บทที่ 131 แท่นหยินหยางร้อยปี
บทที่ 131 แท่นหยินหยางร้อยปี
อู๋เซี่ยนมองมาที่มือของเว่ยเตียนและเหลียงฟาง พลางยิ้มค้าง ๆ ก่อนจะหันหน้าหนี
ก่อนหน้านี้สองคนนี้ยังไม่ลงรอยกันอยู่แท้ ๆ
แต่ผ่านไปแค่สองวัน กลับเริ่มจับมือกันซะแล้ว?
พูดถึงเรื่องนี้...
ก่อนหน้านี้ ซูหมี่กับเจี่ยงเซียงหลานเองก็เหมือนกัน จู่ ๆ ก็ดูเข้ากันได้ดีขึ้นกะทันหัน นับว่าเมื่อผ่านวิกฤตด้วยกันแล้ว มักจะทำให้ชายหญิงเกิดความรู้สึกดี ๆ ต่อกันได้ง่ายขึ้น
อู๋เซี่ยนมองว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ความรัก
แต่เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ที่ต้องการทิ้งทายาทไว้เมื่อเผชิญอันตราย เพียงแค่เงื่อนไขเหมาะสม ชายหญิงใด ๆ ก็ย่อมเกิดความรู้สึกดีต่อกันได้ในสถานการณ์เช่นนี้
เหมือนกับที่ตู้เอ๋อติดตามอู๋เซี่ยนมาโดยตลอด ผ่านวิกฤตหลายครั้งร่วมกันมาแล้ว
อู๋เซี่ยนหันไปมองตู้เอ๋อ นางยิ้มให้เขาเล็กน้อย
ร่างกายอู๋เซี่ยนสะท้านขึ้นมาทันที...
แทนที่จะคิดเรื่องพวกนี้ มาคิดหาวิธีเอาชีวิตรอดจะดีกว่า
สำหรับการที่ปีศาจต้องการเข้ามาในร้านเสื้อผ้า อู๋เซี่ยนไม่รู้สึกแปลกใจอะไรนัก
ประสบการณ์ในห้องรับรองบอกเขาแล้วว่าปีศาจสามารถเข้าไปในห้องร่วมกับพวกมนุษย์และค่อย ๆ คิดการโจมตี และจากกรณีของซาเซี่ยวเหวินและหลัวเซียง ทำให้อู๋เซี่ยนรู้ว่าคนที่กลายเป็นปีศาจแล้ว มักจะมุ่งเป้าทำร้ายคนรักของตนเป็นอันดับแรก...
“อืม…”
อู๋เซี่ยนฉุกคิดขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้น ทำไมเจี่ยงเซียงหลานถึงไม่ไปหา ซูหมี่ล่ะ? หรือว่า... เจี่ยงเซียงหลานไม่ได้รู้สึกอะไรกับซูหมี่มากนัก”
คิดถึงตรงนี้ อู๋เซี่ยนก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ไม่ว่าจะมองในแง่ของความเป็นคนหรือไม่เป็นคน เรื่องนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ปีศาจอย่างซาเซี่ยวเหวินและตัวอื่น ๆ ที่ยืนเข้าแถวอย่างเรียบร้อย ถือเป็นเรื่องที่อู๋เซี่ยนคาดไม่ถึง อีกทั้งท่าทีของสวีเฟิงหลันและคนอื่น ๆ ที่มีต่อปีศาจก็แปลกไม่น้อย
อู๋เซี่ยนสรุปว่า
ปีศาจทั้งสามตนที่มาในครั้งนี้ ไม่ได้มาทำร้ายใคร แต่น่าจะมีเรื่องสำคัญบางอย่างต้องทำ
นอกจากนี้ การที่พวกปีศาจอยู่ด้วยกันก็ช่วยดึงดูดความสนใจจากพวกสิ่งลี้ลับภายนอกให้เข้าหาพวกมันแทน ทำให้สายตาที่จับจ้องใส่พวกเขาน้อยลง ทำให้ช่วงเวลารอคอยนั้นดีขึ้นหน่อย
กลางคืนในทุ่งร้าง สุสานแสนลี้ลับ
แสงโคมไฟส่องเพียงเล็กน้อย คนและปีศาจเข้าแถวกัน
การที่ต้องมาเข้าแถวร่วมกับปีศาจเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ อู๋เซี่ยนรู้สึกทั้งกลัวและตื่นเต้น เป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันได้เจอในโลกภายนอกแน่นอน
คนเก้าปีศาจสาม ยืนรออยู่ในลมหนาวเป็นเวลานาน
ขณะที่แสงเทียนในโคมไฟเริ่มอ่อนแสงลง ประตูร้านเสื้อผ้าก็เปิดออก ในที่สุด หญิงสาวตัวเล็กที่คลุมเสื้อขนหนามก็โผล่ศีรษะออกมา
“เชิญเข้ามาได้ค่ะ คุณลูกค้าทั้งหลาย”
“ฉันชื่อ ไป๋เสี่ยวหลัน เป็นพนักงานร้านเสื้อผ้าหยินหยางของตระกูลหลิว ทุกอย่างในร้านพร้อมแล้วค่ะ”
ไป๋เสี่ยวหลันกระโดดโลดเต้นนำทางพวกอู๋เซี่ยนลงบันไดไป
เธอดูทั้งน่ารักและอ่อนหวาน
แต่หนามที่อยู่ข้างหลังกลับเผยตัวตนที่แท้จริง
แท้จริงแล้ว เธอคือปีศาจเม่น!
หลังจากเข้าสู่ร้านเสื้อผ้าแล้ว สายตาก็พลันเปิดกว้าง
ร้านนี้เป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาที่อู๋เซี่ยนเคยเจอมา ใหญ่กว่าทั้งห้องหนังสือและห้องรับรองรวมกันเสียอีก
ทางด้านซ้ายเป็นห้องทำงาน มองเห็นกลุ่มพนักงานหญิงหลายคนกำลังเย็บผ้าอย่างขยันขันแข็ง พวกเธอใช้เข็มด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ ใครเห็นก็รู้ว่าฝีมือเย็บปักของพวกเธอไม่ใช่ฝีมือของมนุษย์แน่นอน
ทางด้านขวาคือแท่นยาวขนาดใหญ่ ซึ่งมีความยาวมากกว่า 20 เมตร แท่นนี้ถูกแกะสลักลวดลายซับซ้อนจากทารกที่เริ่มเดินเตาะแตะจนถึงหญิงชราที่แก่เฒ่า
ที่อีกด้านหนึ่งของแท่นมีราวแขวนเสื้อผ้าจำนวนมาก แขวนชุดฮั่นฝูและชุดอื่น ๆ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีโต๊ะและเก้าอี้ไม้แดงจัดวางอยู่ ดูเหมือนแท่นนี้จะใช้เป็นทางเดินสำหรับเดินโชว์
ไป๋เสี่ยวหลันถือกล่องจับฉลากปีนขึ้นไปบนแท่น โดยในกล่องนั้นมีไม้ฉลากห้าอันที่ดูเก่า และอีกหลายอันที่ดูเหมือนเพิ่งทำขึ้นใหม่
“ต่อไป ฉันจะอธิบายขั้นตอนง่าย ๆ ให้นะคะ” ไป๋เสี่ยวหลันกล่าว
อวีล่าป่านเร่งเร้า “คุณหนูไป๋ พวกเราฟังขั้นตอนกันจนเบื่อแล้ว เราเริ่มกันเลยเถอะ”
ไป๋เสี่ยวหลันหันมามองเขาด้วยสายตาไม่พอใจ
"พวกเจ้านี่นะ มาลองชุดกันทุกวัน น่ารำคาญจริง ๆ นะ ถ้าไม่ยอมทำตัวดี ๆ ล่ะก็ วันนี้ไม่ให้ขึ้นแท่นแน่ ๆ"
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของสวีเฟิงหลัน อวีล่าป่าน และอาจารย์หลวนจิ้งก็เปลี่ยนไปทันที พวกเขายืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่พูดอะไร
อู๋เซี่ยนสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ต้องทำในห้องนี้คือการลองชุด และสำหรับอวีล่าป่านและพวกอีกสองคน การลองชุดดูเหมือนจะมีผลดีบางอย่าง
ไป๋เสี่ยวหลันกระแอมเบา ๆ ก่อนจะอธิบาย
“ร้านเสื้อผ้าหยินหยางนี้เป็นกิจการของตระกูลหลิว”
“ปกติที่นี่จะผลิตชุดฮั่นฝูเพื่อแลกกับทรัพยากรในโลกมนุษย์ แม้ว่าตอนนี้ธุรกิจจะเริ่มทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ แต่มันก็ยังเป็นธุรกิจสำคัญของตระกูลหลิว”
“ท่านนายน้อยบอกว่าพวกเจ้าต้องการไม่ใช่แค่เสื้อผ้าธรรมดา แต่เป็นชุดไว้ทุกข์ที่ใช้ ‘วิชาซ่อนอายุหยินหยาง’”
“ถ้าอย่างนั้น ก็คลุมผิวแล้วขึ้นแท่นไปสิ! อยากได้อายุกี่ปี ก็แค่หลับตาแล้วเดินไปบนแท่นร้อยปีนี้ ก้าวหนึ่งคือหนึ่งปี เมื่อเดินเสร็จลืมตาขึ้น ผิวหนังก็จะสมบูรณ์ สามารถใช้ตัดเย็บชุดไว้ทุกข์เพื่อกลบกลิ่นอายของพวกเจ้าได้”
พูดจบ
ไป๋เสี่ยวหลันหยุดเล็กน้อย
“ขอบอกไว้ก่อนนะคะ สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืนนี้ไม่เกี่ยวกับร้านเสื้อผ้าหยินหยาง ไม่ว่าจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมาก็อย่ามาโทษร้านเรา”
“ถ้าออกไปแล้วเอาไปเล่าละก็...”
บรรดาพนักงานหญิงในห้องทำงานทั้งหมดพร้อมใจกันหันมามองอู๋เซี่ยนและพวก สายตาของพวกเธอเต็มไปด้วยความเย็นชาเหมือนสัตว์ป่าที่พร้อมจะขย้ำ
บรรยากาศเยือกเย็นแผ่ไปทั่วจนทุกคนรู้สึกขนลุก
อู๋เซี่ยนได้แต่ยักไหล่ เพราะเริ่มชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว
"อืม...นี่เป็นอีกหนึ่งคำสาปที่จะติดตัวเรา เฮ้อ จะกี่หนี้กี่คำสาปก็ช่างมันละกัน จะเป็นอะไรก็เป็นไป"
ไป๋เสี่ยวหลันนั่งยอง ๆ บนแท่นร้อยปี แล้วยื่นกล่องจับฉลากออกมา
“มาเลือกฉลากกันเถอะ ลำดับการขึ้นแท่นจะกำหนดจากการจับฉลาก”
สวีเฟิงหลันและพวกเป็นคนแรกที่รีบตรงไปหยิบฉลากทันที ส่วนอู๋เซี่ยนใช้เวลาคิดเล็กน้อยก่อนจะหยิบฉลากใหม่ออกมา
เขายังไม่รู้ว่าการหลับตาเดินบนแท่นร้อยปีนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง การเลือกฉลากใหม่ที่อยู่ในลำดับหลังจากลำดับที่ห้า จึงเป็นการเผื่อเวลาให้เขาได้ดูคนอื่นเดินไปก่อน
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็เลือกฉลากกันเสร็จ
อู๋เซี่ยนได้หมายเลขเจ็ด เขาสามารถนั่งดูคนอื่นก่อน
คนที่ได้หมายเลขหนึ่งคือร่างรวมของซาเซี่ยวเหวินและฮั่วกาย
อู๋เซี่ยนประหลาดใจ ปีศาจทั้งสามตนนี้มาทำธุระจริง ๆ
ภายใต้สายตาของทุกคน ซาเซี่ยวเหวินชี้ไปที่หน้าผากของตัวเอง เหมือนกำลังรูดซิปที่มองไม่เห็น จากนั้นร่างบิดเบี้ยวก็แยกออก ผิวหนังจำนวนมากร่วงหล่นบนพื้น
ตรงกลางเผยให้เห็นปีศาจหญิงผูกผมหางม้า ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด!!
อู๋เซี่ยนเคยเห็นปีศาจหญิงตนนี้มาก่อน
เธอคือผู้หญิงที่นั่งข้างซาเซี่ยวเหวินบนรถบัสนั่นเอง!
เมื่อเห็นว่าปีศาจหญิงคนนี้แฝงอยู่ในตัวซาเซี่ยวเหวิน อู๋เซี่ยนก็พลันเข้าใจบางอย่าง ความคิดของเขาหลายอย่างกระจ่างขึ้นทันที
ก่อนหน้านี้เขาคิดมาตลอดว่า
คนที่เสียชีวิตในสถานที่นี้จะกลายเป็นปีศาจ
แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาตายแล้วก็คือตายไปจริง ๆ สาเหตุที่ทำให้ดูเหมือนฟื้นกลับมาในร่างปีศาจนั้น เป็นเพราะมีปีศาจที่เป็นตัวแทนของคนที่เสียชีวิตบนรถบัสแฝงตัวมาในผิวของพวกเขาต่างหาก!
มนุษย์จำเป็นต้องใช้ผิวหนังของปีศาจในการสร้างชุดไว้ทุกข์
ปีศาจก็ต้องการผิวหนังของมนุษย์เพื่อสร้างบางสิ่งบางอย่างเช่นกัน!