ตอนที่แล้วตอนที่ 60 : ติดต่อ
ทั้งหมดรายชื่อตอน

ตอนที่ 61 : แผนการของเฉินหลิง


.

ลมหนาวเสียดกระดูกพัดมาจากทะเลน้ำแข็ง พาให้หัวใจของผู้ช่วงชิงเปลวไฟหลายคนเย็นวาบไปครึ่งหนึ่ง*

.

นับตั้งแต่ขึ้นเรือ ผู้คุมกฎได้แบ่งออกเป็นกลุ่มเล็กๆ โดยอัตโนมัติและกระจัดกระจายทั่วดาดฟ้าเรือ เดิมทีหมายเลข 8 คิดจะหลีกเลี่ยงกลุ่มคนจากเมืองออโรร่าเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด แต่ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายยังคงมุ่งเป้ามาที่พวกเขา

ในเวลาเดียวกัน หลู่ซวนหมิงกับผูเหวินที่อยู่ด้านข้างก็หันมามองทางนี้

ต่อหน้าสาธารณชน ในที่สุดเฉินหลิงก็ก้าวเท้าเดินออกมาช้าๆ ตรงไปทางเหยียนซีไฉซึ่งถูกรายล้อมด้วยผู้คุมกฎเมืองออโรร่าหลายคน

"มีเรื่องอะไร?" เขาพูดอย่างใจเย็น

"นายชื่ออะไร"

"ผู้คุมกฎเขตสาม เฉินหลิง"

เหยียนซีไฉมองเขาขึ้นๆ ลงๆ "เสื้อโค้ตนายไม่เลว ถอดออกแล้วส่งมาให้ฉัน"

"มีสิทธิ์อะไร?" เฉินหลิงถามกลับ

ทันทีที่คำพูดประโยคนี้หลุดออกมา กลิ่นดินปืนก็ฟุ้งกระจายไปในอากาศ ใครๆ ก็สามารถบอกได้ว่านายน้อยสามกำลังโกรธ และคิดจะลงกับเฉินหลิง...และเห็นได้ชัดว่าเฉินหลิงเองก็ไม่ใช่คนอ่อนโยนอะไร

"เอาเสื้อให้เขาไป อย่าสร้างปัญหา...อีกไม่นานก็จะเข้าคลังโบราณแล้ว..."

ผู้ช่วงชิงเปลวไฟหลายคนล้วนรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขามันกระดอนขึ้นมาถึงลำคอแล้ว**จึงแอบภาวนาในใจเงียบๆ

เหยียนซีไฉยื่นมือออกไปด้านข้างโดยไม่ตั้งใจ แล้วผู้คุมกฎที่อยู่ข้างหลังเขาก็หยิบเหรียญออกมาทันทีแล้วยื่นให้เหยียนซีไฉ จากนั้นเหยียนซีไฉเขาก็โยนมันไปด้านหน้า

.

กริ๊ง---

.

เขาโยนเงินจำนวนหลายสิบเหรียญลงบนตัวของเฉินหลิง แล้วมันก็ร่วงลงบนพื้นเหมือนขยะ

"พอมั้ย?" เหยียนซีไฉเป่าเล็บเบาๆ และพูดด้วยท่าทีสบายๆ "ถ้ายังไม่พอ เพิ่มขาข้างหนึ่งของนายเป็นยัง…"

ก่อนที่คำพูดสุดท้ายคำว่า "ไง" จะออกมาจากปาก กระบอกปืนอันเย็นเฉียบก็จ่อหน้าผากเขา

เหยียนซีไฉตกตะลึง

"ไม่พอ" เฉินหลิงถือปืนด้วยมือข้างเดียว ดวงตาหรี่ลงแลดูอันอันตราย มีเพียงเสียง 'คลิก' จากปืนท่ามกลางความเงียบ

"งั้นก็เพิ่มชีวิตของนายเป็นยังไง?"

บรรดาผู้ช่วงชิงเปลวไฟ : ?????

.

.

[ค่าความคาดหวังของผู้ชม +5]

.

[ค่าความคาดหวังปัจจุบัน: 71]

.

.

ลมหนาวเย็นเสียดกระดูกพัดผ่านดาดฟ้า ในเวลาต่อมาผู้ชมทุกคนก็ตื่นขึ้นจากความตกใจ!

ผู้คุมกฎหลายสิบคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเหยียนซีไฉต่างตกใจรีบชักปืนออกมาพร้อมกัน!

ปืนจำนวนนับไม่ถ้วนชี้ไปที่เฉินหลิง ตราบใดที่เขากล้ายิงเขาก็จะถูกยิงเหมือนเข้าไปยุ่งกับรังแตน ในขณะเดียวกันด้านหลู่ซวนหมิงกับผูเหวินซึ่งยืนอยู่ในระยะไกลดวงตาของพวกเขาพลันปรากฏความประหลาดใจขึ้น

พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเฉินหลิงจะต่อต้าน แต่อย่างไรเสียก็ใช่ว่าทุกคนจะเป็นลูกพลับนิ่ม** แต่พวกเขาก็คิดไม่ถึงว่าแค่เหยียนซีไฉพูดเพียงไม่กี่คำ อีกฝ่ายก็ชักปืนออกมาโดยไม่ลังเล!

ที่นี่ถูกล้อมไปด้วยผู้คุมกฎจากเมืองออโรร่าจำนวนมาก แต่เขายังกล้าชักปืนขึ้นมาข่มขู่นายน้อยสามของกลุ่มหอการค้าดวงดาว?

เขาบ้าไปแล้วเหรอ?!

เวลานี้หมายเลข 8 รู้สึกว่าหัวใจตนเองแทบจะหยุดเต้น

เขารีบเดินไปข้างหน้าอย่างไม่ลังเล แล้วกดปืนในมือเฉินหลิงลง จากนั้นก็จ้องมองเขาอย่างดุเดือด

ใบหน้าของเฉินหลิงไร้ความรู้สึก

"นะ นาย นาย..." ใบหน้าของเหยียนซีไฉซีดลง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่มีคนข่มขู่เขาอย่างตรงไปตรงมา "นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร! นายยังกล้าเอาปืนชี้มาที่ฉันเหรอ?"

หมายเลข 8 หายใจลึกๆ แสดงท่าทีนอบน้อมและกล่าวขอโทษเหยียนซีไฉ

"ผมขอโทษจริงๆ เฉินหลิงเขาเพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้คุมกฎเขายังเด็กเกินไป อาจไม่รู้จักฐานะของคุณ..."

"เฉินหลิง! นี่คือคนจากกลุ่มหอการค้าดวงดาวแห่งเมืองออโรร่า"

"นายควรรู้ว่านายน้อยสามของกลุ่มหอการค้าดวงดาวควบคุมช่องทางทรัพยากรเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ในเจ็ดเขต และหกสิบเปอร์เซ็นต์ของร้านค้าในเมืองออโรร่าก็เป็นของพวกเขา"

"นอกจากนี้ พวกเขายังเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ที่สุดของสำนักงานใหญ่ผู้คุมกฎแห่งเมืองออโรร่า เป็นบุคคลที่จ่ายค่าจ้างให้กับผู้คุมกฎ หรือแม้แต่ผู้พิทักษ์...นายรู้มั้ยว่าฉันหมายถึงอะไร?"

หมายเลข 8 จ้องไปที่เฉินหลิง ประโยคนี้แทบจะกัดฟันพูดออกมา โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของประโยค

"กลุ่มหอการค้าดวงดาวคือกระเป๋าเงินของผู้คุมกฎทุกคน รวมถึงผู้พิทักษ์สามคนของเมืองออโรร่าที่กำลังคุ้มกันอยู่ตอนนี้ พวกเขามีอำนาจในการสั่งหยุดการเดินทางเมื่อไหร่ก็ได้...ถ้านายกล้าทำร้ายเหยียนซีไฉแม้แต่ปลายเส้นขน ทุกคนในเขตสามก็จะสูญเสียคุณสมบัติในการเข้าสู่คลังโบราณ!"

เมื่อได้ยินคำชมจากหมายเลข 8 ในที่สุดสีหน้าของเหยียนซีไฉก็อ่อนลงเล็กน้อย...ท้ายที่สุดเขตสามก็เป็นชนบท ในสถานที่แบบนี้เป็นเรื่องปกติที่ผู้คุมกฎรุ่นเยาว์จะไม่เข้าใจคุณค่าของตัวตนของเขา ยิ่งโง่เขลาก็จะยิ่งประมาท และหยาบคายมากขึ้นเท่านั้น

เหยียนซีไฉกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ปากกระบอกปืนก็ถูกยกขึ้นอีกครั้ง

"เหยียนซีไฉสินะ" เฉินหลิงพูดอย่างใจเย็น "นี่คือมือที่โยนเงินใส่ฉันเมื่อกี้ใช่มั้ย?"

ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของทุกคน เฉินหลิงเหนี่ยวไกอย่างไม่ลังเล

.

ปัง !

.

ครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน เฉินหลิงเคลื่อนไหวเร็วมาก ไม่มีคำเตือนใดๆ ทุกคนต่างคิดว่าเขารู้ตัวตนของเหยียนซีไฉแล้วจะต้องตกใจและยอมแพ้...แต่ใครจะคิดว่าเขายังจะกล้ายิงอีก

"อ๊าา!!"

เหยียนซีไฉ มองดูอย่างทำอะไรไม่ถูกในขณะที่ปากกระบอกปืนชี้ไปที่ลูกตาของเขา ตามด้วยเสียงเหนี่ยวไกปืน เขากรีดร้องด้วยความหวาดกลัวและสูญเสียการทรงตัว ล้มลงกับพื้น!

ลมกระโชกแรงหนาวสะท้านจนกระดูกสั่น เมื่อสายลมพัดผ่านดาดฟ้า จิตใจของเหยียนซีไฉก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว...

เขาจ้องมองอย่างว่างเปล่าไปที่ปากกระบอกปืนซึ่งไร้การตอบสนอง เขาตกตะลึงไปสองสามวินาทีก่อนจะฟื้นคืนสติ

ไม่มีลูกกระสุนอยู่ในกระบอกปืน

เสื้อคลุมสีน้ำตาลเข้มปลิวตามสายลม เฉินหลิงค่อยๆ วางปืนลง แล้วมองไปทางเหยียนซีไฉที่จนตรอก แววตาของเขาดูจะสนุกมาก

"เฉินหลิง! นายกำลังทำอะไร?!!" หมายเลข 8 มองเฉินหลิงด้วยความไม่อยากเชื่อ

"คนเมืองออโรร่านี่โชคดีที่เกิดมามีชีวิตที่ดี แต่ก็ต่างเป็นพวกขี้เมาหยำเป***…." เฉินหลิงพูดอย่างสบายๆ "หัวหน้าเจียงฉิน นี่ไม่ใช่คำที่คุณเคยพูดกับผมเหรอ?"

หมายเลข 8 ตกตะลึง

เขาจ้องมองไปที่ใบหน้าของเฉินหลิง หลังจากผ่านไปสักระยะ เขาก็พูดเสียงแหบแห้ง

"นี่นายจะกบฏเหรอ? ไม่ใช่ เดิมทีนายก็ไม่ใช่..."

หมายเลข 8 ไม่ได้พูดครึ่งหลังของประโยค

แต่ผู้ช่วงชิงเปลวไฟทั้งหมดซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืด ดูเหมือนพวกเขาจะตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่าง ดวงตาของพวกเขามองไปที่เฉินหลิงด้วยความลังเลและตื่นตระหนก

"หัวหน้าเจียงฉิน คุณต้องการลงโทษผมเหรอ?" เฉินหลิงมองไปที่หมายเลข 8 อย่างสงบ ดวงตาของเขาหรี่ลงเป็นเส้นโค้งละเอียดอ่อน "บนเรือลำนี้?"

หมายเลข 8 ตกใจ

ในสายตาของคนนอก การสนทนานี้ถือเป็นความขัดแย้งระหว่างผู้คุมกฎในเขตสามอย่างไม่ต้องสงสัย

มีเพียงผู้ช่วงชิงเปลวไฟเท่านั้นที่มองเห็นสิ่งที่แตกต่างออกไป...อาจเป็นหมายเลข 13 คิดจะกบฏ แต่ความเป็นไปได้นี้มีน้อย หรือไม่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ เดิมทีก็ไม่ใช่หมายเลข 13 ตั้งแต่แรกแล้ว....

แต่เป็นเฉินหลิงตัวจริง

ทุกคนบนขบวนรถไฟล้วนคิดว่าหมายเลข 13 จะฆ่าเฉินหลิงได้อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะคนหนึ่งคือระดับสองของวิถีจอมโจร ส่วนอีกคนคือคนที่เพิ่งสอบผู้คุมกฎผ่านเท่านั้น

คนธรรมดาคนหนึ่ง จะสามารถฆ่าหมายเลข 13 ได้ยังไง แถมเขายังกล้าแอบอ้าง "ชื่อ" ของอีกฝ่าย กระทั่งเล่นตลกกับพวกเขาด้วยตัวตนสองตัวตน?

นี่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็เป็นไปไม่ได้!

แต่...สถานการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว

เฉินหลิงมองไปที่หมายเลข 8 ตรงหน้าอย่างใจเย็น มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย...แน่นอนว่าเขารู้ดีว่าตัวตนของเขาในฐานะผู้ช่วงชิงเปลวไฟได้ถูกเปิดเผยแล้ว แต่เขาไม่สนใจ

ตอนนี้เรือกำลังมุ่งหน้าไปยังคลังโบราณ บนเรือมีผู้คุมกฎจำนวนมากและมีผู้พิทักษ์อีกสามคน แม้ว่าผู้ช่วงชิงเปลวไฟคนอื่นๆ จะรู้ตัวตนของเขา ก็ไม่กล้าลงมือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเปิดเผยความจริง

ตั้งแต่ต้นจนจบเขาปกปิดตัวตน ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มผู้ช่วงชิงเปลวไฟ เข้าสู่คลังโบราณอย่างสุขุม แฝงตัวจนวินาทีสุดท้ายและลงมือฆ่าทุกคน...มันคือทางเลือกที่ไม่เลวเลย แต่สำหรับเฉินหลิงมันไม่ได้น่าดึงดูดใจขนาดนั้น

เนื่องจากนี่คือ "การแสดง" เขาจะต้องเพิ่มความคาดหวังของผู้ชมให้มากที่สุด จะต้องออกแบบความขัดแย้งที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

เฉินหลิง มีแผนที่บ้ามากกว่านี้อีก!

.

.

............

.

心凉了半截 หัวใจเย็นวาบไปแล้วครึ่งหนึ่ง* หมายถึง (รู้สึก)หวั่นใจ, หดหู่, กังวล

心提到嗓子眼 หัวใจกระดอนขึ้นมาถึงลำคอ** อกสั่นขวัญแขวน

酒囊饭袋 ขี้เมาหยำเป*** อุปมา คนที่ไม่มีประโยชน์ดีแต่กินดีแต่ดื่ม ทำงานทำการไม่เป็นสักอย่าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด