว คืนนี้เราจะฉายหนัง ฉันติดต่อคนฉายหนังเรียบร้อยแล้ว”

ทุกคนได้ยินก็อึ้งไป นี่มันงานฉลองวันเกิดครบ 60 ปีที่จัดเต็มจริง ๆ

สุดยอดจริงๆ โจวอี้หมิน!

“ได้เลย!” หลี่โหยวเต๋อรีบไปยืมจักรยานทันที

พอหลี่โหยวเต๋อยืมจักรยานมาได้ โจวอี้หมินก็พาเขาไปที่บ้านลู่กั๋วฝู ลู่กั๋วฝูก็ขนเครื่องปั่นไฟดีเซลขนาดเล็กออกมาผูกกับที่จับของจักรยาน

“โหยวเต๋อ ขี่ช้าๆหน่อย อย่าให้มันพังนะ” โจวอี้หมินเตือน

ลู่กั๋วฝูหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร ของแบบนี้ไม่พังง่าย ๆ หรอก”

เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันหล่นกระแทกพื้นไปแล้วกี่ครั้ง เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ฉายหนัง เครื่องปั่นไฟนี้ถือว่าทนทานที่สุดแล้ว

“ลุงลู่ ก็เดินทางแต่เช้าได้เลยนะครับ พวกเราจะจัดเลี้ยงทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น” โจวอี้หมินบอกลู่กั๋วฝู

ลู่กั๋วฝูคิดอยู่สักครู่แล้วตอบว่า “ฉันไปช่วงบ่ายก็แล้วกัน จะได้กินมื้อเย็นด้วย ตอนเที่ยงมีธุระนิดหน่อย”

“ได้ครับ จะรอรับท่านลุงอย่างดีครับ” โจวอี้หมินไม่ขัดใจ

ยังไงการฉายหนังก็เป็นเรื่องของตอนเย็นอยู่แล้ว

ส่วนพ่อครัวฉวนก็มาถึงพร้อมลูกมือสองคนแล้ว

ในขณะนั้นที่หมู่บ้านโจว บริเวณหน้าบ้านปู่ของโจวอี้หมินได้จัดเตรียมเตาและสร้างโรงเรือนชั่วคราวขึ้นเรียบร้อยแล้ว โจวซู่เฉียงกำลังพาคนทำงานกันอยู่

บรรดาผู้หญิงช่วยกันล้างจานชาม อุปกรณ์เช่นถ้วยจานต้องยืมจากบ้านคนอื่น ๆ มา

ในยุคนี้ เวลาจัดเลี้ยงทีไรก็ต้องทำแบบนี้ แม้กระทั่งโต๊ะและเก้าอี้ก็ต้องยืมกัน ใครจะมีของพวกนี้เก็บไว้ที่บ้านกัน?

หัวหน้าหมู่บ้านก็มาช่วยคุมงาน คอยสั่งให้ทุกคนทำงาน

“ล้างให้สะอาดหน่อยนะ! เพื่อนจากในเมืองของอี้หมินก็จะมาด้วย อย่าทำให้อี้หมินต้องอายล่ะ” หัวหน้าหมู่บ้านพูด

ถ้าเป็นในหมู่บ้านกันเองจะทำอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อมีคนนอกมาด้วย ก็ต้องรักษาภาพลักษณ์ให้ดี

โดยเฉพาะเขาได้ยินมาว่า ครอบครัวคู่หมั้นของอี้หมินจะมาด้วย ก็ยิ่งต้องระวัง ไม่ให้เขาเสียหน้าต่อหน้าครอบครัวคู่หมั้น

“ไม่ต้องห่วงครับหัวหน้า สะอาดจนหมาเลียยังไม่สะอาดเท่านี้”

หัวหน้าหมู่บ้านถึงกับพูดไม่ออก นี่มันเปรียบเทียบแบบไหนกันเนี่ย?

“หัวหน้า ได้ยินมาว่าคืนนี้จะได้ดูหนังด้วย จริงหรือเปล่า?” มีคนถาม

คนที่อยู่รอบ ๆ ก็มองมาที่หัวหน้าหมู่บ้าน ต่างก็อยากรู้คำตอบ

ถ้าเป็นความจริง นี่จะเป็นครั้งแรกที่หมู่บ้านโจวมีการฉายหนัง ไม่ต้องเดินทางไกลก็ได้ดูหนัง ทุกคนย่อมดีใจมาก

หัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป

เปิดเผยเลยดีกว่า

“จริง! อี้หมินบอกอย่างนั้น ผมก็เตรียมสถานที่ไว้แล้ว ที่สนามของโรงเรียนในหมู่บ้านโจว คืนนี้พวกนายอย่าไปจองที่นั่งข้างหน้าเชียว อี้หมินบอกไว้แล้วว่าจะกันไว้ให้เด็กและคนแก่ในหมู่บ้าน”

พอได้ยินดังนั้น ทุกคนก็ไม่มีใครขัดข้อง

แค่ได้ดูหนังก็ถือว่าโชคดีแล้ว จะไปแย่งที่นั่งกับโจวอี้หมินได้อย่างไร?

อีกอย่าง เขากันที่นั่งแถวหน้าไว้ไม่ใช่แค่เพื่อครอบครัวของตัวเอง แต่ยังเพื่อเด็กและคนแก่ในหมู่บ้าน รวมถึงคนในครอบครัวของพวกเขาด้วย

แล้วจะให้มีใครคัดค้านได้อย่างไร?

“เอาเป็นว่า ตอนบ่ายผมจะให้คนไปขีดเส้นไว้ พอขีดเส้นแล้ว พวกนายก็อย่าเข้าไปนั่งในเขตนั้น”

ไม่เพียงแต่ขีดเส้นไว้ ยังจะมีการวางเก้าอี้และม้านั่ง โดยเฉพาะที่นั่งสำหรับคนแก่ ควรจะเป็นเก้าอี้ที่มีพนักพิงด้วย

เพราะต้องดูหนังถึงสองเรื่อง เวลาจะยาวนานสักหน่อย

“หัวหน้า ไม่ต้องห่วง! ผมจะดูแลเอง ใครกล้าแย่งที่นั่ง ผมจะซัดมันให้” ชายหนุ่มร่างใหญ่พูดพร้อมยกกำปั้นขึ้น

หัวหน้าหมู่บ้านมองเขาแล้วพูดว่า “ฉันเกรงว่านายเองนั่นแหละที่จะไปแย่งที่นั่ง”

ครั้งที่แล้วที่ไปดูหนังที่สหกรณ์หงซิง เจ้าหมอนี่เกือบจะมีเรื่องกับคนจากหมู่บ้านอื่น

ในบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่พากันล้อมรอบปู่ย่าของโจวอี้หมิน คุยกันอย่างสนุกสนาน ทุกคนต่างก็รู้สึกอิจฉา ที่มีหลานอย่างโจวอี้หมิน พวกเขายอมอายุสั้นลงอีกไม่กี่ปีก็ได้

เสียงพูดคุยไม่ดังมาก เพราะวิทยุข้างๆกำลังเปิดอยู่

วิทยุเครื่องนี้ โจวอี้หมินจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ทุกๆสองสามวัน ดังนั้นสองผู้เฒ่าจึงไม่เคยต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ เปิดวิทยุได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ปิดแค่ตอนเข้านอน

และเพราะมีการต่อเติมบ้าน ทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นมาก มีห้องหลายห้อง และแต่ละห้องก็มีการทาสีใหม่ด้วย ภายนอกอาจจะดูธรรมดา แต่ภายในบ้านนั้นเรียกได้ว่าเป็นบ้านที่ใหญ่โตที่สุดในหมู่บ้านโจวเลยทีเดียว

การตกแต่งแบบนี้โจวอี้หมินกล้าทำเฉพาะที่หมู่บ้านโจวเท่านั้น

ไม่นานนัก หลัวไป่ต้าว โจวต้าจง และหลี่โหยวเต๋อก็พากันมาถึงหมู่บ้านโจว

“ไปที่โรงอาหารของหมู่บ้านกันก่อน” โจวต้าจงพูด

“ฉันตามใจนาย” หลัวไป่ต้าวตอบสบาย ๆ

หลังจากขนของเสร็จ เขาก็อยากไปเยี่ยมบรรดา “ลูกน้อง” ของเขาด้วย

หลี่โหยวเต๋อมาหมู่บ้านโจวเป็นครั้งแรก จึงรู้สึกตื่นเต้นและมองไปรอบ ๆ อย่างอยากรู้อยากเห็น

หลัวไป่ต้าวชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไป แล้วบอกกับหลี่โหยวเต๋อว่า “นั่นคือบ้านของปู่ย่าของอี้หมิน”

พวกเขามาถึงที่หน้าโรงอาหารของหมู่บ้าน โจวต้าจงตะโกนว่า “ออกมาหน่อยพวก!”

คนในโรงอาหารแทบอยากจะเตะโจวต้าจง ทำไมต้องพูดว่า “ออกมาหน่อยพวก!” กัน? เขาน่าจะพูดเรียกอย่างสุภาพมากกว่านี้ พูดดีๆไม่เป็นหรือไง?

“อย่าชักช้าไปหน่อยเลย กระดูกหมูสองถุงนี้จะเอาหรือไม่เอา? ถ้าไม่เอาจะขนกลับแล้วนะ” โจวต้าจงพูดต่อ

ทุกคนได้ยินก็รีบเร่งฝีเท้าออกมาพร้อมยิ้มให้ “โอ้โห! นี่ลุงสิบหกส่งมาให้หรือ?”

วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 60 ปีของคุณย่าโจวอี้หมิน เรื่องนี้ในหมู่บ้านก็รู้กันหมดแล้ว ตั้งแต่สามสี่วันที่แล้วก็ได้ยินข่าวว่าพวกเขาจะจัดเลี้ยงอาหารให้บรรดาผู้สูงอายุที่อายุ 60 ปีขึ้นไปทั้งหมู่บ้าน

ไม่นึกเลยว่าโจวอี้หมินจะเตรียมอาหารให้ทุกคนในหมู่บ้านด้วย

ถึงจะเป็นแค่กระดูกหมู แต่ก็ต้มซุปได้! ในวันนี้ได้ซดซุปกระดูกสักถ้วยก็ถือว่าพอใจมากแล้ว

“ก็ต้องใช่สิ! ไม่งั้นใครจะให้กระดูกหมูพวกนายได้?”

ทุกคนเปิดกระสอบดูก็เห็นกระดูกหมูที่ยังมีเนื้อเกาะอยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าคนที่แยกกระดูกนี้ออกดูท่าจะไม่เชี่ยวชาญเท่าไร

หากเป็นคนที่มีฝีมือจะสามารถแยกเนื้อออกจากกระดูกจนแม้แต่แมลงวันเกาะแล้วก็ยังลื่น ส่วนหมาก็มองน้ำลายไหล

เนื้อที่ยังติดอยู่กับกระดูกเหล่านี้น่าจะมีน้ำหนักถึงสิบชั่งได้

กระดูกแบบนี้เมื่อต้มซุปก็จะยิ่งอร่อย

พวกเขารีบช่วยกันยกกระสอบกระดูกสองถุงเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็ว เพื่อเตรียมล้างทำความสะอาดแล้วนำไปต้มซุป

ส่วนเรื่องการลวกน้ำร้อนก่อนต้มซุปนั้น ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ เพราะจะทำให้รสชาติหายไป เสียดายแย่!

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด