ตอนที่ 30 : นายท่าน ชื่อของคุณกำลังอยู่บนฮอตเสิร์ช
ตอนที่ 30 : นายท่าน ชื่อของคุณกำลังอยู่บนฮอตเสิร์ช
ในเวลานี้เอง ฉู่เจียงเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่าหวังคงก็กำลังดื่มชาอยู่
ในเมืองเซี่ยงไฮ้ มีร้านชาขนาดเล็กที่มีบรรยากาศดีอยู่ร้านนึง
ฉู่เจียงขับรถไปที่นั่นตามตำแหน่งที่หวังคงบอก
ที่อยู่นั่นอยู่ห่างออกไปไกลมากและต้องใช้เวลาขับรถมากกว่าหนึ่งชั่วโมง
แต่สภาพแวดล้อมที่นี่ก็ดีมาก ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ อากาศบริสุทธิ์และทิวทัศน์ที่สวยงาม
ร้านชานี้ตั้งอยู่เชิงเขาและเป็นบ้านที่เรียบง่าย
ท้ายที่สุดแล้ว ฉู่เจียงก็ไม่เชื่อว่าคนรวยรุ่นที่สองอย่างหวังคงจะสบายและว่างมากพอที่จะมาที่นี่เพื่อดื่มชาได้อย่างเดียว
ในความคิดของเขา หวังคงนั้นเป็นคนที่ชอบบาร์และปาร์ตี้ตอนดึกๆ มากกว่า
แต่ตอนนี้ หวังคงกำลังดื่มชาที่นี่จริงๆ และเขายังอยู่คนเดียวอีกด้วย
"พี่คง เป็นอะไรไปหรือแค่อยากเปลี่ยนอารมณ์กัน"
ฉู่เจียงเดินไปที่ห้องส่วนตัวของหวังคงและอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าเล็กน้อยบนใบหน้าของหวังคง
“น้องฉู่ ฉันแค่กำลังปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมบรรยากาศนี้เฉยๆ! มาลองชิมชาดำแลปซาง ซูชองของพวกเขาสิ ใครได้ชิมก็ต้องบอกว่าอร่อย!”
แลปซาง ซูชองเป็นชาดำ ฉู่เจียงแทบไม่เคยดื่มชาดำมาก่อน แต่เนื่องจากหวังคงแนะนำอย่างดีแบบนี้ ฉู่เจียงจึงหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบ
“ชานี้ดีจริงๆ!”
ฉู่เจียงจิบชา “มีกลิ่นหอมของดอกไม้ธรรมชาติ แต่กลิ่นไม่แรงมาก ละมุนมากในปาก กลมกล่อมและหวานกำลังดีและมีรสชาติที่เบาสบายมาก!”
ชาที่ฉู่เจียงดื่มเมื่อเร็วๆนี้ล้วนเป็นชาที่ดีทั้งหมด เขาสามารถบอกได้จริงๆ ว่ามันอร่อยหรือไม่เพียงแค่ชิมมัน
“เป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้โกหกนายใช่ไหม”
หวังคงหัวเราะและพูด "มีร้านชามากมายในเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่ไม่มีร้านไหนเทียบกับร้านชาแห่งนี้ได้!"
แน่นอนว่าการดื่มชาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ
จุดเด่นอยู่ที่การดื่มชา ฟังเพลงและซึมซับบรรยากาศต่างหาก!
พูดตามตรง ไม่น่าแปลกใจเลยที่แม้แต่ชายหนุ่มที่ร่ำรวยอย่างหวังคง ผู้ที่เดินเล่นอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ตลอดทั้งวันก็ยังหลงใหลในสถานที่แห่งนี้
ฉู่เจียงก็ชอบที่นี่เช่นกัน โดยเฉพาะเพราะสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ซึ่งเขาสามารถดื่มชา ฟังเพลงและเพลิดเพลินกับบรรยากาศนี้ได้
ไม่ต้องพูดถึงชีวิตแบบนี้ ใครก็ตามที่ได้สัมผัสประสบการณ์นี้ก็จะต้องรู้สึกประทับใจเหมือนกันหมด!
"พี่คง ผมเข้าใจแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่พี่เดินทางออกมาไกลขนาดนี้เพื่อมาดื่มชาคนเดียว!"
ฉู่เจียงอดไม่ได้ที่จะพูดเล่น " ครั้งหน้ามาที่นี่ก็อย่าลืมชวนผมมาด้วยล่ะ!"
หวังคงยิ้มและไม่พูดอะไร แต่เขาแสดงรอยยิ้มที่ทุกคนเข้าใจได้
………
“เอาล่ะ น้องฉู่ แน่ใจเหรอว่านายจะทำเงินในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้จริง”
หวังคงมองไปที่ฉู่เจียงแล้วถาม คำถามนี้แม้ว่าจะฟังดูไม่จริงจังแต่ก็มีความจริงจังแฝงอยู่
“ใช่แล้ว ช่วงนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ค่อนข้างดี”
ฉู่เจียงยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “ด้วยข้อมูลภายใน ผมน่าจะพอทำเงินได้บ้าง”
ทันใดนั้น ดวงตาของหวังคงก็สว่างขึ้นเมื่อได้ยินว่าฉู่เจียงบอกว่าเขามีข้อมูลภายใน
“น้องฉู่ มันเชื่อถือได้ไหม”
“ต้องเชื่อถือได้แน่ๆ! แม้ว่านายน้อยปี่จะไม่ลงทุนเงินในครั้งนี้เลย ผมก็จะลงทุน 200 ล้านอยู่ดี โอกาสเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากพวกอเมริกันมีไม่มาก แล้วทำไมเราไม่ใช้ประโยชน์จากมันล่ะ”
ฉู่เจียงจิบชา จุดบุหรี่และสูดเข้าลึกๆ
“น้องฉู่ ฉันโล่งใจกับสิ่งที่นายพูดนะ! เอาเถอะ ฉันจะลงทุน 200 ล้านกับนายด้วย ฉันเชื่อในตัวนาย!”
หวังคงจุดบุหรี่แล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจ “แต่ไม่ต้องบอกปี่ฟางล่ะ ถ้าเขาถามก็บอกไปว่าฉันลงทุนแค่ 10 ล้าน”
หวังคงยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วฉันก็ไปยืมเงินมาเหมือนกัน นายก็รู้ว่าฉันเองก็เป็นคนเก่งและขยัน แต่ฉันก็ไม่มีเงินในมือมากนัก!”
“พี่คง ไม่ต้องกังวล ผมเข้าใจเรื่องนี้”
ฉู่เจียงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “แต่พี่คง ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเราจะไม่ได้แย่ แต่สิ่งหนึ่งที่พี่ต้องเข้าใจก่อน เราต้องมาตกลงกันล่วงหน้าว่าถ้าเราขาดทุนเงินนั้นจะไม่ใช่ของผม แต่ถ้าเราได้กำไร ผมจะเอากำไรครึ่งหนึ่ง!”
แม้ว่าฉู่เจียงจะไม่ขาดทุน แต่ตลาดหุ้นก็เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใครจะสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะทำกำไรได้?
“มันเป็นเรื่องปกติ...”
หวังคงตกตะลึงไปชั่วขณะแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อออกจากร้านชาก็เป็นเวลาเกือบ 4 ทุ่มแล้ว
ทันทีที่เขามาถึงวิลล่าฉู่เจียงก็ได้รับโทรศัพท์จากฉินปิน
“น้องฉู่ ฉันได้ยินสิ่งที่นายกับหวังคงพูดกันแล้วนะ เรามาร่วมมือกันเถอะ หวังคงกับฉันมีความคิดเหมือนกัน ฉันจะลงทุน 200 ล้านเพื่อสร้างเงินจากพวกอเมริกันกับนาย”
“โอเค พี่ฉิน แต่เราต้องตกลงกันก่อน ถ้าขาดทุนก็อย่าโทษผมนะ!”
“น้องฉู่ นายพูดแบบนี้นายกำลังดูถูกฉันเหรอ มันไม่ใช่แค่เงิน 200 ล้านเหรอ... เงินนี้เป็นของฉันเอง ฉันไม่รู้สึกแย่หรอกถ้ามันจะขาดทุน”
ฉินปินแตกต่างจากหวังคงตรงที่เขามีเงินจริงๆ
แม้ว่าเงิน 200 ล้านจะไม่ใช่จำนวนน้อย แต่เขาก็ไม่ได้จริงจังกับมันมากนัก
ถ้าปี่ฟางขอยืมเงินเขาแบบก่อนหน้านี้ เขาก็จะไม่ยืมเหมือนเดิมอย่างแน่นอน
นั่นคือเงิน 200 ล้าน ถ้าให้ปี่ฟางยืม มันก็จะมีคำถามว่าปี่ฟางจะใช้คืนให้เขาได้เมื่อไหร่
แน่นอนว่าการลงทุนกับฉู่เจียงในหุ้นสหรัฐฯ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เขาเชื่อมั่นในฉู่เจียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเห็นความสามารถของฉู่เจียงในการชนะการเดิมพันทุกครั้ง เขาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้นว่าฉู่เจียงจะสามารถทำเงินในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้
แน่นอนว่าหวังคงและฉินปินไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้จักฉู่เจียงเพียงไม่กี่วันแต่พวกเขาก็มั่นใจมากจนมอบเงินจำนวนมากให้กับฉู่เจียงเพื่อไปลงทุน
ที่จริงแล้ว ทั้งสองคนได้สืบสวนประวัติฉู่เจียงแล้ว
การสืบสวนเรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องยาก แต่ทรัพย์สินภายใต้ชื่อของฉู่เจียงก็ยังสามารถค้นพบได้แบบผิวเผิน
มีวิลล่าสองหลังในตันพาเลช วิลล่าสองหลังในหมู่บ้านตงเจียวหมายเลข 1 และห้องชุดชั้นหนึ่ง 15 ห้องของ Tomson Yipin
บ้านหรูเหล่านี้เพียงอย่างเดียวก็มีมูลค่าหลายพันล้านแล้ว!
แถมยังมีบ้านพักในเขตการศึกษาอย่างน้อย 800 ห้องและทั้งหมดเป็นบ้านพักในชุมชนระดับไฮเอนด์ โดยมีมูลค่ารวมอย่างน้อยหมื่นล้าน!
นี่เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของภูเขาน้ำแข็งที่พวกเขาสามารถตรวจสอบได้เท่านั้น ส่วนสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถตรวจสอบได้ ใครจะรู้ว่ามีอีกมากแค่ไหน?
ความแข็งแกร่งของฉู่เจียงมีมากเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่าฉู่เจียงจะสามารถพาพวกเขาไปที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อทำเงินได้
ยิ่งไปกว่านั้น เหตุผลที่พวกเขายินดีที่จะเชื่อว่า ฉู่เจียงสามารถทำเงินในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้จริงก็เพราะว่า ฉู่เจียงมั่นใจมากและฉู่เจียงไม่ได้จงใจชัดชวนให้พวกเขาเข้าร่วมแต่แรก
ไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่ฉู่เจียงแสดงให้เห็นก็คือ หากเต็มใจที่จะลงทุนเงินก็ลงทุนมา หากไม่เต็มใจก็ไม่บังคับ
นอกจากนี้ ฉู่เจียงยังต้องการกำไรครึ่งหนึ่ง
แม้ว่า ฉู่เจียงจะต้องการสัดสวนที่ค่อนข้างมาก แต่หากฉู่เจียงมีความสามารถที่จะทำกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้จริง การให้กำไรครึ่งหนึ่งแก่เขาก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
ฉู่เจียงไม่สนใจจริงๆ ว่าฉินปินกับหวังคงจะลงทุน 200 ล้านกับเขาไหม
แต่พวกเขาเต็มใจที่จะเชื่อมั่นในตัวเขาและฉู่เจียงก็มีความสุขมาก
แน่นอนว่าจะไม่มีการขาดทุน
ด้วยกระดานราคาหุ้นในมือ ตราบใดที่ดำเนินการอย่างถูกต้อง มันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองหรือสามเท่าภายในหนึ่งสัปดาห์
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่เป็นตลาดของชาวอเมริกันเท่านั้น แต่ยังเป็นตลาดของโลกทั้งใบอีกด้วย เป็นตลาดที่มีมูลค่าตลาดอย่างน้อย 30 ล้านล้านดอลลาร์ปัจจุบัน ฉู่เจียงมีเงิน 300 ล้านดอลลาร์ที่ถูกโอนมาโดยปี่ฟาง นอกจากนี้ ฉินปินและหวังคงต่างก็มีอีกคนละ 200 ล้านดอลลาร์และเมื่อรวมทุนของทั้ง 3 คนก็จะพบว่าเขามีเงินทุนแล้วกว่า 700 ล้านดอลลาร์!
ตอนนี้ตัวเขาเองมีประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นกองทุนที่เขาสามารถดำเนินการได้จึงมีมูลค่าถึง 1 พันล้านดอลลาร์!
1 พันล้านดอลลาร์เมื่อแปลงเป็นสกุลเงินหยวนของจีนแล้วจะมีมูลค่าประมาณ 6.3 พันล้าน!
เป็นเงินก้อนใหญ่มาก!
อย่างไรก็ตาม ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าตลาดรวมมากกว่า 30 ล้านล้านดอลลาร์นั้นเงินแค่ 1 พันล้านดอลารร์ของ ฉู่เจียงพูดตามตรงแล้วมันสร้างผลกระทบอะไรไม่ได้เลย!
แน่นอนว่า ฉู่เจียงไม่สามารถทุ่มเงิน 1 พันล้านดอลลาร์ลงในหุ้นตัวเดียวได้ มิฉะนั้น แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะไม่มีกลไกจำกัดการขึ้นและลงของราคา แต่ถ้าเขาทำเช่นนี้ มันก็มีแนวโน้มสูงมากที่เขาจะทำให้ราคาของหุ้นแกว่งมากเกินไป!
ฉู่เจียงนั่งอยู่บนโซฟาสูบบุหรี่และดื่มชา ในขณะที่คิดว่าเขาควรทำอะไรในคืนพรุ่งนี้
ทันใดนั้นเฉินซิงเว่ยก็เดินไปหา ฉู่เจียงโน้มตัวเข้ามาและกระซิบที่หูของเขาว่า "นายท่าน ชื่อของคุณกำลังอยู่บนฮอตเสิร์ช!"
"ฮะ?"
ฉู่เจียงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเฉินซิงเว่ยพูดแบบนั้น "บอกฉันมา มันเกิดอะไรขึ้น?"